Episode-๐๓ น่ารักดี

1446 Words
“วันนี้ไม่ออกไปไหนเหรอคะ” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยก่อนจะนั่งลงข้างผม “ไปค่ะ หนูจะไปกับพี่ไหม” “ไปค่ะ!!” ฉีกยิ้มกว้างรอเชียวครับ “ไม่ถามหน่อยเหรอว่าไปไหน?” “ไม่ถามหรอก ถ้าพี่ชวนแสดงว่าที่นั่นปลอดภัยหนูไปได้” ใช่ครับ ถ้ามันอโคจรหรือรายล้อมไปด้วยสิ่งไม่ดีผมไม่ให้น้องไปอยู่แล้ว “แต่งตัวสวย ๆ นะ” “ได้เลย” สองทุ่มก็มาถึงบ้านไอ้มิวครับ คนเยอะพอสมควร “งานเลี้ยงอะไรเหรอคะ” “วันเกิดลุงมัดน่ะ” “อ๋อ...” “กูจำได้ว่าเมื่อวานไม่ใช่คนนี้นี่หว่า” เพื่อนในกลุ่มแซวขึ้นเมื่อเห็นผมจูงมือเพียงฝันเข้ามา “มุขโคตรโบราณเขาเลิกเล่นกันแล้ว” “ไอ้สัสทำเฉไฉ” สนิทจริง ๆ เท่านั้นแหละครับที่จะรู้ว่าเพียงฝันเป็นน้องสาวผม ส่วนที่เหลือก็คบได้แต่ไม่ได้ถึงขั้นเพื่อนรักเพื่อนตายเท่านั้นเอง “พี่ ๆ สวัสดีค่ะ” ... : ครับ เพียงฝันสนิทกับเพื่อนผมเกือบทุกคนครับ ที่ซี้เลยก็ไอ้จุ้นห่าวนั่นแหละ “ตัวเล็ก ทางนี้” เห็นไหมครับ ผิดจากที่ผมบอกซะที่ไหนกัน แค่เอ่ยปากเรียกเจ้าตัวก็เดินดุ๊กดิ๊กไปนั่งด้วยแล้ว “ไอ้ปั้นกูมีอะไรจะสารภาพกับมึงด้วยแหละ” คล้อยหลังน้องไอ้มิวก็พูดขึ้น “ว่า?” “อย่าโกรธกูนะ” “พูดมาสิ” “คือกูไม่รู้ว่าพ่อกูรู้จักกับพ่อพี่เอิง” “แล้ว?” “ก็เขามาด้วย คือพ่อกูเชิญไป” “ช่างสิ เรื่องของเขา” ตอบออกไปอย่างไม่ใส่ใจมากนัก ถึงจะเลิกกันได้ไม่นานแต่ผมก็โอเคแล้วครับ ไม่ถึงกับดีขึ้นมากแต่ก็ไม่ได้แย่ลง เวลาสามปีถามว่านานไหมมันก็นาน ช่วงแรกยอมรับว่าอยู่ไม่ได้ แต่พอนานวันเข้าความรู้สึกมันกลับเฉยไปเอง อาจจะมีบ้างบางเวลาที่เข้าไปส่องโซเชียลของเขา แต่ก็นั่นแหละครับเขาก็มีความสุขดีไม่ได้ทุกข์ร้อนจะเป็นจะตายเหมือนผมด้วยซ้ำ เห็นแบบนั้นก็เลิกสนใจเขาแล้วหันมาสนใจตัวเองจริง ๆ สักที “กูไม่คิดว่ามึงจะทำใจได้จริง ๆ นะเนี่ย” “หรือว่ามึงมีสาวน้อยในดวงใจแล้ว?” ไอ้แก้มแทรกขึ้นมาบ้าง “กูว่าต้องใช่แน่ ๆ” “ไม่มี” ตอบออกไปตามความจริง ที่คุย ๆ ก็มีบ้างแต่ไม่ได้เป็นอะไรกัน เป็นความสัมพันธ์ที่สบายใจกันทั้งสองฝ่ายเพราะไม่ได้เอาหัวใจหรือเอาความรู้สึกลงไปเล่น แค่สนุก ๆ เท่านั้นเอง “พอเลิกสนใจเขาแล้วชีวิตกูง่ายขึ้นเยอะเลย ตอนนั้นประสาทจะแดกทุกวัน เขาคุยกับใคร เขาทำอะไรที่ไหน ระแวง คิดไปต่าง ๆ นา ๆ คงเป็นเพราะตอนนั้นกูเอาหัวใจไปไว้ที่เขามากเกินไปมั้ง แต่ตอนนี้ไม่อะไรแล้วรู้สึกว่าการใช้ชีวิตของตัวเองมีความสุขมากขึ้นเยอะเลย” “แน่สิ! สาว ๆ รอบเอวขนาดนั้น” “เขาเรียกว่าบริหารเสน่ห์” “เอาที่มึงสบายใจเลย เห็นมึงไม่ทำหน้าเบื่อโลกพวกกูก็ดีใจแล้ว” แค่เพียงไม่นานเอิงเอยก็มาครับ เขาก็มากับครอบครัวเขานั่นแหละ “ไงเรา” “สวัสดีครับ” ผมยังคงยกมือไหว้ทักทายพ่อแม่ของเธออย่างเช่นทุกครั้ง “อาทิตย์หน้าลุงนัดกันไปเที่ยวเราไปด้วยไหม” “คงไม่ได้ไปครับเพราะอีกสองสามวันนี้ผมต้องฝึกงานแล้ว” “งั้นไว้คราวหน้าแล้วกันนะ” “ครับ” บทสนทนาจบลงเพียงเท่านี้ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าเหมือนว่าลุงโอมจะอยากพูดอะไรกับผมนะ แต่ช่างเถอะ! “เขารู้ไหมว่ามึงเลิกกันแล้ว” ไอ้เคมีเอ่ยหลังจากฟังอยู่นาน “รู้สิ แต่เขาเป็นเพื่อนรักของพ่อกูไงจะไม่ให้พูดคุยกันเลยมันก็ไม่ได้อีก” “กูล่ะอึดอัดแทน” ตอนแรกผมก็อึดอัดครับ มันทำตัวไม่ถูก แต่ตอนนี้เฉย ๆ ผมจะเลิกหรือไม่เลิกกันความสัมพันธ์ของพ่อกับลุงโอมก็ยังเหมือนเดิมอยู่ดีนั่นแหละ ทุกอย่างดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงช่วงเวลาของการเป่าเค้ก ... : พี่มิว ใกล้ได้เวลาแล้วนะคะ น้ำเสียงใสของใครบางคนดังขึ้นก่อนหยุดยืนตรงหน้าผม ไม่รู้ว่าน้องจำได้หรือเปล่าแต่ผมน่ะจำแม่นเลย “เดี๋ยวกูมานะ” ไอ้มิวหันมาบอกพวกผมแล้วลุกออกไปจากตรงนี้เพื่อไปเตรียมเค้กนั่นแหละ “สนใจเหรอวะ” “เปล่า” “ในโลกใบนี้มึงโกหกใครก็ได้นะ แต่ไม่ใช่พวกกูที่เป็นเพื่อนสนิทมึง” ไอ้แก้มเอ่ยพลางมองตามคนทั้งคู่ไปจนสุดสายตา “นั่นเสียงเพลงน้องสาวไอ้มิวมัน น่าจะรุ่นเดียวกับน้องสาวมึงนั่นแหละ” “คนนี้เหรอที่มันบอกว่าอกหักร้องไห้สามวันสามคืน” “เออ มันก็มีอยู่คนเดียวแต่น้องอยู่ต่างจังหวัดกับยายไงเพิ่งย้ายมานี่แหละ” “อืม เคยได้ยินแต่ชื่อไม่เคยเห็นหน้าจริง ๆ สักที” “ก็เห็นซะ น่ารักด้วยคิกคิก มึงว่าไง” “อะไร?” “พี่กำปั้นคะกูเป็นเพื่อนสนิทมึงค่ะ เรียนมาด้วยกันตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยจนตอนนี้หอยเท่าฝาบ้านแล้ว แค่มองตามึงกูก็รู้แล้วค่ะ” “ไม่ได้อะไรนี่ ก็น่ารักดี” “ฮั่นแน่...” “...” ตลอดงานผมก็เฮฮาไปตามประสา ดื่มเล่นกันปกติจนเผลอไปสบตากับเอิงเอยโดยไม่ตั้งใจ เรามองหน้ากันนิ่ง ๆ สายตาเธอมันบอกอะไรเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดขณะที่ผมมีแต่ความว่างเปล่า “สวัสดีค่ะ” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วของใครบางคนทำให้ผมละสายตาจากตรงนั้นมาสนใจคนตรงหน้าแทน “พี่จำหนูได้ไหม?” ฉีกยิ้มกว้างจนเห็นเหล็กจัดฟันสีสวยเชียวครับ “จำได้ครับ” “ขอโทษอีกครั้งนะคะทำเสื้อพี่เลอะด้วย” “ไม่เป็นไรครับ” ผมว่ายิ้ม ๆ “ไม่ยักรู้ว่าเราเป็นน้องไอ้มิวนะเนี่ย” “ไม่แปลกหรอกค่ะหนูไม่ได้อยู่ที่นี่เพราะยายขอเลี้ยงเองตั้งแต่เล็ก ๆ เพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เองค่ะ” ประโยคยาว ๆ ยังคงเอ่ยออกมาพร้อมกับความสดใส น้องยิ้มเก่งมากครับ “ว่าแต่...ช่างเถอะ” เหมือนจะพูดอะไรแต่ก็เปลี่ยนใจไม่พูดอีก “แต่อะไร” “ถามได้เหรอคะ? มันจะดูละลาบละล้วงเกินไปหรือเปล่า” “ถามมาครับ” “พี่เจ็บหรือเปล่า หนูเห็นมีเรื่องกัน” “ไม่หรอก ก็เท่าที่เราเห็นนั่นแหละ” “จริงเหรอคะ แต่หนูเห็น...” “เสียงเพลง! ออกห่างจากมันเดี๋ยวนี้เลย” ไม่พูดเปล่าไอ้มิวยังรั้งน้องไปด้านหลังตัวเองอีกด้วย “มึงทำให้กูดูแย่” ... : ฮ่า ๆ ๆ “มึงน่ะตัวดีเลย นี่น้องสาวกูห้ามยุ่ง!” “เมื่อวานน้องมึงชนกู ขอโทษทีพอดีพรหมลิขิตไว้ก่อนแล้ว” ผมว่ายิ้ม ๆ ไม่ได้อะไรแค่กวนประสาทมันเท่านั้นเอง “ไม่ต้องบอกกูก็รู้ ไม่ต้องรอให้ใครลิขิตหรอก” “อะไรของมึงวะช่วยขยายความหน่อย” ไอ้เคมีแทรกขึ้นมาบ้าง “กูเป็นเพื่อนมึงมานานยังไม่เห็นมีผู้หญิงคนไหนทำให้มึงละสายตาจากพี่เอิงได้สักที เพิ่งเห็นก็วันนี้แหละ” “ก็ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วนี่หว่า ไม่อยู่ในสายตากูก็ถูกแล้ว” “แต่เป็นน้องกูที่อยู่ในสายตามึงแทน” “ไร้สาระ!” “อย่าตกหลุมพรางมันเข้าล่ะ” ถึงกับส่ายหน้าให้ครับ แทนที่จะสนใจคำพูดของผมมันกลับหันไปบอกน้องแทน “ไอ้นี่มันเจ้าชู้” “เหมือนพี่ใช่ไหมคะ?” “เสียงเพลง!” ... : ฮ่า ๆ ยิ่งดึกก็ยิ่งสนุกครับ ผู้ใหญ่ทยอยกลับกันเกือบหมดแล้ว เหลือแต่พวกผมแล้วก็คนอื่นอีกนิดหน่อย “เดี๋ยวกูมานะ” หันไปบอกพวกมันแล้วแยกตัวออกมาสูบบุหรี่ด้านนอก “ไหนว่าเลิกแล้วไง” “...” ผมเงียบไม่ได้ตอบอะไร แล้วก็ไม่ได้หันไปมองด้วย “เป็นยังไงบ้าง นายดูผอมลงเยอะเลย” “ยังไม่ตายสบายดี” “...” “มีอะไรจะพูดอีกไหม? ถ้าไม่มีผมขอตัว” “น้องเสียงเพลงน่ารักดีนะ เห็นนายแอบมองบ่อย ๆ” “ใช่! น่ารัก” “...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD