เช้าวันต่อมา...
“ยังไม่ไปมหาลัยอีกหรือคะหนูโรส”
“ยังเลยค่ะ วันนี้โรสมีเรียนบ่ายค่ะนมอ่อน” ชญานินทร์ตอบนมอ่อนออกไปอย่างอ่อนหวาน ร่างบางกอดหนังสือเอาไว้แน่น เดินตามนมอ่อนออกมา
“ทำไมหนูโรสไม่แต่งหน้าหน่อยล่ะคะ นมว่าหน้าหนูโรสออกจะซีดๆ ไปนะ ไม่สบายหรือเปล่า” นมอ่อนเดินไปก็พูดไป เธอเห็นใบหน้าหวานดูซีดๆ ยังไงชอบกล ไม่สบายหรือเปล่า
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะนมอ่อน หนูโรสนอนดึกไปหน่อยนะคะ พอดีอ่านหนังสือสอบ” หญิงสาวเอ่ยปดไปเพราะไม่ต้องการให้นมอ่อนเป็นห่วง และไม่ต้องการให้ใครบางคนต้องมาวุ่นวายกับเธอ
“แน่ใจนะคะว่าไม่ได้เป็นอะไร” เสียงนมอ่อนถามอย่างเป็นห่วง
“ค่ะ สบายมาก”
“งั้นก็ดีค่ะ นมอ่อนจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง เกิดไม่สบายเป็นอะไรไปคุณท่านกับคุณภูโกรธนมตายเลย”
นมอ่อนหยุดเดินหันมามองหนูโรสอย่างเป็นห่วง เธอรู้ดีว่าอาการแบบนี้ของเด็กสาวนั่นหมายความว่ามันไม่สบายจริงๆ ไม่ใช่เพราะอดนอนหรอก ใบหน้าหวานแดงระเรื่อ ดวงตาแดงก่ำเหมือนกับไม่สบาย แต่เธอก็พูดได้แค่นั้น เพราะถึงคาดคั้นถามไปก็คงได้คำตอบเดิม
“เฮ้อ เอาไงดีวันนี้” เสียงถอนหายใจของชญานินทร์ทำเอาคนที่เดินมาหยุดข้างหลังถึงกับแปลกใจ ไม่บ่อยนักที่จะเห็นเด็กสาวในปกครองทำท่าทางถอนหายใจออกมาแบบนี้
“เป็นอะไรน่ะหนูโรส”
เสียงเขาดังขึ้นทางด้านหลัง พร้อมกับร่างสูงที่เดินมาหยุดซ้อนทับร่างบางอย่างเป็นห่วง เพียงแค่ยืนใกล้กันแค่นี้ ความอบอุ่นที่มันแผ่ซ่านกระจายออกมาจากร่างสูงใหญ่ที่ยืนซ้อนทับด้านหลังเธออยู่ ทำให้ใบหน้าหวานแดงระเรื่อด้วยความอาย ความรู้สึกโหยหาแบบนี้มันคือความรักใช่ไหม เธอรักผู้ปกครองของตัวเอง รู้ดีว่ามันไม่อาจเป็นไปได้ เพราะเขามีคนที่รักอยู่ข้างกาย ผู้หญิงที่เหมาะสมกว่าเธอ
ชญานินทร์ยังคงยืนเงียบไม่พูดอะไรออกมา มือบางกอดหนังสือเอาไว้แน่น ไม่อยากเจอคนที่ทำให้หัวใจเธอต้องเจ็บ เพราะอะไรเธอถึงไม่สามารถหลบได้สักที เช้านี้เธอคิดว่าทำไมป่านนี้แล้วยังไม่ไปทำงานอีก
“หนูโรส ฉันถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า” เขายังถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย แต่ร่างบางตรงหน้าเขานี่สิยังยืนเงียบไม่ไหวติง และไม่ตอบรับคำถามของเขา
“เอ่อ...เปล่าค่ะ คุณภูยังไม่ไปทำงานเหรอคะ”
“ฉันมีธุระต้องไปทำนิดหน่อย แล้วหนูโรสล่ะทำไมเพิ่งไปมหาลัย นี่มันจะสิบโมงแล้วนะ”
ชายหนุ่มถามในสิ่งที่เขาสงสัยทันที กวาดตามองร่างบางตรงหน้าแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว ชุดนักศึกษาที่หญิงสาวใส่ทำไมมันถึงได้ดูโป๊แบบนี้ กระโปรงก็สั้นเสียน่ากลัว ส่วนเสื้อนั้นอีกทำไมมันถึงได้ตัวเล็กแบบนี้ สายตาคมกวาดมองตั้งแต่กระโปรงไปถึงเสื้อด้วยความไม่พอใจ
“ทำไมถึงใส่ชุดแบบนี้” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกร้าว อยากบ้าตายกับเด็กสาวสมัยนี้ แบบนี้มันเรียกว่าใส่หรือยังไง
“ที่ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง ทำไมใส่ชุดแบบนี้”
“ชุดนี้หนูโรสใส่มาเกือบสามปีแล้วนะคะคุณภู”
ชญานินทร์พูดขึ้นอย่างงุนงง มันแปลกตรงไหน ก็ชุดนักศึกษาส่วนใหญ่จะเป็นคุณหญิงวีรดาทั้งนั้นที่พาเธอไปซื้อ ท่านเคยบอกว่าการแต่งตัวมันวัดถึงนิสัยไม่ได้หรอก ถึงจะแต่งตัวเรียบร้อยแต่นิสัยไม่ดีก็มีเยอะไป ที่สำคัญท่านเป็นคนเลือกชุดให้เธออีกด้วย แต่เธอก็ไปเลือกซื้อเอง เพราะเกรงใจท่านที่มาเป็นภาระเพราะเรื่องแค่นี้
“อะไรนะ” ภูผาถึงกับตวาดเสียงดังลั่นกับคำตอบที่หลุดออกมาจากร่างบางตรงหน้า อารมณ์โกรธ หึงหวง โมโหสารพัด
“คิดยังไงถึงไปซื้อชุดบ้าๆ นี่มาใส่”
“คุณแม่เป็นคนพาหนูโรสไปซื้อค่ะ ชุดนักศึกษาส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้”
“โกหก! คุณป้าไม่มีทางซื้อเสื้อผ้าแบบนี้ให้เราใส่หรอกหนูโรส” ภูผายังโวยวายไม่เลิก จะให้เขาเชื่อได้ยังไงว่าคุณป้าของเขาจัดการให้หาเสื้อผ้าแบบนี้ให้เด็กที่ท่านรับมาเป็นลูกบุญธรรม
“ไปเปลี่ยนชุดเดี๋ยวนี้เลย”
“เปลี่ยนชุดไหนล่ะคะ ก็ทุกชุดเป็นแบบนี้หมด” ชญานินทร์เงยใบหน้าหวานขึ้นไปสบตาแข็งกร้าวอย่างไม่พอใจ ถ้าจะบ่นก็น่าจะบ่นตั้งแต่ตอนปีหนึ่งสิมาบ่นอะไรเธอตอนนี้ ผู้ชายตรงหน้าเธอนี่สติดีอยู่หรือเปล่า
“ฉันอยากจะบ้าตาย” ภูผาถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับ ก้มลงมามองร่างบางที่ยืนกอดหนังสือเอาไว้แน่น
“มีชุดนักศึกษาทั้งหมดกี่ชุดที่เป็นแบบนี้”
“ห้าชุดค่ะ สามชุดแรกคุณแม่เป็นคนซื้อ อีกสองชุดหนูโรสเพิ่งซื้อเมื่อหลายเดือนก่อน”
ภูผาได้แต่มองอย่างไม่พอใจ จ้องมองร่างบางตรงหน้าแล้วอยากทำอะไรสักอย่างให้มันหายอึดอัด ถึงเขาเป็นผู้ปกครองชญานินทร์ก็จริง แต่ส่วนใหญ่เขาไม่เคยเห็นชญานินทร์ตอนใส่ชุดนักศึกษาเลย เห็นทีเขาต้องอยู่ให้ห่างชญานินทร์มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้น เขาคงทำอะไรอย่างที่ใจเขาต้องการอย่างแน่นอน ไม่แน่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธออาจขาดสะบั้นลงก็ได้ ถ้าขืนเขายังเห็นเธอทุกวันแบบนี้
“เอะอะโวยวายอะไรกันน่ะตาภู” เสียงคุณหญิงวีรดาดังมาจากด้านหลัง ทำให้ภูผาหันกลับไปมองอย่างหงุดหงิดแกมไม่พอใจผู้เป็นป้า
“ทำไมหนูโรสแต่งตัวแบบนั้นล่ะครับคุณป้า”
“แต่งตัวแบบไหน” ท่านถามอย่างอารมณ์ดี เดินตรงมาหยุดตรงหน้าลูกสาวก่อนส่งยิ้มอบอุ่นมาให้
“ก็แต่งตัวแบบนี้ไงครับ” ว่าแล้วเขาก็เดินมาหยุดตรงหน้าชญานินทร์ ยกมือดึงหนังสือที่หญิงสาวกอดอยู่ออก “นี่ไงครับ ดูสิทำไมมันโป๊ได้ขนาดนี้ กระโปรงก็สั้น เสื้อก็ตัวเล็ก ใส่กันเข้าไปได้ยังไง” มือหนาดึงขอบเสื้อเพียงเล็กน้อยเขาก็ต้องขบกรามแน่นกับสิ่งที่เขาเห็น ตอนที่ชญานินทร์ยืนกอดหนังสือเขาไม่ได้สังเกต แต่พอเอาหนังสือออกเท่านั้นแหละเขาก็แทบประสาทกิน ก็ขอบเสื้อตรงที่ติดกระดุมมันปริออกมาอย่างน่ากลัว
“ไม่เห็นแปลก ตอนหนูวิก็ใส่แบบนี้ ป้าว่าเราอย่ามาสนใจกับการแต่งตัวของหนูโรสเลย เพราะเสื้อผ้าส่วนใหญ่ป้าเป็นคนจัดการให้หนูโรสเองแหละ”
“คุณป้า” ภูผาถึงกับพูดไม่ออก ไม่เข้าใจความคิดของผู้เป็นป้าเลยจริงๆ ว่าคิดยังไงกับการให้ลูกสาวบุญธรรมแต่งตัวแบบนี้
“ผู้หญิงคนอื่นก็แต่งตัวแบบนี้กันทั้งนั้น ไม่ได้มีแต่หนูโรสคนเดียวเสียหน่อย” ท่านยังคงเอ่ยไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สนใจอาการกระฟัดกระเฟียดของหลานชายแต่อย่างใด ‘ช่วยไม่ได้ อยากซื่อบื้อนัก มัวแต่เก๊กวางท่าไม่เข้าเรื่อง มันก็ต้องใช้แผนนี้แหละ’
////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...