เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเป็นจังหวะ ผสมเสียงคราง คำสบถของต้าเกอ ยิ่งทำให้เขาอยากเข้าไปทำหน้าที่แทนที่อีกฝ่าย และปลอบประโลมโจวฟางจื่อ
แน่นอนเขาจะถนุถนอมเธอ และค่อยๆ ส่งแก่นกายเข้าร่องสวาทที่มีคราบน้ำหล่อลื่นของคนเป็นพี่
“อื้อๆ อร๊าย ต้าเกอ... ฉะ ฉันทรมาน จุก... และ กระดูกจะหักไปทั้งตัวแล้ว”
เธอร้องอีกแล้ว ยิ่งถูกหวังต้าเซียนซีจับพลิกร่าง และให้มานอนอยู่ในท่าลิงอุ้มแตง เธอก็สะท้านไป หน้าอกไหวไปมา มันหลอกล่อหวังเสี่ยวเกอที่แอบดูเหลือเกิน
อ๊า ความงามของผู้หญิงคนหนึ่งทำให้เขาคลั่งไคล้ได้เพียงนี้ เธอหลับตาพริ้ม มองจากจุดนี้ที่มีแสงของโคมไฟ ทำให้เขาพอจะเห็นว่าแพขนตางอนดกหนามีน้ำตาเปียกชุม
โอ้ โจวฟางจื่อ... ผู้น่าสงสาร
หน้าอกอวบของเธอไหวสะท้าน ตามแรงการขยับท่อนแขนของต้าเกอ พอเขาก้าวไปข้างหน้า จนแผ่นหลังเธอชิดกับกำแพง ก็เหมือนว่าโจวฟางจื่อจะขัดเขินหนักกว่าเดิม และต้าเกอก็ส่งความแข็งอัดเข้าสุดลำอวบๆ
“เหล่ากง... มะ เมียอึดอัด... มันใหญ่เกินไป หัวมันก็โค้งด้วย อี้... ลึก ดันเข้ามาลึกอย่างนี้ เมียอับอายเหลือเกิน ใกล้เสร็จหรือยังคะ อื้อ... ฉันจะไม่ไหวแล้ว”
“เหลวไหล... เสียวก็บอกอั๊วสิ เสียวน้องสาวมากไหม หรืออย่าให้เยี่ยวใส่ปากลื้อด้วยสินะ ร่านอย่างนี้ อั๊วจะเอาให้เดินไม่ได้สักสามวันเลย”
แน่นอนการทำรักของทั้งคู่ พิลึกและสัปดน แต่มันก็ถึงใจเหลือเกิน
โจวฟางจื่อส่ายหน้า หากมิวายใช้สายตาหวานฉ่ำมองสามีของตน
“โถ เหล่ากง... ถ้าทำอย่างนั้น เมียก็ทั้งป่วยทำงานไม่ได้ และขืนเยี่ยวใส่กัน เมียจะท้องได้อย่างไร...”
“ฮ่าๆ ๆ อย่างนั้น คงต้องกลืนน้ำข้นๆ ของอั๊วทั้งทางกลีบหวานๆ เธอแล้วก็แตกใส่ปากดีไหม”
หวังต้าเซียนซีเป็นคนหยาบคาย และไม่ระวังปาก เขาพูดเช่นนั้น เธอก็เออออไปด้วย หากจู่ๆ ไปขัดใจอีกฝ่าย รังแต่จะเจ็บตัว
“เหล่ากงต้องปล่อยออกมาเยอะๆ เมียอยากเห็น อยากชิม” เธอยั่วยวนเขา ขณะเดียวกันหางตาก็เหมือนจะเห็นว่ามีเงาหนึ่งผลุบๆ โผล่ที่ช่องเล็กๆ ของหน้าต่าง โจวฟางจื่อไม่ได้คิดไปเอง ด้วยรู้น้องชายสามีชอบแอบดูเธอ คงนับแต่วันแรกที่ย้ายเข้ามาที่นี่ ยามเธออาบน้ำ หรือร่วมรักกับหวังต้าเซียนซี เด็กหนุ่มก็เหมือนนกรู้ ป้วนเปี้ยนอยู่ไม่ห่าง และนั่นทำให้เธอซู่ซ่าอย่างบอกไม่ถูก จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกหรอกหากเธอจะครางเสียงชวนให้สยิว พร้อมตอบสนองการกระแทกของสามีอย่างเต็มอกเต็มใจ เพราะรู้ว่ามันจะช่วยทำให้เด็กหนุ่มเสร็จไปพร้อมๆ กัน นั่นคือการเริ่มสอนบทเรียนรักให้อีกฝ่ายไปด้วย
ในหัวเธอก็จินตนาการถึงเขา ใบหน้าละอ่อน ริมฝีปากสีชมพู เนื้อตัวแน่นๆ คือ ความบริสุทธิ์ที่น่าสัมผัส
สำหรับเธอ หวังเสี่ยวเกอหล่อเหลากว่าพี่ชาย หากประเมินด้วยสายตา เมื่อเขาโตกว่านี้ ของลับที่อยู่ในเป้ากางเกงคงใหญ่ชวนให้เธอเปรี้ยวปากอย่างที่สุด
โจวฟางจื่อครางเสียงดังกว่าเดิม เมื่อชายหนุ่มกระแทกรัวๆ อีกหลายหน ขณะเดียวกันเขาจูบเธอ จูบแล้วและแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปาก
“อ๊า... อี๊ๆ ๆ เหล่ากง โอ๊ย!”
ฝ่ายคนที่รุกอยู่ ยิ่งได้ใจหนัก เขาพาเธอมายังโต๊ะกลมกลางห้องอีกครั้ง วางร่างบนนั้น จับขาแยกให้กว้างในขณะที่ท่อนรักยังเสียบคาอยู่
โจวฟางจื่อซ่านสยิว อึดอัดก็มาก แต่ร่านสวาทต่อการกระทำของอีกฝ่าย เธอพอใจสามีที่หื่นๆ แบบนี้
“ตอดให้แรงกว่านี้สิ แล้วฉันจะฉีดน้ำอุ่นๆ ใส่
หวังต้าเซียนซีออกคำสั่ง และหญิงสาวก็ทำตามในยามนั้น เสียงผสานแห่งความเสียวซ่านดังไม่หยุด ส่วนหวังเสี่ยว
เกอก็กระตุกร่างรุนแรง ก่อนที่เขาจะหมุนตัวหลบไปอีกทาง เพียงอึดใจเดียวต่อมา น้ำขาวขุ่นอันเข้มข้นของเขาก็ปลดปล่อยใส่ต้นหญ้าที่อยู่บริเวณนั้น
เขาหัวเสียนิดหน่อย ด้วยตั้งใจจะอดกลั้นเอาไว้เสร็จตอนกลางวัน ช่วงเวลาที่โจวฟางจื่อมานอนพักผ่อนในห้องหลังจากขายซาลาเปาและโจ๊กเสร็จแล้ว ส่วนพี่ชายเขามักหายตัวไป กลับอีกทีก็อาจเป็นพรุ่งนี้เช้า หรือไม่หากตายไปเลยก็ยิ่งดี
****************
สามปีต่อมา
โจวฟางจื่อรู้สึกว่าวันนี้เธอทำงานหนัก ลูกค้าแวะมาซื้อของไม่ขาดสาย กระนั้นกว่าจะได้พักก็เกือบสามทุ่มกว่าๆ ร่างกายอ่อนแรง และปวดขาไปหมด ใจคิดว่าอยากอาบน้ำแล้วงีบพักสักหน่อย ช่วงเช้ามืดต้องไปจ่ายตลาด แต่รู้ว่าน้องชายสามี กำลังอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบ จากจุดนี้เธอมองเห็นไฟในห้องเขา ซึ่งรอดออกมาจากช่องหน้าต่าง ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของบ้านเปิดเอาไว้
เธอจึงรีบล้างเนื้อล้างตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ หยิบถ้วยข้าวผัดไข่ที่ทำไว้ พร้อมน้ำแกงไก่ตุ๋นที่เหลือในชามใหญ่ เธอต้องการเอาไปให้อีกฝ่ายได้กินเพิ่มพลัง เด็กหนุ่มๆ ใช้พลังงานเยอะ ร่างกายหวังเสี่ยวเกอสูงใหญ่วัยเกินวัย เมื่อยืนแล้วเธอสูงเลยหัวไหล่เขาไปเล็กน้อย
แน่นอนโจวฟางจื่อไม่ใช่สตรีร่างเล็ก เธอไม่ผอมแห้ง แต่ไม่ถึงกับอวบอัด ทรวดทรงจัดว่าดี ส่วนเว้าส่วนโค้งยั่วยวนบุรุษได้ไม่ยาก แต่พักหลังเธอระมัดระวังการกิน เนื่องจากชอบของหวาน และของมันๆ เป็นพิเศษ เธอไม่อยากปล่อยเนื้อปล่อยตัว การเป็นคนสวย ย่อมสร้างความน่าสนใจให้ผู้พบเห็น และเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้เธอได้เสมอ
สวยมีสมองที่ดี เช่นนี้เธอจึงอยู่รอดในโลกที่ทะลุมิติเข้ามาในนิยายเรื่องนี้ได้
ฝ่ายหวังเสี่ยวเกอ กำลังจะก้าวผ่านวัยเด็กหนุ่มสู่วัยผู้ใหญ่ เขากินจุกว่าคนปกติ ด้วยเป็นนักกรีฑา และยังคอยช่วยงานเธอในร้านอาหารสารพัดอย่าง แม้จะหิวบ่อยๆ กระนั้นด้วยความเกรงใจ ปากก็บอกว่า เขาอิ่มแล้ว หากหลายครั้งเธอเห็นว่าไปเก็บผลไม้กินบ้าง ไม่ก็เห็นเด็กสาวข้างบ้านนำของมาให้บ่อยๆ และนั่นไม่รู้ด้วยเหตุใด มันทำให้โจวฟางจื่อหงุดหงิดใจเสียทุกครั้งกับภาพที่เห็นหวังเสี่ยวเกอยืนพิงรั้ว และมีเสียงเจื้อยแจ้วของเด็กสาวข้างบ้าน เด็กนั่นชื่อ ไป๋อี้ถง
และดูก็รู้ว่ายันเด็กนั่น อายุเพียงสิบห้าปี แต่แก่แดดเกินวัย ซึ่งมักหาเรื่องมาถามไถ่เขา สร้างความรำคาญหูและตาเสมอและสำหรับเธอเสมอ
อย่างไรก็ตามอาหารที่มือคู่สวยนี้ปรุงขึ้น หรือเลือกสรรเข้าบ้าน ย่อมดีที่สุดสำหรับหวังเสี่ยวเกอ ผู้เป็นน้องชายสามี
เมื่อก้าวไปถึงหน้าประตูห้องหวังเสี่ยวเกอ ยามนั้นเธอก็ต้องตกใจอยู่มิน้อย
โอ้ เสียงหอบหายใจแรงๆ ที่ดังกระชั้นชิด ทำให้หญิงสาวคิดเป็นอื่นไม่ได้ อายุเธอเพียงยี่สิบห้าปีเท่านั้น สามีที่แต่งเข้ามาหวังต้าเซียนซี ออกไปทำการค้าต่างเมืองหลายเดือน แล้วจู่ๆ อีกฝ่ายกลับหายไป ยามนี้จึงตามตัวไม่พบ ไร้ข่าวคราวใดๆ จำได้เพียงว่าเขาส่งเงินมาก้อนใหญ่ และมันไม่ได้ถึงมือหญิงสาว เพราะต้องใช้จ่ายในการรักษาโรคของแม่สามี ส่วนที่เหลือน้องสาวอีกฝ่ายก็ฮุบไป อ้างว่าจะเป็นทุนสำหรับเรียนการแสดง และชุปตัวใหม่ เพื่อเป็นนางเอกภาพยนตร์