7

1139 Words
สิบวันที่ผ่านมา สถานการณ์ที่บ้านหวังไม่สงบสุข และเต็มไปด้วยความตึงเครียด แม่สามีที่ปกติเอาแต่นอน และบ่นเจ็บเนื้อเจ็บตัว กลับลุกขึ้นมาสั่งการให้คนเก็บกวาดบ้านเสียใหม่ ยิ่งกว่านั้นข้าวของโจวฟางจื่อถูกขนออกมาจากห้องนอนหลัก มีคำสั่งให้เธอไปนอนห้องเก็บของเล็ก หรือถ้าไม่สบายใจก็ไสหัวไปให้พ้นเสีย โจวฟางจื่อได้แต่สงบปากสงบคำ เธอต้องอดทนอีกสักหน่อยให้หวังต้าเซียนซีกลับมา และออกปากไล่เธอด้วยตนเอง เช่นนั้นถึงจะถูกต้อง เธอต้องได้รับใบหย่าจากเขา นับจากนั้นการมีชีวิตใหม่จึงจะสมบูรณ์ “แล้วถ้าจะให้ดี แกก็ไปนอนที่แผงขายของโน่น อั๊วคิดว่าจะได้ประหยัดน้ำ ประหยัดไฟมากขึ้น” โจวฟางจื่อย่อมรู้ว่าซ่งถิงแม่สามี ปากร้าย นิสัยแย่ และพอรู้ว่าลูกชายคนโตร่ำรวยซึ่งกำลังจะกลับมา เธอก็คิดอยากหาสะใภ้คนใหม่ให้เขา ส่วนโจวฟางจื่อหมดความหมายแล้ว เธอก็แค่อดีตอีตัวที่ถูกซื้อมาดูแลบ้านหวังชั่วขณะหนึ่ง ทายาทก็ไม่มี เช่นนี้อยู่ไปรังแต่สร้างความรำคาญใจแก่ซ่งถิง “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ คนอยากลื้อให้ท่าผู้ชายไปทั่ว ทั้งหมอ คนส่งของ อ่อ... นี่คงเหมารวมถึงตาแก่หัวล้านข้างบ้านด้วยสินะ” เธอหมายถึงสามีของเมิ่งเหยานั่นเอง “โถ แม่... วันๆ ฉันทำแต่งานจนหลังแทบหัก และก็หาเงินเข้าบ้าน ค่ากินค่าอยู่ แม้แต่เงินเรียนหนังสือของอาตี๋เล็ก ก็เป็นฉันที่จ่าย” “โอ๊ย แม่อะไรกัน ฉันเบ่งลื้อออกมาจากช่องคลอดตอนไหน อีกอย่างลูกซี ก็บอกว่า ให้ลื้อดูแลงานทั่วไปเท่านั้น เอาจริงๆ งานแต่งก็ไม่เคยจัด เข้ามาอยู่บ้านหวังไม่ต่างจากสาวใช้คนหนึ่ง” เพราะเสียงซ่งถิงดัง และหวังเจ๋อหยวนคอยผสมโรง ทั้งมีคนมาช่วยงานทำความสะอาดต่อเติมพื้นที่บ้านหวังหลายคนคอยชะเง้อคอฟัง รวมถึงเมิ่งเหยาที่ยืนหน้าบึ้งอยู่ข้างๆ รั้วบ้านฝั่งตรงข้ามด้วยมีสิ่งพาดพิงถึงหล่อนและสามี พยานมากมายเช่นนี้นับว่าเป็นโอกาสดีที่โจวฟางจื่อ จะใช้มันแสดงตนให้ทุกคนรู้ว่า เธอไม่ใช่แค่สตรีด้อยค่า “สาวใช้คนหนึ่ง? พูดแบบนั้นก็ไม่ผิดหรอก แต่ฉันก็เป็นเมียต้าเกอ มีหนังสือรับรองถูกต้องตามกฎหมาย” สิ่งที่โจวฟางจื่อกล่าว ทำให้ซ่งถิงเนื้อเต้น เธอไม่เคยเห็นอีกฝ่ายเป็นลูกสะใภ้ ในสายตาหญิงวัยกลางคน โจวฟางจื่อเป็นคนชั้นต่ำเท่านั้น การที่นางจิ้งจอกตนนี้หลอกล่อให้ลูกชายเธอจดทะเบียนด้วย นี่คือสิ่งที่ทรมานจิตใจเธอตลอดมา “อาหยวน จับมันไว้ วันนี้ให้แม่เอาเลือดมันออกมาล้างตีนเสียทีเถอะ” หวังเจ๋อหยวนรอฟังคำนี้มานาน พอได้ยินเท่านั้นก็สาแก่ใจนัก ตลอดระยะเวลาตั้งแต่โจวฟางจื่อเข้ามาอยู่บ้านหวัง อีกฝ่ายทำตัวน่าเบื่อ แสร้งวางท่าเป็นคนดี จนชาวบ้านในละแวกนี้ มองว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ได้เรื่อง วันๆ เอาแต่เที่ยว และทำตัวส่ำส่อน ทั้งหมดเพราะคนเปรียบเทียบเธอกับพี่สะใภ้ จากนั้นหวังเจ๋อหยวนก็เข้ามาล็อกแขนพี่สะใภ้ ออกแรงให้อีกฝ่ายยืนเป็นเป้านิ่ง โจวฟางจื่อแสดงอาการกลัวตกใจอย่างแนบเนียน ใจจริงเธอก็อยากหนี ทว่าตอนนี้คงต้องเล่นไปตามเกมของแม่สามี และลูกสาวของอีกฝ่าย “เอาเลือดมันออกมาเลยอาม๊า หนูอยากเห็นนังแพศยานี่ นอนหยอดน้ำข้าวต้ม” เมื่อลูกสาวเชียร์อย่างสนุก ซ่งถิงยิ่งมีพลังมากขึ้น หล่อนย่างสามขุมเข้าไปใกล้ๆ โจวฟางจื่อ แล้ววาดมือตบลงบนไปหน้าอีกฝ่าย แรงตบนั้นไม่มาก เพราะยังกะจังหวะไม่ถูกกระนั้นใบหน้างามล้ำก็เป็นรอยฝ่ามือให้เห็นชัดเจน โจวฟางจื่อตกใจและเจ็บปวด ทั้งขายหน้ามาก แต่นั่นทำให้เธอประสบความสำเร็จ ด้วยคนงาน เมิ่งเหยา รวมถึงคนกำลังมาส่งของข้างหน้าประตูบ้าน ได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าพอดี เมิ่งเหยาแม้ไม่ชอบโจวฟางจื่อ แต่เห็นคนถูกรังแก ก็อยากยื่นมือเข้าช่วยเหลือ “พี่ถิง ทำร้ายลูกสะใภ้แบบนั้นมันไม่ถูกต้องนะ อาจื่อทำงานงกๆ หาเงินเข้าบ้านตั้งเท่าไหร่ พี่ถิงกับอาหมวยสมควรให้เกียรติเขามากๆ ถึงจะถูก” “เฮอะ พวกเดียวกันสินะ ถึงกล้าเสนอหน้ามาพูดจาแบบนี้” ซ่งถิงวางมือจากโจวฟางจื่อ และหันไปชี้หน้าคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามรั้วบ้าน “พี่ถิง ฉันพูดด้วยดีๆ และสงสารเด็กมัน แต่พี่มันเป็นหมาบ้า ลูกสะใภ้แบบนี้หาได้ที่ไหนอีก ขี้เยี่ยวตอนที่นอนเป็นผักอยู่เป็นปี อาจื่อก็เป็นคนจัดการให้ ลูกสาวพี่มันเคยทำไหมเรื่องพวกนี้” เมิ่งเหยาว่าอย่างหมดเปลือก และคนอื่นๆ ที่ไม่รู้มาก่อน ว่าลูกสะใภ้คนโตบ้านหวังดีอย่างนี้ต่างคล้อยตามเมิ่งเหยา พลางนึกสงสารชะตากรรมของโจวฟางจื่อ ที่มีแม่สามีไร้น้ำใจ และไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี “อย่ามาเที่ยวสู่รู้เรื่องบ้านอื่น และลูกสาวแกดีนักหรือไง คอยให้ท่าอาตี๋ของอั๊ว ฮิๆ ๆ นิสัยกะหรี่เช่นนี้ คงได้มาจากแม่มัน” คำพูดต่ำๆ ที่หลุดออกมาจากปากซ่งถิงทำให้ เมิ่งเหยาอยากปีนรั้ว และไปตบปากอีกฝ่ายเหลือเกิน แต่เสียงของโจวฟางจื่อเอ่ยขึ้นว่า “ป้าเหยา ฉันขอบใจป้ามาก แต่เรื่องนี้ฉันคงไม่ดีพอ แม่ผัวเลยต้องอบรม” “เฮอะ ลื้อรู้ตัวก็ดีแล้ว และทุกคนฟังไว้ นี่มันเรื่องในครอบครัว อั๊วจะจัดการลูกสะใภ้ยังไงก็ได้ ถ้ามันไม่ทนมือ ทนตีน และตายคาบ้านนี้ ก็คิดเสียว่า ทำบุญมาน้อยก็แล้วกัน” กล่าวจบ ซ่งถิงก็เตรียมทำร้ายร่างกายโจวฟางจื่ออีก แต่เป็นเพราะพื้นมันลื่นสักหน่อย พอหล่อนขยับตัวไวๆ โดยไม่ระวังตัว จึงผิดท่า ทำให้เกิดเสียงกระดูกลั่นกร๊อบตามด้วยการลื่นลงไปนั่งกับพื้น! จากนั้นสตรีวัยกลางคนก็ร้องโอดโอย เรียกให้คนเข้าไปช่วยเหลือ ทว่ารออยู่นานมากกว่าหวังเจ๋อหยวนจะมีสติ เข้าไปประคองมารดา ส่วนโจวฟางจื่อก้าวออกจากประตูด้านหน้าบ้านหวังโดยไม่ฟังเสียงร้องด่าทอไร้หลังของสองแม่ลูกนั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD