บทที่5.กลิ่นตุๆ
ทันทีที่มีสายเรียกเข้า มานีรีบกดรับสาย “ไลลา น้องหายไปไหนมา?”
“พี่สบายดีไหม พี่ได้เจอกับคริสเตียโน่หรือยัง?” เสียงกดต่ำกับคำถามนั่นทำให้มานีรู้สึกหนักอก
“ยังเลย... เขาให้พี่มารอที่นี่ น้องจะมาเจอเขาเองไหมจ๊ะ?”
ไลลากัดฟันกรอดๆ ขยำหนังสือพิมพ์ในมือจนกระดาษยับยู่ยี่ คนร่ำรวยพวกนั้นถนัดกับการใช้เงินเคลียร์ปัญหา ไลลาได้รับเช็คที่มีจำนวนเงินมากพอดูจากคริสเตียโน่ แต่นั่นยังไม่เพียงพอกับความต้องการของเธอ สิ่งที่เธออยากได้คือการเข้าไปเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลเบลอน หากไม่ได้แบบนั้น จะให้เธอเป็นบ้านเล็กก็ย่อมได้ แต่เธอต้องได้มากกว่าที่ได้อยู่ตอนนี้ เพื่ออนาคตทายาทของเขาที่กำลังเติบโตอยู่ในครรภ์ของเธอ
“ไม่ล่ะมานี ช่วงนี้ฉันเดินทางไม่สะดวก”
ไลลาปฏิเสธเสียงเย็นชา อายุครรภ์ของเธอเพิ่มขึ้นทุกวัน การเคลื่อนไหวรวมทั้งสรีระที่เปลี่ยนไป ทำให้เธอไม่อยากพบใครเลย น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจนสวมเสื้อผ้าชุดเก่าๆ ไม่ได้ สภาพของเธอตอนนี้ แค่มองผ่านกระจกยังอยากอาเจียน เธอรับไม่ได้กับสภาพสุดโทรมแบบนี้เลยสักนิด
“แล้ว...เอ่อ...” มานีอยากถามถึงหลาน แต่เธอก็กลัวว่าจะกระทบจิตใจของไลลาเข้า
“สบายดี ฉันเพิ่งไปอัลตราซาวน์มา หลานของพี่เป็นผู้ชายนะมานี”
“จริงเหรอ ดีจังเลย เราสองคนจะมีสมาชิกในครอบครัวที่เข้มแข็งคอยปกป้องเราได้ในอนาคตแล้ว” มานีกล่าวเสียงร่าเริง เธอนึกถึงภาพเด็กชายตัวน้อยผิวขาวละเอียดที่เป็นญาติสนิทคนใหม่ สมาชิกในครอบครัวที่เธอไม่เคยมี
“ใช่...เด็กคนนี้คืออนาคตของฉัน”
มานีสะดุดใจกับการใช้เสียงแบบนั้นของน้องสาว แต่เพราะไม่อยากให้มีปัญหาเพิ่มขึ้น เธอเลยพยายามทำความเข้าใจไลลา ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์อารมณ์ปรวนแปร หล่อนอาจจะคิดเล็กคิดน้อย และหากเธอคอยซักไซ้ ไลลาอาจจะคิดมากจนเตลิดไปก็ได้
“พยายามกินยาตามที่หมอสั่งด้วยนะไลลา มันดีกับสุขภาพของน้อง”
มานีพยายามเตือน ไลลาไม่ค่อยรักตัวเอง ขนาดที่กำลังตั้งครรภ์อยู่แท้ๆ ไลลายังดื่มกาแฟ หรือไม่ก็เครื่อมดื่มมีแอลกอฮอล์ ยิ่งเธออยู่ห่างๆ แบบนี้ยิ่งไม่มีใครเตือน
คนเป็นน้องแอบเบ้ปาก เธอชำเลืองมองถุงยาที่วางไว้ข้างตัว ก่อนจะเขี่ยถุงใบนั้นทิ้งถังขยะไปอย่างไม่แยแส
“อืม...”
“ดูแลตัวเองล่ะ พยายามทานเยอะๆ นะเพื่อลูก”
ไลลาอยากร้องกรี๊ด หากไม่ใช่เพราะว่าเด็กในท้องคือขุมสมบัติของเธอ เธอคงไม่ต้องมาทรมานเช่นนี้หรอก ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ รูปร่างตนเองพังพินาศขนาดไหน ไลลาน้ำตาตก ริ้วรอยหลายอย่างที่เกิดขึ้นจะไม่มีวันจางหาย เธอต้องได้เงินเยอะกว่านี้ ทันทีที่คลอดเด็ก เธอจะจัดการลบรอยเหล่านี้ให้หมด และกลับมาสวยเหมือนเดิมให้ได้
“พี่ต้องการให้ฉันกลายเป็นแม่หมูสินะ”
เสียงตอบแข็งเครียดจนมานีแอบผ่อนลมหายใจ
เธอไม่อยากมาหมกตัวอยู่ที่นี่เลย แต่เพื่อน้องสาวกับหลาน มานีเลยพยายามทน
“ชีวิตใหม่ต้องการสารอาหารนะไลลา หากเธอไม่ทานอะไรเลย ลูกของเธอจะขาดสารอาหารเอาได้”
ไลลากระแทกลมหายใจแรงๆ “ฉันจะพยายามๆ” ในความคิดของเธอ นับจากนี้ไปต้องควบคุมน้ำหนัก ไม่ให้มากไปกว่านี้ แต่ก็จำใจรับปากมานีไปส่งๆ เวลานี้เธอต้องพึ่งพี่สาว ไม่อย่างนั้นเธออาจชวดที่จะได้พบกับคริสเตียโน่
เขาส่งเช็คมาให้เธอ แต่แค่นั้นไม่พอหรอกนะ
ลูกของเธอคือตัวนำโชค เด็กคนนี้ต้องได้รับมากกว่านี้ มากจนกว่าที่เธอจะพอใจ
เพราะว่าพ่อของเขาคือคริสเตียโน่ เบลอน...
“ไลลา ถ้าอย่างนั้นพี่กลับก่อนดีไหม ยังไงเธอก็มาที่นี่ไม่ได้แล้วนี่”
มานีถามความเห็น ในเมื่อไลลามาเองไม่ได้ เธออยู่ไปก็คงไม่มีประโยชน์
“พี่อยู่ที่นั่นไปก่อนเถอะ...ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าหมอนั่นจะหลบหน้าฉันไปอีกนานแค่ไหน?”
“แต่พี่ต้องทำงานนะไลลา” มานีท้วง เธอหยุดงานเป็นเดือนๆ ไม่ได้หรอก เจ้าของผับจะไล่เธอออกปะไรล่ะ
“ไอ้งานกิ๊กก๊อกนั่น พี่สมควรลาออกนานแล้วล่ะ เงินเดือนแค่นิดเดียวเอง แต่พี่ต้องทนทำงานถึง10ชั่วโมงแหนะ”
ไลลาตอบกลับทันควัน มานีหายไปเกือบหมดคืน แต่รับเงินเดือนไม่ถึงครึ่งที่เธอออกไปนั่งดื่มกับเศรษฐีแก่ๆ ขี้เหงาครั้งเดียวเลย เธอพยายามชักชวนมานี เพราะหากขายแพ็คคู่ เธอกับมานีคงมีรายได้มากกว่านี้หลายเท่า แต่พี่สาวของเธอกลับปฏิเสธ มานีไม่สนใจงานที่เธอทำ พี่สาวของเธอยินดียืนจนขาแข็งทั้งคืน ดีกว่าการมานั่งดื่มและโดนลวนลาม
“พี่สบายใจแบบนี้ ชั่งเถอะ... ไว้ค่อยหางานใหม่เอาก็ได้ ว่าแต่น้องมีสตางค์ใช้ใช่ไหมไลลา?”
มานีอดถามน้องสาวด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ ยิ่งช่วงนี้เธอขาดรายได้ ไลลาจะเอาสตางค์ที่ไหนมาใช้จ่าย ไหนจะค่าหมอ ค่ารถ ค่ายาอีกล่ะ
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกฉันเห็นเช็คเงินสดที่พี่ทิ้งไว้ให้แล้ว... พี่เองนั่นแหละ พยายามอย่าให้พวกนั้นจับได้ล่ะ ว่าพี่ไม่ใช่ฉัน”
ไลลากำชับพี่สาวอีกครั้ง....
“อืม...” มานีรับปาก ช่วงนี้เธอสบายใจเพราะผู้ชายคนนั้นหายหน้าไปเลย เขาเอาเธอมาทิ้งไว้ที่นี่โดยไม่ไยดีนัก
คงเพราะงานวิวาห์ที่กระชั้นเข้ามาก็ได้ ครอบครัวแม็กแคนซีเลยกำลังยุ่งหัวปั่น เขากักตัวเธอไว้ เพื่อให้น้องสาวเขาสบายใจ แลกเปลี่ยนกับการที่เขาจะพาคริสเตียโน่มาพบกับเธอที่นี่
“แค่นี้นะพี่...ฉันง่วงแล้วล่ะ”
ไลลาตัดบท เธออยากดื่มฉลองให้กับเงินก้อนแรก จำนวนเงินมหาศาลนั่น หากไม่ใช่เพราะเด็กคนนี้คือทายาทเบลอน เธอคงพอแค่นี้ เพราะเงินก้อนนี้ทำให้เธอสบายไปได้หลายปีโดยไม่ต้องทำงาน แต่เด็กคนนี้คือทายาทของเบลอนเชียวนะ เธอสมควรได้มากกว่าที่ได้...หลายร้อยเท่า
“อืม ดูแลสุขภาพด้วยนะ”
สิ่งที่มานีไม่เห็น...ไลลากำลังเปิดขวดไวน์เพื่อฉลองเงินก้อนแรกที่คริสเตียโน่จ่ายให้ เธอไม่ได้ห่วงเด็กในท้องสักนิด หญิงสาวดื่มไวน์จนหมดขวด และนอนหลับอยู่ที่โซฟาในบ้านหลังใหม่ บ้านที่มีชื่อเธอเป็นเจ้าของ สมบัติอีกชิ้นที่ได้มาจากเด็กในท้องของเธอนั่นเอง...
มานีเบื่อการสำรวจบ้านพักสุดโอ่อ่าหลังนี้แล้ว วันแรกที่เดินท่อมๆ ไปรอบๆ เดินจนปวดน่อง เธอก็ยังเดินสำรวจวิลล่าหลังนี้ได้ไม่ทั่ว แถมมานียังเบื่อผู้ติดตามทั้งสองคนนั้นด้วย เขาจับตามองเธอทุกฝีก้าว ไม่ว่าเธอจะทำอะไร อยู่ที่ไหน ผู้ชายสองคนนั้นมักจะป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ เสมอ มันน่าอึดอัดจนเริ่มรำคาญ แต่เธอก็ต้องพยายามอดทน
“รวยอะไรหนักหนาเหอะ!!”
หญิงสาวบ่นพึม ขณะที่เดินเลยลงไปที่ชายหาด และหากไม่ติดว่ากำลังปลอมตัว มานีไม่รีรอที่จะถลาลงไปลอยคอกลางทะเลแน่นอน แต่สภาพคนท้องอย่างที่เป็นอยู่ เธอคงทำเช่นนั้นไม่ได้ มันจะเป็นพิรุธให้คนที่เฝ้าติดตามเธอสงสัย
มานีเลยแก้อยากด้วยการเดินเลียบชายหาด กางมือสัมผัสอากาศและน้ำพอให้คลายความตื่นเต้น
“หมอนั่นทำมาหากินอะไรกันนะ บ้านหลังเบ้อเริ่มเทิ่มแบบนี้ คงไม่ต่ำกว่าสิบล้านแน่ๆ”
คงมีมานีคนเดียวล่ะมั้งที่ไม่รู้จักตระกูลแม็กแคนซี นั่นเป็นเพราะเธอหมกตัวอยู่แต่ในคอนแวนต์ และเมลเบิร์นเป็นสถานที่ใหม่ของเธอนั่นเอง หญิงสาวใช้ชีวิตสมถะ เธอไม่ชอบโลกโซเซียลเพราะมันเป็นรายจ่ายฟุ่มเฟือยที่ไม่จำเป็นสำหรับคนรายได้น้อย มานีเลยไม่รู้ว่า แม็กแคนซีร่ำรวยมากขนาดไหน เฉพาะสมบัติเก่าเก็บตระกูลนี้ก็ติดอันดับต้นๆ ของออสเตรเลีย เจอร์ราดปลุกปล้ำเคซีคอนสตัคชั่นมากับมือ และนั่นก็ยิ่งสร้างรายได้มหาศาลให้กับคนตระกูลนี้ เรื่องบ้านพักตากอากาศสำหรับคนร่ำรวย เลยไม่ใช่เรื่องใหญ่ บ้านลักษณะแบบนี้ เคลตันซื้อทิ้งไว้หลายหลังตามสถานที่ท่องเที่ยว เขามีไว้สำหรับพักผ่อน บางทีก็มีไว้เพื่อผ่อนคลาย เวลาที่หิ้วสาวๆ มาคลายเครียด
หญิงสาวจิปาก มองน้ำทะเลใสแจ๋วตาละห้อย
ถัดจากที่เธอยืนอยู่ การ์ดหน้าดุสองคนนั้นก็ยืนเตร่ไป เตร่มาไม่ห่าง
“คู๊ณณณณณณ!!” หญิงสาวโบกมือไปมา
อเล็กหันไปมองหน้าแซม พร้อมกับถอนใจแรงๆ
“แม่นั่น กำลังคิดจะทำอะไรอีกนะ”