"หนูผึ้งอยู่ในห้องนี้ได้เลยนะ"
"แน่ใจเหรอคะ ว่าจะให้หนูนอนที่นี่?"
เสียงหวานเอ่ยถามกลับ พลางใช้นัยน์ตาสีอำพันมองห้องนอนขนาดใหญ่ ที่มีรูปครอบครัวติดอยู่บนกำแพง ถ้าเดาไม่ผิด ห้องนี้น่าจะเป็นห้องนอนของคุณลุงหมอกับภรรยาที่เสียไป เธอเกรงว่าจะดูรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว ถ้าจะต้องใช้ห้องนี้กับคุณลุงหมอ
"แน่ใจสิ หนูไม่ต้องเกรงใจและไม่ต้องกลัวด้วยว่าหมอจะทำเรื่องไม่ดีกับหนูนะ เพราะตั้งแต่วันนี้หมอคงติดงานที่โรงพยาบาลเป็นเดือนเลย อาจจะต้องอยู่ดูแลเคสป่วยอีกหลายเคส รวมทั้งเคสของพ่อหนูด้วย ถ้าหมอไม่ได้กลับบ้าน ฝากหนูผึ้งช่วยกำราบพยัคฆ์ด้วย"
"เรียกว่ากำราบเลยเหรอคะ?"
"หมอเชื่อว่าคนเก่งอย่างหนูผึ้งทำได้แน่นอน ยังไงเราก็ร่วมมือกันช่วยดูแลคนสำคัญของเราเถอะนะ หนูก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องพ่อ เพราะหมอจะดูแลให้อย่างดี"
"ขอบคุณนะคะคุณลุงหมอ" ยกมือไหว้
"ต่อหน้าพยัคฆ์ เรียกหมอว่าคุณก็พอนะ หรือจะเรียกที่รักก็ได้ ทำให้เขาสนิทใจว่าหนูเข้ามาในสถานะแม่เลี้ยง เขาจะได้เคารพ และไม่ก้าวก่ายหนูจนเกินไป"
"เข้าใจแล้วค่ะ ที่รัก"
คุณลุงหมอยกยิ้มใจดีแล้วตบบ่าร่างเล็กอย่างอ่อนโยน อย่างที่บอกว่าพ่อลูกหน้าตาเหมือนกัน ถึงคุณลุงหมอจะมีอายุแล้ว แต่ความหล่อก็ไม่ได้จางหายไปเลย
[อย่าเพิ่งคิดลึก เธอยังบริสุทธิ์ใจกับคุณลุงหมออยู่นะ]
"หนูขอไปสมัครเรียนได้ไหมคะ?"
"ได้สิ หนูผึ้งอยากทำอะไรก็ทำได้เลย"
เธอคลี่ยิ้มหวาน แล้วเดินไปส่งคุณลุงหมอที่รถ
"ไว้ใจหนูได้เลยนะคะ หนูจะทำให้ดีที่สุด"
"ขอบคุณนะ หนูผึ้ง"
คุณลุงหมอยิ้มตอบก่อนจะขับรถออกไป ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของหญิงสาวที่ต้องดูแลความเป็นอยู่ภายในบ้านหลังนี้ เคยได้ยินไหม อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น (สุภาษิตก็มา) ในเมื่อคุณลุงหมอไว้วางใจให้เธอดูแลลูกชายนิสัยเสีย เธอก็ต้องทำหน้าที่แม่เลี้ยงจำเป็นให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้!
อย่างแรกที่ต้องทำคือจัดบ้าน ต้องยอมรับว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ผู้ชายอยู่กันสองคน คุณลุงหมออาจจะจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดห้องตัวเองกับชั้นล่าง แต่ห้องลูกชายคงไม่มีสิทธิได้เข้าไปอย่างแน่นอน เพราะมีป้ายแดงเถือกติดอยู่หน้าประตู
ว่า ห้ามเข้า!
"แค่คำว่าห้ามเข้า นึกว่าห้ามได้หรือไง?"
ใบหน้าสะสวยส่ายหัวให้กับความเด็กน้อยของพยัคฆ์ ก่อนจะใช้กุญแจสำรองที่พ่อของเขาให้มา เปิดเข้าไปในห้องนอน นาทีแรกที่เห็นก็แอบช็อก แต่พอตั้งสติได้ว่านี่เป็นห้องของผู้ชาย แถมเป็นวัยรุ่นก็พอเข้าใจได้
"กางเกงในนี่มัน..."
ร่างเล็กถือตะกร้าผ้าไปหยิบกางเกงในสีแดงแปร๊ดบนหัวนอน ก่อนจะรวบกระดาษทิชชู่ที่ทิ้งอยู่เกลื่อนห้องเก็บลงถุงขยะใบใหญ่ ภายนอกเขาดูเป็นคนเงียบขรึม ไม่สนโลก แต่ภายในอยากจะบอกว่าเป็นคนที่หมกมุ่นมาก โดยเฉพาะเรื่องเซ็กซ์ ในห้องมีแต่หนังสือการ์ตูนเรท กับแผ่นหนังอีโรติกวางเต็มชั้น คาดว่าคุณลุงหมอคงจะไม่เคยเห็นสภาพห้องลูกชายของตัวเองแน่นอน!
"เหลือจะเชื่อ ขาดความอบอุ่น หรือขาดอะไรกันแน่?" มือเล็กหยิบซองถุงยางขึ้นมาดู ถ้ามีเศษซาก แปลว่าตอนที่พ่อไม่อยู่ เขาต้องพาผู้หญิงมานอนด้วยแน่เลย
ใช้เวลาในการทำใจเก็บห้องเป็นชั่วโมง พอเก็บเสร็จเรียบร้อยก็ยกขยะลงมาทิ้งหน้าบ้าน ข้างบ้านมีผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมาพอดี เขาเลยยิ้มให้เป็นการทักทาย
"สวัสดีครับ"
"อ่า สวัสดีค่ะ"
เก็บห้องเพิ่งเสร็จ สภาพเลยดูแย่มาด ผมยาวสลวยกระเซอะกระเซิง ไหนจะหยาดเหงื่อที่เปียกชุ่มเนื้อผ้าตัวบางนี่อีก (เธอเป็นคนเหงื่อออกง่าย)
"ผมไม่คุ้นหน้าคุณเลย คุณเป็นอะไรกับเจ้าของบ้านเหรอครับ?" เพิ่งสังเกตว่าคนที่ทักเธอใส่ชุดนักศึกษา
"เป็นแม่เลี้ยงของพยัคฆ์ค่ะ" ใบหน้าหล่อเอียงคอเล็กน้อย
"แต่ว่า...คุณยังดูเด็กอยู่เลยนะครับ"
เธอได้แต่ยิ้มรับ เพราะปฏิเสธไม่ได้
"ขอโทษที่ผมก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว ผมเห็นว่าคุณสวยมาก หน้าเด็กมาก เลยแปลกใจนิดหน่อย ยังไงก็ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณ?"
"น้ำผึ้งค่ะ"
"ครับ พี่น้ำผึ้ง ผมชื่อเหมนะครับ"
"ไม่ต้องเรียกพี่ก็ได้นะคะ"
"เรียกพี่เหมาะสมที่สุดแล้วครับ ยังไงผมขอตัวก่อนนะครับ ถ้าพี่มีปัญหาอะไรกับไอ้พยัคฆ์ บอกผมได้เลย"
"เป็นเพื่อนกันเหรอ?"
"เปล่าครับ เป็นคู่อริ"
เอิ่ม...เดี๋ยวนะ เป็นคู่อริที่อยู่บ้านติดกัน ก็ไม่แปลกที่พยัคฆ์ไม่ค่อยกลับบ้าน แต่ดู ๆ ไปแล้วเหมก็เป็นคนพูดจาดี ไม่ได้จ้องจะทำร้ายเธอ แต่กับพยัคฆ์ไม่แน่ใจ
"ผมไม่ทำร้ายผู้หญิงหรอกครับ พี่น้ำผึ้งสบายใจได้เลย อีกอย่างผมกับหมอจอมพลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน"
"พี่ไม่ได้กลัวเสียหน่อย"
"เหรอครับ เหงื่อพี่ออกเยอะเลยนะครับ" ดวงตาคู่นั้นจ้องมองเรือนร่างอรชรที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ ส่งกลิ่นฟีโรโมนหอมหวานกระจายไปทั่วบริเวณ ความเซ็กซี่และความเสน่ห์มีของน้ำผึ้ง ดึงดูดความต้องการทางเพศของผู้ชาย แม้กระทั่งคนที่ยืนตรงหน้าตอนนี้
"เสียดาย..."
"เสียดายอะไรเหรอ?"
"ปะ เปล่าครับ ผมขอตัวก่อนนะ"
เหมรีบเอามือกุมเป้ากางเกง แล้วเดินกลับเข้าไปในบ้าน ท่าทางเขาแปลกไปจากตอนแรก แต่เธอไม่ได้สนใจ พอทิ้งขยะเสร็จก็กลับเข้าบ้าน ขึ้นไปอาบน้ำอาบท่า
"ฮ้า~ สบายตัวจัง"
น้ำผึ้งสวมใส่เสื้อยืดสีขาวตัวบาง กับกางเกงขาสั้นสีดำเดินลงมาจากห้อง เพื่อเตรียมทำกับข้าวให้พยัคฆ์ ตอนนี้ทุ่มกว่าแล้ว ไม่นานเขาก็คงกลับบ้านมา (มั้ง)
เท่าที่ฟังจากคุณลุงหมอเล่า ถึงจะมีฐานะ แต่บ้านหลังนี้ก็จะอยู่กับแบบช่วยเหลือตัวเอง มีเงินให้ลูกชาย แต่ลูกชายจะเอาไปทำอะไร ผู้เป็นพ่อจะไม่ยุ่ง เลยทำให้พยัคฆ์ไม่สนใจพ่อ เธอเลยมีความคิดว่าพรุ่งนี้เริ่มต้นเดือนใหม่ เงินค่าขนม ค่าเรียน ค่าต่าง ๆ ของพยัคฆ์จะอยู่ที่เธอ อยากได้อะไรให้มาขอรายวัน ส่วนค่าไปเรียน จะให้แค่สองร้อย เขาจะได้กลับมากินข้าวที่บ้าน
บรืนนน!
พูดถึงก็กลับมาแล้ว แสดงว่าเงินเป็นปัจจัยหลักจริง ๆ พยัคฆ์ขับรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ไปเรียน ค่าใช้จ่าย ไหนจะค่าเติมน้ำมันคงเยอะ ถ้าเขาอยากได้เพิ่ม เขาคงมาขอเงินจากเธอ เราจะได้มีบทสนทนากันด้วย
"หิวไหม กินอะไรมาหรือยัง?" เสียงหวานเอ่ยถามร่างสูงที่ยังสวมใส่หมวกกันน็อกสีดำทมิฬ แต่เจ้าของร่างใหญ่กับเดินผ่านไป ราวกับว่าเธอเป็นแค่ธาตุอากาศ
ปัง!
ไม่ถึงหนึ่งนาทีเสียงโยนหมวกกันน็อกก็ดังขึ้น ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินสับขาลงมา จังหวะนั้นเธอกำลังหันไปตักกับข้าว พอชายหนุ่มหวังจะกระชากร่างเล็ก เธอก็เอี้ยวหลบได้ทัน ทำให้ฝ่ามือนาบไปที่หม้อต้มร้อน ๆ
"โอ๊ะ!"
"โอ๊ะงั้นเหรอ ฮึบ!"
พยัคฆ์กำหมัดแน่น เก็บความรู้สึกโกรธจนหน้าแดง
"คุณกล้าดียังไง ถึงเข้าไปในห้องนอนของผม!"
"ฉันก็แค่อยากเข้าไปทำความสะอาดให้ลูก..."
"อย่ามาเรียกผมว่าลูก เพราะผมไม่ใช่ลูกของคุณ อีกอย่างผมมีแม่แค่คนเดียวเท่านั้น ส่วนคุณมันก็เป็นแค่อีตัวของพ่อ!" ใบหน้าสะสวยเบิกดวงตากลมโต อึ้งกับความปากร้ายของลูกชายคุณลุงหมอ แต่ถามว่าเจ็บปวดกับคำพูดเหล่านั้นไหม? เธอคงตอบได้เต็มปากว่าไม่เจ็บ เพราะความจริงแล้วเธอไม่ได้เป็นอย่างที่เขากล่าวหา
"นายจะว่ายังไงฉันก็ไม่สนใจหรอกนะ ฉันเข้ามาอยู่ที่นี่ในสถานะแม่เลี้ยง สิ่งที่นายต้องทำคือเชื่อฟังฉัน"
"ทำไมผมต้องเชื่อฟังอีตัวแบบคุณด้วย?"
"คำก็อีตัว สองคำก็อีตัว นายคิดว่าพ่อนายจะเลือกผู้หญิงแบบนั้นมาเป็นเเม่คนที่สองของนายงั้นเหรอ?"
"หึ! จะเลือกผู้หญิงแบบไหนมันก็ไม่สำคัญ แต่คุณจำงใส่หัวสมองเอาไว้เลยนะ ว่าผมจะไม่มีวันยอมรับผู้หญิงเห็นแก่เงินมาเป็นแม่เด็ดขาด!" ชายหนุ่มชี้หน้าด่า ดู ๆ ไปแล้วเขาก็ไม่ใช่คนเงียบขรึมอย่างที่คิด โดยเฉพาะเวลาด่าใคร ปากร้าย เอาเรื่องเลย
"ฉันเหนื่อยที่จะเถียงกับนายแล้ว มากินข้าวกันเถอะ"
"ไม่กิน!"
"ถ้าไม่กิน ฉันไม่ให้เงินนะ"
"คุณมีสิทธิอะไรมาทำแบบนี้วะ!?"
"ก็บอกอยู่นี่ไง ว่าฉันเป็นแม่เลี้ยงของนาย'
"แม่เลี้ยงบ้าบออะไร ไม่อยากมีเว้ย!"
"เลิกแหกปากแล้วไปนั่งซะ"
"ไม่ ไม่ให้เงินผมก็ไม่ง้อคุณหรอก!"
"แล้วแต่นะ เงินที่พ่อนายฝากฉันมา เป็นเงินของนายทั้งเดือนเลยแหละ ถ้านายจะไม่เอาก็ไม่เป็นไร ฉันจะได้เอาเงินส่วนนี้ไปซื้อของแบรนด์เนมที่ฉันอยากได้"