ไม่เคยขู่

1737 Words
(ฟาส) "งั้นก็ฆ่าฉันซะสิ!" ฉันจ้องไปยังแผ่นดิน แล้วพูดท้าทาย ทำไมแผ่นดินที่ฉันเคยรู้จักถึงเปลี่ยนไป เขาดูไม่ใช่แผ่นดินคนเดิม แผ่นดิน ปถวี ที่อยู่ตรงหน้าของฉันตอนนี้ดูเย็นชาและเลือดเย็น แววตาของเขาที่จ้องฉันอยู่เหมือนเขาอยากจะฆ่าฉันจริง ๆ "นั่นคือสิ่งที่คุณไม่ควรพูดท้าทายเขานะคุณผู้หญิง" ผู้ชายที่ตัวสูงพอ ๆ กับแผ่นดินพูดขึ้นเสียงเรียบ เขายืนสองมือล้วงกระเป๋าแล้วเอ่ย ทำไมพวกเขาดูน่ากลัวจัง ทั้งที่ฉันก็เข้ามาตั้งนานเพิ่งสังเกต มัวแต่ด่าคนที่จับฉันมาไฟแล่บ แล้วที่เขาบอกว่าไม่ควรท้าทายนั่นหมายความว่ายังไง? แผ่นดินจะทำจริง ฆ่าฉันจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ "คุณหมายความว่ายังไง?" ทั้งที่ก็เดาได้เสือกถามออกไปโง่ ๆ อีกฉัน แค่สายตานั้นของแผ่นดินที่มองมา ก็แทบฆ่าฉันทางอ้อมแล้ว ฉันกลัวจนสั่นแต่ต้องวางฟอร์ม "เขาทำได้!" เออ! สั้น ๆ ง่าย ๆ ได้ใจความดี ฉันควรจะไปต่อยังไงล่ะทีนี้ "เขาไม่กล้าทำฉันหรอก" ขู่ไปงั้นแหละ ทั้ง ๆ ที่ฉันก็ไม่มั่นใจ สีหน้า แววตาของแผ่นดินมันนิ่งจนฉันเดาไม่ค่อยออก "เขาไม่เคยขู่ใครเล่น ๆ" ผู้ชายคนเดิมพูดขึ้นอีกครั้ง "ผมจะถามเป็นครั้งสุดท้าย...ถ้าคุณไม่ให้คำตอบที่ชัดเจนกับผม...." "คุณจะทำอะไรฉันงั้นเหรอ!" โอ้โหปากไวฉิบหาย อีฟาสเอ๊ยลนหาที่ตายปะวะเนี้ย แผ่นดินลุกจากเก้าอี้ แล้วค่อย ๆ เดินเข้ามาหาฉันสายตาของเขาจ้องมอง อย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อฉันให้ได้ ส่วนฉันที่มองเขาก็ค่อย ๆ ถอยหลังออกห่าง อย่างไร้จุดหมาย สายตาที่ดุดันยังคงฉายแววน่าเกรงขาม ฉันพยายามทำตัวให้นิ่งที่สุด เริ่มกลัวจริง ๆ แล้วนะ "อยากกลับบ้านแบบร่างมีวิญญาณสมบูรณ์ หรือ...อยากกลับไปแบบไร้ลมหายใจ ผมไม่เคยขู่ใคร และคนทึ่ท้าทายผม ทั้งที่รับรู้เรื่องราวที่ผมไม่อยากให้รู้...สิ่งเดียวที่มันจะได้รับคือไม่มีลมหายใจต่อบนโลกใบนี้!...ไม่ว่าใคร!" "เฮือก!" คำพูดที่ฟังแล้วขนลุก สายตาคมดุจพญาเหยี่ยว มองฉันจนฉันกลัว กลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่อย่างยากลำบาก ถอยหลังจนชนเข้ากับผนัง ฉันไร้ทางหนี! "มิค" "ว่า?" "นายและพรรคพวกออกไปก่อน ฉันมีเรื่องต้องสะสาง" "โอเค...นายก็อย่าวู่วามล่ะ" "อืม" แผ่นดินเรียกผู้ชายคนนั้น ที่คุยกับฉันก่อนหน้า แล้วออกคำสั่งกับผู้ชายชื่อมิค เขาพยักหน้าตอบรับ ทุกคนออกจากห้องที่แสนเย็นฉ่ำนี้ไป สรุปเหลือฉันกับแผ่นดินแค่สองคนตอนนี้ "ได้ยินแค่ไหน" แผ่นดินถามฉันทันที เมื่อประตูห้องปิดลง เขาใช้แขนสองข้างดันผนังกักตัวของฉันไว้ "อา อะ อะไร" กลัวจนสั่น สั่นยันปาก ตอบแบบตะกุกตะกักเลยฉัน "อย่ามาทำไขสือ...ผมเชื่อว่าคุณได้ยิน" แผ่นดินพูดย้ำ สายตาที่ฉันจ้องในระยะใกล้ตอนนี้ แววตาของเขาเหมือนมีประกายไฟลุกโชน ความกลัวทำให้ขอบตาฉันร้อนผ่าว เหมือนน้ำตาจะไหล ทำไมแผ่นดินต้องคาดคั้นฉันขนาดนี้ เขามีความลับอะไรอย่างนั้นเหรอ "ไม่ต้องมาบีบน้ำตา...เพราะน้ำตาผู้หญิงมันใช้ไม่ได้ผลกับคนอย่างผม" "ทำไมเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ล่ะดิน" เขาพูดอย่างเยือกเย็น ยิ่งใบหน้าของเขาตอนนึ้กับใบหน้าแผ่นดินที่ฉันเคยรู้จัก การเทียบเคียงมันทำให้ฉันน้ำตาไหล แผ่นดินคนนั้นแตกต่างสิ้นเชิงกับแผ่นดินตอนนี้ อย่างกับคนละคน "ลีลา!!" "อ๊ะ!" เขาเข้ามาบีบปากของฉันอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บ ปลายนิ้วของเขาจิกเน้นลงผิวแก้มของฉัน มันเจ็บมากจนฉันน้ำตาไหล แล้วความรู้สึกอีกอย่างก็เริ่มคืบคลานเข้ามา ขาของฉันเหมือนลอยเหนือพื้น มืออีกข้างของเขาบีบคอฉันแน่น "เจ็บ~~" ฉันจับมือของแผ่นดินไว้ พยายามดึงออกแต่ก็ไม่สามารถ ยิ่งฉันต่อต้านเขาก็ยิ่งบีบแน่น ตอนนี้ฉันเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ น้ำตาก็ไหลอาบแก้ม แม้จะพยายามส่งสายตาอ้อนวอน แต่แผ่นดินก็ไม่ยอมลดราแรงลง...สายตาเริ่มพล่ามัว เปลือกตาค่อย ๆ ปิดลงช้า ๆ เห็นใบหน้าที่แผ่นดินขบกรามแน่นแล้วต่อมาฉันก็ไม่สามารถรับรู้อะไรอีกเลย ....  (แผ่นดิน) ผมรับร่างกายที่อ่อนยวบไร้เรี่ยวแรง ก่อนจะอุ้มเธอแล้วเดินพาไปยังห้องที่จัดรับรองไว้ ฟาสเธอหมดสติ และน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเพราะคงจะกลัวผมมาก ผมค่อย ๆ วางเธอลงกับเตียงนอนนุ่ม ดึงผ้ามาห่มคลุมกายให้กับเธอก่อนจะนั่งลงข้างเธอ มองหน้าของเธอที่ตอนนี้เหลืองซีด เธอไม่ตายหรอกครับ เพราะผมรู้น้ำหนักออกแรงตัวเองดี แค่อยากให้เธอกลัวและอีกอย่างผมไม่อยากให้ความลับที่ผมทำมันรั่วไหล ความลับที่ไม่มีใครรู้สักคน นอกจากผมกับมิคแล้วตอนนี้ก็คงจะมีฟาสที่รู้อีกคน ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าเธอได้ยินมากน้อยแค่ไหน "แม่ครับ วันนี้ผมพาฟาสมาดูงานข้างนอก แล้วคงจะไม่ได้กลับ ฝากแม่บอกแม่ของฟาสด้วยนะครับ" ผมมองหน้าฟาสอยู่สักครู่ ก่อนจะนึกขึ้นได้ จึงรีบยกหูต่อสายหาแม่ เพื่อส่งข่าวคราวท่านจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงลูกสาวของเพื่อน เพราะถ้าไม่เห็นฟาสกลับบ้านยังไงแม่ของเธอก็ต้องลนลานโทรถามแม่ผมอยู่ดี "จ้าดิน แล้วนี่ไปดูงานอะไรทำไมได้ค้างแรมละลูก" "งานที่จะกำลังประมูลได้ครับ ผมเลยแวะมาดูนิดหน่อย แต่ขากลับรถผมเสียเลยต้องค้างครับ" แม่ผมย้อนถาม น้ำเสียงของท่านปกติดี ผมจึงรีบตอบท่านออกไป เพื่อไม่ให้กังวล "จ้ะ ๆ ดูแลฟาสด้วยนะลูก แล้วรู้ไหมว่าหนูฟาสมีโรคประจำตัว" ฟาสมีโรคประจำตัวอย่างนั้นเหรอ? เธอเป็นโรคอะไร? "โรคอะไรครับ" ผมถามแม่ออกไปด้วยความไม่รู้ "หนูฟาสเป็นหอบหืดจ้า รู้ใช่ไหมว่าหอบหืดเลี่ยงอะไรบ้าง" แม่ผมบอกและย้อนถามผมต่อ "ครับ" ผมตอบรับแม่ด้วยความเข้าใจ ทำไมเรื่องแค่นี้ผมจะไม่รู้ ก็แค่ข้อมูลเบื้องต้นของการเป็นหอบหืด "ดูแลตัวเองด้วยนะดิน แม่รักดินนะ" แม่ของผมพูดออกมาผ่านสายโทรศัพท์ คำบอกรักของแม่ที่ทำผมยิ้มได้ทุกครั้ง "รักแม่ครับ" ผมพูดแค่นั้นแล้ววางสาย ตอนนี้จับจ้องมองคนที่นอนนิ่ง ใบหน้าของเธอดูคลับคล้ายคลับคลาเหมือนกับว่าผมเคยเห็นที่ไหน แต่ผมก็นึกไม่ออก แต่คำพูดของเธอบางประโยคมันก็แปลก ๆ เหมือนกับเธอนั้นรู้จักผมดี แต่นี่ผมไม่รู้จักเธอเป็นการส่วนตัวสักนิด แค่แม่เล่าให้ฟังบ้าง และเจอกันกับเธอก็นานมาแล้ว ไม่ถึงสามครั้งด้วยซ้ำมั้ง "แค่ก ๆ" ฟาสรู้สึกตัว แล้วไอแห้ง ๆ ออกมา ผมรีบเทน้ำที่แม่บ้านเตรียมไว้ แล้วช้อนตัวเธอให้นั่งพิงอกผม ดวงตาของเธอยังไม่ลืมมอง ผมค่อย ๆ จับหลอดใส่ปากของเธอให้ดื่มกิน เธอดูดน้ำอย่างคนกระหาย ผมมองเธอที่ตอนนี้เหมือนกับลูกแมวเชื่อง ๆ ที่อยู่ภายใต้การกระทำของผม "...." ผมมองหน้าเธอนิ่ง ๆ ซึ่งตอนนี้เธอขยับตัวนั่งตรงแล้วหันหน้ามามองผม "นายเกือบฆ่าฉัน ไอ้คนนิสัยไม่ดี ไอ้คนใจร้าย ฉันจะทุบนายให้ตายเลย นี่แน่ ๆ ๆ ๆ ๆ" แล้วกำปั้นเล็ก ๆ ก็ทุบตามอกของผมแบบสะเปะสะปะ ผมไม่พูดอะไร ทำเพียงพยายามจับข้อมือเล็ก ๆ ที่เรี่ยมแรงมากมาย เธอกำลังทำร้ายร่างกายของผม ที่คงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ "ไอ้คนใจทราม ทำร้ายได้แม้กระทั่งผู้หญิงสวย ๆ แบบฉัน ไอ้คนใจไม้ไส้ระกำ คนระยำแบบนายต้องตายด้วยมือของฉัน แผ่นดิน!! ฉันจะฆ่านาย โทษฐานที่บีบคอฉันแทบขาดอากาศตาย ตายซะ....อื้อ" เธอโวยวายแบบบ้าคลั่ง "เงียบ!!!" เธอรุมเร้าทุบผมแบบไม่ปรานี พูดอย่างกับหายใจทางผิวหนัง ร่ายยาวจนผมฟังแทบไม่ทันและเริ่มนึกรำคาญเสียงแปดหลอดของเธอเต็มที จนผมทนไม่ไหวตะเบ็งเสียงแข็งใส่ แล้วออกแรงผลักเธอให้นอนราบกับเตียง ใช้มือปิดปากของเธอให้เงียบ ใช้สายตาจ้องเขม็งข่มขู่ อีกมือก็จับล็อกข้อมือของเธอไว้ ไม่ให้เธอได้ขยับ เพราะถ้าเธอขยับมีหวังอกแน่น ๆ ของผมเขียวช้ำด้วยฝีมือของเธอแน่ "อายอันไออ้าย ไอ้อนใออาม...อื้อออออ" (นายมันใจร้าย ไอ้คนใจทราม....) เมื่อไม่ยอมเงียบผมเลยได้การปิดปากของเธอด้วยปากของผมทันที จนฟาสเธอเบิกตาโตตกใจ ดีดดิ้นขาสองข้างไปมา แต่ผมก็หนีบไว้ ปากนุ่ม ๆ กับรสหวานในปากของเธอทำให้ผมที่ห่างหายผู้หญิงไปนานได้รับรสจูบอีกครั้ง ผมไม่อยากจะถอนจูบนี้ออกไป ทำไมผมอยากได้จูบจากผู้หญิงคนนี้ต่อไปเรื่อย ๆ จากการที่เธอดิ้นพล่านในตอนแรก ก็เริ่มสงบลง นั่นยิ่งทำให้ผมได้ใจ ผมจูบเธออยู่แบบนั้นอย่างเคลิบเคลิ้ม สอดลิ้นอุ่นกระหวัดหยอกล้อกับลิ้นของเธออย่างสนุกสนาน ฟาสหลับตาพริ้ม ใบหน้าสวยของเธอทำให้จังหวะหัวใจของผมเต้นแรง มือของผมเริ่มไม่อยู่นิ่ง สอดเข้าไปภายในเสื้อผ้าของเธอ แผ่นหลังเนียนที่ผมสัมผัส มันสร้างกระสันภายในกายของผมให้ร้อนรุ่ม ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยเรื่องอย่างว่า แต่ผมน่ะเข็ดกับผู้หญิงจนไม่อยากมีรักใด ๆ แต่ทำไมกับผู้หญิงคนนี้ถึงได้รู้สึกเปลี่ยนไป...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD