ทันทีที่รถยนต์ของฉลามจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ เด็กสาวที่นั่งพูดเจื้อยแจ้วมาตลอดทางก็หยุดพูดกะทันหัน และยกมือขึ้นขยี้ตาแรงๆ
ฉลามเห็นแล้วก็อดถามด้วยความแปลกใจไม่ได้
“ฝุ่นเข้าตาเหรอหนูนา”
ณิชาส่ายหน้าไปมา พร้อมกับหันหน้ามาจ้องตากับเขา และเขาก็ได้เห็นว่าดวงตากลมโตมีหยาดน้ำตาซึมๆ อยู่
“ร้องไห้ทำไมหนูนา”
เขาถามด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้อย่างลืมตัว
“ฝุ่นไม่ได้เข้าตาหนูนา แล้วหนูนาก็ไม่ได้ร้องไห้ด้วยค่ะคุณลุง”
ณิชาระบายยิ้มหวาน ก่อนจะส่ายหน้าไปมากับฝ่ามือหนาของฉลาม
“แล้วทำไมน้ำตาไหลล่ะหนูนา”
“หนูนาดีใจต่างหากค่ะ ดีใจที่ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง หนูนาคิดถึงที่นี่มากนะคะ”
ฉลามค่อยๆ ถึงมือใหญ่ของตัวเองออกจากใบหน้ารูปไข่ของณิชา จากนั้นก็ปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากเรือนกาย
“อาทิตย์ก่อน หนูนาก็เพิ่งมาที่บ้านของลุงนี่นา ทำไมพูดเหมือนไม่ได้มาที่นี่เป็นสิบปีอย่างนั้นแหละ”
“หนูนาหมายถึง ได้มานอนค้างที่บ้านของคุณลุงค่ะ”
ฉลามผงกศีรษะขึ้นลงเล็กน้อย กำลังจะก้าวลงไปจากรถ แต่ณิชาเรียกเอาไว้เสียก่อน
“คุณลุงขา...”
ทำไมเจ้าหล่อนจะต้องเรียกเสียงอ่อนเสียงหวานแบบนี้ด้วยนะ
รู้ไหมว่าใจคนแก่อย่างเขามันสั่น...!
“มีอะไรหรือ”
ณิชาระบายยิ้มก่อนจะละสายตาจากใบหน้าหล่อเหลาของเขา ก้มลงมองเข็มขัดนิรภัยที่ยังรัดรอบร่างตัวเอง
“หนูนาปลดเบลล์ไม่ออกค่ะ”
“มันจะเป็นไปได้ยังไง ตอนผึ้งนั่ง เบลล์ไม่เคยมีปัญหาเลยนะ”
“แต่หนูนาไม่ได้โกหกนะคะ ไม่เชื่อคุณลุงลองปลดดูสิคะ จะรู้ว่าเบลล์มันปลดไม่ได้”
ฉลามถอนใจเบาๆ ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปใกล้ๆ เด็กสาว กลิ่นหอมอ่อนๆ จากผิวเนียนนุ่มของณิชาทำให้เลือดในกายร้อนรุ่มเหลือเกิน
“คุณลุงขยับเข้ามาใกล้อีกนิดสิคะ อยู่ห่างแบบนั้น จะปลดเบลล์ถึงได้ยังไงกันล่ะ”
ขืนขยับเข้าไปใกล้อีก หน้าของเขาก็ชนกับหน้าของหล่อนพอดีน่ะสิ
“มือลุงยาวน่ะ เอื้อมถึงอยู่แล้ว”
“คุณลุงเร็วๆ สิคะ หนูนาอึดอัด”
เด็กสาวขยับตัวไปมา และหน้าอกหน้าใจก็เด้งดึ๋งขึ้นเสียดสีกับท่อนแขนของเขาโดยที่หล่อนไม่ได้ตั้งใจ เอ๊ะ หรือว่าหล่อนตั้งใจกัน ไม่หรอก... ณิชาไม่ได้ตั้งใจหรอก
ฉลามกัดฟันอดทน และในที่สุดก็ใช้ปลายนิ้วกดปลดล็อกของเข็มขัดนิรภัยจนได้
“เย้... สำเร็จแล้ว”
ณิชาร้องดีใจ ในขณะที่เขาต้องรีบดึงตัวกลับไปนั่งตัวตรงหน้าพวงมาลัยรถที่เดิมทันที
ทำไมสถานการณ์มันยั่วมันเย้านักวะ
ฉลามถามตัวเองลั่นอก ก่อนจะข่มใจ ก้าวลงไปจากรถ
ณิชารีบก้าวตามลงมา และก็คว้าแขนล่ำของฉลามเอาไว้ พร้อมกับซบหน้าเหมือนลูกแมวตัวน้อย
“ขอบคุณคุณลุงมากนะคะที่ช่วยปลดเบลล์ให้หนูนาน่ะค่ะ”
ฉลามดึงแขนของตัวเองออกจากการเกาะกุมของณิชา ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ฝืนจนราบเรียบ
“ไม่เป็นไรหรอก”
“งั้นเราเข้าไปในบ้านกันเถอะค่ะ”
เจ้าหล่อนเงยหน้าขึ้นสบประสานสายตากับเขา รอยยิ้มสดใสเหมือนดวงตะวันยามเช้าไม่มีผิดเลย
ให้ตายเถอะ เขายืนตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนจะเรียกสติสตังกลับคืนมาได้
“อืม ผึ้งน่าจะตื่นแล้วล่ะ”
เขารีบก้าวเดินนำเข้าไปในบ้าน โดยมีณิชาเดินเคียงข้างมาด้วย
“ใครทำความสะอาดบ้านให้คุณลุงเหรอคะ บ้านสะอาดจังเลยค่ะ”
“ก็ป้าน้อยกับลูกสาวของแกนั่นแหละ”
ฉลามเอ่ยถึงแม่บ้านที่คอยแวะเวียนมาทำความสะอาดบ้านช่องให้ในทุกวัน
“อ๋อ แล้วแกยังทำแบบเช้าไปเย็นกลับเหมือนเดิมไหมคะคุณลุง”
ชายหนุ่มผงกศีรษะรับ “ใช่ แต่ลุงว่าวันนี้จะบอกให้แกมาค้างที่นี่แล้วล่ะ”
“อ้าว ทำไมล่ะคะคุณลุง ให้แกมาเช้ากลับเย็นแบบเดิมก็ดีแล้วนี่คะ”
ณิชารีบเดินมาดักหน้าของคุณลุงหนุ่มสุดหล่อเอาไว้
“ก็เพื่อระหว่างที่หนูนาอยู่ที่นี่แล้วอยากได้อะไรเพิ่มเติม ป้าน้อยแกจะได้จัดเตรียมให้ไงครับ”
“หนูนาไม่อยากได้อะไรหรอกค่ะ แค่ได้อยู่สองต่อสองกับคุณลุงก็พอแล้ว เอ่อ... หนูนาหมายถึงหนูนาขอแค่ได้อยู่ที่นี่ก็พอแล้วค่ะ”
“งั้นก็ตามใจหนูนาแล้วกัน”
ณิชาระบายยิ้มหวาน ก่อนจะถลาเข้ามากอดแขนกำยำของฉลาม
“วันนี้คุณลุงเลิกงานกี่โมงคะ”
“ถามทำไมเหรอหนูนา มีอะไรหรือเปล่า”
“ที่หนูนาถามเวลากลับบ้านของคุณลุง ก็เพราะว่าหนูนาจะได้เตรียมอาหารเย็นรอคุณลุงยังไงล่ะคะ”
“เรื่องอาหารเย็น ป้าน้อยแกจะทำไว้ให้ก่อนกลับอยู่แล้วน่ะ หนูนาไม่ต้องลำบากหรอก อ้อ แล้วถ้าหนูนาอยากกินอะไรเป็นพิเศษ ก็บอกป้าน้อยได้เลยนะ แกทำอาหารได้ทุกอย่าง แถมทำอร่อยด้วย”
“งั้นหนูนาไม่ทำอาหารเย็นก็ได้ค่ะ แต่หนูนาจะรอคุณลุงทานข้าวเย็นพร้อมกันนะคะ”
“อืม ได้สิ” ฉลามผงกศีรษะตอบรับ ก่อนจะเอ่ยปลีกตัว “งั้นเดี๋ยวลุงไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ หนูนาก็เข้าไปหาผึ้งที่ห้องเถอะ รายนั้นน่าจะตื่นแล้วล่ะ”
“ค่ะ”
ณิชามองตามเรือนร่างสูงใหญ่ของฉลามไปด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินไปเคาะห้องเพื่อนสนิท
“ผึ้ง... ตื่นหรือยัง ฉันเข้าไปนะ”
“ตื่นแล้วจ้ะ เข้ามาเลย”
เมื่อชดาภาตอบอนุญาต ณิชาก็ดันประตูห้องพักเข้าไปทันที
“เป็นยังไงบ้างหนูนา เรื่องเมื่อคืน...”
ณิชาไม่รอให้เพื่อนถามจบประโยค เพราะหล่อนแทรกขึ้นเสียก่อน
“ทุกอย่างโอเค ไม่มีอะไรแล้ว โชคดีที่คุณลุงไปช่วยได้ทัน”
ชดาภาจับมือเพื่อนรักเอาไว้ และมองด้วยความเป็นห่วง
“โชคดีแค่ไหนแล้วที่รอดมาได้ แล้วนี่แจ้งความหรือยัง”