Chapter 20 เหยียบจมูก

1425 Words
“ลองนึกดูดีๆ ว่าวันนั้นคุณยอมฟังอะไรหรือเปล่า เท่าที่ผมจำได้ คุณเอาแต่ร้องกรี๊ดๆ กรี๊ดซะแสบแก้วหูไปหมด ทำเอาผมหูดับไปตั้งหลายวัน คุณยังจะกล่าวหาว่าผมไม่อธิบาย ไม่บอกอีกหรือเปล่า” ปรินทรเถียงสาวน้อยบนตักไม่ลดราวาศอก ยิ่งกอดแน่นขึ้น และอีกคนก็จ้องหน้าเอาเรื่อง ทำท่าเหมือนเธอก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกัน “นี่คุณ!” รษาโมโหจัด ดิ้นแรงขึ้น “พอ พอ พอ เดี๋ยวผมจะเล่ารายระเอียดทั้งหมดให้ฟัง” เมื่อแกล้งยั่วให้เธอโกรธแล้วหญิงสาวมีทีท่าจะโกรธจริงเขาก็ยอมอ่อนข้อ ชายหนุ่มนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ก่อนที่เขาจะเริ่มต้นเล่าออกมา ทั้งที่ยังไม่คลายอ้อมแขนให้สาวน้อยได้เป็นอิสระ เครือปางวิมาน รวมถึงโรงแรมแห่งนี้ เวลาเพียงไม่นานที่ปรินทรเข้ามาบริหารโรงแรมและผับ หลังจากที่ทนคำรบเร้าของบิดาไม่ไหว ท่านอยากให้เขากลับมาสืบทอดกิจการของท่าน โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าเบื้องลึกปูมหลังสถานที่แห่งนี้ จะมีสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดในชีวิตมาก่อน “ช่วงเวลานั้นในผับ แทบไม่มีใครสนใจว่าใครเป็นใคร ยกเว้น ผมที่มองคุณไม่วางตา คุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่ผมต้องตา จนไม่สามารถละสายตาได้ แต่สิ่งที่ผมเห็นมาตลอดสองชั่วโมงคือ เพื่อนทุกคนในโต๊ะต่างสลับกับยกเครื่องดื่มให้คุณเพียงคนเดียว และต่อมาคุณก็เริ่มมึนเมากับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จนจะทรงตัวไม่อยู่” หัวใจของหญิงสาวสั่นแปลกๆ เมื่อเขาพูดถึงตัวเอง ตอนนี้เธอไม่กล้าแม้จะสบตาเขา เกิดคำถามในใจ ‘เขาชอบเธอจริงๆ เหรอ’ ชายหนุ่มหยุดพักหายใจ กระชับอ้อมกอดเธอเหมือนต้องการสื่อว่าเขาพูดจริง แต่หญิงสาวก็พยายามแกะมือเขาออก “ยังไงต่อคะ” หญิงสาวถามต่อ เมื่อเธอกำลังโดนเอาเปรียบหนัก “ผมละสายตาจากคุณไปคุยกับลูกน้องไม่กี่นาที คุณหายก็ไปแล้วจากตรงนั้น ผมให้ลูกน้องตามหาคุณ โชคดีที่นภดลเห็นเพื่อนผู้ชายของคุณกำลังพาขึ้นห้องในสภาพที่คุณไม่มีสติ ผมก็เลยตามไปดู แล้วก็เป็นอย่างที่คาดไว้” ชายหนุ่มเล่าเสียงเรียบ หันไปสบตารษาอีกครั้ง “ยังไงคะ” เธอเร่ง เมื่อเห็นเขาหยุด “พวกเขากำลัง เอ่อ ” ชายหนุ่มอึกอัก ในที่สุดก็ตัดสินใจข้ามไป “ผมไปช่วยคุณได้ทัน แต่คุณก็โดนทำร้ายจนสลบไปแล้ว หลังจากนั้นผมให้พนักงานโรงแรมมาอยู่เป็นเพื่อนคุณ ส่วนผมก็ไปจัดการกับคนพวกนั้น ปิดข่าวให้เงียบ เพราะกลัวคุณจะเสียหาย” “แสดงว่ารษายังบริสุทธิ์น่ะสิ” “ก็ใช่น่ะสิครับ คุณเมีย! ป่านนี้เพิ่งจะรู้ตัวว่าต้องขอบคุณผมมากกว่าด่า” “แล้วทำไมตอนนั้นคุณถึงยอมรับว่าคุณข่มขืนรษาล่ะคะ ทั้งที่คุณเป็นคนช่วยแท้ๆ” “ผมไม่อยากให้เรื่องบานปลาย มันส่งผลกับความน่าเชื่อถือของโรงแรมด้วย คิดว่ามันเป็นทางออกที่ดีที่สุด และคุณน่าจะรู้ว่าไม่ได้โดนข่มขืน แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะบานปลายแบบนี้” “ก็บอกแล้วว่าฉันไม่เคย จะรู้ได้อย่างไรเล่า” หญิงสาวบอกย้ำอย่างหงุดหงิด เขาชอบย้ำบ่อยๆ “แต่ถ้าคุณอยากพิสูจน์ว่าบริสุทธิ์ อยากรู้ว่าการโดนพรากพรหมจรรย์เป็นยังไง เรามาลองกันมั้ย คุณจะได้เปรียบเทียบมันได้ชัดเจน ด้วยตัวของคุณเอง! ผมยินดีช่วยคุณ” ชายหนุ่มชวนดื้อๆ ไม่ลืมหากำไรเกินความจำเป็นอีกครั้ง “อี๋ อย่านะ” หญิงสาวผลักอกชายหนุ่มออก ตอนแรกที่กล้าใกล้ชิดกับเขา เพราะเชื่อว่าตัวเองเป็นของเขาแล้ว ถึงไม่ยอม แต่ไม่ว่ายังไงสักวันเธอก็ต้องทำใจยอมรับอยู่ดี “ทีวันนั้นคุณยังบังคับให้ผมยอมรับเลย วันนี้เรามาทำกันจริงเถอะ ผมอยาก...” ปรินทรแหย่ต่อ แต่คนโดนแหย่ไม่มีอารมณ์สนุกไปด้วย เธอเต้นเร่าอย่างคุณหนูเอาแต่ใจ ที่ไม่เคยมีใครขัดใจ “คุณอยากอะไร” รษาถามเสียงแข็ง “อยากลองกับคุณไง จะได้มีลูกหัวปีท้ายปี” ชายหนุ่มส่งสายตาโลมเลียหยาดเยิ้มกับเนินอกปริ่มขอบเสื้อออกมา “นี่คุณ! ไม่ต้องมามองฉันด้วยสายตาแบบนี้เลยนะ” หญิงสาวแหวไม่พอใจ “ทำไมจะมองไม่ได้ ก็เมียผมนี่” ปรินทรยังแหย่ต่อ “ไม่ใช่” รษาตอบกลับทันที “ทำไมจะไม่ใช่ล่ะ ตอนนี้ผมพูดคำว่าเมียได้เต็มปากเลยละ แต่ถ้าคุณจะย้ำทางพฤตินัย เราไปจัดชุดใหญ่กันตอนนี้เลยก็ทันนะ ผมพร้อมแล้ว” ชายหนุ่มยังคงสนุกที่เห็นคนตรงหน้าจนมุม “ฉันจะหย่า! คุณต้องไปส่งรษาที่ไร่เดี๋ยวนี้ ขอบคุณที่ช่วยรักษาหน้าให้และบอกความจริงทุกอย่าง” หญิงสาวหยุดการต่อต้าน หันมาบอกชายหนุ่มบอกเสียงเรียบ “แต่ผมไม่หย่าและขอย้ำอีกครั้งว่าคุณต้องอยู่กับผมที่นี่ แล้วก็ไม่มีข้อต่อรองทั้งสิ้น” ชายหนุ่มยังบอกรษาไม่หมดว่าคนที่คิดร้ายกับเธอเป็นใคร แต่ถ้าเธออยู่กับเขา จะไม่มีใครทำอะไรเธอได้อีก “แต่ฉันจะหย่า!” หญิงสาวบอกเสียงเข้มขึ้น จนชายหนุ่มหันใบหน้าเข้มกลับมาจ้องเด็กพยศแสนดื้อตาดุ “ถ้าอยากหย่าคุณก็ไปฟ้องเอาก็แล้วกัน แต่ผมเตือนไว้สักอย่าง ฟ้องหย่าสามีที่เพิ่งแต่งได้วันเดียว ข่าวของคุณคงขายได้อีกแน่ คงหนีไม่พ้นกลับมาเน่าหนักกว่าเดิมอีกรอบ” รษากำหมัดแน่น ดิ้นเร่า โกรธแทบจนแทบจะฆ่าตนตรงหน้าได้ แต่ที่เขาพูดก็ไม่ผิดเลยสักข้อ เขาเพิ่งจะช่วยเธอให้พ้นข่าวเสียหาย แต่เธอก็กลับมาสร้างเรื่องตีข่าวเพิ่มเสียเอง เธอเสียรู้คนอย่างเขาอีกเรื่อง สักวันเธอจะต้องเอาคืนให้แสบทรวง “ตกลงว่าไม่หย่าแล้วใช่ไหม” ชายหนุ่มเลิกคิ้วถามอย่างเป็นต่อ ทว่ารอยยิ้มของเขากลับฝังแน่นในใจของเธอ รอยยิ้มที่ต้องเอาคืน “ที่โรงแรมผมยังมีหลักฐานเก็บไว้ทุกอย่าง ผมส่งพวกนั้นให้ทางตำรวจไปแล้ว แต่ที่ผมต้องปิดข่าวเงียบเพราะเป็นห่วงชื่อเสียงของคุณกับโรงแรม คงไม่เป็นการดีถ้าจะมีคนรู้ว่าระบบป้องกันของเราบกพร่องจนเกือบเกิดเรื่องร้ายๆ ขึ้น ตอนนั้นคิดว่าถ้าคุณไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล คุณก็จะรู้เองว่าไม่ได้โดนข่มขืน แต่ผมก็คิดผิดถนัด มันกลับทำให้เรื่องราวบานปลายมาถึงขนาดนี้” พอเขาอธิบายเสียงนุ่มแบบไม่แกล้งหญิงสาวก็เริ่มรู้สึกดี “รษาต้องขอโทษและขอบคุณคุณมากนะคะ ขอโทษที่เข้าใจคุณผิดมาตั้งนาน” รษาเสียงอ่อนลงเพราะรู้ตัวว่าผิดที่ไม่ฟังเหตุผลจน เถียงไม่ออก แต่แทนที่คนถูกขอโทษจะพอใจ แต่เขากลับตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ประหนึ่งว่าเขาเสียหายอย่างร้ายแรง “ไม่ ไม่เด็ดขาด ผมไม่ยกโทษให้คุณ คุณทำให้ผมตกเป็นจำเลย ทำให้ผมโดนพี่ชายคุณชกตั้งหลายหมัดจากความเข้าใจผิดคิดไปเองของคุณ คุณต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น” “รับผิดชอบยังไงคะ” “คุณต้องอยู่กับผมที่นี่กับผม ปลอบใจ เป็นกำลังใจ ดูแลใส่ใจแค่นี้แหละ” “มันจะไม่มากไปหน่อยหรือลุง คุณไม่ได้เสียหายอะไรสักนิด เราจดทะเบียนกันแค่ในนาม แล้วเราก็ค่อยหย่าทีหลังก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร รษาคิดว่าไม่จำเป็นที่ต้องทำถึงขนาดนั้น” รษาค้านออกมาในที แต่เธอก็ยังไม่กล้าสบตา และพูดไม่เต็มเสียงนัก “จำเป็นที่สุด เพราะผมไม่คิดจะแต่งกับคุณแค่ในนาม แล้วก็อย่าคิดว่าคุณจะหนีผมไปได้ง่ายๆ” หญิงสาวสะดุดกับคำบอกของเขา ‘เขาจริงจังอย่างนั้นหรือ’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD