บทนำ

1271 Words
บทนำ          แรงขยับโยกจากร่างกำยำสูงใหญ่ที่กำลังขับเคลื่อนนำพาความสุขสมไปสู่ร่างบอบบางของคนใต้ร่างอยู่นั้นก่อให้เกิดเสียง  อ้อนวอนขอความเมตตาขึ้นหลายต่อหลายครั้ง แต่ ‘เขา’ กลับไม่คิดแยแสต่อความเจ็บปวดดังกล่าวของหล่อนเลยแม้แต่นิดเดียว          “อ๊ะ เจ็บค่ะ!” ความเจ็บปวดจากการถูก ‘ร่วมรัก’ เป็นเวลาหลายชั่วโมงติดต่อกันส่งผลให้เจ้าของร่างบอบบางเจ็บปวดไปทั้งตัว หากแต่ไม่ว่าเธอจะขอร้องให้เขาช่วยเบามือแค่ไหน   ก็ไม่มีสักครั้งที่  ‘เขา’   จะมอบความเมตตากลับมาให้   ไม่...แม้แต่ครั้งเดียว สุดท้ายหญิงสาวก็ได้แต่หลับตายอมรับบทลงทัณฑ์ที่เขามอบให้เนิ่นนานต่อไปอีกร่วมชั่วโมงเกมราคะที่กินเวลามาเกือบสามชั่วโมงถึงจบลงไปพร้อมๆ กับร่างกายเธอที่บัดนี้เต็มไปร่องรอยรักรอยกัด  ด้วยฝีมือของชายหนุ่มผู้ซึ่งเคยเป็นคนรัก          คนที่เคยเป็น และยังเป็นอยู่ เป็นโลกทั้งใบของเธอ...          “เกลียดนิดมากเหรอคะ...” เสียงหวานเอ่ยขึ้นหลังจากปล่อยให้ความเงียบครอบงำจิตใจครู่ใหญ่ มันเป็นคำถามที่เธอชอบถาม แม้จะรู้ดีว่าคำตอบที่กำลังจะได้รับกลับมานั้นมันแทบไม่ต่างไปจากครั้งก่อน แต่ใจเจ้ากรรมก็ยังอยากได้ยินอยู่ดี          “อย่าถามคำถามที่เธอรู้คำตอบดีแก่ใจ หุบปากแล้วกลับไปได้แล้ว!” เสียงเข้มตอบกลับมาพร้อมคำไล่เหมือนทุกครั้ง หากเป็นเหมือนทุกครั้งเธอคงจะรีบลุกไปใส่เสื้อผ้าแล้วพาตัวเองไปจากที่นี่ แต่คืนนี้มีบางสิ่งที่มันเปลี่ยนไป มันทำให้ตัดสินใจร้องขอบางสิ่ง บางสิ่งที่น่าจะมีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น ที่พอจะช่วยเหลือเธอได้ในค่ำคืนนี้          “คืนนี้...นิดขอค้างที่นี่ได้ไหมคะ” ที่ต้องขอก็เพราะคืนนี้รามินทร์ พี่ชายต่างมารดาจัดงานเลี้ยงวันเกิดครบยี่สิบหกปีที่บ้านโดยมีกลุ่มเพื่อนผู้ชายนับสิบๆ   คนของเขาไปร่วมงานด้วย  เธอกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยหากกลับไปที่นั่นคืนนี้ เพราะหลายครั้งแล้วที่ผู้ชายสารเลวคนนั้นพยายามเข้าหาเธอโดยใช้กำลังบังคับ และก็เป็นทุกครั้งที่เธอสามารถเอาตัวรอดมาได้อย่างเฉียดฉิวเพราะมีป้าแมวกับคนอื่นๆ ในบ้านเข้ามาช่วย แต่เพราะคืนนี้ทุกคนถูกสั่งให้ไปช่วยงานบุญที่บ้านสวนกันหมด เลยทำให้บ้านทั้งหลังมีแค่ผู้ชายสารเลวกับพวกพ้องของเขาเท่านั้นที่อยู่ปาร์ตี้กัน     ไม่ผิดที่เธอจะรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย          “ไม่ได้!” ทว่าคำตอบที่ได้รับจากคนที่เป็นดั่งที่พึ่งสุดท้ายกลับทำให้หน้าเสีย  แต่จะให้อ้อนวอนขอร้องเขาต่อก็ไม่กล้าพอที่จะทำ          เพราะเธอรู้จักเขาดี รู้กระทั่งว่าอะไรก็ตามที่เขาพูดหรือตัดสินใจไปแล้ว ก็ควรต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามนั้น ไม่มีใครหรืออะไรที่จะไปเปลี่ยนใจเขาได้ ไม่มี!          เมื่อถูกไล่อย่างไม่ไว้หน้าคะนึงนิจก็ไม่ดื้อดึงอยู่ต่อ เพราะรู้ว่าคงไม่มีประโยชน์ แต่จะให้เธอกลับบ้านก็ไม่กล้า เห็นทีว่าคืนนี้คงไม่แคล้วต้องหาห้องพักราคาถูกสักแห่ง เพื่อใช้หลับนอนแก้ขัดไปก่อน แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่มีทางกลับไปที่นั่น          “คุณวิทูล...” แต่เพียงเดินพ้นออกมาจากตัวบ้าน หญิงสาวกลับต้องตกใจเมื่อพบเข้ากับวิทูล       คนสนิทของอดีตคนรักที่ยืนรออยู่           “นายให้ผมไปส่งคุณนิดที่กระท่อมท้ายไร่ครับ” หญิงสาวเพียงแต่ยิ้มรับ ก่อนจะเดินตามคนสนิทของอดีตคนรักไปขึ้นรถอย่างคนไม่มีปากเสียง  ไม่นานรถคันใหญ่ก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไปจากบ้าน โดยมีสายตาของคนบนชั้นสอง   ที่มองจนมันลับสายตาไปไกล          ใช้เวลาไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงจุดหมาย ก่อนคะนึงนิจจะถูกทิ้งไว้ที่กระท่อมท้ายไร่เพียงลำพังทันทีที่มาถึง เธอซึ่งชินแล้วกับการถูกทิ้ง จึงรีบพาตัวเองเดินเข้ามาด้านใน พร้อมของสำคัญที่ไม่ว่าจะไปที่ไหน  เธอก็มักจะนำติดตัวมาด้วยอยู่เสมอ          ฟูฟู คือชื่อตุ๊กตากระต่ายสีขาวน่ารักที่ ‘เขา’ มอบให้ในครั้งแรกที่พบกัน มันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอมีความสุขได้ แม้จะต้องเจอกับเรื่องแย่ๆ ตุ๊กตาที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งของเท่านั้น          แต่มันเป็นเครื่องเตือนความจำให้ได้รู้ถึงความรักระหว่างเธอกับเจ้าของเก่าของมัน ‘คงมีเพียงสิ่งนี้เท่านั้น ที่ทำให้รู้ว่าครั้งหนึ่งเธอกับคนใจร้ายนั้นเคยรักกันมากแค่ไหน’ แต่เป็นเธอที่เป็นคนทำลายทุกอย่าง   เธอที่ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยน                และไม่ว่าเธอจะรู้สึกผิดต่อสิ่งที่ทำสักแค่ไหน เรื่องระหว่างเธอกับเขา    ก็คงไม่มีวันกลับไปยังจุดเริ่มต้นได้อีกแล้ว ไม่มีวัน... ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข แต่บางครั้ง...ความสุขในชีวิตคนเราก็ต้องแลกมาด้วยบางอย่าง   บางอย่างที่สำคัญ    และควรค่าต่อการแลกเปลี่ยน  เรื่องมันเริ่มต้นขึ้นมาจากความรักต่างชนชั้นระหว่างแม่ของเธอกับคุณพิชัย อดีตแม่ของเธอเคยทำงานในบริษัทของพ่อก่อนที่ความสัมพันธ์แบบลับๆ ระหว่างพวกท่านจะค่อยๆ ก่อตัวขึ้น และไม่นานหลังจากนั้น...เธอก็เกิดขึ้นมาท่ามกลางความขัดแย้งของพ่อกับแม่ การมีตัวตนของเธอในโลกที่แสนจะเพียบพร้อมของพ่อ    จึงกลายเป็นความลับตามที่ท่านต้องการ  ทุกอย่างมันคงเป็นแบบนั้น หากแม่ของเธอไม่ล้มป่วยเป็นโรคร้ายที่รักษาไม่หายขึ้นมา และช่วงสุดท้ายในชีวิต ท่านตัดสินใจอุ้มเธอเข้าไปแสดงถึงการมีตัวตนกลางงานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบสิบขวบของลูกชายของพ่อกับคุณหญิงวาสนา แน่นอนว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นสร้างความอับอายแก่คนทั้งคู่เป็นอย่างมาก และเพราะต้องการหยุดข่าวฉาวทั้งหมด พวกท่านจึงยอมตกลงรับข้อเสนอของแม่เธออย่างไม่มีทางเลือกมากนัก    นั่นคือรับเลี้ยงเธอไว้    ในฐานะลูกสาวคนเล็กอีกคน ‘อยู่กับพ่อนะนิด แล้วลูกจะมีทุกอย่างเหมือนเด็กคนอื่น’ นั่นถือเป็นคำพูดสุดท้ายของแม่ที่ทิ้งไว้ให้ ก่อนที่ท่านจะจากไปและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งกว่าเธอจะรู้เรื่องนี้ก็สายเกินกว่าจะไปบอกลาท่านเป็นครั้งสุดท้าย  อีกอย่างพ่อคงไม่ยอมให้ไป  ภาพความฝันที่แม่อยากให้เธอ...ลูกสาวเพียงคนเดียวของท่านมีชีวิตใหม่ที่สุขสบาย ก่อนที่ท่านจะจากไปอย่างไม่มีอะไรต้องห่วงนั้น มันช่างแตกต่างจากความจริงที่เด็กตัวเล็กๆ อย่างเธอต้องเผชิญ นับตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในบ้านหลังนั้นอย่างสิ้นเชิง แม้ใครๆ จะรู้จักเธอในฐานะลูกสาวของพ่อ แต่ความเป็นจริงนั้นเธอกลับมีชีวิตไม่ต่างอะไรกับคนใช้ที่ต้องทำงานแลกข้าวแลกน้ำ ได้เรียนโรงเรียนดีๆ ก็เพราะสอบได้ทุนด้วยตัวเอง กระทั่งชีวิตที่เหมือนตายทั้งเป็นเกิดแสงสว่างเล็กๆ เมื่อได้พบกับเขา...ปริญ พิทยาวิทย์ 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD