ตอนที่ 9
ดุผี
นัยน์ตาคู่สวยของผีสาวที่มองลอดผ่านตัวอลิซซาเบธ แอบเบิกกว้างขึ้นมากว่าปกติ เมื่อเห็นว่าตอนนี้ชายหนุ่มเป็นใจดีให้ยืมร่างตุ๊กตาเมีย กำลังคืบคลานขึ้นมาบนเตียงด้วยความสงสัยปนสนใจ กับสิ่งของในมือของเขาตอนนี้
"นั่นมันอะไรคะ"
"ของเล่นใหม่ไง" คนถูกถามเอ่ยเพียงแค่นั้นแล้วยกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างที่ผีสาวไม่เคยเห็น
สองขาเรียวถูกจับให้รวบเข้าหากันก่อนชายหนุ่มจะนำมันมาพาดไว้กับบ่าแกร่งจนสะโพกของเธอลอยเหนือจากพื้น มือข้างหนึ่งควักเจลหล่อลื่นมาปริมาณพอตัวแล้วทาชโลมไปกับของเล่นหน้าตาแปลกประหลาดที่อลิซไม่เคยเห็น
ลักษณะที่จะเป็นแท่งก็ไม่เชิง มันเหมือนกับว่าเป็นก้อนกลมๆ เรียงตัวกันขนาดใหญ่เล็กอย่างลดหลั่นอยู่หลายอันมากกว่า ผืนผิวเรียบสีดำสนิทของมันแลชวนมองอย่างให้นึกสงสัยการใช้งาน ทั้งตัวเครื่องยังติดกับสายเล็กๆ พ่วงไปยังตัวรีโมตอันจิ๋วอีกต่างหาก ทำเอาผีสาวไม่อาจเก็บความสงสัยไว้ได้อีกแล้ว
ทว่าครั้นริมฝีปากกำลังจะเอ่ยอ้าถามออกไปก็พลันต้องเปลี่ยนมาเป็นเสียงครางเสียก่อน เมื่อแทนคุณเริ่มสอดเจ้าของหน้าตาประหลาดนั่นมายังรูจีบด้านหลังของเธอ
"อ๊ะ คุณ คุณมันแน่นจัง จุก เอาออกไปก่อนได้ไหมคะ"
"เอาออกทำไมล่ะ แค่เริ่มต้นเองนะ" เสียงกระเส่าของเขาดัังขึ้นพร้อมกับขาทั้งสองข้างที่ถูกปล่อยลง หากแต่นั่นก็แค่เริ่มต้นเกมเหมือนเขาว่า เพราะนอกจากจะไม่เอาออกไปแล้ว เขายังกดสัญญาณรีโมตเครื่องเล็กนั่น จนเจ้าเครื่องประหลาดมันเริ่มสั่นไปมาในร่องแคบของเธอ
"ชีดส์ อื้มม คุณคะ พอ พอก่อน อ๊าา"
"หืม ว่าไงนะครับอยากได้แรงกว่าเดิมเหรอ ได้สิ"
เขาว่าอย่างหน้ามึนพร้อมกับกดเพิ่มระดับการสั่นเข้าไปอีก ขับให้คนตัวเล็กกว่าดิ้นพล่านไปมากับรสสัมผัสนั่น หากแต่คนขี้โมโหก็ยังไม่พอใจนัก กลีบปากร้ายเริ่มบรรเลงลิ้นไปกับกกหูของสาวเจ้า พลางขบเม้มไปอย่างหยอกเย้าสลับกับลากลิ้นไปมาตามกระดูกอ่อน จมูกโด่งได้รูปพรมสูดดมกลิ่นหอมของคนตัวเล็กอย่างเอาแต่ใจไปตามพวงแก้มนวล ก่อนกลีบปากหนาจะวกเข้ามาฉกชิมปากเล็กที่กำลังส่งเสียงครางรัญจวนใจอยู่
"ฮื่อ"
เธอส่งเสียงร้องออกมาได้แค่นั้นจากการถูกปิดประกบปาก กายพลาสติกไม่ต่างจากคนจริงบิดเร้าไปมากับการถูกจู่โจมด้านล่าง แล้วไหนจะต้องต่อกรกับเรียวลิ้นร้ายของเขา ที่มากวาดต้อนลิ้นเธอเข้าหาเพื่อจะดูดดุนส่วนปลายนั่นอีก คำว่าเอาแต่ใจคงจะน้อยไปสำหรับเขาจริงๆ
"อึก อ่าส์ คุณแทนคะ อื้อ"
สาวน้อยร้องได้แค่นั้นแล้วก็พลันต้องแอ่นอกให้ลอยขึ้นเมื่อปลายยอดถันถูกเขากัดสลับกับดูดดุนอย่างเอาแต่ใจ ทั้งมือซุกซนจะเลื่อนผ่านหน้าท้องแบนไปยังเนินร่องที่ตอนนี้เริ่มชื้นแฉะขึ้นมากับการเล้าโลมของเขา
"ไหนลองพูดสิ จะดื้ออีกไหม" คนตัวโตพยายามบังคับเสียงให้ดังพอจะเอ่ยถามออกไป ด้วยว่าในตอนนี้ความปวดหนึบมันเล่นงานความเป็นชายท่อนล่างจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว หากแต่เขาก็ต้องทนเมื่อบทลงโทษนี้มันยังไม่จบ
"ไม่ ไม่ดื้อแล้วค่ะ อลิซจะไม่ดื้อแล้ว อื้อ"
"อื้อ ไม่ดื้อ อลิซจะไม่ดื้อแล้วค่ะ อลิซจะฟังที่คุณพูดทุกอย่างเลย"
เจ้าของชื่อยกยิ้มขึ้นมาอย่างชอบใจ กระนั้นก็ยังไม่อยากจะหยุดแกล้งสาวเจ้า ก้านนิ้วยาวจึงบรรจงสอดเข้าไปในร่องรักอีกครั้ง แล้วขยับงอเข้าออกถี่ๆ ชวนให้คนตัวเล็กดิ้นเร่าๆ มากกว่าเดิม ไหนปากร้อนจะก้มลงมากลืนดูดยอดถันเพิ่มความกระสันอีกทาง
"ซีดส์ แทนคุณ ขี้โกงกันนี่ อลิซก็บอกว่าไม่ดื้อแล้วไง อื้อ"
"ไม่ดื้อก็ส่วนไม่ดื้อสิ แต่ที่ดื้อไปแล้วก็ต้องโดนอยู่ดี"
เขาว่าอย่างเอาแต่ใจแล้วยังตั้งหน้าตั้งตาเล้าโลมเธออย่างไม่รู้เบื่อ ยอดถันถูกดูดดุน ร่องรักด้านหน้าถูกเขี่ยขยับราวกับก้านนิ้วไม่รู้เหนื่อย ไหนจะด้านหลังที่มีเจ้าเครื่องประหลาดกำลังทำงานอย่างบ้าคลั่งนั่นอีกล่ะ ทุกอย่างทำเอาความเสียวกระสันยิ่งพุ่งเข้าจู่โจมเธออย่างเกินจะต้านจริงๆ
ความรู้สึกจะถึงฝั่งใกล้เข้ามาแค่เอื้อม ทว่าก็เหมือนกับถูกฉุดลงมากะทันหันเมื่อแทนคุณจงใจหยุดการกระทำทุกอย่างลง แม้แต่กดปิดการควบคุมเครื่องสั่นในร่องจีบนั้นก็ด้วย
"หยุดทำไมคะ"
"ผมไม่มีอารมณ์แล้ว คุณดื้อจนผมหงุดหงิดไปหมด"
เขาว่าเสียงเรียบพลางหันไปปลดล็อกเข็มขัดที่พันธนาการเธอออก แล้วล้มตัวลงนอนข้างเธอในลักษณะหงายเอามือสอดท้ายทอยไว้ท่าทีสบายๆ แม้ตรงนั้นมันจะแข็งตึงและเริ่มเยิ้มยืดจากน้ำลื่นใสที่ปริ่มออกก็ตาม
"แต่ถ้าคุณอยากมากล่ะก็ ลองขึ้นเองดูสิ ผมอนุญาต"
ผีสาวที่ได้ยินแบบนั้นก็ยกยิ้มออกมาทันทีก่อนจะเคลื่อนกายมาคร่อมตัวเขาเอาไว้อย่างว่าง่าย แท่งร้อนถูกจับให้ตั้งชันขึ้น เพื่อจะให้เจ้าตัวค่อยๆ หล่อนกายลงทาบทับตามความต้องการของอารมณ์
เสียงเนื้อหนังโคนต้นขาของทั้งคนจริงและซิลิโคนเสมือนดังลอดผสมผสานกันกับเสียงครางของทั้งคู่ได้อย่างลงตัว มือน้อยของผีสาวค้ำยันไว้กับหน้าท้องลอนแข็งแกร่งเพื่อเป็นหลักให้ตนขยับโยกขึ้นลงได้อย่างถนัดถนี่ แทนคุณเองก็ใช่ย่อยมือคู่ใหญ่จับเอวบางของคนบนกายไว้มั่นแล้วเด้งเอวสอบสวนเข้าร่างเธออย่างไม่รู้เหนื่อย แม้ว่าเม็ดเหงื่อจะผุดขึ้นมาเต็มกรอบหน้าและลำตัวก็ตาม
ใบหน้าสวยหวานเชิดขึ้นสูดปากส่งเสียงครางระงมพลางขยับร่อนท่อนล่างให้มากขึ้นกว่าเก่าเมื่อปลายทางแห่งความสุขสมกำลังเดินทางเข้าใกล้มาอยู่รอมร่อ
"บดเน้นๆ เลยที่รัก ซีดส์ ผมจะเสร็จแล้ว" แทนคุณร้องครางเสียงดังลั่นพร้อมกับเผลอบีบสะโพกกลมกลึงของผีสาวอย่างลืมตัว สองร่างส่งเสียงครางรับจังหวะเร่าร้อนกันอยู่แบบนั้น ก่อนที่ธารน้ำรักจะหลั่งรินออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน
"คุณหายโกรธอลิซแล้วใช่ไหมคะ" ผีสาวร้องถามคนที่นอนกอดเธอแน่นด้วยน้ำเสียงที่ไม่เต็มที่นัก เพราะกลัวเขาจะไม่พอใจขึ้นมาอีก แม้ว่าตนจะติดใจบทลงโทษของเขาก็ตามหากแต่ถ้าใบหน้าบึ้งตึงของเขานั้นทำให้ผีสาวไม่ชอบใจเอาเสียเลย
"ก็ดีขึ้นล่ะ ถ้าเธอสัญญาว่าคราวหน้าจะไม่ดื้อแบบนี้อีก"
"อลิซไม่ได้ดื้อนะคะ ก็แค่อยากไปเที่ยวเอง" ปลายเสียงแผ่วเบาบวกกับความหงุดหงิดที่มันจางลง ทำให้ชายหนุ่มเริ่มคิดได้ว่าผีสาวแสนซุกซนนี่คงจะแค่เหงาตามประสา ลมหายใจอย่างคนยอมแพ้เริ่มดังขึ้นพร้อมกับเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"งั้นเดี๋ยววันหลังผมว่างจะพาไปเที่ยว แต่ห้ามหนีไปแบบนี้อีก เข้าใจไหม"
เพียงได้ยินว่าจะได้ออกไปสู่โลกภายนอกแววตาของตุ๊กตายางก็พลันเรืองรองขึ้นราวกับเด็กน้อยอีกครั้ง กายหยาบของอลิซถูกนำพาให้นั่งขึ้นโดยผีสาวไร้ชื่อ รอยยิ้มกว้างจากปากอิ่มทำให้แทนคุณเผลอยิ้มตามออกมาอย่างนึกเอ็นดูอีกฝ่าย ทว่าก็พลันหุบลงอย่างไวเมื่อได้ฟังประโยคต่อมาของเธอ
"งั้นอลิซชวนดีแลนไปด้วยได้ไหม ดีแลนคุยสนุก"
"ไม่ได้!" เขาเผลอร้องบอกด้วยเสียงอันดังลั่นอย่างลืมตัว จนคนตัวเล็กสะดุ้งออกมานั้นล่ะเขาถึงได้รู้ตัวรีบเอ่ยกลบเกลื่อน
"ผมหมายถึง ถ้าคุณไปสนิทกับคนอื่นมาก เดี๋ยวความก็แตกกันพอดีว่าไม่ใช่คน" ผีสาวพยักหน้ารับอย่างเข้าใจรับรู้แล้วเอ่ยถามขึ้น
"ดีแลนเป็นใครคะ เหมือนพวกคุณรู้จักกันมาก่อน" คนตัวโตถอนหายใจออกมาแล้วเริ่มอธิบาย
"เขาเป็นน้องชายของผมเอง แต่คนละแม่"
"เหรอคะ ฟังดูอบอุ่นจังนะ ครอบครัวใหญ่ แล้วพ่อแม่คุณใจดีไหมคะ อลิซอยากเห็น" เธอพูดออกมาตามประสาซื่อนั่นทำให้แทนคุณชะงักไปหน่อยแต่ก็ไม่ได้ถือสาอะไร
"บางทีคุณอาจจะเจอก็ได้นะสักวันหนึ่ง เพราะพ่อกับแม่ผม ท่านตายไปแล้ว จะเหลือก็แค่แม่ของดีแลนนั่นแหละ"
ผีสาวที่เห็นแววตาบางอย่างของคนตัวโตก็พลันรู้สึกสงสารขึ้นมาในใจอย่างบอกไม่ถูก และด้วยความที่เป็นผีที่มีเพื่อนแค่ทีวีเท่านั้น เธอจึงเลือกใช้วิธีปลอบโยนตามที่เห็นในจอนั่นโดยการลูบไปที่เรือนผมหนาของเขาสลับกับเกาคางค่อนแหลมนั่น แล้วเอ่ยปลอบราวกับเขาเป็นลูกสุนัขตัวน้อยยามบาดเจ็บ
"อะไรของเธอ ฉันไม่ใช่หมานะ"
"เหรอคะ ก็ไม่รู้นี่ เห็นในทีวีแบบนี้นี่หน่า"
"เฮ้อ เธอนี่บางทีก็เหมือนกับเด็กยังไม่โตจริงๆ เอาเถอะ ผมก็ไม่ได้จะกักขังคุณ แต่ก็อยากจะเตือนไว้หน่อย ว่าต่อไปนี้อย่าไปไหนมาไหนกับคนอื่นแบบวันนี้อีก แล้วก็ต่อไปนี้ต่อหน้าคนอื่นห้ามพูดกับใครว่าเป็นเมียผมอีก เข้าใจไหม ให้บอกว่าเป็นน้องสาวแทน"
"เอ้า ทำไมละคะก็คุณเป็นคนเรียกฉันว่าเมียทุกคืนเองนี่" คนตัวโตถอนหายใจออกมาแล้วรีบบอกปัด
"เมียคือคนที่รักกัน แต่งงานกันแล้ว ส่วนคุณเป็นเมียก็จริง แต่ก็แค่บนเตียงเท่านั้น เข้าใจไหม"
"คนที่รักกันถึงเป็นเมียได้ เวลาอยู่บนเตียงก็ถึงจะเป็นเมียได้ แบบนี้นี่เอง" แทนคุณเบาใจขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเห็นสาวเจ้าพยักหน้ารับหงึกหงักอย่างไร้เดียงสา
ช่วงเย็นของวันถัดมาในตอนที่แทนคุณกลับมาจากทำงานเหมือนทุกวัน คราวนี้ชายหนุ่มกลับมาพร้อมข้าวของจำนวนหนึ่ง ซึ่งแปลกไปจากทุกวัน ทำเอาผีสาวนึกสงสัยไม่น้อย
"อะไรคะเนี่ย เยอะแยะเลย"
"เสื้อผ้าไง จะได้ไม่ต้องแต่งตัวโป๊แบบนั้นอีก แล้วก็มีพวก เอ่อ...ชุดชั้นในด้วยนะ" เขาว่าพลางหลบสายตาเธอด้วยอาการเขินอาทว่าใบหูกลับแดงก่ำจนผีสาวสังเกตได้
"เป็นอะไรไปคะ หูแดงเชียว"
เขาไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา มีแต่อาการเขินเท่านั้นที่มากขึ้นกว่าเดิม เมื่อสาวเจ้าเอา 'ต้นตอแห่งความอาย' ที่คุณเธอเอาขึ้นมาทาบทับกับทรวงอกของตัวเองอย่างตื่นเต้น ก็มันต้องอายน่ะถูกแล้วไหมล่ะ ในเมื่อเขาต้องเป็นคนไปซื้อชุดชั้นในพวกนี้มาให้เธอด้วยตัวเอง ไอ้ครั้นจะพาสาวเจ้าไปด้วยก็คงจะไม่สะดวกเท่าไหร่ ยิ่งนึกถึงสายตาของพวกพนักงานขายแล้วละก็ ความอายมันก็ยิ่งทบทวีขึ้นไปอีกแต่เขาก็เลือกจะลืมเลือนมันไป แค่เพียงสายตาพบเจอกับรอยยิ้มของอีกคนเท่านั้น
คนหนึ่งหมุนกายไปกับชุดใหม่ตัวแล้วตัวเล่าในขณะที่อีกคนยืนมองด้วยรอยยิ้มพึงพอใจไม่รู้ตัว บรรยากาศแห่งความสุขอบอวลรอบกายของหนุ่มสาวทีละน้อย