Episode-๐๑ รักแรก

1823 Words
“เราเลิกกันเถอะ” “ชอบมันแล้วดิถึงได้บอกเลิกผม” “มันไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้นแหละ นายเลิกโทษคนอื่นแล้วย้อนมองตัวเองบ้างได้ไหม” “ไม่ต้องหาเหตุผมมาอ้างหรอกใครมันจะไปดีเหมือนไอ้เวรนั่นของพี่ล่ะ” “กำปั้น!” “อยากเลิกนักก็จะเลิกให้ ที่ผ่านมาพี่เป็นฝ่ายอยากเลิกมาตลอดอยู่แล้วนี่” แล้วทุกอย่างก็จบลงตามความต้องการของเธอ... ผมกับเอิงเอยเราคบกันมาสามปีแล้วครับ ตั้งแต่ตอนที่ผมยังเรียนอยู่มัธยมต้นนั่นแหละ เขาโตกว่าสองปี ระหว่างเราเป็นความสัมพันธ์เรื่อย ๆ ที่อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ตลอด ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเอยเป็นลูกของเพื่อนรักพ่อล่ะมั้งความสัมพันธ์ของเราจึงถูกจับตามองเป็นพิเศษ “เป็นไรของมึงวะ หงุดหงิดอะไรอีก” ไอ้เคมีเอ่ย “เป็นคนโสด” “อย่างมึงเนี่ยนะโสด เดี๋ยวพี่เอิงเอยคนสวยได้ยินก็โกรธอีกหรอก” “โกรธอะไร กูก็โสดตามความต้องการของเขาแล้วไง” ...: เชี่ย! “กูจะรอดูว่าครั้งนี้จะเลิกได้สักกี่วัน” “ไอ้จุ้น มึงช่วยพูดอะไรที่มันเข้าหูหน่อยได้ไหม” “เชี่ยมิว! กูชื่อจุ้นห่าวมึงช่วยเรียกให้มันดี ๆ หน่อยได้ไหม” “ฮ่า ๆ เออ” ไม่แปลกหรอกที่เพื่อนจะพูดแบบนั้นเพราะทุกครั้งที่ทะเลาะกันผมจะเป็นฝ่ายถูกบอกเลิกเสมอและก็เป็นฝ่ายยอมมาตลอด แต่ครั้งนี้ต่างออกไปตรงที่ผมเหนื่อย ... เหนื่อยที่จะตาม ตามทั้งที่บางครั้งผมไม่ผิด หลายวันผ่านไป เป็นหลายวันที่เอาแต่เก็บตัวเงียบไม่สุงสิงกับใครจนถูกจับสังเกตได้ “อกหักเหรอคะ?” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยก่อนจะทิ้งตัวลงหนุนตักผมอย่างเช่นทุกครั้ง “ใช่ค่ะ” “หืม...” ได้ยินแบบนั้นเจ้าตัวถึงกับลุกขึ้นนั่งทันที “พี่เลิกกับพี่เอิงแล้วเหรอ” “อืม” “เย้! ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง” เสียงร้องดีใจดังขึ้นก่อนจะฉีกยิ้มกว้างมาให้ผม “หนูรอนานมากกว่าจะถึงวันนี้และยังยืนยันคำเดิมค่ะว่าไม่ชอบขี้หน้า!” แต่ไหนแต่ไรเพียงฝันไม่เคยสนับสนุนให้ผมกับเอยคบกันอยู่ก่อนแล้วครับ เช่นเดียวกันกับพ่อนั่นแหละแต่เหตุผลต่างกันแค่นั้นเอง “คนอะไรเอาแต่ใจชะมัด! คิดว่าเป็นนางฟ้าเหรอคนอื่นถึงต้องคอยปรนนิบัติให้ ไม่ใช่สิ! นางฟ้าเขาต้องใจดีและเมตตาคนอื่นแต่นี่อะไร” “พูดมากเกินไปแล้วมั้ง” ผมว่าพลางยื่นมือไปจับแก้มยุ้ย ๆ นั่นด้วยความมันเขี้ยว ที่เพียงฝันพูดผมไม่โกรธหรอกครับ น้องก็พูดไปตามสิ่งที่ตัวเองเห็นนั่นแหละ “อย่าเสียใจไปเลยค่ะ ในโลกใบนี้ไม่ได้มีแค่พี่เอิงหรอกที่พี่คิดจะรัก” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วยังคงเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “ไปแต่งตัวหล่อ ๆ ค่ะแล้วก็พาหนูไปกินไอศกรีมด้วย” “เดี๋ยวนะ พี่ว่ามันฟังดูแปลก ๆ ก่อนหน้าเราไม่ได้คุยกันเรื่องนี้นี่” “ก็...คิกคิก” หลังจากได้คำปลอบใจไร้ซึ่งความปราณีจากน้องแล้วผมก็พาเจ้าตัวออกมากินไอศกรีมตามที่ต้องการครับ ปกติก็พามาประจำนั่นแหละ ผู้หญิงที่ผมยอมรองจากแม่ก็คือเพียงฝัน นอกเหนือจากนี้ยังไม่เจอครับ พ่อสอนเสมอว่าคบใครอย่าไปเปลี่ยนเขาแต่ให้เราเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในชีวิตของเขาแทน ที่ผ่านมาผมทำแบบนั้นมาตลอดแต่ดูเหมือนว่าผมจะไม่เคยได้เข้าไปอยู่ในชีวิตของเขาเลยสักครั้งเดียว “พี่เลิกกับพี่เอิงทำไมเหรอคะ” คำถามของเพียงฝันทำให้ผมเลิกคิดเรื่องไร้สาระแล้วหันมาสนใจเจ้าตัวอีกครั้ง “เรื่องเดิม ๆ ก็เขาอยากเลิกพี่ก็เลิกให้” “หนูหวังว่าคราวนี้พี่จะเลิกได้จริง ๆ นะคะ” น้องพูดกับผมก็จริงแต่กลับเสมอสายตาไปอีกด้านหนึ่ง ผมจึงมองตามบ้าง... “คนนี้แหละพี่แชมป์” เพียงฝันพยายามบอกผมมาตลอด ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อน้องนะ แค่ยังไม่เคยเห็นกับตาเท่านั้นเอง “ห้ามไปต่อยเขานะคะ ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีค่าถึงขนาดที่พี่ต้องรัวกำปั้นใส่หรอก” “...” ผมยังคงเงียบแล้วมองตามคนทั้งคู่ที่กำลังจูงมือกันผ่านหน้าไป ถึงตอนนี้เข้าใจแล้วครับ ผมคงไม่ต้องตามหาเหตุผลของการเลิกราในครั้งนี้อีกแล้วล่ะ “ดื่มไหมคะ? เดี๋ยวหนูอยู่เป็นเพื่อนเอง” “ไม่ค่ะ พรุ่งนี้หนูต้องไปโรงเรียน” ผมว่าพลางยื่นมือไปลูบศีรษะน้องอย่างนึกเอ็นดู ทุกครั้งที่ทะเลาะกันก็มีแต่เพียงฝันนี่แหละที่อยู่เป็นเพื่อนเพื่อที่ว่ากลับบ้านไปผมจะได้ไม่โดนพ่อหรือแม่ด่า เพราะทุกครั้งที่ดื่มไม่กลับบ้านดึกก็เช้ามืดนั่นแหละ “พี่โอเคแน่นะคะ” “แน่ครับ” รักครั้งแรกมันอาจจะลืมยากแต่เชื่อสิว่ามันลืมได้ครับ ออกจากร้านไอศกรีมผมก็พายัยตัวแสบเดินซื้อของใช้ตามปกติ แต่ไม่รู้จะเรียกว่าบังเอิญได้ไหมที่ดันเจอใครบางคนตรงโซนนี้เช่นกัน “กะ กำปั้น” “ใครเหรอ?” ไอ้เวรที่มาด้วยเอ่ยถามขึ้น แต่อะไรก็ไม่ทำให้ผมสนใจเท่าสองมือที่กำลังผสานกันอยู่หรอก “รุ่นน้องน่ะค่ะ” “อ๋อ...” ขานรับอย่างเข้าใจแล้วหันไปเลือกของใช้ต่อโดยไม่สนใจผมเลยด้วยซ้ำ ดูท่าทางแล้วมันจะเชื่อใจเอยมากเลยนะ หรือบางทีอาจจะลึกซึ้งมากกว่าผมก็ได้ แต่ช่างเถอะเพราะถึงยังไงก็ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว ต่อให้หวงก็ต้องทำเฉยครับ “เราไปทางอื่นกันดีกว่าค่ะ” เพียงฝันพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบก่อนจะรั้งแขนผมให้เดินไปจากตรงนี้ แต่เดินไปไม่ไกลก็ถูกรั้งไว้อีกครั้ง หมับ! “หวังว่านายจะไม่ทำให้พี่เสียหายหรอกนะ” “...” “เสียหายอะไรไปเพ้อเจ้อไกล ๆ ค่ะ เลิกกันแล้วพี่จะควงใครก็เรื่องของพี่ ไม่ต้องห่วงครั้งนี้พี่ชายหนูไม่ตามตื้อพี่อีกแล้วแน่นอน” เพียงฝันร่ายประโยคยาว ๆ ออกมาโดยไม่เปิดโอกาสให้เอยได้พูดอะไรออกมาอีก “ขอตัวก่อนนะคะพอดีมีธุระต่อ” มาถึงลานจอดรถเจ้าตัวถึงกับกอดอกหน้ามุ่ยเชียวครับ “ตกลงพี่หรือหนูกันแน่ที่ต้องเครียด” ผมว่ายิ้ม ๆ “หนูไม่ชอบเลย! ถ้าคราวนี้พี่ยังกลับไปง้อเขาอีกหนูจะเอาเขาควายมาใส่หัวพี่ไว้แทน” น้ำเสียงจริงจังเอ่ยก่อนจะมองหน้าผมเขม็ง “แต่เขาก็เป็นรักแรกของพี่ แต่ก็ เฮ้อ...” “ฮ่า ๆ เรานี่นะจริง ๆ เลย” ไอ้เครียดก็เครียดแหละแต่มันก็อดยิ้มให้กับท่าทีของคนตรงหน้าไม่ได้เลย “พี่จะเข้าสนามจะไปด้วยกันไหม” “มีใครอยู่บ้างคะ พี่จุ้นห่าวอยู่ด้วยหรือเปล่า” “อยู่กันหมดนั่นแหละ” “งั้นไปค่ะ” จุ้นห่าวมันเป็นเพื่อนในกลุ่มผมเองแหละ เป็นสาวหล่อที่เพียงฝันชอบกวนประสาท ไม่สิ! มันเองก็ชอบกวนน้องผมเหมือนกัน กิจวัตรประจำวันของผมวนเวียนอยู่กับรถครับ ไม่ลงสนามก็รื้อนั่นแต่งนี่ไปตามประสา “ฝนจะแล้งไหมเนี่ยมึงเข้าสนามในรอบสามเดือน” มาถึงปากหมา ๆ ของไอ้เคมีก็ทำงานทันทีครับ “ต่อไปอาจจะไม่ได้เข้ามาแล้วก็ได้” “ทำไมวะ นี่มึงอกหักจนสมองเพี้ยนไปแล้วเหรอ” “กูฝึกงานครับ” เราเรียนคนละสายกันครับทั้งกลุ่มมีไอ้เคมีคนเดียวที่เรียนสายสามัญ จบมัธยมปลายแล้วก็รอเข้ามหาวิทยาลัยอย่างเดียว ต่างจากพวกผมที่เรียนสายอาชีพ “โทษทีกูลืมนึกไป” ระหว่างนี้ก็พูดคุยกันไปเรื่อยอย่างเช่นทุกวันจนไอ้มิวสิคตั้งคำถามแทงใจขึ้นมา “มึงเลิกกับพี่เอยแล้วเหรอกูเห็นเขาขึ้นสถานะเปิดตัวกับใครในโซเชียลเนี่ย” ไม่พูดเปล่ามันยังหันจอมือถือมาให้ผมดูอีกด้วย “เลิกแล้ว” “ทำไมวะ” “ก็ตามนั้น” ตอบออกไปอย่างไม่ใส่ใจมากนักทั้งที่ในใจร้อนรนจนแทบจะทนไม่ไหว แต่อีกความรู้สึกหนึ่งมันก็เหนื่อยเกินกว่าจะรั้งไว้แล้ว “เราลากันมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้คงเป็นการลากันจริง ๆ แล้วล่ะ” “เอาน่า... คนที่มึงจะรักคงไม่ได้มีแค่พี่เอยคนเดียวหรอก” “พูดเหมือนน้องกูเลย” “ฮ่า ๆ ก็มันเรื่องจริง ออกจากสนามไปมึงอาจจะเจอสาวน้อยที่ถูกตาถูกใจก็ได้ใครจะไปรู้” มันว่าพลางกอดคอเป็นการให้กำลังใจผม “สิ่งที่มึงควรทำมากที่สุดคือการปล่อยเขาไป ให้เกียรติเขาด้วยการไม่ยุ่งวุ่นวายกับเขาอีก แล้วมึงก็กลับมารักตัวเอง แค่นี้ชีวิตก็มีความสุขแล้วเว้ย” “ใช่ค่ะ! หนูเห็นด้วย” ไม่รู้ว่าเพียงฝันมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่แน่ ๆ คงได้ยินทุกอย่างหมดแล้วแถมยังฉีกยิ้มที่โคตรจะสดใสให้ผมอีกครับ สองทุ่มผมมาส่งน้องที่บ้านก่อนแล้วพาตัวเองมาสิงกันอยู่ที่บ้านไอ้มิวแทน “วันอะไรวะมีแต่คนอกหัก” “ใครอกหักอีกวะ กูเห็นมีแค่ไอ้ปั้นคนเดียว” แก้มใสเอ่ย มันเป็นลูกของลุงกายเพื่อนสนิทของพ่อผมอีกนั่นแหละ แล้วก็เป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มด้วย “น้องสาวกูไง ร้องไห้มาสามวันแล้ว” “มึงก็ปล่อยน้องร้องอยู่ได้ไปเรียกมาซิกูจัดการเอง” “ทำไม? มึงจะเรียกมาร้องคู่กับไอ้ปั้นเหรอ” “เออ” ...: ฮ่า ๆ กวนส้นตีนกันจริง ๆ เลย ผมเหรอจะร้องไห้ ผู้หญิงที่พร้อมจะเสียน้ำตาให้มีแค่แม่เท่านั้นแหละ “เรื่องของน้องกูช่างมันเถอะ ว่าแต่มึงเถอะไอ้ปั้นทำไมดูไม่เสียใจเลยวะ” “กูดูเฉยขนาดนั้นเลยเหรอ” “...” “กูขอตอบในฐานะผู้หญิง มึงดูชิวมากอะ อยากเลิกก็เลิกสิ สบาย ๆ เหมือนไม่แคร์อะไรเลย” ไอ้แก้มตอบเมื่อเห็นไอ้มิวเงียบไป “คนมันจะไปมึงจะให้กูรั้งอะไรล่ะ” “ต้องมีสักคนแหละที่มึงคิดจะรั้ง แต่ที่แน่ ๆ ไม่ใช่พี่เอิงเอยคนสวยแน่นอน” “...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD