ตอนที่ 5

1306 Words
เด็กสาวเดินนำมาถึงห้องนั่งเล่น เห็นคนป่วยนอนหลับไม่ได้สติอยู่ จารุนีทรุดกายลงนั่งยกมือแตะหน้าผากคิ้วขมวด ก่อนหยิบผ้าชุบน้ำมาเช็ดตามผิวกายเพื่อลดความร้อน “อาการหนักไหมคุณ”วิรุตม์ถามภรรยา “ยังไม่หนักเท่าไหร่ค่ะ แต่ต้องดูกันทั้งคืน” “ต้องซื้อยาอะไรไหม” “คุณช่วยไปซื้อยาแก้ไข้มาให้ดีกว่าค่ะ พาราน่าจะเอาไม่อยู่”จารุนีอธิบาย “ได้ๆ” วิรุตม์เคลื่อนรถออกจากบ้านตามคำสั่งของภรรยา เด็กสาวยืนดูคุณป้าข้างบ้านดูแลแม่ตนเอง จารุนีหันมองแล้วยิ้มอ่อนโยน “ไปนอนเถอะพลอย ป้าดูแม่ให้เองนะ” “แต่ว่า...”เด็กสาวรู้สึกเกรงใจ “ไม่เป็นไรหรอกลูก พรุ่งนี้หนูต้องเรียนหนังสือนะ” พลอยภัทราลังเล ก่อนตัดสินใจ “หนูฝากแม่ด้วยนะคะ” “จ้ะ ป้าดูให้เองนะ” เด็กสาวขึ้นมายังห้องนอนตนเอง นั่งชันเข่าคิดถึงภาพที่ตนเห็น หากมันคือความจริงก็คงไม่แปลกที่คนเขาพูดกันเกี่ยวกับตัวมารดาเธอ แต่จะทำยังไงเล่าในเมื่อแม่ทำทุกอย่างเพื่อให้เธอได้เรียนหนังสือ น้ำตาดันไหลออกมาอยากกักเก็บมันไว้แต่ทำไม่ได้เลย ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ควรทำเช่นไรดี   เปลือกตาคนป่วยค่อยๆ เปิดออกในช่วงอรุณรุ่งของอีกวัน พิมลตราชะงักเมื่อเห็นว่าคนเฝ้าไข้คือใคร รีบชันกายขึ้นนั่งจนผ้าตรงหน้าผากหล่นลงบนตัก ดวงตาจ้องมองจารุนีด้วยความรู้สึกหลากหลาย “คุณจาคะ”เสียงแผ่วเอ่ยเรียก เจ้าของชื่อลืมตาตื่น “อ้าวตื่นแล้วเหรอคะคุณพิมล” “ค่ะ” “เป็นยังไงบ้างคะ ดีขึ้นหรือยัง” “ดีขึ้นมากแล้วค่ะ” “เดี๋ยวฉันไปทำอะไรร้อนๆ มาให้ทานนะคะ”จารุนีอาสาทันที พิมลตรามองตามแล้วก้มมองผ้าขนหนู ไม่นานนักได้ยินเสียงฝีเท้าบุตรสาวลงมาจากชั้นบนในชุดนักเรียนมัธยมต้น พลอยภัทรารีบตรงดิ่งมาหาแม่ทันที “แม่หายแล้วหรือยัง” “ดีขึ้นแล้ว แล้วทำไมคุณจาถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะพลอย” “พอดีเมื่อคืนแม่ไข้ขึ้น พลอยเลยไปขอให้คุณลุงกับคุณป้าช่วยมาดูค่ะ”เด็กสาวก้มหน้างุดด้วยความรู้สึกผิด คนเป็นแม่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เธอไม่อยากรบกวนเพื่อนบ้านมาก เพราะตอนนี้แทบไม่มีใครคบหาเลย “ไปเรียนเถอะพลอยเดี๋ยวสาย”เธอตัดใจไม่ต่อว่า “จ้ะแม่” พลอยภัทราออกมานอกรั้วบ้านเห็นรถของคุณลุงวิรุตม์จอดรออยู่ ติดตามมาด้วยคุณป้ากำลังถือถ้วยบางอย่างออกมา “พลอยไปเรียนเถอะไม่ต้องห่วงแม่ เดี๋ยวป้าดูแลให้นะ” “ค่ะคุณป้า” มิรินจูงมือเพื่อนขึ้นรถจังหวะนั้นเด็กสาวสะดุ้งอีกครั้งเมื่อภาพเข้ามาในหัว รีบสะบัดอย่างรวดเร็วจนเพื่อนตกใจ “เป็นอะไรไปพลอย”มิรินถามสีหน้าสงสัย “อ๋อ เปล่าจ้ะ พอดีพลอยตกใจนิดหน่อย” “ไปเรียนกันเถอะ” “ได้ๆ” เวธัสเองก็อดแปลกใจไม่ได้เมื่อครู่พลอยภัทราเป็นอะไรถึงแสดงท่าทีแบบนั้นกับน้องสาว เด็กนักเรียนขึ้นรถครบ วิรุตม์เคลื่อนออกจากหน้าบ้านเพื่อส่งถึงรั้วโรงเรียน สามคนลงจากรถมิรินเอื้อมจับมือเพื่อน อีกฝ่ายเลยรีบส่งมือขวาให้และเป็นอย่างที่คิดเธอไม่รู้สึกอะไรเลย หรือมือซ้ายเธอมีผล สงสัยจนอยากทดลองแต่กลัวว่ามันจะเกิดเรื่อง เพื่อนสาวสองคนมาถึงห้องเรียนเต็มเดือนหันมองแล้วเบ้ปาก มิรินแสดงสีหน้าไม่พอใจตอนมีเรื่องกันเธอยังไม่ได้แจ้งทางโรงเรียนเพราะมัวแต่ห่วงพลอย แต่ตอนนี้ถ้ายังหาเรื่องกันอีกจะจัดการฟ้องครูแน่ จบชั่วโมงโฮมรูมเพื่อนร่วมห้องมหาภัยเดินเข้ามาหา “มาหาเรื่องอะไรอีกละเต็มเดือน!”มิรินกันไว้ทันที “เมื่อไหร่แม่แกจะเลิกยุ่งกับพ่อฉัน!”เต็มเดือนตวาดถาม พลอยภัทราเงียบกริบ เพราะเธอไม่รู้จะตอบอะไร ในอกมันอึดอัดสายตายามมองมาทำให้เธอรู้สึกละอายแก่ใจ “ไปให้พ้นเลยเต็มเดือน เรื่องของพ่อแม่ เราเป็นเด็กไม่ควรไปยุ่งด้วย!” “แต่ฉันต้องยุ่ง ทำไมแม่แกต้องมายุ่งกับพ่อฉันด้วย ถ้าแม่แกไม่มายุ่งกับพ่อฉัน แม่ฉันคงไม่ต้องร้องไห้!” “ฉันขอโทษ”พลอยภัทราบอกเสียงแผ่ว “ขอโทษแค่นี้คิดว่ามันพอหรือไง ให้แม่แกเลิกยุ่งกับพ่อฉันสิ” ริมฝีปากบางเม้มแน่นเธอควรทำอย่างไร ไม่กล้าพูดเรื่องนี้กับแม่เลย เธอเป็นลูกไม่เคยคิดก้าวก่ายหน้าที่การงานของแม่ “ฉันทำไม่ได้” “แกว่ายังไงนะ ทำไม่ได้งั้นเหรอ!”แววตาเต็มเดือนกร้าวแข็ง “ใช่ ฉันทำไม่ได้” ฝ่ามือง้างขึ้นคิดตบ มิรินจะเข้าห้ามแต่ถูกพรรคพวกเต็มเดือนจับไว้อีกครั้ง พลอยภัทรากัดฟันลุกยืนคว้าข้อมือเพื่อนร่วมห้องด้วยมือซ้าย ใช่... ภาพเหล่านั้นวนมาหาอีกแล้ว และคราวนี้มันรุนแรง เธอจำต้องอดทนแม้ร่างกายจะสั่นเทา บิดข้อมืออีกฝ่ายแล้วผลักจนผงะถอยหลัง “อย่ามายุ่งกับฉัน!”เธอประกาศกร้าว แววตาเอาจริงจนเต็มเดือนพูดไม่ออก “นี่แกกล้าสู้ฉันเหรอ!” “ทำไมไม่กล้า มีมือมีเท้าเหมือนกัน เรื่องพ่อแม่ฉันไม่รู้หรอก ฉันมาที่นี่เพื่อเรียนหนังสือเท่านั้น!” ร่างเล็กนั่งลงประจำที่ในตอนนี้เธอไม่อยากสนใจสิ่งใด ในหัวมีเรื่องมากมายจนเกินพอแล้ว และอีกอย่างต้องหาทางจัดการกับมือซ้ายข้างนี้ ก่อนที่เธอจะเห็นอะไรไปมากกว่านี้ เต็มเดือนสะบัดใบหน้ากลับที่ตนเองเช่นกัน มิรินนั่งลงข้างเพื่อนจ้องมองใบหน้าเอาจริงของพลอยภัทราแล้วยิ้มกว้าง ไม่เคยเห็นเพื่อนเป็นแบบนี้มาก่อน ถ้าหากพลอยดูแลตนเองได้แบบนี้เธอก็ดีใจ “พลอยเจ๋งไปเลย” “เจ๋งอะไรเหรอ”เธอย้อนถาม “เจ๋งที่กล้าสู้กับยัยเต็มเดือนนั่นไง” “พลอยแค่ป้องกันตัวเองไม่ให้โดนทำร้ายอีกน่ะ จะให้รินปกป้องไปตลอดคงไม่ได้หรอก”พลอยภัทราอธิบาย มือเพื่อนตบไหล่บางแล้วยิ้มให้กัน หวังว่ามิตรภาพเหล่านี้จะคงอยู่อีกนาน “พลอยเย็นนี้พี่เวย์ชวนไปเที่ยวตลาดนัดแหนะ” “แต่พลอยอยากกลับไปดูแม่น่ะริน” “แม่โทรมาบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าอาพิมลไม่เป็นไร”มิรินบอก “อืม” “ไปเถอะนะ” เห็นเพื่อนขอร้องแกมบังคับ มีหรือเธอจะปฏิเสธได้ “ก็ได้จ้ะ” เลิกเรียนสามคนเลยพากันเดินเที่ยวตลาดนัด พลอยภัทราหยุดเท้าที่ร้านขาวถุงมือ มันเป็นสีเนื้อหากไม่สังเกตคงคิดว่าเป็นมือจริงๆ อยากรู้ถ้าหากใส่ไว้ที่มือซ้ายจะยังเห็นภาพเหล่านั้นอีกหรือเปล่า เธอตัดสินใจซื้อมัน “ซื้อถุงมือทำไมเหรอพลอย”มิรินถามด้วยความอยากรู้ “อ๋อ พอดีพลอยอยากเอาไว้ใส่น่ะ มือมันชอบเย็น” เวธัสจ้องมองอีกคนด้วยความแปลกใจ เห็นเพื่อนน้องสาวกำลังสวมถุงมือข้างซ้ายเพียงข้างเดียว คิ้วเข้มของเด็กหนุ่มขมวดขึ้น “ใส่ข้างเดียวเหรอพลอย”เวธัสถาม “มือซ้ายพลอยชอบเย็นน่ะค่ะ” พลอยภัทรามองเพื่อนก่อนค่อยๆ เอื้อมมาจับไว้แน่น มิรินมองหน้าด้วยความแปลกใจก่อนยิ้มกว้าง เธอไม่เห็นอะไรอีกแล้วเด็กสาวถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังจากนี้เธอคงต้องสวมมันไว้ตลอด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD