ผีกับคืนเดือนมืด

2334 Words
ตอนที่ 10 ผีกับคืนเดือนมืด คำเตือน : มีการบรรยายถึงเนื้อหาชวนหดหู่ และสลดใจ ไม่แนะนำสำหรับคนที่มีจิตใจอ่อนไหว แทนคุณอดทอดถอนหายใจออกมาไม่ได้เมื่อบรรยากาศชวนหวานเมื่อครู่กำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว เมื่อเสียงรถคุ้นเคยที่เมื่อก่อนไม่เห็นว่าจะมาถี่ขนาดนี้เข้ามาหยุดอยู่ใกล้ตัวบ้านของเขา ปลายคิ้วหนาเหมือนไม่ค่อยจะถูกใจนักก็ว่าได้ เมื่อเห็นน้องชายต่างแม่เดินเข้ามาหา ตุ๊กตาเมียของเขาพร้อมรอยยิ้ม แล้วแม่ผีสาวที่เขาลืมไปสนิทว่าไม่ใช่คนนั้นก็ช่างกระไร วิ่งเข้าใส่อีกฝ่ายราบกับเป็นเด็กเสียนี่โดยไม่สนใจสายตาดุของเขาเลย แต่ก็ยังดีหน่อยที่ตอนนี้อลิซได้สวมเสื้อผ้าในแบบที่คนปกติทั่วไปสวมใส่กันแล้ว ไม่งั้นเขาคงได้ไล่เจ้าน้องชายกลับไปตั้งแต่ยังไม่ลงรถด้วยซ้ำ "คุยกันไปนะ เดี๋ยวไปชงชามาให้" เขาพูดออกมาตามมารยาทเจ้าของบ้านที่ดี ก่อนจะหมุนกายเข้าส่วนครัวไป ปล่อยให้เมียซิลิโคนกำลังคุยจ้อกับคนมาใหม่อย่างออกรส "นี่ดีแลน อยากลองขึ้นเตียงกับอลิซบ้างไหมคะ" คำถามของเธอทำชายหนุ่มผู้มาเยือนหันมามองหน้าเธอทันที แววตาคมไม่ต่างจากผู้พี่ฉายแววบางอย่างออกมาทว่ากลับเอ่ยน้ำเสียงอบอุ่นปนไม่เข้าใจถามออกไปแทน "อลิซ หมายถึงอะไรครับ" "ก็คุณแทนบอกว่า ถ้าอยากเป็นผัวเมียก็ต้องขึ้นเตียงกันก่อน อลิซเลยอยากรู้ว่าดีแลนอยากเป็นผัวเมียกับอลิซดูบ้างไหมคะ" เธอว่าอย่างไร้เดียงสาด้วยเข้าใจว่าความหมายที่แทนคุณบอกเธอนั้น คือการขึ้นเตียงกับใครคนหนึ่งนั้นหมายถึงการเป็นเมียของคนนั้น และด้วยความที่แทนคุณกับดีแลนต่างก็แสดงออกถึงความใจดีกับเธอเหมือนทั้งคู่ ผีสาวจึงเข้าใจกับตัวเองเอาว่าการตนสามารถเป็นผัวเมียกับดีแลนก็ได้เช่นกัน หากแต่ดีแลนกับไม่เข้าใจถึงความหมายนั้น ชายหนุ่มเผลอยกยิ้มออกมาที่มุมปากเมื่อได้ยินความต้องการของเธอ แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรออกมาเสียงกระแทกแก้วชาก็พลันดังขึ้นเสียก่อน พร้อมกับเจ้าของบ้านที่ก้าวสับขาเข้ามาฉับๆ ด้วยใบหน้าที่ราบเรียบแม้ว่ากำลังสะกดอารมณ์อยู่ข้างในก็ตาม "นายกลับไปก่อนเถอะดีแลน พอดีวันนี้พี่งานยุ่งอยากพักแล้ว" คนพี่เอ่ยปากไล่อย่างไม่คิดจะอ้อมค้อมอีก ทำเอาคนน้องนิ่วหน้าไปหน่อยก่อนจะปรับเป็นยิ้มแย้มเช่นเคย "อ๋อ ได้ครับ งั้นเดี๋ยวผมกลับก่อนนะอลิซ" สาวน้อยพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มหวานพลางยกมือโบกลาให้เพื่อนคนใหม่อย่างสดใส หากแต่ก็ต้องนิ่วหน้าเมื่อเสียงดุของแทนคุณ ดังขึ้นอีกแล้วหลังจากรถของดีแลนหายจากสายตาไป "เธอไปชวนคนอื่นขึ้นเตียงแบบนั้นได้ไง หื้ม" "เอ้า ก็คุณบอกว่าถ้าขึ้นเตียงแล้วก็จะเป็นผัวเมียกันนี่ อลิซแค่อยากลองเป็นผัวเมียกับดีแลนบ้างเอง" เธอว่าพลางทำหน้าตาใสซื่อราวกับไม่ได้เอ่ยอะไรผิด ซึ่งนั่นทำเอาเขายิ่งโมโหมากขึ้นไปอีก "แต่เธอมาอยู่ในร่างของอลิซ เมียรักของผม เพราะฉะนั้นผมขอสั่งห้ามเลยนะว่าไม่ให้ชวนคนอื่นขึ้นเตียงด้วยแบบนั้นอีก คนที่จะเล่นเป็นผัวเมียกับคุณได้ คือผมคนเดียว" ได้ยินคำห้ามแบบนั้นผีสาวก็พลันทำแก้มป่องออกมาด้วยเข้าใจว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ก็ไม่กล้าขัดเขาได้แต่รับเขาและสะบัดหน้าเดินหนีเท่านั้นทิ้งให้คนตัวโตยืนมองตามสีหน้าหงุดหงิดแบบนั้น "ยัยบ้าเอ๊ย คิดได้ไง จะชวนคนอื่นขึ้นเตียง ใครจะไปยอมวะ ก็แค่มาอาศัยร่างตุ๊กตาของคืนอื่นเขาแท้ๆ" แม้จะมีอาการแง่งอนกันบ้างในบางครั้ง ทว่าพอตกกลางคืนชายหนุ่มและผีสาวก็ยังคงทำกิจกรรมกระชับพื้นที่กันอยู่เหมือนเคย ราวกับว่าความข้องใจก่อนหน้านั้นไม่เคยเกิดขึ้นแต่อย่างใด เฉกเช่นเดียวกับคืนนี้ หลังจากศึกรักระหว่างประธานหนุ่มและตุ๊กตายางจบลง สองร่างยังนอนกกกอดกันอยู่แบบนั้นเหมือนทุกวัน หากแต่คนที่เข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้วอย่างแทนคุณ คงจะไม่ได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างตุ๊กตาเมียของตนเลยสักนิด ว่าตอนนี้ร่างกายหยาบของเรือนร่างไม่ต่างจากมนุษย์พลันมีแสงสว่างเรืองรองขึ้นมาอาบทั่วร่าง ก่อนที่ไม่นานแสงนั่นจะกลายเป็นดวงใจอันเล็กร่องรอยออกนอกบานหน้าต่างไปยังสถานที่หนึ่ง คืนเดือนมืดช่างเป็นห้วงเวลาลึกลับและชวนขนลุกยิ่งนักสำหรับเหล่าภูตผีทั้งหลาย โดยเฉพาะพวกที่ตายด้วยสาเหตุอะไรก็ไม่อาจจดจำได้อย่างอลิซ ทุกนาทีมันช่างเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัวและเหน็บหนาวเสียเหลือเกิน ดวงตาคู่สวยบนใบหน้าหวานแหงนมองท้องฟ้าที่ไร้ซึ่งดวงจันทร์ด้วยความว้าเหว่ ความมืดเข้าปกคลุมทั่วบริเวณตามธรรมชาติของโลก ไร้ซึ่งแสงจันทร์ใดๆ เหมือนทุกวันในรอบเดือน จะมีก็เพียงแค่ดวงดาวเล็กเท่านั้นยังคงทำหน้าที่ส่องแสงระยิบระยับบนท้องฟ้าสีดำสนิท "คืนเดือนดับอีกแล้วงั้นรึ ไม่เห็นชอบเลยสักนิด" ผีสาวว่าพลางทิ้งตัวลงไปกอดเข่าคุดคู้อยู่ตรงสะพานบนแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวแห่งหนึ่ง ความมืดปกคลุมโดยรอบสะพานที่ตั้งตระหง่าน แสงไฟส่องมาอย่างเบาบางราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า การสะท้อนของแสงไฟบนผืนน้ำสร้างบรรยากาศเงียบสงบ รถยนต์ที่แล่นผ่านนานๆจะมีมาสักคัน สายลมเย็นที่พัดปะทะใบหน้าช่วยเพิ่มความรู้สึกน่าขนลุกกับช่วงเวลานี้เสียเหลือเกิน ความเย็นยะเยือกที่เธอมักสัมผัสได้เสมอ 'ความหนาวเหน็บของคืนเดือนมืด' ผีน้อยมักเรียกวันนี้แบบนั้น ตั้งแต่ตายเป็นผีมาแม้ว่าความทรงจำทุกอย่างหลุดลอยหายไป หากแต่มีอยู่สิ่งเดียวที่ผีสาวจำได้แม้ไม่ต้องการมันเลยสักนิด นั่นคือการมายังสะพานข้ามแม่น้ำแห่งนี้ ในทุกคืนเดือนดับ แม้ว่าจะไม่อยากมาแค่ไหนแต่ทุกครั้งก็มักจะถูกกระชากวิญญาณให้มาที่นี่เสมอเมื่อในช่วงเวลาราวเกือบเที่ยงคืน... "อึก ไม่เอาแล้ว ไม่เอาแบบนี้แล้ว ไม่ไปแล้ว ฮึก ฮือ ฮือ" ร่างโปร่งแสงที่นั่งคุดคู้ในตอนแรกเริ่มร้องออกมาน้ำเสียงลนลานปนสะอื้น ก่อนที่ร่างไร้ตัวตนของเธอจะถูกดึงไปยังอีกแห่งหนึ่งอย่างไม่อาจต้านทานได้ สำหรับหญิงสาวนั้น แม้ว่าคืนเดือนดับจะดูน่ากลัวและว้าเหว่มากเพียงใด กระนั้นมันก็ยังคงมีแสงดาวพราวระยับคอยเป็นเพื่อนอยู่ไม่มากก็น้อย ทว่าบัดนี้ความน่ากลัวที่แท้จริงในคืนรอยต่อโลกความตายและคนเป็นนี่ต่างหากที่ผีสาวไม่แม้จะอยากได้รับมันสักนิด ความมืดมนไร้ซึ่งแสงใดๆ กำลังรายล้อมรอบตัวเธออยู่จนไม่อาจขยับหนีไปไหนได้อีก ฉับพลันเสียงหัวเราะของชายคนหนึ่งที่เธอไม่อาจรู้ได้ว่าเป็นใครก็ดังก้องขึ้น มันช่างดูน่าหวาดกลัวผสมกับความน่าขยะแขยงเหลือเกินในความรู้สึกของผีสาว ขับให้เธอเริ่มกรีดร้องออกมาพร้อมกับน้ำตาเม็ดโต "ไม่ ไม่เอา ฮือ ฮือ ปล่อยฉันออกไป ฉันไม่อยากได้ยินเสียงนี้ ไม่! อย่าเข้ามา!" ผีสาวร้องบอกเสียงสั่นพลางเริ่มยกมือปิดหูของตนเอาไว้พร้อมกับร่ำไห้อย่างน่าเวทนา ก่อนที่ไม่นานร่างโปร่งแสงจะเกิดอาการสะดุ้งออกมาอีกครั้ง ครานี้รอบตัวจากมืดดำกลับกลายเป็นคลื่นน้ำปกคลุมรอบตัวกว้างสุดสายตา ความหนาวเย็นกว่าเก่าเริ่มเกาะกินความรู้สึกยากจะต้านได้ ก่อนที่ดวงตาสวยจะเริ่มเบิกกว้างขึ้น พลางเริ่มออกอาการสำลักออกมาอย่างเห็นได้ชัด สองมือขวักไขว่ตะเกียกตะกายอย่างน่าสงสารทว่าก็ไม่อาจหลุดพ้นจากผืนน้ำนี้ได้เลยสักนิด ความแสบตีขึ้นสมองส่งตรงมาจากโพรงจมูกอย่างห้ามไม่อยู่ กายโปร่งแสงค่อยๆ ออกอาการสะดุ้งเฮือกออกมาเป็นครั้งคราวกับความทรมานตรงหน้า "ไม่เอาแล้ว กลัวแล้ว ไม่เอาแบบนี้แล้ว" ผีสาวร่ำร้องออกมาจนแทบไม่มีเสียง ดวงตาที่เริ่มจะปิดลงสอดส่ายหาใครสักคนที่จะมาฉุดรั้งเธอจากความทรมานนี่ ทว่าก็ไร้ซึ่งใครจะช่วยเธอได้เลย สายน้ำตาของสาวเจ้าหลั่งไหลออกมาผสมกับมวลน้ำไม่ขาดสาย ก่อนที่ร่างโปร่งแสงจะกระตุกลมหายใจสุดท้ายออกมาเป็นห้วงๆ แล้วแน่นิ่งไปด้วยแววตาที่ยังเบิกโพลงสื่อถึงความเจ็บปวดและทรมาน ไร้ซึ่งใครสักคนจะปลอบประโลมหรือนำพาเธอให้หลุดพ้นนี้ได้ "อลิซ อลิซ อลิซ!!!" เสียงเรียกที่ค่อนข้างดังอยู่ข้างหู ปลุกผีสาวให้สะดุ้งเฮือกออกมา กายสาวลุกขึ้นนั่งด้วยอาการหอบเหนื่อย หยาดน้ำตายังคงไหลอาบแก้มเสมือนมนุษย์ไม่ยอมหยุด "เป็นอะไรไป ร้องไห้ทำไม ฝันร้ายเหรอ" เสียงนุ่มของคนที่ปลุกเธอจากห้วงความทรมานดังขึ้น พร้อมกับมือหนาที่เอื้อมมาเช็ดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน ขับให้ผีสาวในร่างตุ๊กตายางเช่นเดิมปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้นพร้อมกับโผล่เข้ากอดเจ้าของกายที่เธอได้สิงอาศัยจนแน่น ราวกับกำลังหาที่พึ่ง "คุณแทน อย่าทิ้งอลิซนะ อย่าไปไหนนะ อลิซกลัวและทรมานเหลือเกิน" เสียงสะอื้นไห้ร้องบอกกับเขาราวคนขวัญเสีย โดยที่เจ้าของชื่อยังคงไม่เข้าใจอะไรนัก หากแต่ฝ่ามือใหญ่ก็เลือกจะโอบกอดตอบแล้วลูบไปยังเรือนผมนุ่มอย่างปลอบประโลมอย่างที่ไม่เคยทำให้ใครมาก่อน จนกระทั่งผีสาวเริ่มสงบลง "ไหนลองบอกมาทีว่าร้องไห้เรื่องอะไร" แทนคุณเอ่ยถามขึ้นเมื่อร่างเล็กกว่าผละออกจากอ้อมอกเขาไปแล้ว "เพราะคืนเดือนดับไง" "คืนเดือนดับ? หมายความว่ายังไง" "ทุกคืนเดือนดับอลิซจะถูกดึงไปยังที่แห่งหนึ่ง มันทั้งมืด และเงียบเหงามาก แต่นั้นมันก็ยังดีกว่าอีกที่หนึ่ง ที่อลิซไม่อยากไปเลยด้วยซ้ำ ตรงนั้นมันมีแต่น้ำเต็มไปหมด มันทั้งน่ากลัว ทั้งทรมาน แล้วก็หนาว ถ้าเลือกได้อลิซคงไม่ไปใกล้ด้วยซ้ำ แต่มันก็หนีไม่พ้นสักที แล้วไหนจะเสียงผู้ชายน่ากลัวนั่นอีก" "แล้วทำไมต้องไปล่ะ ไม่ไปไม่ได้หรือถ้ามันน่ากลัวขนาดนั้น" เสียงนุ่มเอ่ยถามอย่างใครอยากรู้ แต่ก็ได้รับคำตอบที่พอจะเดาออกได้อยู่แล้ว "ไม่ได้ค่ะ ถึงไม่อยากไป ถึงจะพยายามหนีก็โดนลากกลับไปอยู่ดี หนีไม่พ้นเลย จำอะไรไม่ได้ และคิดอะไรไม่ออก พอพยายามคิดก็ปวดหัวเหมือนจะแตกดับ แล้วก็หนาวไปหมด ฮือ ฮือ" ปลายเสียงของเธอเริ่มสะอื้นออกมาอีกครั้งทั้งยังฉายชัดว่ากำลังกังวลและสับสน จนชายหนุ่มต้องรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากเห็นน้ำตาของเธออีก "โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะ ไม่คิดแล้ว เลิกไปคิดถึงมันได้แล้ว เอาอย่างนี้ ไปอาบน้ำแต่งตัวไป เดี๋ยวผมพาไปเที่ยวเอาไหม จะได้อารมณ์ดีขึ้น" เพียงแค่ได้ยินว่าตนจะได้ออกไปสู่โลกกว้างอีกครั้ง รอยยิ้มของผีสาวก็พลันเริ่มฉายออกมาทันทีแล้วนำพาร่างตุ๊กตาไปจัดการธุระส่วนตัวทันทีโดยไม่ต้องรอให้ชายหนุ่มบอกซ้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลยว่าในตอนนี้สายตาและรอยยิ้มเอ็นดูของชายหนุ่มเจ้าของห้องนั้นจะเริ่มถูกความสงสัยเข้ามาแทนที่ "มีแต่น้ำ หนาว เสียงน่ากลัวงั้นเหรอ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันเกี่ยวกับการตายของเธอ" ชายหนุ่มพึมพำออกมาแบบนั้น ด้วยความฉุกคิดในใจถึงการตายของผีสาว เสียงร่ำไห้และความทรมานจากสีหน้าของเธอตอนที่ยังไม่ตื่นขึ้นมานั้น มันช่างชวนให้ชายหนุ่มรู้สึกเวทนาเสียเหลือเกิน หากบางทีการรับรู้ถึงเรื่องราวของเธอ มันก็คงจะเป็นทางออกที่ดีไม่หน่อย เพราะนั่นมันอาจจะเป็นหนทางแห่งการปลดปล่อยเธอจากความทรมานนี้ก็เป็นได้ อารมณ์หดหู่ของผีสาวดูเหมือนจะเริ่มดีขึ้นมาเรื่อยๆ ได้ออกมาเที่ยวข้างนอกที่แทนคุณบอกเธอว่ามันคือห้างสรรพสินค้า การได้เลือกดูข้าวของและร้านรวงต่างๆ ทำให้ความทุกข์คืนเดือนดับของเธอ ค่อยๆ จางลงไปทีละน้อย ขับให้เธอกลับมาเป็นผีสาวผู้สดใสเหมือนเคยโดยที่วิญญาณเร่ร่อนตัวอื่นไม่สามารถจับผิดได้เลยว่าเธอคือพวกเดียวกัน รอยยิ้มกว้างแห่งความดีใจของอลิซฉายชัดออกมาผสมผสานกับความตื่นเต้น เมื่อประธานหนุ่มพาเธอไปเลือกซื้อมือถือเอาไว้ใช้เครื่องหนึ่ง โดยที่ไม่ลืมบอกวิธีใช้และบันทึกชื่อของเขาเอาไว้ให้เผื่อเกิดกรณีฉุกเฉินขึ้นมา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD