ภูผาถึงกับจุกจนพูดไม่ออกไปเลยเหมือนกันเจอคุณป้าเล่นแบบนี้ ก้มลงมามองหน้าผู้เป็นป้าอย่างต้องการคำตอบว่าทำไมถึงทำแบบนี้ แต่เขาก็ได้แต่รอยยิ้มกลับมาเท่านั้น
“แม่ว่าหนูโรสไปมหาลัยได้แล้วล่ะ วันนี้นัดกับเพื่อนไว้ไม่ใช่เหรอ” ท่านหันมาสนใจลูกสาวบุญธรรมด้วยความเห็นใจ ใจจริงท่านก็ไม่คิดหรอกว่าหลานชายของท่านจะเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ เห็นทีท่านคงต้องให้ลูกสาวแต่งตัวแบบนี้บ่อยๆ เสียล่ะมั้ง ให้มันรู้ไปสิว่าหลานชายท่านจะอดทนเก็บความรู้สึกไปได้อีก จะว่าไปชุดที่ท่านซื้อมาให้ลูกสาวใส่มันก็ดูสั้นไปจริงๆ ตอนที่ซื้อมันไม่ได้สั้นขนาดนี้นี่นา หรือว่าพนักงานในร้านหยิบผิดมา ส่วนไอ้เสื้อตัวนี้ก็ดูจะเล็กไปจริงๆ แต่ก็นะหน้าอกหน้าใจของลูกสาวท่านเยอะซะขนาดนั้น ก็ต้องปริเป็นธรรมดาแหละ แต่มันก็ได้ผลไม่น้อยเล่นเอาหลานชายท่านเต้นเป็นเจ้าเข้าเลย
“ค่ะ คุณแม่ งั้นหนูโรสขอตัวนะคะ” ชญานินทร์ยกมือไหว้มารดา ก่อนยกมือไหว้ผูภาอย่างเกรงกลัว
“วันนี้หนูโรสจะกลับบ้านกี่โมง แม่ให้ประชาไปรอรับหรือเปล่า หรือว่าให้เพื่อนมาส่ง”
“หนูโรสต้องคุยกับเพื่อนอีกทีค่ะคุณแม่ แล้วหนูโรสจะโทรมาบอกลุงประชาอีกที”
“วันนี้ไปไหนเหรอหนูโรส” ภูผาเอ่ยถามอย่างไม่ไว้ใจ สบตากลมโตของชญานินทร์แล้วก็ได้แต่ไม่พอใจอย่างบอกไม่ถูก มันหงุดหงิดตั้งแต่เมื่อวานแล้ว วันนี้ก็ยังไม่จางหายไปเสียที
“หนูโรสจะไปดูหนังกับเพื่อนนะคะ หนูโรสขออนุญาตคุณแม่แล้ว”
“ป้าอนุญาตให้หนูโรสไปเองแหละ ก็เราไม่ค่อยว่างพาน้องไปเที่ยวนี่นาตาภู อีกอย่างเห็นว่าช่วงนี้ยุ่งอยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วนี่ทำไมยังไม่ไปทำงานอีกล่ะ”
“พอดีวันนี้ผมมีธุระที่ต้องไปจัดการเสียหน่อยนะครับ เลยไม่เข้าบริษัท”
“อืม” คุณหญิงวีรดาพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“เอ่อ..คุณภูคะ หนูโรสขอหนังสือได้ไหม” ชญานินทร์เอ่ยขอหนังสือจากมือภูผาอย่างหวาดกลัว ยิ่งเจอสายตาเข้มมองมาอย่างตำหนิก็ยิ่งไม่เข้าใจ ช่วงนี้เขาเป็นอะไรทำไมถึงได้มาวุ่นวายกับเธอนัก
“ก็เอาไปสิ” เขายื่นหนังสือคืนให้เด็กสาวอย่างไม่พอใจ ก้มลงมามองเสื้อตัวเล็กรัดติ้วนั่นทีไรก็พาลอารมณ์เสียอย่างไม่มีเหตุผล เห็นทีเขาคงต้องคุยกับเธออย่างเป็นจริงเป็นจังสักครั้งเสียแล้ว ถ้าเธอยังแต่งตัวแบบนี้มีหวังเขาคงตบะแตกเข้าสักวัน
“แล้วนี่จะไปมหาลัยเลยหรือเปล่า”
“ค่ะ หนูโรสขอตัวนะคะ ลุงประชาจะรอนาน”
“ไปเถอะจ้ะ ถ้าให้ประชาไปรับก็โทรมาล่ะกันนะ”
“ค่ะคุณแม่”
ชญานินทร์ยกมือไหว้มารดาอีกครั้งก่อนหันไปยกมือไหว้ภูผาที่ยืนทำหน้าอาฆาตเธออยู่ ไม่รู้ว่าเธอเกรงกลัวอะไรเขา แต่ก็นั่นแหละเธอเจอสายตาแบบนี้ แน่นอนว่าเรื่องมันคงไม่จบลงง่ายอย่างที่ทุกคนเข้าใจ
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับคุณป้า”
“ตามสบาย ป้าจะไปดูหนูลดาหน่อย เห็นว่านั่งปักอะไรของเขาก็ไม่รู้ ลูกสาวของลินดาเก่งไปเสียทุกเรื่อง ป้าภูมิใจแทนลินดาจริงๆ ที่มีลูกสาวเก่งไปเสียทุกเรื่องแบบนี้”
“ครับ ลดาเขาจบปริญญาตรีด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง แถมยังเป็นนักกีฬาของมหาลัยอีก งานบ้านงานเรือนก็เก่ง ใครได้ไปเป็นภรรยาคงโชคดีน่าดู”
“นั่นสิ”
ท่านยอมรับในคำพูดของหลานชายเลยเช่นกัน ลูกสาวของศิลินดาเก่งอย่างที่หลานชายท่านชมนั่นแหละ คิดไปลูกสาวเธอยังไม่ได้ครึ่งของอลินลดาเลย ท่านยืนมองหลานชายรีบเดินออกไปอย่างไม่สนใจท่านอีกเลย อาการแบบนี้ไม่ต้องบอกว่าเพราะอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะลูกสาวบุญธรรมของท่าน ให้มันรู้ไปสิว่าจะมาวางท่าขี้เก๊ก หยิ่ง ไม่เข้าเรื่อง เจอแบบนี้แล้วคงจะนั่งไม่ติด จะว่าไปท่านก็ทำผิดไปเหมือนกันที่บังคับให้ลูกสาวแต่งตัวไปแบบนั้น แต่ก็ถือว่าคุ้มถ้าทำให้หลานชายท่านเป็นเดือดเป็นร้อนได้ขนาดนี้
///////////
ชญานินทร์กำลังก้าวเท้าขึ้นรถ เมื่อร่างสูงเดินมาจับต้นแขนเอาไว้อย่างรวดเร็ว หญิงสาวถึงกับชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวเข้าไปในตัวรถ หันมามองภูผาด้วยความตกใจ
“มีอะไรหรือคะคุณภู” ชญานินทร์หันไปถามอย่างสงสัย
ภูผาก้มลงมามองเธอด้วยความไม่พอใจ เธอก้มลงไปมองตามสายตาคมที่ก้มลงมามองเธอแล้วก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นว่ากระโปรงที่เธอสวมมันร่นขึ้นมาเกือบถึงขาอ่อน
ชญานินทร์ก้าวเท้าลงจากรถด้วยความตกใจ ก่อนจะเงยขึ้นไปสบตาคมแข็งกร้าวนั้นอย่างหวาดกลัว “เอ่อ…คุณภู ปล่อยหนูโรสก่อนได้ไหมคะ” น้ำเสียงหวานพูดขึ้นอย่างตกใจ แกมหวาดกลัวกับหน้าตาของชายหนุ่มที่ยืนจ้องมองเธออยู่แบบนี้ เธอไม่น่าหลงเชื่อคำพูดของผู้เป็นมารดาเลย เป็นไงล่ะทีนี้ ต้องมายืนทำหน้าไม่ถูกกับภูผาแบบนี้ ถึงชายหนุ่มจะเป็นผู้ปกครองเธอก็ตาม แต่การที่เขามายืนจ้องมองเธอแบบนี้ก็น่ากลัวอย่าบอกใคร
“ปล่อยทำไม” น้ำเสียงกร้าวพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ ก้มลงมองชุดที่ชญานินทร์ใส่แล้วก็ได้แต่กระตุกเครียดจนแทบประสาทแล้ว อดคิดไม่ได้ว่าหญิงสาวแต่งตัวแบบนี้บ่อยหรือเปล่า ถ้าแต่งตัวแบบนี้บ่อยๆ เห็นทีเขาคงต้องตามประกบเธอเลยดีไหมจะได้อยู่ในสายตา
“ก็หนูโรสจะไปมหาลัยแล้ว เดี๋ยวสาย” คนเสียงหวานพูดขณะก้มลงมองชุดตัวเองแล้วก็ได้แต่หวาดเสียว เห็นทีก่อนเข้ามหาลัยเธอจะไปหาชุดมาเปลี่ยนเสียแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอคงโดนฉุดอย่างไม่ต้องสงสัย
“เดี๋ยวสายนะครับคุณหนูโรส” เสียงประชาดังขึ้นจากในรถ เขานั่งมองเจ้านายทั้งสอง ยืนจ้องกันนานเกินไปแล้ว วันนี้คุณหนูโรสของเขาก็แปลก ทำไมแต่งตัวซะโป๊ขนาดนั้น ส่วนนายหนุ่มก็เอาแต่จ้องมองคุณหนูโรสอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อกัน สองคนนี้มีปัญหาอะไรกัน
“ลุงประชา เดี๋ยวผมไปส่งหนูโรสที่มหาลัยเอง” ภูผาดึงมือชญานินทร์ไปยังรถที่เขาให้ประชาเอามาจอดให้อย่างหงุดหงิด โมโห หึงหวง เป็นห่วงไปเสียหมด ยิ่งเห็นเด็กสาวในปกครองแต่งตัวแบบนี้ไปเรียนก็ยิ่งเครียด เขาไม่เคยรู้เลยว่าเด็กสาวแต่งตัวแบบนี้ไปเรียน
“เอ๊า เข้าไปสิ มัวโอ้เอ้อะไรอยู่ หรือจะให้อุ้มขึ้นรถ”
เพียงแค่นั้นชญานินทร์ถึงกับอึ้งอ้าปากค้างไปเลยพอเห็นสายตาดุที่ส่งมาให้ก็รีบเปิดประตูก้าวขึ้นรถอย่างรีบร้อน เพราะไม่อยากเจอสายตาตำหนิแบบนั้นอีก แค่เรื่องเสื้อผ้าเธอก็แทบจะแย่แล้ว
ภูผาเข้ามานั่งบนรถ หันมามองชญานินทร์อีกครั้ง ก่อนขับรถออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ เขารู้แต่ว่าวันนี้เขาคงให้หญิงสาวไปมหาลัยไม่ได้ ให้ไปในสภาพนี้น่ะเหรอไม่มีทางเสียล่ะ เขาคงไม่บ้าพอปล่อยให้คนที่เขารักไปในมหาลัยสภาพนี้แน่นอน
ในเมื่อเขาไม่ได้ไปทำงานแล้ววันนี้เขาก็ควรให้ชญานินทร์หยุดไปด้วยเลยก็ดี จะพาเธอไปซื้อเสื้อผ้าเสียใหม่ ขนาดเขาเห็นก็แทบจะบ้าอยู่แล้ว ตบะใกล้พังอยู่รอมร่ออยู่ในตอนนี้ ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นเขาไม่อยากคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...