ตอนที่ สอง กลลวงเทพบุตร 4

2753 Words
วันนี้วันที่สองของการมาทำงานพ่วงตำแหน่งแฟนประธานหนุ่มอีก ชลาลัยอยากจะร้องไห้จริง ๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้เจ้าของห้องจะยังไม่มาทำงาน แต่นั่งทำงานหันหน้าหากันทั้งวันแบบนี้หัวใจเธอก็ไม่ไหวนะ คนหล่อราวเทพบุตรขนาดนั้น เป็นใครจะไม่ตกหลุมรักได้ หญิงสาวนั่งถอนหายใจไปหลายรอบแล้ว รอลุ้นส่องทางเข้าห้องไม่ห่างตา รอว่าเมื่อไรเจ้าของห้องจะมาสักที นี่ก็เหลือเวลาอีกสิบนาทีถึงเวลาเข้างานแล้ว “เฮ้อ!...จะอดทนได้นานแค่ไหนยัยน้ำ งานนี้มันงานง่าย แต่เป็นงานหินกับหัวใจเธอเลยนะ” สาวเจ้าพึมพำกับตัวเอง พลางเล่นเกมในโทรศัพท์ฆ่าเวลารอเวลาเริ่มงาน ร่างสูงเดินเข้ามาในห้องทำงานด้วยท่าทางมาดมั่นโดยไม่คิดจะสนใจสาวสวยร่วมห้องเลยแม้แต่น้อย ชายหนุ่มเดินเลยหญิงสาวไปทิ้งตัวนั่งลงในที่ทำงานประจำของตน ก่อนจะหยิบแฟ้มเอกสารที่กองอยู่มาเปิดอ่านรายงานอย่างช้า ๆ ว่ามีเรื่องอะไรให้ตัวเองต้องจัดการไหม วันนี้เขาต้องออกไปคุยงานกับลูกค้านอกสถานที่เสียด้วยสิ ซึ่งแน่นอนแม่ผู้ช่วยตัวเล็กต้องติดตามไปด้วยแน่นอน ชลาลัยเหลือบมองคนที่ตั้งใจทำงานแต่เช้าอย่างชื่นชม ก็วันนี้ชายหนุ่มดูสุขุม เงียบขรึม ไม่พูดจา ตีหน้านิ่งทำงาน จนทำให้อดเคลิ้มฝันไม่ได้ ก็ดูเอาเถอะเวลาตั้งใจทำงานแล้วชายหนุ่มนั้นน่ารักขนาดไหน แบบนี้ไม่ตกหลุมรักคงจะไม่ได้แล้ว แต่ติดที่ตัวเธอเองไม่มีคุณสมบัติพอที่จะไปรักเจ้านายหนุ่มได้ ก็ตัวเธอมีเจ้าของจับจองแล้ว คงได้แต่แอบมอง แอบชื่นชมในใจแล้วงานนี้ ด้านคนที่ถูกจ้องมองถึงกับวางตัวไม่ถูก เลยเอ่ยถามสาวเจ้าคนชอบมองบ้าง “มองอะไรไม่ทราบครับ?” วาจานั้นช่างห่างเหินเหลือเกิน จนทำให้ชลาลัยอดใจแป้วไม่ได้ ต่างกันจากเมื่อวานมาก จะว่าต่างก็ไม่ใช่ ตั้งแต่กลับมาจากทานข้าวเที่ยง ชายหนุ่มก็ทำเป็นเมินเธอเลย ไม่รู้ทำไมถึงเมินเฉยต่อเธอแบบนี้กัน รู้ไหมว่าใจจ๋าหญิงสาวนั้นเจ็บเหลือทนกับท่าทีของชายหนุ่ม “ปะ...เปล่าค่ะ” กว่าชลาลัยจะหาเสียงตัวเองเจอชายหนุ่มก็เดินออกจากห้องไปเสียแล้ว “ไอ้บ้าเอ๊ย!...ไหนบอกว่าเป็นแฟนกันไงเล่า แล้วทำไมวันนี้ทำแบบนี้กับฉันเนี่ย สวยไม่ย้อม!...ไม่ยอม!...” ต่อว่าคนที่เดินออกจากห้องไปด้วยความไม่พอใจ ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงคิดว่าตัวเองเป็นแฟนกับชายหนุ่มไปแล้วจริง ๆ ทั้ง ๆ เมื่อวานนี้ปฏิเสธไม่ยอมอย่างเดียว คนที่ถูกว่านั้นหาได้เดินไปไหนไกลไม่ แต่ไปยืนอยู่หน้าห้อง เพื่อแอบฟังแม่สาวเจ้าแก้มป่องเฉย ๆ อยากรู้ว่าจะพูดอะไรเมื่ออยู่ตัวคนเดียว เมื่อได้ยินอย่างนั้นก็เปิดประตูเข้ามาในห้องด้วยท่าทางที่แสนจะกะล่อน “แหม!...ผมทำเมินหน่อยทำเป็นน้อยใจ ใครกันนะบอกว่าไม่ใช่แฟนผม แต่ใครกันนะเมื่อกี้บอกว่าเป็นแฟนผม อ้อ ๆ ผมรู้แล้วใครที่เป็นแฟนผม น้องน้ำเต้าคนสวยนี้เอง” พายุแกล้งเย้าหยอกคนน่ารักเล่น ก็ดูเอาเถอะตอนนี้แก้มป่อง ๆ นั่นแดงอย่างกับผลเชอร์รี่ไม่มีผิด เห็นแล้วมันน่ารัก มันน่ากัด ดอมดมกลิ่นให้ชื่นใจนัก “บ้า!...คุณพูดอะไรของคุณ ไม่เห็นจะอยากเป็นเลยฟงแฟนของคุณอ่ะ” ชลาลัยเอ่ยสะเทินอาย ก็ดูเอาเถอะ พ่อเทพบุตรช่างพูดจาไม่ไว้หน้าเธอนัก จะรู้ไหมว่าตั้งแต่เจอกัน เขานั้นขโมยหัวใจเธอบ่อยเหลือเกิน “ไม่อยากเป็น แต่พอลับหลังแอบน้อยใจพี่ คนอะไรปากแข็ง ไม่ยอมรับคำเรียกร้องของหัวใจ” พายุเดินเข้ามาจ้องมองคนตัวเล็ก ด้วยความอยากแกล้ง อยากจุ๊บให้หายคิดถึง ก็เมื่อคืนทั้งคืน กว่าจะนอนหลับก็เกือบเช้า นอนคิดทั้งคืนว่าจะเริ่มแผนจับกด ปลุกปล้ำหญิงสาวได้เมื่อไรดี ก็ตอนนี้นายแม่ของเขานั้นไฟเขียวเปิดทางสะดวกให้แล้ว แล้วลูกที่ดีไม่ทำตามก็กะไรอยู่ รักนี้ต้องปล้ำ ปล้ำเท่านั้นถึงจะได้ใจ “อย่ามาเล่นคำกับดิฉันนะคะท่านประธาน” เอ่ยเสียงแข็งกลบเกลื่อนความเขินอาย แต่ก็ไม่มิดอยู่ดี เมื่อใบหน้านั้นแดงระเรื่อจนทำให้ชายหนุ่มอดมันเขี้ยวไม่หยิกแก้มหญิงสาวไม่ได้ “อุ๊ย!...เจ็บนะ คนบ้า!” ต่อว่าชายหนุ่มด้วยความเขินอาย “บ้าก็บ้ารัก ไม่ได้บ้ารักอย่างเดียวนะ บ้ารักน้ำเต้าคนสวย คนอะไรร่างเล็กสะโพกใหญ่ นมโต พูดแล้วอยากครอบครองจังครับ คืนนี้ไปไหนครับ ถ้าไม่มีที่ไป ไปให้พี่ครอบครองก็ได้นะคืนนี้” ชายหนุ่มเอ่ยทะลึ่ง ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะอายและต่อว่าตน ก็ในเมื่อเขาคิดแบบนั้นจริง ๆ คิดอะไรต้องพูด ต้องบอกชลาลัยจะได้รู้ว่าเขานั้นเอาจริงทุกคำพูด ชลาลัยถึงกับนิ่งใบ้พูดไม่ออก ก็ดูแต่ละคำสิ พ่อเทพบุตรแรกพบทำไมถึงได้พูดจาทะลึ่งแบบนี้ มันน่าตบด้วยปากนัก ท่องไว้ยัยน้ำ ท่องไว้พี่อเล็กซ์คู่หมั้นแกหล่อ รวยไม่แพ้เขา หัวใจแกอย่าหันเหมาทางท่านประธานหน้ามึนนะ พยายามสั่งใจตัวเองไม่ให้อ่อนไหว แต่มันคงไม่ทันแล้ว ก็ตอนนี้ใจทั้งใจมันถูกครอบงำด้วยชายผู้นี้แล้ว “นิ่งเงียบแบบนี้แสดงว่าตกลงนะครับ คืนนี้เจอกันแถวสีลม เอ๊ะ!...ไม่ไปแล้วสีลม ไปสีตัวกันดีกว่า จะได้แนบแน่น เป็นคอนโดฯ พี่เลยคืนนี้ ว่าไงครับ” ทึกทักเอาเอง ก็เธออยากเงียบทำไม เขาคนหล่อ โปรไฟล์ดี มีเหรอที่สาวจะไม่คิดอยากแนบชิดด้วย “ท่านประธานจะสนุกปากมากไปแล้วนะคะ” ชลาลัยเอ่ยอย่างอดกลั้น ก็ดูเอาเถอะ เขาพูดเปล่าเสียเมื่อไร ยังเอาหน้าทะเล้นมาจ้องหน้าเธออีก แบบนี้สวยก็อายเป็นนะ “สนุกยังไงครับ ยังไม่ได้เล่นอะไรเลย แบบนี้สิเขาถึงเรียกว่าสนุก” เอ่ยจบก็เอี้ยวมือไปด้านหลังหญิงสาว แล้วรั้งท้ายทอยสาวน้อยเข้ามาชิด พร้อมกับทาบทับปากหนาแนบชิดบดเบียดปากอวบอิ่มของสาวน้อยร่างเล็กสเปกตนอย่างค้นหา “อะ!...อื้อ!...” สาวเจ้าครวญในลำคอ พร้อมกับมือเล็กดุนดันอกหนาให้ออกห่างตน พายุเห็นว่าตอนนี้แม่น้องนางขมองอิ่มเริ่มจะขาดอากาศหายใจแล้ว เลยยอมผละริมฝีปากหนาออกห่าง และก่อนจะผละออก ชายหนุ่มไม่ลืมไล่ลิ้นสากไปตามคางมนของสาวเจ้า “แบบนี้สิครับสนุก ว่าไงครับ คืนนี้ไปกับพี่ไหม ไปกับพี่แล้วสบาย แต่ไม่สบายตัว รับรองเสียตัวแน่ครับ” ไม่สนว่าชลาลัยจะปฏิเสธตนหรือไม่ ก็ในเมื่อผู้เป็นแม่ได้บอกแล้วว่าถึงหญิงสาวจะมีคู่หมั้นก็ช่างปะไร ตราบใดยังไม่แต่งงานก็ถือว่าเธอเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว “ดิฉันไม่ไป และจะลาออก ไม่สนอะไรแล้ว ไม่อยากทำงานกับเจ้านายแบบคุณ และที่สำคัญ ดิฉันเคยบอกแล้วไงว่ามีคู่หมั้นแล้ว” ชลาลัยตวาดใส่หน้าชายหนุ่มด้วยความโกรธ ก็เขานั้นฉวยโอกาสเธอบ่อยครั้งเหลือเกิน “ก็บอกเองว่าโสดห้าเดือน แล้วจะมีเจ้าของได้ไง ถึงมีคู่หมั้นก็ช่างหัวคู่หมั้นสิ พี่จะเอาน้องน้ำ ยังไงก็จะเอา ถ้าไม่ยอม ไม่สนใจก็จะขืนใจเอา ในเมื่อเดินเข้ามาหาพี่แล้ว คิดจะทิ้งพี่เหรอ ได้จูบพี่ไปแล้วพี่ไม่ยอม!” พายุเอ่ยเสียงเข้ม เฮอะ!...มีด้วยเหรอให้รับผิดชอบ ทั้ง ๆ ตัวเองจูบเขาก่อนเนี่ยนะ โอ๊ย!...ผู้ชายบ้า...หัวใจจ๋าหัวใจ อย่าบอกนะว่ามีใจให้ชายกะล่อนหลงตัวเองคนนี้เสียแล้ว สาวเจ้าพึมพำในใจ ก่อนจะเอ่ยตอบกลับอย่างแสบทรวง “ถึงจะโสดหรือไม่โสด มีคู่หมั้นหรือไม่มี ดิฉันก็ไม่แลคุณค่ะ เพราะดิฉันไม่ชอบพวกฝรั่งตาน้ำข้าว เท่าที่เจอมาก็น่ารำคาญมากแล้ว ชอบหนุ่มเกาหลีค่ะ เข้าใจมั้ย ส่วนเรื่องงานไม่ลาออกแล้ว ดิฉันอยากรู้เหมือนกันว่าคุณจะทำอะไรฉันได้ ในเมื่อฉันไม่แคร์ผู้ชายอย่างคุณ” “ไม่ชอบฝรั่งแต่ก็มีคู่หมั้นเป็นฝรั่ง ไม่สน ในเมื่อไม่ชอบก็ไม่เป็นไร พี่ชอบ พี่ต้องการคนเดียวพอ แล้วก็เตรียมตัวได้แล้ว ต้องออกไปคุยงานข้างนอก แล้วก็ไปดื่มเป็นเพื่อนลูกค้าด้วย” เอ่ยปัดถึงแม้ว่าจะเจ็บกับน้ำคำของสาวน้อยปากกล้า แต่เรื่องอะไรจะสนเล่า ก็ในเมื่อต้องการอยากได้ก็ต้องได้ อยากรู้นักว่าจะเก่งไปได้แค่ไหนกันเชียว คอยดู คืนนี้เป็นเมียพี่แน่ ครวญครางไม่เป็นศัพท์แน่แม่คนงามเอ๊ย! หมายมาดในใจ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป แล้วปล่อยให้คนที่กำลังมึนงงปนโกรธนั่งหน้าเหวอเพียงลำพัง “คนบ้า!...” ตั้งสติได้แล้วว่าไล่หลังคนตัวโตไป ก่อนจะหันมาจัดเตรียมเอกสาร เพื่อจะออกไปคุยงานข้างนอกกับชายหนุ่ม แต่ยังจัดไม่ถึงไหนก็มีแขกเข้ามาให้ห้อง หญิงสาวเลยเอ่ยสวัสดีผู้อาวุโสกว่าอย่างมีมารยาท “สวัสดีค่ะคุณเขม และสวัสดีค่ะคุณ....” “ฉัน สายน้ำค้าง เรียกฉันคุณแม่ก็ได้ เป็นแม่ของตาเคแฟนหนูไง” ยังไม่ทันที่เขมไทจะได้เอ่ยตอบ ผู้มาด้วยก็เอ่ยแทรกขึ้น พร้อมกับจ้องมองว่าที่ลูกสะใภ้ตั้งแต่หัวจรดเท้า เหมาะจริง ๆ หญิงสาวช่างเหมาะกับลูกนางจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ ช่างงดงามจริง ๆ แบบนี้สิลูกสะใภ้แม่ ชลาลัยถึงกับพูดไม่ออก อยู่ดี ๆ ก็มีผู้หญิงวัยกลางคนหรืออาจจะวัยเดียวกันกับแม่เธอก็ได้ แต่ต่างกันที่ผู้หญิงตรงหน้านั้นแต่งตัวสวย ไม่มีริ้วรอยของความแก่เลย ดูแล้วน่านับถือจริง ๆ สวยจนวัยรุ่นอย่างเธออายเลยแหละ “ว่าไงจ๊ะ หนูน้ำใช่ไหมลูก มานั่งคุยกันกับแม่หน่อยสิ” ไม่สนละ จะรักลูกชายนางหรือไม่รักก็ช่าง ตอนนี้ถือว่าเป็นสะใภ้เธอแล้วนะ ชลาลัยเดินตามเสียงเรียกของคนที่ไปนั่งโซฟาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ไปอย่างคนละเมอ ส่วนเขมไทนั้นออกไปข้างนอกแล้วเวลานี้ เพราะอยากให้ลูกสะใภ้และแม่สามีได้พูดคุยกัน ก็ดูท่านายใหญ่เขานั้นจะชอบชลาลัยเป็นพิเศษ ก็ดูเอาเถอะ รู้เรื่องเมื่อวาน วันนี้มาดูถึงที่ทำงานเลย ท่าจะชอบจริง ๆ ถึงได้มา “นั่งลงสิจ๊ะ ไม่ต้องเขิน ไม่ต้องอาย ไม่ต้องกลัว มานั่งข้างแม่เลยจ้ะ” นางเห็นว่าว่าที่ลูกสะใภ้ยังยืนมึนงงอยู่ เลยเอ่ยขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับคว้ามือบางดึงให้นั่งลงข้างตน “อุ๊ย!...” ชลาลัยอุทานด้วยความตกใจก่อนจะเอ่ย “เอ่อ!...ดิฉันว่าคุณคงเข้าใจผิดแล้วมั้งคะ ดิฉันมีคู่หมั้นแล้ว ไม่ใช่แฟนลูกชายคุณค่ะ” เมื่อสติมาปัญญาเลยเกิด เลยเอ่ยปัดเรื่องที่ก่อนหน้านี้ ก็ลูกชายของอีกฝ่ายนั้นพูดเองคนเดียว เธอไม่เห็นอยากเป็นแฟนชายหนุ่มเลย “หมั้นได้ถอนได้ แม่ไม่ถือ แม่เชื่อคำของลูกชายแม่ เครักใครแม่รักตอบ ยังคิดอยู่เลยว่าลูกแม่จะได้แต่งงานไหม พอมาเห็นหนูวันนี้ เชื่อแล้วว่าอีกไม่นานมีวิวาห์เหาะแน่จ้า” ว่าพายุหน้ามึนแล้ว แม่ชายหนุ่มยิ่งหนักไปใหญ่ มีหรือจะยอม ก็ลูกนางรักชอบเสียอย่าง ต้องช่วยเต็มที่ ไม่สนเรื่องฐานะทางการเงินเพราะครอบครัวนางรวยมากพอแล้ว แต่เท่าที่เขมไทไปสืบมาว่าที่ลูกสะใภ้ก็รวยเช่นกัน แบบนี้สิ กิ่งทองใบหยกชัด ๆ อยากบ้าตาย ว่าลูกชายเพ้อแล้ว ผู้เป็นแม่ยิ่งเป็นหนัก ตายแน่ ๆ ทั้งแม่ทั้งลูกรุกเราขนาดนี้ เราคงไม่ได้วิวาห์เหาะนะ อร๊าย!....สวยจะทำไงดี สาวน้องแก้มป่องโอดครวญในใจ ก่อนจะเอ่ยตอบ “ถึงคุณไม่ถือแต่ดิฉันถือค่ะ อีกอย่างลูกชายคุณกับดิฉันเพิ่งเจอกัน แล้วจะไปรักกันได้ไงคะ บอกเลยว่าไม่แลค่ะ” ตอบอย่างมั่นใจ “ฮ่า ๆ ปากเก่ง แบบนี้แม่ชอบมาก อย่าเรียกห่างเหินสิ เรียกแม่และแทนตัวเองว่าหนูหรือน้ำก็ได้ เพราะไม่นานเราก็ได้ใช้นามสกุลเดียวกันจ้ะ” ต้องแบบนี้สิลูกสะใภ้ในฝัน ว่าแล้วก็คิดถึงตัวเองตอนสาว ๆ เสียจริง ผู้หญิงอะไรปากเก่ง และไม่ไว้หน้าผู้ใหญ่ แบบนี้สิจะได้กุมหัวใจเทพบุตรสุดดวงใจของนางได้ จะว่าไป ถ้าเจอกันไวกว่านี้คงได้มีหลานให้นางอุ้มแล้วมั้ง แต่ก็ผิดอีกละ ตอนนั้นพายุเอาแต่หลงรักรัตนาอยู่ฝ่ายเดียว หากฝ่ายนั้นไม่แต่งงานไปกับพอลก็คงตัดใจไม่ได้แน่เลย “คือว่าไม่เหมาะมั้งคะ” หญิงสาวยังไม่คงปฏิเสธ “เหมาะสิ ถ้าแม่บอกว่าเหมาะก็คือเหมาะ จำไว้นะหนูน้ำ ตอนนี้หนูเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของนางสายน้ำค้างคนนี้ เป็นของตาเคคนเดียว ส่วนคู่หมั้น ตราบใดยังไม่แต่งก็ถือว่ายังโสดจ้ะ” ก็ลูกชายนางจอง แถมรักขนาดนี้ มีหรือจะปล่อยให้หนุ่มอื่นฉกไปได้เล่า ชลาลัยแทบอยากร้องไห้ ไม่รู้ทำบุญด้วยอะไรถึงได้เจอคนประเภทนี้ ทั้งแม่ทั้งลูกทำให้เธอปวดหัว อยากตายวันละหลาย ๆ สิบรอบ ออรี่ตัวยังอยากอิจฉาเราไหม ถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้ ฮือ ๆ หญิงสาวเอ่ยถึงเพื่อนในใจ ก่อนจะยิ้มหวานตอบคนอยากได้ตนเป็นสะใภ้ “ค่ะ คุณแม่ก็คุณแม่ ในเมื่อปฏิเสธไปก็เปล่าประโยชน์ค่ะ” ยอมรับอย่างจำนนใจ ก็ไหน ๆ ได้เป็นแฟนประธานบริษัททั้งทีแล้ว เป็นมันให้คุ้มไปเลย แต่ขออย่างเดียวอย่าเป็นเรื่องใหญ่นะ ถ้าพี่อเล็กซ์รู้ พ่อเทพบุตรอย่างพายุได้ตายแน่ ๆ ตายดีเสียที่ไหน ตายแบบไม่มีที่ฝังด้วย คิดถึงตอนไปเรียนอังกฤษนั้น ผู้ชายคนไหนเข้ามาพูดคุยด้วยเป็นต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มเป็นเดือน ๆ ไม่ตายก็เหมือนตาย คิดแล้วเศร้าแท้ หวังว่าคงไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีกนะ “แบบนี้สิหนูน้ำ คืนนี้มีนัดกับพี่เขารึเปล่าลูก ถ้าไม่มีไปทานข้าวที่บ้านแม่นะ” ยิ่งได้คุยยิ่งชอบว่าที่ลูกสะใภ้ อยากได้มาเป็นแม่ของหลานวันนี้ เดี๋ยวนี้เลยจริง ๆ “คือว่าน้ำมีคุยงานกับท่านประธานข้างนอกค่ะ ไม่รู้จะเสร็จตอนไหน คงไปทานข้าวด้วยไม่ได้ค่ะ” หญิงสาวเอ่ย “ไม่เอา ๆ ไม่เรียกท่านประธงประธานนะลูก เรียกพี่เคคะขาสิลูก น่ารักดีออก เป็นแฟนกันต้องเรียกแบบนี้ เรียกประธานมันดูห่างเหินไป ถ้าพี่เขาได้ยินจะน้อยใจเอานะลูก” “น้อยใจช่างเขาสิคะ...อุ้ย!...” เอ่ยอย่างลืมตัว “อะไรนะลูก แม่ได้ยินไม่ชัดเลย หนูน้ำว่าอะไรนะ” เมื่อกี้นางฟังไม่ชัดจริง ๆ ก็หญิงสาวพูดเร็วเกินไป “เปล่าค่ะ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ น้ำก็แค่บอกว่าจะไม่เรียกท่านประธานอีกค่ะ” แก้ตัวได้อย่างฉลาด ก็คนมันสวย มีหรือเรื่องแค่นี้เธอจะสน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD