หลี่กวงเว่ยถือตั๋วเงินและสินเดิมทั้งหมดเพื่อนำมามอบให้หลี่ซูฮวา เขาจัดการอย่างรวดเร็วโดยไม่ยอมให้มีสิ่งใดขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย ในใจนึกโล่งใจเสียทีที่สตรีต่ำช้าผู้นั้นออกไปจากจวนของเขาเสียที
เหล่าสาวใช้ต่างยืนเฝ้าอยู่ที่ด้านหน้าประตู เมื่อสอบถามดูจึงได้ทราบว่าหลานรักของตนกำลังอ่านหนังสืออยู่ภายในห้อง จึงสั่งสาวใช้ว่าไม่ให้แจ้งแก่หลี่ซูฮวาว่าเขามาพบ เขาอยากจะนำสินเดิมและตั๋วเงินหลายแสนตำลึงมามอบให้แก่นาง
แต่ทว่าภาพตรงหน้ากลับทำให้เขาแทบจะหน้ามืดหงายหลังล้มลงไปนอนกับพื้น
เหตุใดจึงยาวเช่นนั้น ยาวกว่าข้าสมัยหนุ่มๆเสียอีก!! ข้าว่าของข้ายาวแล้ว ยังมีคนยาวกว่าข้าอีกหรือ?
ไม่ใช่สิ!!
หลี่กวงเว่ยยกมือขึ้นตบใบหน้าชราของตนเพื่อเรียกสติให้กลับคืนมา ก่อนจะจ้องมองบุรุษตรงหน้าที่บังอาจเข้ามาล่วงเกินบุตรสาวของตนถึงในจวนตระกูลหลี่
"หลานเฉิน!!!"
หลี่ซูฮวารู้สึกตกใจเป็นอย่างยิ่ง นางไม่คาดฝันว่าท่านปู่จะเข้ามาโดยมิยอมบอกกล่าวเช่นนี้ เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงยกเท้าขึ้นถีบจ้าวเฉินอวี้ล้มลงไปบนเตียง แล้วจึงถลึงตาใส่เขาปราดหนึ่ง
บัดซบดีแท้!!บัดซบดีแท้!!
หลี่กวงเว่ยหรี่ตาพิจารณามองเหตุการณ์ตรงหน้า ในใจของเขารู้สึกขุ่นเคืองจ้าวเฉินอวี้ไม่น้อย
เดิมทีเขาและท่านปู่ของจ้าวเฉินอวี้เป็นสหายสนิทกัน แต่ทว่าท่านปู่ของจ้าวเฉินอวี้อายุสั้นยิ่งนัก จึงลาโลกไปเสียก่อน เขาเองก็รู้จักกับแม่ทัพใหญ่จ้าวและจ้าวเฉินอวี้เป็นอย่างยิ่ง
"นี่มันเกิดสิ่งใดขึ้น ซูฮวา!!เหตุใดอาเฉินกับเจ้าจึงมาแก้ผ้าพลอดรักกันอยู่ในห้องเช่นนี้!!"
หลี่ซูฮวานึกอยากจะฆ่าจ้าวเฉินอวี้ให้ตายคามือยิ่งนัก คนต่ำช้าผู้นี้นอกจากจะไม่สำนึกแล้ว ยังลอยหน้าลอยตาอย่างไม่รู้สึกผิดเสียอีก
จ้าวเฉินอวี้ที่จัดการสวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์จนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ลุกมายืนตัวตรงทำความเคารพหลี่กวงเว่ยอย่างนอบน้อม
"คารวะท่านราชครู"
"ยังมีหน้ามาคารวะข้าอีกหรืออาเฉิน!!เจ้าทำให้หลานสาวข้าเสียหายยับเยินแล้ว!!หากผู้ใดทราบเรื่องเข้า ซูฮวาจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!!!"
"ท่านราชครูโปรดวางใจ ข้าจะมาสู่ขอนางเองขอรับ"
หลี่กวงเว่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็คลายโทสะลงมาเล็กน้อย อย่างไรเสียเขาก็หมายตาจ้าวเฉินอวี้ให้หลี่ซูฮวาอยู่ก่อนแล้ว แต่หลานสาวของเขาเป็นสตรี ย่อมจะออกหน้าว่าต้องการบุรุษจนเกินงามจะใช้ได้ที่ไหนกัน
หลี่ซูฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน นางเพิ่งจะสะสางเรื่องราวที่แสนวุ่นวายไปได้ ก็จะต้องแต่งงานแล้วหรือ นางยังมิได้จัดการสินเดิมของท่านแม่เลย อีกทั้งนางยังมิได้ออกไปท่องเที่ยวในดินแดนยุทธภพที่นางใฝ่ฝันเลยด้วยซ้ำ
"ท่านปู่ คือ! ข้ายังไม่อยากแต่งงานน่ะเจ้าค่ะ"
"ไม่ได้!!!ชื่อเสียเจ้าเสียหายเช่นนี้จะมีบุรุษใดอยากแต่งเจ้าเข้าไปเป็นภรรยาอีก!!"
"โธ่!!ท่านปู่ไม่พูดใครจะรู้เล่าเจ้าคะ"
"ซูฮวา!!เจ้ามิต้องเอ่ยปากให้มากความ ทำตามที่ปู่สั่งก็พอ อาเฉินเอาตามที่เจ้าว่า เจ้าก็มาจัดการสู่ขอซูฮวาเสีย"
"ขอรับ ข้าดีใจที่ท่านราชครูเมตตา"
หลี่กวงเว่ยพยักหน้าคราหนึ่ง แต่ในใจกลับลอบก่นด่าจ้าวเฉินอวี้อยู่ในใจ
เมตตากับผีน่ะสิ!! ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกไปเสียแล้วเขาจะทำเช่นไรได้ จะให้เขาไม่ยอมรับหรือ เกิดจ้าวเฉินอวี้นำเรื่องนี้ไปพูดข้างนอกแล้วเขาจะทำเช่นไรดีเล่า คำพูดของบุรุษไว้ใจได้ที่ใดกัน
จ้าวเฉินอวี้หันมาส่งยิ้มกรุ้มกริ่มให้หลี่ซูฮวาคราหนึ่ง ก่อนจะกลับไปยังจวนตระกูลจ้าวอย่างอิ่มเอมใจ
เมื่อจ้าวเฉินอวี้จากไปแล้ว หลี่กวงเว่ยจึงหันมาถลึงตาใส่หลี่ซูฮวาทันที
"ตอบมา เจ้ากับอาเฉินไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว!!"
"ท่านปู่!!ท่านเอ่ยถามหลานเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกันเจ้าค่ะ ถึงไหนอะไรกัน หลานกับเขายังมิได้มีสิ่งใดกันอย่างที่ท่านปู่คิดเสียหน่อย"
"ไม่มีแล้วเขาจะกล้า เอ่อ!!กล้าถอดเสื้อผ้าให้เจ้าดูหรือ!!"
"ท่านปู่!!"
จะให้นางตอบเช่นไรเล่า จะให้นางบอกท่านปู่ว่าเขาเปิดให้ดูหลายคราอีกทั้งยังชวนนาง 'อม' อีกด้วย เช่นนี้หรือ?
แค่คิดก็น่าขายหน้าจะตายอยู่แล้ว!!!
หลี่ซูฮวาทำได้เพียงกล้ำกลืนความอัปยศนี้ลงท้องไปเสีย มิอยากเอ่ยสิ่งใดให้มากความอื่น ช่างเถิด แต่งแล้วอย่างไรเล่า หากเขาทำให้นางลำบากใจขึ้นมาจริงๆ นางก็จัดการฆ่าเขาเสียจะเป็นไรไป!!!
หลี่กวงเว่ยที่เห็นว่าบุตรสาวยอมสงบปากสงบคำก็รู้สึกเบาใจลงได้ ก่อนจะยื่นสมุดบัญชีการค้าสินเดิมของมารดานางอีกทั้งตั๋วเงินอีกหลายแสนตำลึงให้แก่นาง
หลายสิบปีมานี้ฮูหยินใหญ่เป็นผู้ควบคุมดูแลกิจการแต่เพียงผู้เดียว เขาเองก็ไม่ได้อยู่ที่จวนอีกทั้งยังมิสามารถก้าวก่ายสิ่งใดได้ เจ้าลูกชายบัดซบผู้นั้นก็เอาแต่เที่ยวเตร่มิสนใจเรื่องราวในจวน หลี่ซูฮวาจึงลำบากมากมายถึงเพียงนี้
ยามนี้ได้สินเดิมกลับคืนมา เขาก็มีความสุขมากแล้ว
หลี่ซูฮวาจ้องมองสมุดบัญชีและเงินหลายแสนตำลึงด้วยแววตาที่มิได้ตื่นเต้นมากนัก ในชาติก่อนนางเป็นนักฆ่า เมื่อทำภารกิจสำเร็จก็ย่อมได้รับค่าตอบแทนมากมายเสียจนใช้ไม่หมด แต่ช่างเถิด อย่างไรเสียนี่ก็คือสินทรัพย์ของเจ้าของร่างเดิม และการมีสินทรัพย์มากมาย ก็เป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย
หลี่กวงเว่ยมองหน้าหลานสาวก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอีกครา
"ยามนี้ในร้านรวงต่างๆของแม่เจ้า อีกทั้งโรงเตี๊ยมและเหลาสุรา ต่างเป็นคนของเฟิ่งหรวน หากเขาถามถึงนาง เจ้าจงบอกไปว่านางล้มป่วยหนัก จนต้องไปรักษาตัวที่วัดบนเขา และละจากทางโลกมิสนใจเรื่องใดอีก ใครที่ยินยอมเชื่อฟังก็เก็บเอาไว้ใช้งาน แต่หากใครที่มันไม่ยอมก้มหัวให้เจ้าจงจัดการไล่ออกไปเสีย หากเจ้าแก้ปัญหาใดไม่ได้ก็จงมาบอกปู่ ปู่จะจัดการให้เจ้าเอง"
"ท่านปู่ ขอบคุณท่านมากนะเจ้าคะ"
หลี่ซูฮวาโผเข้าไปกอดแขนหลี่กวงเว่ย พลางแนบใบหน้าลงไปซบที่แขนชราอย่างรักใคร่ นางชอบท่านปู่ผู้นี้มากจริงๆ นางชอบมากจริงๆ
"โตแล้วยังจะมาออดอ้อนข้าเป็นเด็กๆไปได้ รีบพักผ่อนเถิด อีกไม่กี่วันข้างหน้า แม่สื่อจากจวนตระกูลจ้าวคงจะมาสู่ขอเจ้าแล้ว"
หลี่ซูฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็เบ้ปากอย่างไม่ยินดี แต่ทว่าเมื่อนึกใบหน้าหล่อเหลาชวนหลงใหลของจ้าวเฉินอวี้ หัวใจของนางก็เต้นเร็วแรงผิดจังหวะอย่างแปลกประหลาด
จ้าวเฉินอวี้เมื่อกลับไปถึงจวนตระกูลจ้าว เขาก็เร่งไปพบกับมารดาและเอ่ยถึงเรื่องจะสู่ขอหลี่ซูฮวาทันที ท่านแม่ของเขามิคัดค้านสิ่งใด เพราะร่างกายนางก็อ่อนแอมามากแล้ว หากบุตรชายอยากตบแต่งสตรีใดเข้าจวนนางก็มิคิดขัดขวาง ขอเพียงสตรีผู้นั้นสามารถดูแลและรักใคร่บุตรชายของนางจากใจจริงนางก็ยินดีรับเข้ามาเป็นสะใภ้
แม่ทัพจ้าวที่ได้ยินว่าบุตรชายของตนจะไปสู่ขอบุตรสาวของท่านราชครูก็ขมวดคิ้วมุ่น
"เจ้าว่าอย่างไรนะ?"
"ลูกไปแก้ผ้าให้นางดูขอรับ แล้วท่านราชครูมาพบเข้า จึงบอกให้ลูกไปสู่ขอนาง"
"อาเฉิน!!!นี่เจ้า"
บัดซบ!!มันยังมีหน้ามาเล่าให้ข้าฟังได้อย่างไม่สะทกสะท้าน มันหน้าด้านได้ผู้ใดกัน!!!
แม่ทัพใหญ่เฉินแทบจะพ่นชาร้อนออกจากปากเมื่อได้ได้ฟังเรื่องราวที่บุตรชายเล่าให้ฟัง นั่นหลานสาวของท่านราชครูเชียวนา แล้วอีกอย่างเขาก็ไม่ค่อยพึงใจท่านพ่อของนางเท่าใดนัก
"อาเฉิน เจ้าคิดดีแล้วหรือ หากสิ้นท่านปู่ของนางไป ตระกูลหลี่คงจะตกต่ำเป็นแน่ เจ้าก็เห็น หลี่เหวยท่านพ่อของนางมิเอาการเอางาน แต่งนางเข้ามานอกจากจะมิได้รับผลประโยชน์ใดแล้ว เราอาจจะต้องเสียเปรียบอีกมากนัก อักทั้งนางยังถูกท่านชินอ๋องถอนหมั้น เช่นนี้มันจะดีหรืออาเฉิน?"
เมื่อได้ยินประโยคนี้จากปากของผู้เป็นบิดา แววตาของจ้าวเฉินอวี้ก็เย็นเยียบขึ้นมาทันที
"ลูกแต่งภรรยาเพราะความรัก มิได้แต่งนางมาเพื่อหาผลประโยชน์จากนาง และลูกมิสนใจว่านางจะเคยหมั้นหมายกับผู้ใดมาก่อน ลูกรักนาง"
"อาเฉิน!!"
"ทานพ่อเลิกคิดเถิดขอรับ ลูกมิยอมรับเสี่ยวฟางเป็นภรรยา นางเป็นเพียงสตรีต่ำต้อยมิอาจเทียบหลี่ซูฮวาของลูกได้ ลูกจะแต่งกับนาง หากท่านพ่อมิยินยอมก็ต้องยินยอม หากลูกคลุ้มคลั่งขึ้นมาท่านพ่อก็ทราบดีนี่ขอรับว่าจะเป็นเช่นไร?"
แม่ทัพใหญ่จ้าวถลึงตามองจ้าวเฉินอวี้ปราดหนึ่ง นี่มันถึงกับกล้าข่มขู่เขาเชียวหรือ
แต่ถึงจะไม่พอใจมากเพียงใดก็มิกล้าเอ่ยปากอีก เขารู้นิสัยของบุตรชายดี ยามที่จ้าวเฉินอวี้คลุ้มคลั่งขึ้นมา ใครหน้าไหนก็อย่าหวังว่าจะมีความสุข เคยมีครั้งหนึ่งเขาทำให้ลูกบัดซบผู้นี้ไม่พอใจ มันไม่พูดจากับเขาร่วมเดือน เขาถามสิ่งใดมันก็ไม่ยอมตอบ ทำราวกับเขาไร้ตัวตน นั่นเป็นสิ่งที่เขารับไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง
จะอย่างไรเสียจ้าวเฉินอวี้ก็เป็นบุตรชายที่เขารักมากที่สุด
ฮูหยินรองเสี่ยวที่ได้ยินว่าจ้าวเฉินอวี้จะไปสู่ขอหลี่ซูฮวาเข้ามาเป็นภรรยาเอก ก็รู้สึกร้อนรนเป็นอย่างยิ่ง นางมิสามารถมีบุตรได้ จึงต้องการให้เสี่ยวฟางหลานสาว แต่งเข้าไปเป็นภรรยาเอกของจ้าวเฉินอวี้ หากเสี่ยวฟางมีบุตรกับจ้าวเฉินอวี้ได้ สมบัติของจวนตระกูลจ้าวจะไปไหนเสีย
หึ!!รอให้นางสตรีแพศยาผู้นั้นแต่งเข้ามาก่อนเถิด นางจัดการก็ยังไม่สาย