ภายในห้องแต่งตัวเจ้าสาว
คุณอรอุมาและนมยิ้มที่ยืนจับมือกันอยู่กลางห้องด้วยความกระวนกระวายใจที่อุรวราหายตัวออกไป หลังจากที่ขอดูกล้องวงจรปิดของโรงแรมแล้วพวกเขาก็พบแต่เพียงว่าหญิงสาวยืนคุยกับพนักงานของโรงแรมก่อนที่จะพรวดพราดวิ่งออกไปจากห้องแต่งตัว
และเมื่อสอบถามกับพนักงานคนดังกล่าวก็ได้รับคำตอบว่ามีคนมาขอพบกับหญิงสาวที่ลานจอดรถ เขาจึงนำข้อความมาแจ้งให้ทราบแต่ยังไม่ทันจะพูดจบคุณผู้หญิงก็วิ่งออกไป
หลังจากนั้นเขาเองก็ไม่ทราบเช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้นอีก แต่เมื่อตรวจสอบกับกล้องวงจรปิดกลับไม่พบเห็นว่าอุรวราลงมาที่ลานจอดรถเลยแม้แต่ตัวเดียว กล้องวงจรปิดทุกตัวไม่ปรากฏร่างของเจ้าสาวคนสวยเลยแม้แต่น้อย นั่นเพราะอำนาจเงินของพายุ ‘เงิน’ ซื้อได้ทุกอย่างจริงๆ
และนั่นจึงเป็นที่มาของครอบครัวฝ่ายเจ้าบ่าวซึ่งมีคุณเกริกและคุณกรองกานต์ รังสีภิรมย์ที่มายืนหน้าบึ้งตึงมองมาที่คุณอรอุมา โดยมีกันต์ รังสีภิรมย์ซึ่งเป็นเจ้าบ่าวเดินวนไปเวียนมาอยู่ภายในห้องเช่นกัน ก่อนที่คนเป็นพ่อจะพูดขึ้น
“หยุดเดินเสียทีเจ้ากันต์! แกจะเดินวนไปเวียนมาทำไม พ่อเวียนหัว!”
คุณเกริกบอกกับลูกชายคนเดียวของตนก่อนที่กันต์จะหันกลับมามองหน้าพ่อแล้วพูดขึ้นว่า
“ก็ผมเป็นห่วงน้องอุ๊นี่ครับ อยู่ๆ ก็หายตัวไป ถามใครก็ไม่มีใครรู้ คนดูแลก็ชุ่ยใช้ไม่ได้!”
พูดพร้อมกับปรายตามองไปที่นมยิ้มที่ยืนหน้าซีดอยู่กับคุณอรอุมา เมื่อเจอคำพูดของชายหนุ่มพูดจาเหน็บแนมเข้าให้อีก คนแก่ก็ยิ่งหน้าซีดลงไปอีก แต่คุณอรอุมานั้นหน้าตึงขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินชายหนุ่มพูดประโยคนั้นออกมา
คุณอรอุมาเชิดหน้าสูงอย่างทระนง ตวัดตามองไปยังคุณเกริกและคุณกรองกานต์ซึ่งเป็นพ่อแม่ของฝ่ายชายที่ไม่ยอมพูดจาห้ามปราบคำพูดของลูกชายตนเองเลยแม้แต่นิดเดียวที่มาต่อว่าคนของนาง ถึงแม้ว่านมยิ้มจะไม่ใช่ญาติแต่ก็ดูแลนางและลูกมาเป็นอย่างดี ที่สำคัญนมยิ้มเป็นคนที่คุณดิลกรักและเคารพเป็นอย่างมากเปรียบประหนึ่งญาติผู้ใหญ่เลยก็ว่าได้ ชายหนุ่มพูดจาล่วงเกินเช่นนี้เห็นทีจะดองกันไม่ได้ซะแล้ว ‘ดีเหมือนกันที่น้องอุ๊หายตัวไปจะได้บอกยกเลิกงานแต่งให้กับลูกสาวไปเลย ยิ่งน้องอุ๊ก็ร่ำๆ บอกว่าไม่อยากจะแต่งงานด้วยอยู่แล้วเหมือนกัน มีอะไรก็เดี๋ยวค่อยหาทางแก้ไขทีหลัง’ คุณอรอุมาคิดเช่นนั้นแล้วพูดออกไปว่า
“เดี๋ยวยังไงดิฉันจะไปแจ้งความ ส่วนเรื่องแต่งงานในเมื่อไม่มีเจ้าสาวแล้วแบบนี้ งั้นงานแต่งงานนี้ก็ยกเลิกกันไปนะคะ ตากันต์ก็จะได้เป็นอิสระไม่ต้องมาติดอยู่กับคำสัญญาของคุณดิลกอีกต่อไป”
คุณอรอุมาประกาศยกเลิกสัญญาออกมาดื้อๆ สร้างความตกใจให้กับครอบครัวรังสีภิรมย์เป็นอย่างมาก นั่นหมายถึงเงินเป็นหมื่นๆ ล้านที่จะพลาดไปในทันที
“ไม่ได้นะ!”
เสียงของนางกรองกานต์ร้องบอกออกมาเสียงดัง ก่อนที่จะปรับให้ดูนุ่มนวล
“อะ...เอ่อ...ไม่ได้นะคะคุณพี่”
นางกรองกานต์หันไปถลึงตาใส่ลูกชายที่ไม่ระวังปากดันไปพูดว่าคนของคุณอรอุมาเข้าให้ ซึ่งก็รู้ๆ กันอยู่ว่าหญิงชราตรงหน้านั้นเป็นที่เคารพรักของคนในตระกูลสิงห์ไพศาลนี้มากขนาดไหนไม่เว้นแม้กระทั้งคุณดิลกที่เสียชีวิตไปแล้ว ก่อนที่จะรีบเข้าไปเอื้อมมือคว้าเอามือนุ่มของคุณอรอุมามาบีบดั่งจะปลอบเบาๆ แล้วพูดขึ้นว่า
“แหมคุณพี่อรอุมาคะ อย่าเพิ่งไปแจ้งความหรือพูดถึงเรื่องยกเลิกการแต่งงานเลยค่ะ น้องอุ๊หายไปแบบนี้ตากันต์ก็เลยเป็นห่วงมากไปหน่อย คุณพี่อย่าถือโทษโกรธเคืองเลยนะคะ เอ่อ...นมยิ้มคะ ดิฉันต้องขอโทษแทนตากันต์ด้วยนะคะที่พูดจาไม่ดีออกไปน่ะค่ะ”
พูดพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ขอโทษ ทั้งๆ ที่ในใจนั่นไม่อยากกระทำเลยสักนิด ‘รอให้ลูกฉันได้แต่งงานกับยัยอุ๊ซะก่อนเถอะ แม่จะจัดการให้กระเด็นออกไปจากวงโคจรเลยเชียวล่ะ’
นมยิ้มถึงกับตกใจแทบรับไหว้ไม่ทัน
“อุ้ยๆ คุณกรองกานต์อย่าไหว้อิฉันเลยค่ะ อิฉันก็แค่บ่าวรับใช้ของคุณอรอุมาเท่านั้น”
“ไม่ได้หรอกค่ะนมยิ้ม ถึงยังไงนมยิ้มก็เป็นผู้ใหญ่ที่ดิฉันและคุณพี่เกริกเคารพเหมือนกันจริงไหมคะคุณพี่เกริก”
นางกรองกานต์พูดพร้อมหันไปมองหน้าของสามีเพื่อส่งซิก ก่อนที่คุณเกริกจะรับมุกแล้วพูดขึ้น
“ใช่ครับนมยิ้ม เจ้ากันต์มันห่วงหนูอุ๊มากไปหน่อยก็เลยพูดจาไม่ดี เอ้า! เจ้ากันต์! รีบกราบขอโทษนมยิ้มเดี๋ยวนี้เลยนะ”
คุณเกริกพูดสั่งออกมาเสียงดัง ชายหนุ่มฮึดฮัดในทีแรก ก่อนที่คนเป็นแม่จะเดินเข้าไปหาใกล้ๆ แล้วกระซิบพอให้ได้ยินเพียงแค่สองคนว่า
“แกอยากจะชวดเงินเป็นหมื่นๆ ล้านอย่างนั้นเหรอตากันต์! ไปขอโทษอีแก่นมยิ้มเดี๋ยวนี้นะ!”
พูดจบก็รีบจับจูงลูกชายให้เดินกลับมาหานมยิ้มแล้วแกล้งพูดขึ้นว่า
“ขอโทษนมยิ้มซะลูก แม่รู้ว่ากันต์ห่วงน้อง แต่กันต์ก็ผิดนะที่พูดจาไม่ดีน่ะ”
กันต์ทำตามคำสั่งของนางกรองกานต์อย่างเสียมิได้ แต่เพราะเงินจำนวนมหาศาลที่ครอบครัวรังสีภิรมย์อยากที่จะได้มาไว้ในครอบครองพวกเขาจึงยอมทำทุกอย่าง
“ผมต้องกราบขอโทษนมยิ้มด้วยนะครับ ที่ผมพูดจาไม่ดีออกไป ขอโทษครับ”
ชายหนุ่มยกมือไหว้หญิงชราตรงหน้าออกไป ก่อนจะยกมือไหว้คุณอรอุมาด้วยเช่นกัน
“แล้วผมก็กราบขอโทษคุณป้าอรด้วยครับ ที่ใจร้อนพูดอะไรออกไปไม่คิด”
การกระทำของชายหนุ่มไม่ได้ทำให้คุณอรอุมารู้สึกดีขึ้นมาเลยสักนิด เพียงแต่ก็พอใจกับการที่เขายกมือไหว้ขอโทษนมยิ้มบุคคลที่นางเคารพเท่านั้น เพราะใจจริงแล้วนางอยากที่จะยกเลิกการแต่งงานครั้งนี้อยู่แล้ว
“เอาเป็นว่าป้ายกโทษที่กันต์พูดจาไม่ดีก็แล้วกันนะ แต่ว่าป้าก็ยังยืนยันว่าจะไปแจ้งความและยกเลิกการแต่งงานของกันต์กับน้องอุ๊นะ” คุณอรอุมายังยืนยันคำเดิม
“คุณป้าอย่าพูดแบบนี้อีกเลยครับ ผมรักน้องอุ๊จริงๆ”
กันต์ใจหายวาบ เขาแทบเข่าอ่อนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินจากปากของคนที่จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่ยายของเขา
“คุณพี่อรก็อย่าล้อเล่นตากันต์แรงนักสิคะ” นางกรองกานต์รีบพูดขึ้น
“ฉันไม่ได้พูดล้อเล่น ฉันพูดจริงๆ” คุณอรอุมายังย้ำคำเดิมเสียงเน้นหนัก
“ผมขอโทษครับคุณป้าอร อย่าเพิ่งยกเลิกการแต่งงานของผมกับน้องอุ๊เลยนะครับ” กันต์ละล่ำละลักพูดออกมา
“แล้วกันต์จะให้ป้าไปหาเจ้าสาวที่ไหนมาแต่งงานด้วยล่ะ น้องอุ๊ก็หายตัวไปไหนไม่รู้ ยกเลิกงานแต่งไปน่ะดีที่สุดแล้ว” คุณอรอุมายังยืนยันเสียงแข็งกับชายหนุ่ม
“แล้วเรื่องค่าใช้จ่ายล่ะค่ะคุณพี่อร ค่าใช้จ่ายที่ดิฉันจ่ายไปจะทำยังไง แต่งก็ไม่ได้แต่ง ยังต้องมาเสียเงินจัดงานฟรีๆ อีก ไหนจะแขกเหรื่อมากมายที่เชิญมา ดิฉันก็ขายหน้าแย่สิคะเนี่ย”
นางกรองกานต์พร่ำรำพันถึงเรื่องเงินและเกียรติยศหน้าตาของตนเอง พอๆ กับสามีที่ออกอาการหงุดหงิดอยู่ใกล้ๆ
“ใช่! แล้วอย่างนี้ผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน นี่ถ้าคุณดิลกไม่จากไปเร็วแบบนี้เรื่องวันนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น”
คุณเกริกเอาชื่อเพื่อนรักขึ้นมาอ้าง ทำให้คุณอรอุมาต้องผ่อนลมหายใจเข้าออกอย่างใจเย็น นางรู้อยู่เต็มอกว่าครอบครัวนี้เป็นอย่างไร แต่ที่นิ่งไม่พูดก็เพราะว่ารักสามี ก่อนจะยอมอ่อนให้อีกครั้ง แต่เป็นเรื่องเงินเท่านั้น เรื่องแต่งงานคงต้องแล้วแต่อุรวราที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ
“คุณเกริกและคุณกรองกานต์ไม่ต้องตีโพยตีพายไปหรอกค่ะ เรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่างของงานครั้งนี้ที่ทางคุณจ่ายออกไปดิฉันจะชดใช้คืนให้ทั้งหมด แล้วก็จะเพิ่มเงินเป็นค่าทำขวัญให้กับเจ้าบ่าวไปด้วยนะคะ”
พูดจบคุณอรอุมาก็เปิดกระเป๋าถือของตนเองซึ่งภายในนั้นมีสมุดเช็คที่พกติดตัวมาด้วยอยู่ถึงสามฉบับ ซึ่งแต่ละฉบับนั้นเป็นของแต่ละธนาคารที่มีชื่อเสียง นางกรอกตัวเลขแปดหลักลงไปทันที ก่อนจะยื่นส่งให้กับนางกรองกานต์ที่เหลือบตามองชะเง้อคอยืดคอยาวอยู่ใกล้ๆ
“คุณกรองกานต์เอาไปขึ้นเงินได้เลยนะคะ หวังว่าตัวเลขในเช็คคงจะเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายของงานแต่งที่จ่ายออกไป”
คุณอรอุมาบอกออกไปทันที่ที่เซ็นเช็คเสร็จ พร้อมกับยื่นส่งมาให้อีกฝ่าย
นางกรองกานต์รับเช็คมาแล้วก็ต้องยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจกับตัวเลขที่อยู่ในเช็คใบนั้น ซึ่งมันมากพอที่จะทำให้สองสามีภรรยาตระกูลรังสีภิรมย์นั้นหน้าบานเป็นจานเชิงขึ้นมาได้ในทันที คุณเกริกถึงกับพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี
“จริงๆ แล้วเรื่องเงินเรื่องทองก็เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ สำหรับเรานะครับคุณอร ผมเองก็บ่นไปอย่างงั้นเองแหละ”
“อ้อ แสดงว่าคุณเกริกจะไม่รับเช็คที่ดิฉันเซ็นให้เหรอคะ”
คุณอรอุมาแกล้งพูดขึ้น นางรู้อยู่แล้วว่าสามีภรรยาคู่นี่ยังไงก็ต้องรับเช็คของนางแน่
“อุ้ยๆ รับค่ะคุณพี่อร คุณเกริกกับดิฉันไม่กล้าปฏิเสธความปรารถนาดีของคุณพี่หรอกค่ะ แต่ดิฉันอยากจะขอร้องไม่ให้คุณพี่ไปแจ้งความกับยกเลิกสัญญาเรื่องแต่งงานของตากันต์กับหนูอุ๊เลยนะคะ สงสารเด็กๆ น่ะค่ะ”
นางกรองกานต์จีบปากจีบคอพูดด้วยกลัวว่าคุณอรอุมาจะเปลี่ยนใจแล้วเอาเช็คกลับคืนไป ก่อนจะรีบเปิดกระเป๋าถือแล้วเก็บเช็คที่สั่งจ่ายเงินสดลงในกระเป๋าทันที
และคำพูดของนางกรองกานต์ก็ไปตรงใจกับนมยิ้ม แต่เป็นแค่เรื่องไม่แจ้งความกับตำรวจเท่านั้น ส่วนเรื่องยกเลิกสัญญาการแต่งงานครั้งนี้นางเห็นด้วยเต็มๆ ก่อนจะพูดกระซิบกระซาบกับนายของตนว่า
“นมเองก็เห็นด้วยกับคุณกรองกานต์นะคะคุณท่าน เผื่อว่าคุณหนูจะหนีไปไม่อยากแต่งงานกับฝ่ายนั้น เรารอให้คุณหนูติดต่อกลับมาก่อนดีไหมคะ”
คำพูดของนมยิ้มทำให้คุณอรอุมาพยักหน้าหงึกหงักอย่างรับฟังความเห็นของคนสนิทที่รับใช้ใกล้ชิดกันมานานอย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนที่นมยิ้มจะพูดออกมาดังๆ ว่า
“อย่าเพิ่งแจ้งความเรื่องคุณหนูเลยนะคะคุณท่าน”
คำพูดของนมยิ้มทำให้กันต์ถึงกับยิ้มกว้างออกมา นึกดีใจที่หญิงชราเข้าข้างตน ก่อนที่รอยยิ้มจะหุบฉับลงกับคำพูดประโยคถัดมา
“แต่เรื่องอื่นนมว่าให้คุณหนูอุ๊ตัดสินใจเองดีกว่าค่ะว่าจะแต่งหรือจะยกเลิกสัญญา”
คุณอรอุมาพยักหน้าหงึกหงักรับฟังคำพูดของคนที่นางเคารพ ก่อนจะเงยหน้ามองชายหนุ่มที่เป็นเจ้าบ่าวโดยไร้ร่างของเจ้าสาวมายืนเคียงคู่อย่างเพ่งพินิจ ว่านางจะพูดกับอีกฝ่ายอย่างไรแล้วนางก็นึกขึ้นได้ว่าจะพูดกับชายหนุ่มว่ายังไง
“บางทีการหายตัวไปครั้งนี้ของน้องอุ๊อาจจะเป็นความตั้งใจของน้องเองก็ได้ ที่จริงน้องเองก็เปรยๆ อยู่ว่ากันต์ขึ้นชื่อว่าเป็นเพลย์บอยอันดับต้นๆ ของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ สื่อเองก็ลงข่าวอยู่โครมๆ ป้าเองก็เห็นอยู่บ่อยๆ น้องคงเกิดความไม่มั่นใจในตัวของกันต์
จริงๆ ป้าเองก็น่าที่จะรับฟังน้องอุ๊ไม่เช่นนั้นเรื่องแบบนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น เงินที่ป้าให้ก็ถือซะว่าเป็นค่าเสียเวลาให้กับกันต์นะ ป้าเองก็อยากจะให้โอกาสน้องอุ๊ได้เลือกคู่ครองที่ตัวเองต้องการ ถ้าหากว่ากันต์รักน้องจริงป้าก็หวังว่ากันต์จะทำให้น้องอุ๊เห็นถึงความจริงใจที่มีให้กับน้อง ส่วนเรื่องแจ้งความก็ระงับไว้ก่อน แต่คงต้องจ้างนักสืบฝีมือดีๆ เพื่อตามหาน้องอุ๊ให้เจอให้ได้ ถ้าได้ข่าวน้องอุ๊เมื่อไหร่ป้าจะส่งข่าวบอกก็แล้วกัน” นางอรอุมาพูดออกมายาวเหยียด
“คุณป้า...” กันต์ครางเสียงแผ่วออกมา ก่อนจะพูดตอบกลับไป
“ผมจะช่วยคุณป้าตามหาน้องอุ๊อีกแรงครับ”
กันต์พูดออกไปตามที่ใจคิด บ่อเงินบ่อทองตรงหน้ามีหรือเขาจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไงกัน ให้ตามตัวเจอก่อนเถอะ จะรีบจัดการหญิงสาวให้ตกเป็นของเขาในทันที เมื่อข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกไปแล้วจะอยากแต่งหรือไม่อยากแต่งก็ไม่มีทางปฏิเสธเขาไปได้หรอก
“ป้าขอบใจกันต์ล่วงหน้านะ ไปนมยิ้ม เรากลับบ้านกันเถอะ ฉันกลับก่อนนะคะคุณเกริกคุณกรองกานต์” คุณอรอุมาบอกอีกฝ่ายตามมารยาท
“ค่ะคุณพี่อร แล้วเดี๋ยวยังไงดิฉันกับคุณเกริกจะไปเยี่ยมที่บ้านนะคะ”
นางกรองกานต์พูดออกมาก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ลาตามมารยาทของสังคม
คุณอรอุมายกมือขึ้นรับไหว้แล้วพยักหน้าให้น้อยๆ ก่อนจะโค้งให้กับคุณเกริกนิดๆ แล้วเดินเชิดหน้าตั้งตรงเดินพานมยิ้มออกไปด้วยมาดของนางพญาที่มีอยู่ในตัวโดยไม่ต้องเสริมเติมแต่งให้มากเหมือนกับใครบางคน ที่พยายามทำเท่าไหร่ก็ไม่เคยมีรัศมีเปล่งประกายออกมาเลยสักครั้งเดียว
นางกรองกานต์เดินตามมาส่งคุณอรอุมาที่หน้าประตูห้องพัก ก่อนจะมองร่างสวยสมวัยของอีกฝ่ายที่เดินหายเข้าไปภายในลิฟต์แล้วหันกลับมาปิดประตูห้องลง จากนั้นหน้ากากจอมปลอมของครอบครัวรังสีภิรมย์ก็หลุดออกมาเปิดเผยตัวตนของพวกเขาทันที
“ทีนี้พวกเราจะทำยังไงต่อไปล่ะ นังอรอุมามันไม่ยอมให้ลูกสาวของมันมาดองกับเราแล้วอย่างนี้จะเอาอะไรกินอะไรใช้เข้าไปล่ะเนี่ย ไม่พากันอดตายไปตามๆ กันหรอกเหรอ”
นางกรองกานต์บ่นออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนที่คุณเกริกจะพูดขึ้นบ้าง
“เงินที่อรอุมาเขาเซ็นให้มามันก็มากโขอยู่ไม่ใช่เหรอ หักลบกลบหนี้แล้วเราก็ยังเหลือใช้อยู่อีกเกือบสิบสี่ล้านนะคุณ”
“คุณพ่ออย่าลืมนะครับว่าคุณป้าอรเขาให้เป็นค่าทำขวัญของผมด้วยเหมือนกัน”
กันต์ไม่วายพูดแทรกขึ้นเมื่อเห็นว่าพ่อและแม่ของเขาพูดถึงเงินในเช็คที่คุณอรอุมาเซ็นให้มา ก่อนที่คนเป็นแม่จะชักสีหน้าใส่ลูกชายแล้วตวาดแว้ดขึ้นมาทันที
“แกยังมีหน้ามาพูดถึงเรื่องเงินในเช็คนี้อีกเหรอตากันต์ ก็ไม่ใช่เพราะว่าแกเที่ยวดื่มกินควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าไปให้ทั่วกรุงอย่างนี้หรอกรึยัยอุ๊มันถึงหนีไปไม่อยากแต่งงานด้วย ไม่รู้ล่ะ เงินจำนวนนี้ไม่เกี่ยวกับแก มันเป็นของพ่อกับแม่เท่านั้น” นางกรองกานต์ยื่นคำขาด
“โธ่! คุณแม่! แบ่งให้ผมบ้างเถอะครับ ผมจะใช้มันตามหาน้องอุ๊ จะถูกจับไปหรือจะไปเองยังไงก็ต้องตามหา หรือว่าคุณแม่ไม่อยากได้น้องอุ๊มาเป็นสะใภ้แล้ว”
กันต์หยั่งเชิงถาม แต่เห็นว่าคนเป็นแม่ยังนั่งนิ่งก็เลยใช้ไม้ตายเข้าขู่
“ก็ได้! ถ้าคุณแม่ไม่ให้ผมก็ไม่เอา แล้วถ้าผมได้แต่งงานกับน้องอุ๊แล้วละก็ผมจะไม่ให้เงินคุณแม่ใช้เหมือนกัน คุณแม่อย่าลืมนะว่าที่คุณแม่มีเงินใช้อยู่ทุกวันนี้ก็ได้มาจากผมทั้งนั้น”
พูดจบก็ทำท่าจะเดินออกจากห้องไป นางกรองกานต์เองเมื่อได้ฟังคำพูดของลูกชายก็รีบคว้าแขนของกันต์เอาไว้แทบไม่ทัน ก่อนที่จะพูดขึ้นว่า
“ตากันต์เดี๋ยวสิ! แกนี่ทำเป็นน้อยใจไปได้ เออๆ แม่แบ่งให้ก็ได้ แต่แม่ให้แค่ห้าล้านนะ”
“ห้าล้าน!” กันต์ร้องออกมาอย่างเซ็งๆ
“เจ็ดล้านไม่ได้เหรอครับ” ชายหนุ่มต่อรอง
“ห้าล้านห้า”
นางกรองกานต์ไม่วายต่อรองอีก จนคนเป็นพ่อต้องพูดขึ้นเพื่อที่จะหาข้อสรุปให้กับสองคนแม่ลูก
“เลิกเถียงกันเถอะน่ะ เจ้ากันต์แกเอาไปหกล้าน ส่วนคุณเอาไปหกล้านเหมือนกัน ที่เหลือก็โอนเข้ามาไว้ในบัญชีของผมแล้วก็ห้ามตุกติกด้วยนะ ไม่งั้นผมจะยึดบัญชีของคุณเลยนะคุณกรอง”
คุณเกริกผู้เป็นสามีบอกออกมาน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะหันไปถามลูกชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าอีกครั้งเมื่อเห็นเขาทำหน้าบึ้งเหมือนไม่พอใจในคำตัดสินของคนเป็นพ่อ
“แกจะเอาไหมหกล้านน่ะเจ้ากันต์” คุณเกริกถามลูกชายเสียงเข้ม
“เอาครับ เดี๋ยวคุณแม่โอนเงินเข้าบัญชีผมด้วยแล้วกัน”
พูดจบกันต์ก็พาร่างสูงเดินออกไปจากห้องพักนั้นทันที โดยไม่สนใจที่จะหันกลับมามองพ่อและแม่ของตนเลยแม้แต่น้อย
“แล้วนั่นแกจะไปไหนน่ะตากันต์”
เสียงของผู้เป็นพ่อตะโกนถามไล่หลังมา ก่อนจะก้าวเดินออกมาจากห้องพักตามหลังลูกชายที่เดินนำหน้าออกมาก่อน
“ก็ไปสถานที่แสวงหาความสุขให้กับผมได้ยังไงล่ะครับคุณพ่อคุณแม่!”
กันต์ตะโกนตอบกลับไป พร้อมกับเดินหายเข้าไปภายในลิฟต์ก่อนจะกดปิดไม่ยอมรอคุณเกริกและนางกรองกานต์พ่อแม่ของตน ปล่อยให้สองสามีภรรยายืนมองตากันปริบๆ ก่อนจะพากันเดินมากดลิฟต์อีกตัวเพื่อที่จะไปยังห้องจัดงานเลี้ยงที่ตอนนี้แขกเหรื่อก็ยังคงรอคอยเจ้าบ่าวเจ้าสาวอยู่
แต่พวกเขาคงต้องรอเก้อ เพราะว่าคุณเกริกคงต้องไปประกาศให้แขกผู้มีเกียรตินั้นทราบว่างานครั้งนี้จำเป็นต้องเลื่อนออกไปก่อน ด้วยเพราะเจ้าสาวเกิดป่วยกะทันหันนั่นเอง