ตอนที่2. ยั่วโทสะ

1122 Words
กู้ตงหยางไม่เคยพบสตรีนางใดใจกล้ายั่วโทสะเขาเช่นนี้มาก่อน ซ้ำยังทำด้วยหน้าตาใสซื่อราวกับเขาต่างหากที่เป็นฝ่ายผิด! เขาให้นางจัดห้องพักให้แม่นางเฉียวฉู่ ก็จัดห้องนางไว้ใกล้ห้องนอนของเขา แล้วนี่อะไร เขาสั่งให้บ่าวไพร่เอาสุรารสแรงมาดื่ม แต่นางกลับให้คนนำสุราหวานบ้าบออะไรมา ซ้ำยังอ้างว่าเพื่อรักษาสุขภาพของเขา เห็นเขาเป็นคนป่วยหรือไรกัน หรือตำแหน่งฮูหยินแม่ทัพไม่คู่ควรกับนาง ขนาดยอมให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าเป็นสาวใช้ แม่ทัพใหญ่บันดาลโทสะจนยกมือทุบไปบนโต๊ะอย่างแรงจนทหารที่คอยรับใช้อยู่ใกล้ๆ ถึงกับสะดุ้งโหยง “นางอยู่ที่ใด” “นาง?” ทหารสองคนหันมามองหน้ากัน “หมายถึงแม่นางเฉียวฉู่หรือขอรับ?” “ข้าหมายถึง...” เอ่อ...ผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไรนะ “จ้าวจื่อรั่ว” ทหารทั้งสองยังทำหน้างุนงงหนักกว่าเดิม ยิ่งทำให้แม่ทัพใหญ่โมโหเพิ่มขึ้นไปอีก เขาลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้เดินดุ่มๆ ไปยังเรือนทางปีกซ้ายของจวน จำได้ว่าตอนนางมาถึง เขาให้พ่อบ้านจัดที่พักให้ พ่อบ้านก็จัดเรือนปีกซ้ายทั้งที่เรือนของเขาอยู่ปีกขวา คนพวกนี้ก็อย่างไรกัน ช่างรนหาที่ตายโดยแท้ มีใครกันแยกห้องสามีภรรยาอยู่คนฝากของจวนเช่นนี้ แม่ทัพใหญ่เดินไปที่เรือนของนาง ทว่ายังไม่ทันพ้นประตูวงพระจันทร์ก็เห็นเจ้าตัวขนสีขาววิ่งมาชนขาจนมันเสียหลักเซไปทางอื่น เขาก้มมองเจ้า ‘แพะน้อย’ อายุน่าจะประมาณแค่สองเดือน ดูจากสายตาเอาเรื่องมันแล้วก็ทำให้เขาขมวดคิ้วไม่รู้ตัว “เปาเป่า กลับมานี่” เสียงหวานใสร้องเรียกปนหัวเราะทำให้ยามอาทิตย์อัสดงมีชีวิตชีวา เขาเงยหน้าขึ้นมองพลันสบตากับเจ้าของร่างเล็กที่เดินเร็วๆ มาทางเขา แววตากลมโตกระจ่างเบิกกว้างขึ้นดูคล้ายตกใจก่อนจะปรับอารมณ์วูบหนึ่งหลุบตาลง “ท่านแม่ทัพ” จ้าวจื่อรั่วคารวะอย่างมีมารยาท “ท่านมาถึงเรือนของข้า มีเรื่องใดรึเจ้าคะ” “จวนข้า ข้าจะไปที่ใดต้องรายงานเจ้ารึ” จ้าวจื่อรั่วเงยหน้าขึ้น ไม่รู้ว่านางทำเรื่องใดผิดจึงทำให้เขาดูอารมณ์ร้ายนัก นางยังไม่ทันเอ่ยปากอธิบาย เจ้าแพะน้อยทำท่าจะวิ่งพุ่งเข้าใส่ท่านแม่ทัพ “เปาเป่า!” พูดยังไม่ทันขาดคำ เจ้าแพะน้อยสีขาวก็พุ่งเข้าใส่ จ้าวจื่อรั่วร้องอย่างตกใจ แต่กู้ตงหยางก้มลงหิ้วคอแพะน้อยขึ้นมาไว้ก่อน ‘เจ้านี้มันร้ายจริง!’ “เหตุใดมีแพะอยู่ในจวนได้” “เป็นแพะจากโรงครัวเลี้ยงเอาน้ำนมเจ้าค่ะ” เสี่ยวฉู่ที่ถูกส่งมาเป็นสาวใช้รับใช้ฮูหยินรีบพูดขึ้น “เจ้าแพะน้อยตัวนี้ตั้งแต่ได้พบหน้าฮูหยินก็ตามตามไม่ยอมห่าง จนฮูหยินขอนำมันมาเลี้ยงไว้ดูเล่นเจ้าค่ะ” ปกติบ่าวไพร่แทบไม่มีผู้ใดกล้าปริปากพูดกับเจ้านาย แต่ยามนี้เพื่อปกป้องฮูหยินจึงกล้าพูดขึ้น กู้ตงหยางประหลาดใจยิ่งนัก นางมาอยู่จวนเขาไม่นานกลับซื้อใจคนในจวนได้ เห็นทีว่าเขาจะประเมินสตรีสกุลจ้าวน้อยเกินไป จ้าวจื่อรั่วย่อมไม่เข้าใจความคิดของกู้ตงหยาง นางเพิ่งระลึกเสมอว่าตนเองเป็นเพียงผู้อาศัย จะทำสิ่งใดต้องเกรงใจเจ้าของบ้าน แม้แพะตัวนี้เป็นแพะของจวน แต่นางนำมาเลี้ยงที่เรือนของตน อาจทำให้เขาไม่พอใจได้ ก่อนที่เขาสั่งการใดออกมา นางจึงรีบเอ่ยปากสั่งเสี่ยวฉู่เสียก่อน “รีบพาเปาเป่าไปเถิด วันนี้เล่นซนทั้งวันแล้ว” “เจ้าค่ะ” เสี่ยวฉู่รีบเข้าไปอุ้มเจ้าแพะน้อยออกไปทันที ทำให้ยามนี้ในเรือนของนางไม่มีบ่าวไพร่คนอื่นค่อยรับใช้ เหลือเพียงนางและผู้เป็นเจ้าของจวนเท่านั้น ยามตะวันพลบค่ำท้องฟ้าเป็นสีแดงเรื่อคล้ายย้อมแก้มนวลให้แดงปลั่ง ริมฝีปากบางขบเม้มจนเรียบตึงอย่างครุ่นคิด นางแต่งกายเรียบง่ายด้วยอาภรณ์สีเขียวใบบัว เรือนผมก็เกล้าอย่างเรียบง่าย แตกต่างจากเฉียวฉู่ราวฟ้ากับดิน ทว่าภาพที่เห็นเบื้องหน้ากลับให้ความรู้สึกอ่อนโยน สงบนิ่งและสบายใจ “ท่านแม่ทัพ” จ้าวจื่อรั่วเรียกเสียงเบาด้วยยังไม่เข้าใจว่าเขาต้องการสิ่งใด “ท่านมาถึงเรือนข้ามีสิ่งใดหรือเจ้าคะ เหตุใดไม่ให้บ่าวไพร่มาเรียกข้าไปพบ” กู้ตงหยางได้สติก็สูดลมหายใจลึก พลันได้กลิ่นหอมของอาหาร พลันนึกได้ว่าตนเองยังไม่ได้กินมื้อเย็น เขากระแอมขึ้นเล็กน้อยแล้ววางทาราวกับสนทนากับผู้ใต้บังคับบัญชาของตน “เจ้าใช่ไหมที่เป็นคนเปลี่ยนสุราของข้า” “อ่อ...เรื่องนั้นเป็นข้าเองเจ้าค่ะ” นางยิ้มรับแต่โดยดี “หมอทหารแจ้งว่าท่านแม่ทัพยังมีอาการบาดเจ็บเรื้อรังไม่ควรดื่มสุรารสแรง ข้าจึงเปลี่ยนเป็นสุรายาให้ท่าน” “หมอทหารกล้าเอาเรื่องนี้มาพูดกับเจ้ารึ!” เขาขึงตาใส่นาง แต่หญิงไม่หลบสายตาซ้ำยังคงระบายยิ้มอย่างอ่อนหวาน “ทุกคนล้วนเป็นห่วงสุขภาพของท่านแม่ทัพใหญ่ผู้กุมกำลังพลทหารนับแสน ข้าอยู่หลังบ้านช่วยได้เพียงเล็กน้อย จึงรับปากท่านหมอทหารว่าจะช่วยดูแลเรื่องอาหารการกินของท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ” พูดออกไปแล้วก็รู้สึกโล่งใจ หลายวันก่อนหมอทหารพูดคุยกับนางจึงพอได้รับรู้ความลับเล็กๆ เรื่องนี้ นางจึงได้แต่ปรับเปลี่ยนอาหารเพื่อบำรุงสุขภาพของท่านแม่ทัพ หญิงสาวเห็นเขายังยืนนิ่งเป็นท่อนไม้อยู่จึงเอ่ยถาม “ท่านแม่ทัพกินอะไรมาหรือยังเจ้าคะ ข้าทำน้ำแกงหัวปลาไว้ ท่านอยากลองชิมสักชามไหมเจ้าคะ” แววตานางเหมือนเด็กที่อยากอวดของเล่น เอาเถอะ แค่น้ำแกงชามเดียวไม่เสียเวลาอะไรนัก เขาพยักหน้ารับแล้วเดินเข้าไปด้านใน ตั้งแต่รับนางมาไว้ในจวนตลอดจนเข้าพิธีแต่งงานกับนาง เขาไม่เคยเข้ามาดูความเป็นอยู่ของนางเลยสักนิด เรือนของนางตบแต่งเรียบง่าย นอกจากภาพอักษรที่แขวนที่ผนังและต้นไม้เล็กๆ ไม่กี่กระถางแล้ว ก็ไม่มีสิ่งใดเป็นพิเศษ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD