มือเรียวยกขึ้นปาดเช็ดหยาดน้ำที่เกาะอยู่บนกระจกเงาออกจนเผยให้เห็นใบหน้าของตัวเองผ่านเงาสะท้อนที่อยู่ในนั้น แทบจะไม่เชื่อสายตาเลยสักนิดว่าคนที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือตัวเธอในตอนนี้
“เสียดายผมจัง” ภคมนโอดครวญ หลังจากตัดสินใจเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้ชายด้วยการตัดผมให้สั้น ใช้ผ้าพันสองเต้าไว้แล้วสวมใส่เสื้อยืดตัวใหญ่โคร่งเพื่อปิดบังเรือนร่างตามคำแนะนำของต้นไผ่ ถึงจะผ่านมาแล้วหลายวันแต่เธอก็ยังไม่ชินกับการเปลี่ยนแปลงของตัวเองสักที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องเล็กๆ ของเธอดังขึ้นทำให้หญิงสาวลอบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ถึงแม้การย้ายมาอยู่ที่ใหม่จะไม่มีลำดวนกับทองดีคอยจับตามองแต่เธอก็ต้องมาปวดหัวกับยี่หวาลูกสาวเจ้าของบ้านและร้านอาหารที่เธอมาสมัครงานแทน
“ไง” เธอเอ่ยถามเพียงสั้น ๆ เมื่อเปิดออกไปก็พบกับยี่หวายืนอยู่ตรงหน้าในสภาพที่มีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวปิดเรือนร่างเอาไว้
“พี่ตะวัน” หญิงสาวเอ่ยเรียกชื่อใหม่ที่เธอใช้ปิดตัวตนของตัวเองไว้ด้วยน้ำเสียงหวานหยาดเยิ้ม “จะลงไปทำงานแล้วเหรอจ๊ะ”
“มีอะไรเหรอยี่หวา” ภคมนแกล้งดัดเสียงให้ฟังดูนุ่มทุ้มกว่าปกติ พยายามเบนสายตามองไม่ทางอื่นไม่ให้ไปโฟกัสที่สองเต้าของอีกฝ่าย คิดว่ายี่หวาคงจะเข้าใจว่าเธอเป็นผู้ชายจริง ๆ จึงตั้งใจมายั่วแบบนี้แทบทุกวัน “พี่ว่าเราไปใส่เสื้อผ้าก่อนดีไหม”
“จะใส่ทำไมล่ะคะ” คนตัวเล็กกว่าพุ่งเข้ามาหาเธอแล้วสวมกอดแขนเรียวเอาไว้แนบแน่น “เดี๋ยวก็เสียเวลาถอดอีก”
“ยี่หวาทำอะไรเนี่ย อย่าทำอย่างนี้ ไม่เอา”
“ทำไมล่ะพี่ตะวัน พี่มาทำงานที่นี่ตั้งสองอาทิตย์แล้วนะ พี่ไม่รู้จริงๆ เหรอว่ายี่หวารู้สึกยังไงกับพี่อะ” หญิงสาวออดอ้อน มือก็ลูบไล้ไปตามแขนเรียวของเธอไปด้วย “จะว่าไปพี่ตัวเล็กกว่าที่คิดอีกนะเนี่ย แบบนี้ไอ้นั่นต้องใหญ่แน่ๆ เลย”
“ไอ้นั่นไอ้ไหน”
“ก็ตรงนี้ไงพี่” คราวนี้ไม่พูดเปล่า มือเรียวกลับยื่นเข้ามาตรงกลางกายด้วย ทำให้ภคมนต้องรีบเบี่ยงตัวหลบ โชคดีที่จังหวะนั้นปิ่นสุดา เจ้าของร้านซึ่งมีศักดิ์เป็นแม่ของยี่หวาเดินขึ้นมาตามเธอพอดี
“เจ๊ปิ่น”
“นังยี่หวา เอาอีกแล้วนะมึง เห็นผู้ชายเป็นไม่ได้” เสียงแหลมเล็กแสบแก้วหูดังลั่นเมื่ออีกฝ่ายขึ้นมาเห็นว่าลูกสาวกำลังมายั่วผู้ชายถึงห้อง คนกลัวผิดจึงรีบกระชับผ้าขนหนูแล้ววิ่งไปอีกทางก่อนจะปิดล็อกประตูไว้แน่นหนา “ไอ้ลูกเวร มึงออกมาเดี๋ยวนี้นะ”
“ใจเย็นก่อนครับเจ๊ ยี่หวายังไม่ได้ทำอะไรเลยครับ” ภคมนรีบเข้าไปห้ามไว้ก่อนจะลากปิ่นสุดาลงมาชั้นล่าง
“มึงปล่อยกูไอ้ตะวัน หรือว่ามึงตั้งจะงาบลูกสาวกูเหมือนกัน”
“เปล่านะเจ๊ ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้ชอบผู้หญิง ต่อให้ยี่หวาเขายั่วผมยังไงผมก็ไม่สนใจหรอก” หญิงสาวปฏิเสธ เห็นว่าเธอค่อนข้างบอบบาง ผิวพรรณไม่เหมือนผู้ชาย เจ้าของร้านก็คิดว่าเธอมีร่างกายเป็นชายแต่ใจเป็นสาว
“เออ กูเชื่อใจมึง แต่กูไม่เชื่อใจนังยี่หวามันหรอก คราวหลังถ้ามันยั่วมึงอีกมึงต้องรีบหนีให้ไวเลยนะเว้ย” ปิ่นสุดาเน้นย้ำอีกครั้งก่อนจะหันไปเก็บกวาดเพื่อจะเตรียมเปิดร้าน ภคมนจึงอาสาเป็นคนช่วย
หลังจากที่นั่งรถมาต่างจังหวัดตามคำแนะนำของต้นไผ่ เธอก็ตัดสินใจเดินหางานทำที่พัทยา เห็นว่าร้านขายก๋วยเตี๋ยวของปิ่นสุดากำลังรับสมัครพนักงาน เธอก็ลงทุนแต่งองค์ทรงเครื่องเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้ชายก่อนจะมาสมัครเป็นลูกมือและพนักงานเสิร์ฟในคราบของเด็กหนุ่มที่มาจากต่างจังหวัด
เธออ้างว่าทำเอกสารส่วนตัวหายไปเพราะกลัวว่าจะถูกจับได้ว่าเป็นผู้หญิง ซึ่งนับว่ายังโชคดีที่ทั้งสองไม่ได้เอะใจอะไร พอเห็นว่าเป็นผู้ชายก็รับเข้าทำงานเพราะภายในร้านมีแค่สองแม่ลูกอาศัยอยู่กันเพียงลำพังเท่านั้น
“สั่งอาหารหน่อยน้อง” เสียงลูกค้าสี่ห้าคนเอ่ยเรียกทำให้ภคมนรีบเดินไปรับออเดอร์ที่โต๊ะ เธอตั้งใจจดรายการอาหารอย่างก่อนจะนำไปให้ปิ่นสุดา
“มาจากไหนกันเหรอเนี่ย ไม่เคยเห็นหน้าเห็นตา” เจ้าของร้านกล่าวทักทายลูกค้าในขณะที่กำลังง่วนอยู่กับหม้อก๋วยเตี๋ยวตรงหน้า
“มาจากกรุงเทพฯ ครับ มาดูงานสร้างคอนโดฯ ใกล้ ๆ นี่เองครับเจ๊”
“คอนโดฯ ของพีเอชกรุปอะไรนั่นน่ะเหรอ ดูใหญ่โตเหมือนกันนะนั่น”
บทสนทนาของปิ่นสุดากับลูกค้าที่มาใหม่ในร้านทำให้ภคมนต้องหยุดชะงักเพราะรู้สึกคุ้นชื่อพีเอชกรุปขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“พีเอชกรุปเหรอพี่” เธอนำก๋วยเตี๋ยวไปเสิร์ฟให้แล้วแกล้งชวนคุยเพื่อสอบถามให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้คิดไปเอง
“ใช่ ของคุณเฟลิกซ์ไง รู้จักหรือเปล่าล่ะ”
“ห้ะ!” เมื่อได้ยินชื่อนั้น หญิงสาวก็หน้าซีดเผือดขึ้นมาทันที ไม่คิดว่าหนีเขามาแล้วก็ยังไม่พ้นสักที “ใช่เฟลิกซ์ ไพศาลบดินทร์หรือเปล่าครับ”
“นั่นแหละ เขาเพิ่งมาซื้อที่ดินเลียบหาดไว้ก็เลยมีแผนจะสร้างคอนโดฯ”
“ดูท่าเขาคงรวยมากเลยนะครับ”
“ต้องรวยอยู่แล้วสิ สนใจจะมาทำงานกับพวกพี่ไหมล่ะ แต่หุ่นอย่างน้องนี่ผอมแห้งไปหน่อย ยกของหนักคงไม่ไหว ฮ่า ๆ” อีกฝ่ายเอ่ยแซวด้วยความชอบใจ แต่ภคมนกลับไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดนั้นเสียเท่าไหร่ เธอรีบหันไปเสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวต่อจนเสร็จก่อนจะนำถ้วยกลับเข้าไปล้างที่หลังร้านเพื่อสงบสติอารมณ์
“บ้าจริง...หนียังไงก็หนีไม่พ้นสักที คนพวกนั้นจะรู้ไหมว่านายเป็นมาเฟีย ฆ่าคนตายน่ะ” มือเรียวกำเข้าหากันแน่นด้วยความหวาดกลัว ดวงตารูปพระจันทร์เสี้ยวเหลือบมองตัวเองผ่านเงาสะท้อนบนกระจกเงาใบเล็กของยี่หวาอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเธอสามารถตบตาเขาได้ “ขนาดเจ๊ปิ่นกับยี่หวายังมองไม่ออกว่าเราเป็นผู้หญิง อีตาคิงคองยักษ์นั่นก็คงมองไม่ออกหรอก อีกอย่าง พัทยาก็ออกตั้งกว้างคงไม่บังเอิญเจอกันขนาดนั้นมั้ง”
“พี่ตะวัน” เสียงยี่หวาดังขึ้นทำให้ภคมนสะดุ้งด้วยความตกใจเพราะกำลังคิดหนักถึงวิธีหนีเอาตัวรอด
“มีอะไรอีกยี่หวา อย่าทำเหมือนเมื่อเช้าอีกนะ เดี๋ยวก็โดนเจ๊ปิ่นดุอีกหรอก”
“ไปตลาดเป็นเพื่อนหน่อยสิ” อีกฝ่ายออดอ้อนเสียงหวานทำให้เธอต้องเหลือบมองไปที่ปิ่นสุดา
“แต่พี่ต้องอยู่ช่วยเจ๊ปิ่นดูร้านนะยี่หวา”
“ก็แม่นั่นแหละบอกให้มาชวนพี่ แม่สั่งของตั้งเยอะ ยี่หวาพาไม่ไหวหรอก” ยี่หวาให้เหตุผล เธอจึงเดินกลับไปถามปิ่นสุดาให้แน่ใจอีกครั้ง
“เจ๊ให้ผมไปตลาดกับยี่หวาเหรอครับ”
“อืม จะฝากมันไปซื้อน้ำแข็งสักกระสอบแล้วก็ถั่วงอกมาเพิ่มน่ะ มันบอกมันพาไม่ไหวเลยให้ไปชวนแก” คนสูงวัยตอบพลางกระชับมีดปังตอในมือไว้แน่น “แต่แค่ไปซื้อน้ำแข็งนะโว้ย ถ้ามึงทำเหมือนเมื่อเช้าอีก มึงโดนดีแน่นังยี่หวา”
“ค่ะแม่ บอกพี่ตะวันเถอะว่าอย่ามาหลงเสน่ห์หนูเข้าก็แล้วกัน” พูดจบ ยี่หวาก็หยิบเงินในลิ้นชักเดินออกไปรอภคมนที่หน้าร้าน หญิงสาวจึงต้องตามออกไปเป็นคนขับมอเตอร์ไซค์ให้อีกฝ่ายนั่งซ้อน
“นั่งดี ๆ ล่ะ”
“ยี่หวากลัวตกน่ะ ขอกอดพี่หน่อยนะ” ว่าแล้วคนข้างหลังก็ตวัดกอดเอวบางไว้แน่นพลางกระชับใบหน้าลงบนแผ่นหลังเล็กจนคนขับรู้สึกได้ทันทีว่าทุกส่วนบนร่างกายมันแนบสนิทติดกันไปหมด
“ไม่ต้องกอดแน่นขนาดนั้นก็ได้ พี่ขนลุก บอกแล้วไงว่าพี่ไม่ได้ชอบผู้หญิง”
“ไม่ได้ชอบก็อย่าหวั่นไหวสิ ยี่หวาแค่กลัวตกไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย” อีกฝ่ายให้เหตุผลทั้งที่ยังสวมกอดเธอไว้แน่น “พี่ตะวันผอมมากเลยนะเนี่ย เอวก็บางร่างก็น้อย ถามจริงแอบเทคฮอร์โมนมาหรือเปล่า”
“อืม” ภคมนพยักหน้าหงึก เออออไปตามน้ำ
“ถึงว่าทำไมเหมือนจะมีหน้าอกด้วย อยากแปลงเพศเป็นผู้หญิงด้วยล่ะสิ”
“ถ้ามีเงินก็จะทำ”
“อย่างนี้ยี่หวาก็หมดหวังสิ ถ้าอย่างนั้นขอให้ยี่หวาลองสักครั้งก่อนที่พี่จะตัดมันออกได้ไหม”
“ไม่ได้! บอกแล้วไงว่าไม่ชอบผู้หญิง เดี๋ยวฟ้าก็ผ่าตายหรอก” หญิงสาวปฏิเสธทันควัน อย่าว่าแต่กับผู้หญิง ตั้งแต่เกิดมาเธอก็ยังไม่เคยจะลองเปิดใจทำเรื่องอย่างว่าเลยสักครั้ง
“ไม่ลองจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าพี่ชอบแบบไหน ดีไม่ดีพี่อาจจะไม่อยากแปลงเพศก็ได้”
“พอได้แล้วยี่หวา เห้ย!” พูดยังไม่ทันจบ รถยนต์อีกคันก็วิ่งมาตัดหน้าก่อนจะจอดขวางทางไว้ทำให้ภคมนรีบกำเบรกไว้แน่นด้วยความตกใจ “ขับรถประสาอะไรวะ”
“พี่วายุ” ยี่หวาเบิกตาโตด้วยความตกใจเมื่อเห็นเจ้าของรถปรี่เข้ามาหาเธอท่าทางเอาเรื่อง ภคมนเห็นท่าไม่ดีจึงหันไปกระซิบถาม
“ใครอะยี่หวา”
“พี่วายุเขาเป็นแฟนยี่หวาเอง พี่ตะวันรีบหนีไปก่อนเร็ว” หญิงสาวผลักภคมนออกไปแต่วายุก็รีบวิ่งมาขวางเอาไว้อีกครั้ง
“มึงจะไปไหนไอ้ตุ๊ด กูรู้นะว่ามึงจ้องจะงาบแฟนกูน่ะ”
“งาบบ้าอะไรของนาย ฉันไม่ได้ชอบผู้หญิงเว้ย” คนตัวเล็กกว่ารีบปฏิเสธเพราะไม่อยากมีเรื่อง
“ไม่ได้ชอบ แต่เมื่อกี้แฟนกูกอดเอวมึงซะแน่น มึงอย่าบอกนะว่ามึงไม่ได้คิดอะไร”
“ยี่หวาเป็นคนกอดพี่ตะวันเองนะพี่” ยี่หวาออกโรงปกป้อง เธอพยายามกอดวายุไว้แน่นเพื่อให้ภคมนได้วิ่งหนีไป แต่ก็ถูกคนตัวโตกว่าผลักจนล้มลงก้นกระแทกพื้น
“เดี๋ยวมึงเจอกู” พูดจบ วายุก็หันกลับไปที่รถเพื่อจะหยิบปืนขึ้นมา ตอนนั้นเองที่ยี่หวารีบบอกให้เธอวิ่งหนีไปอีกครั้ง
“พี่ตะวันหนีไปก่อนเร็ว”
“อะไรกันวะเนี่ย” ภคมนโอดครวญ จำเป็นต้องวิ่งหนีตายเพราะวายุกำลังหยิบปืนออกมาจากรถ เธอจึงต้องวิ่งหลบเข้าไปในร้านข้างทาง ทะลุผ่านไปยังถนนอีกฟาก ด้วยความกลัวตายจึงไม่ทันระวังจนรถที่ขับผ่านมาชนเข้าอย่างจัง
โครม!
เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่ว ดึงความสนใจให้คนที่อยู่บริเวณนั้นหันมามองกันเป็นทิวแถว
“โอ๊ย!” คนที่ถูกชนล้มลงบนถนน ศีรษะกระแทกกับพื้นคอนกรีตเต็มแรงจนมีเลือดไหลโชก ดวงตาพร่าเลือนพยายามจ้องมองคนขับที่กำลังก้าวลงมาจากรถพร้อมกับเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ตามลงมาด้วย
วินาทีที่ได้เห็นใบหน้านั้นใกล้ ๆ เธอก็แทบจะหยุดหายใจ พยายามขยับตัวถอยหนี ไม่คิดไม่ฝันว่าโลกมันจะกลมได้ขนาดนี้
“นี่คุณอีกแล้วเหรอ...” ภคมนโอดครวญ พยายามคิดในแง่ดีว่าเลือดที่กำลังไหลรกปรกหน้าลงมาทำให้เธอตาฝาดจนมองเห็นคนตรงหน้าเป็นเฟลิกซ์ “ปล่อยฉันไปเถอะ...”
หญิงสาวรีบถอยหนีแต่ก็ถูกธนาประคองเอาไว้ทำให้เธอไม่สามารถขยับไปไหนได้อีก
“ใจเย็นสิ อย่าเพิ่งลุกรอให้รถพยาบาลมาถึงก่อน”
“ไม่...ปล่อยผม ผมไหว...” พูดยังไม่ทันจบ หญิงสาวก็หมดสติไปในวงแขนของอีกฝ่าย เห็นสถานการณ์ไม่สู้ดี ธนาจึงเงยหน้าขึ้นถามเจ้านายเพื่อขอความคิดเห็น
“เอายังไงดีครับคุณเฟย”
“เดี๋ยวฉันจัดการเอง นายล่วงหน้าไปก่อนได้เลย” อีกฝ่ายออกคำสั่งทำให้ธนาต้องวางร่างที่ไร้สติลงท่ามกลางสายตาของชาวบ้านที่เข้ามามุงดูเหตุการณ์ด้วยความอยากรู้
“เอายังไงดีเนี่ย เป็นเพราะพี่คนเดียวเลย” ยี่หวาหันไปค้อนใส่วายุที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ข้าง ๆ ไม่กล้าจะเข้ามาแสดงตัวเพราะกลัวความผิด
“แล้วใครใช้ให้มึงไปยุ่งกับมันล่ะ”
“ก็บอกแล้วว่าพี่เขาไม่ได้ชอบผู้หญิงก็ยังไม่เชื่อ จะทำยังไงดีเนี่ย ถ้าแม่รู้ฉันต้องโดนดุแน่ ๆ” ยี่หวากุมขมับอย่างคนคิดหนัก และในจังหวะนั้นเองที่รถพยาบาลแล่นเข้ามาจอดหลังจากที่ธนาเป็นคนโทรเรียก หญิงสาวจึงรีบผละจากวายุเพื่อจะติดตามภคมนไปด้วย
“มึงจะไปไหน”
“ฉันจะไปโรงพยาบาลกับพี่ตะวัน”
“กูไม่ให้ไป มึงต้องไปคุยกับกูให้รู้เรื่อง” ว่าแล้วเขาก็ออกแรงลากยี่หวากลับไปที่รถของตัวเองทิ้งภคมนให้อยู่ที่นั่นแต่เพียงลำพัง
มือเรียวยกขึ้นปาดเช็ดหยาดน้ำที่เกาะอยู่บนกระจกเงาออกจนเผยให้เห็นใบหน้าของตัวเองผ่านเงาสะท้อนที่อยู่ในนั้น แทบจะไม่เชื่อสายตาเลยสักนิดว่าคนที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือตัวเธอในตอนนี้
“เสียดายผมจัง” ภคมนโอดครวญ หลังจากตัดสินใจเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้ชายด้วยการตัดผมให้สั้น ใช้ผ้าพันสองเต้าไว้แล้วสวมใส่เสื้อยืดตัวใหญ่โคร่งเพื่อปิดบังเรือนร่างตามคำแนะนำของต้นไผ่ ถึงจะผ่านมาแล้วหลายวันแต่เธอก็ยังไม่ชินกับการเปลี่ยนแปลงของตัวเองสักที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องเล็กๆ ของเธอดังขึ้นทำให้หญิงสาวลอบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ถึงแม้การย้ายมาอยู่ที่ใหม่จะไม่มีลำดวนกับทองดีคอยจับตามองแต่เธอก็ต้องมาปวดหัวกับยี่หวาลูกสาวเจ้าของบ้านและร้านอาหารที่เธอมาสมัครงานแทน
“ไง” เธอเอ่ยถามเพียงสั้น ๆ เมื่อเปิดออกไปก็พบกับยี่หวายืนอยู่ตรงหน้าในสภาพที่มีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวปิดเรือนร่างเอาไว้
“พี่ตะวัน” หญิงสาวเอ่ยเรียกชื่อใหม่ที่เธอใช้ปิดตัวตนของตัวเองไว้ด้วยน้ำเสียงหวานหยาดเยิ้ม “จะลงไปทำงานแล้วเหรอจ๊ะ”
“มีอะไรเหรอยี่หวา” ภคมนแกล้งดัดเสียงให้ฟังดูนุ่มทุ้มกว่าปกติ พยายามเบนสายตามองไม่ทางอื่นไม่ให้ไปโฟกัสที่สองเต้าของอีกฝ่าย คิดว่ายี่หวาคงจะเข้าใจว่าเธอเป็นผู้ชายจริง ๆ จึงตั้งใจมายั่วแบบนี้แทบทุกวัน “พี่ว่าเราไปใส่เสื้อผ้าก่อนดีไหม”
“จะใส่ทำไมล่ะคะ” คนตัวเล็กกว่าพุ่งเข้ามาหาเธอแล้วสวมกอดแขนเรียวเอาไว้แนบแน่น “เดี๋ยวก็เสียเวลาถอดอีก”
“ยี่หวาทำอะไรเนี่ย อย่าทำอย่างนี้ ไม่เอา”
“ทำไมล่ะพี่ตะวัน พี่มาทำงานที่นี่ตั้งสองอาทิตย์แล้วนะ พี่ไม่รู้จริงๆ เหรอว่ายี่หวารู้สึกยังไงกับพี่อะ” หญิงสาวออดอ้อน มือก็ลูบไล้ไปตามแขนเรียวของเธอไปด้วย “จะว่าไปพี่ตัวเล็กกว่าที่คิดอีกนะเนี่ย แบบนี้ไอ้นั่นต้องใหญ่แน่ๆ เลย”
“ไอ้นั่นไอ้ไหน”
“ก็ตรงนี้ไงพี่” คราวนี้ไม่พูดเปล่า มือเรียวกลับยื่นเข้ามาตรงกลางกายด้วย ทำให้ภคมนต้องรีบเบี่ยงตัวหลบ โชคดีที่จังหวะนั้นปิ่นสุดา เจ้าของร้านซึ่งมีศักดิ์เป็นแม่ของยี่หวาเดินขึ้นมาตามเธอพอดี
“เจ๊ปิ่น”
“นังยี่หวา เอาอีกแล้วนะมึง เห็นผู้ชายเป็นไม่ได้” เสียงแหลมเล็กแสบแก้วหูดังลั่นเมื่ออีกฝ่ายขึ้นมาเห็นว่าลูกสาวกำลังมายั่วผู้ชายถึงห้อง คนกลัวผิดจึงรีบกระชับผ้าขนหนูแล้ววิ่งไปอีกทางก่อนจะปิดล็อกประตูไว้แน่นหนา “ไอ้ลูกเวร มึงออกมาเดี๋ยวนี้นะ”
“ใจเย็นก่อนครับเจ๊ ยี่หวายังไม่ได้ทำอะไรเลยครับ” ภคมนรีบเข้าไปห้ามไว้ก่อนจะลากปิ่นสุดาลงมาชั้นล่าง
“มึงปล่อยกูไอ้ตะวัน หรือว่ามึงตั้งจะงาบลูกสาวกูเหมือนกัน”
“เปล่านะเจ๊ ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้ชอบผู้หญิง ต่อให้ยี่หวาเขายั่วผมยังไงผมก็ไม่สนใจหรอก” หญิงสาวปฏิเสธ เห็นว่าเธอค่อนข้างบอบบาง ผิวพรรณไม่เหมือนผู้ชาย เจ้าของร้านก็คิดว่าเธอมีร่างกายเป็นชายแต่ใจเป็นสาว
“เออ กูเชื่อใจมึง แต่กูไม่เชื่อใจนังยี่หวามันหรอก คราวหลังถ้ามันยั่วมึงอีกมึงต้องรีบหนีให้ไวเลยนะเว้ย” ปิ่นสุดาเน้นย้ำอีกครั้งก่อนจะหันไปเก็บกวาดเพื่อจะเตรียมเปิดร้าน ภคมนจึงอาสาเป็นคนช่วย
หลังจากที่นั่งรถมาต่างจังหวัดตามคำแนะนำของต้นไผ่ เธอก็ตัดสินใจเดินหางานทำที่พัทยา เห็นว่าร้านขายก๋วยเตี๋ยวของปิ่นสุดากำลังรับสมัครพนักงาน เธอก็ลงทุนแต่งองค์ทรงเครื่องเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้ชายก่อนจะมาสมัครเป็นลูกมือและพนักงานเสิร์ฟในคราบของเด็กหนุ่มที่มาจากต่างจังหวัด
เธออ้างว่าทำเอกสารส่วนตัวหายไปเพราะกลัวว่าจะถูกจับได้ว่าเป็นผู้หญิง ซึ่งนับว่ายังโชคดีที่ทั้งสองไม่ได้เอะใจอะไร พอเห็นว่าเป็นผู้ชายก็รับเข้าทำงานเพราะภายในร้านมีแค่สองแม่ลูกอาศัยอยู่กันเพียงลำพังเท่านั้น
“สั่งอาหารหน่อยน้อง” เสียงลูกค้าสี่ห้าคนเอ่ยเรียกทำให้ภคมนรีบเดินไปรับออเดอร์ที่โต๊ะ เธอตั้งใจจดรายการอาหารอย่างก่อนจะนำไปให้ปิ่นสุดา
“มาจากไหนกันเหรอเนี่ย ไม่เคยเห็นหน้าเห็นตา” เจ้าของร้านกล่าวทักทายลูกค้าในขณะที่กำลังง่วนอยู่กับหม้อก๋วยเตี๋ยวตรงหน้า
“มาจากกรุงเทพฯ ครับ มาดูงานสร้างคอนโดฯ ใกล้ ๆ นี่เองครับเจ๊”
“คอนโดฯ ของพีเอชกรุปอะไรนั่นน่ะเหรอ ดูใหญ่โตเหมือนกันนะนั่น”
บทสนทนาของปิ่นสุดากับลูกค้าที่มาใหม่ในร้านทำให้ภคมนต้องหยุดชะงักเพราะรู้สึกคุ้นชื่อพีเอชกรุปขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“พีเอชกรุปเหรอพี่” เธอนำก๋วยเตี๋ยวไปเสิร์ฟให้แล้วแกล้งชวนคุยเพื่อสอบถามให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้คิดไปเอง
“ใช่ ของคุณเฟลิกซ์ไง รู้จักหรือเปล่าล่ะ”
“ห้ะ!” เมื่อได้ยินชื่อนั้น หญิงสาวก็หน้าซีดเผือดขึ้นมาทันที ไม่คิดว่าหนีเขามาแล้วก็ยังไม่พ้นสักที “ใช่เฟลิกซ์ ไพศาลบดินทร์หรือเปล่าครับ”
“นั่นแหละ เขาเพิ่งมาซื้อที่ดินเลียบหาดไว้ก็เลยมีแผนจะสร้างคอนโดฯ”
“ดูท่าเขาคงรวยมากเลยนะครับ”
“ต้องรวยอยู่แล้วสิ สนใจจะมาทำงานกับพวกพี่ไหมล่ะ แต่หุ่นอย่างน้องนี่ผอมแห้งไปหน่อย ยกของหนักคงไม่ไหว ฮ่า ๆ” อีกฝ่ายเอ่ยแซวด้วยความชอบใจ แต่ภคมนกลับไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดนั้นเสียเท่าไหร่ เธอรีบหันไปเสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวต่อจนเสร็จก่อนจะนำถ้วยกลับเข้าไปล้างที่หลังร้านเพื่อสงบสติอารมณ์
“บ้าจริง...หนียังไงก็หนีไม่พ้นสักที คนพวกนั้นจะรู้ไหมว่านายเป็นมาเฟีย ฆ่าคนตายน่ะ” มือเรียวกำเข้าหากันแน่นด้วยความหวาดกลัว ดวงตารูปพระจันทร์เสี้ยวเหลือบมองตัวเองผ่านเงาสะท้อนบนกระจกเงาใบเล็กของยี่หวาอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเธอสามารถตบตาเขาได้ “ขนาดเจ๊ปิ่นกับยี่หวายังมองไม่ออกว่าเราเป็นผู้หญิง อีตาคิงคองยักษ์นั่นก็คงมองไม่ออกหรอก อีกอย่าง พัทยาก็ออกตั้งกว้างคงไม่บังเอิญเจอกันขนาดนั้นมั้ง”
“พี่ตะวัน” เสียงยี่หวาดังขึ้นทำให้ภคมนสะดุ้งด้วยความตกใจเพราะกำลังคิดหนักถึงวิธีหนีเอาตัวรอด
“มีอะไรอีกยี่หวา อย่าทำเหมือนเมื่อเช้าอีกนะ เดี๋ยวก็โดนเจ๊ปิ่นดุอีกหรอก”
“ไปตลาดเป็นเพื่อนหน่อยสิ” อีกฝ่ายออดอ้อนเสียงหวานทำให้เธอต้องเหลือบมองไปที่ปิ่นสุดา
“แต่พี่ต้องอยู่ช่วยเจ๊ปิ่นดูร้านนะยี่หวา”
“ก็แม่นั่นแหละบอกให้มาชวนพี่ แม่สั่งของตั้งเยอะ ยี่หวาพาไม่ไหวหรอก” ยี่หวาให้เหตุผล เธอจึงเดินกลับไปถามปิ่นสุดาให้แน่ใจอีกครั้ง
“เจ๊ให้ผมไปตลาดกับยี่หวาเหรอครับ”
“อืม จะฝากมันไปซื้อน้ำแข็งสักกระสอบแล้วก็ถั่วงอกมาเพิ่มน่ะ มันบอกมันพาไม่ไหวเลยให้ไปชวนแก” คนสูงวัยตอบพลางกระชับมีดปังตอในมือไว้แน่น “แต่แค่ไปซื้อน้ำแข็งนะโว้ย ถ้ามึงทำเหมือนเมื่อเช้าอีก มึงโดนดีแน่นังยี่หวา”
“ค่ะแม่ บอกพี่ตะวันเถอะว่าอย่ามาหลงเสน่ห์หนูเข้าก็แล้วกัน” พูดจบ ยี่หวาก็หยิบเงินในลิ้นชักเดินออกไปรอภคมนที่หน้าร้าน หญิงสาวจึงต้องตามออกไปเป็นคนขับมอเตอร์ไซค์ให้อีกฝ่ายนั่งซ้อน
“นั่งดี ๆ ล่ะ”
“ยี่หวากลัวตกน่ะ ขอกอดพี่หน่อยนะ” ว่าแล้วคนข้างหลังก็ตวัดกอดเอวบางไว้แน่นพลางกระชับใบหน้าลงบนแผ่นหลังเล็กจนคนขับรู้สึกได้ทันทีว่าทุกส่วนบนร่างกายมันแนบสนิทติดกันไปหมด
“ไม่ต้องกอดแน่นขนาดนั้นก็ได้ พี่ขนลุก บอกแล้วไงว่าพี่ไม่ได้ชอบผู้หญิง”
“ไม่ได้ชอบก็อย่าหวั่นไหวสิ ยี่หวาแค่กลัวตกไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย” อีกฝ่ายให้เหตุผลทั้งที่ยังสวมกอดเธอไว้แน่น “พี่ตะวันผอมมากเลยนะเนี่ย เอวก็บางร่างก็น้อย ถามจริงแอบเทคฮอร์โมนมาหรือเปล่า”
“อืม” ภคมนพยักหน้าหงึก เออออไปตามน้ำ
“ถึงว่าทำไมเหมือนจะมีหน้าอกด้วย อยากแปลงเพศเป็นผู้หญิงด้วยล่ะสิ”
“ถ้ามีเงินก็จะทำ”
“อย่างนี้ยี่หวาก็หมดหวังสิ ถ้าอย่างนั้นขอให้ยี่หวาลองสักครั้งก่อนที่พี่จะตัดมันออกได้ไหม”
“ไม่ได้! บอกแล้วไงว่าไม่ชอบผู้หญิง เดี๋ยวฟ้าก็ผ่าตายหรอก” หญิงสาวปฏิเสธทันควัน อย่าว่าแต่กับผู้หญิง ตั้งแต่เกิดมาเธอก็ยังไม่เคยจะลองเปิดใจทำเรื่องอย่างว่าเลยสักครั้ง
“ไม่ลองจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าพี่ชอบแบบไหน ดีไม่ดีพี่อาจจะไม่อยากแปลงเพศก็ได้”
“พอได้แล้วยี่หวา เห้ย!” พูดยังไม่ทันจบ รถยนต์อีกคันก็วิ่งมาตัดหน้าก่อนจะจอดขวางทางไว้ทำให้ภคมนรีบกำเบรกไว้แน่นด้วยความตกใจ “ขับรถประสาอะไรวะ”
“พี่วายุ” ยี่หวาเบิกตาโตด้วยความตกใจเมื่อเห็นเจ้าของรถปรี่เข้ามาหาเธอท่าทางเอาเรื่อง ภคมนเห็นท่าไม่ดีจึงหันไปกระซิบถาม
“ใครอะยี่หวา”
“พี่วายุเขาเป็นแฟนยี่หวาเอง พี่ตะวันรีบหนีไปก่อนเร็ว” หญิงสาวผลักภคมนออกไปแต่วายุก็รีบวิ่งมาขวางเอาไว้อีกครั้ง
“มึงจะไปไหนไอ้ตุ๊ด กูรู้นะว่ามึงจ้องจะงาบแฟนกูน่ะ”
“งาบบ้าอะไรของนาย ฉันไม่ได้ชอบผู้หญิงเว้ย” คนตัวเล็กกว่ารีบปฏิเสธเพราะไม่อยากมีเรื่อง
“ไม่ได้ชอบ แต่เมื่อกี้แฟนกูกอดเอวมึงซะแน่น มึงอย่าบอกนะว่ามึงไม่ได้คิดอะไร”
“ยี่หวาเป็นคนกอดพี่ตะวันเองนะพี่” ยี่หวาออกโรงปกป้อง เธอพยายามกอดวายุไว้แน่นเพื่อให้ภคมนได้วิ่งหนีไป แต่ก็ถูกคนตัวโตกว่าผลักจนล้มลงก้นกระแทกพื้น
“เดี๋ยวมึงเจอกู” พูดจบ วายุก็หันกลับไปที่รถเพื่อจะหยิบปืนขึ้นมา ตอนนั้นเองที่ยี่หวารีบบอกให้เธอวิ่งหนีไปอีกครั้ง
“พี่ตะวันหนีไปก่อนเร็ว”
“อะไรกันวะเนี่ย” ภคมนโอดครวญ จำเป็นต้องวิ่งหนีตายเพราะวายุกำลังหยิบปืนออกมาจากรถ เธอจึงต้องวิ่งหลบเข้าไปในร้านข้างทาง ทะลุผ่านไปยังถนนอีกฟาก ด้วยความกลัวตายจึงไม่ทันระวังจนรถที่ขับผ่านมาชนเข้าอย่างจัง
โครม!
เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่ว ดึงความสนใจให้คนที่อยู่บริเวณนั้นหันมามองกันเป็นทิวแถว
“โอ๊ย!” คนที่ถูกชนล้มลงบนถนน ศีรษะกระแทกกับพื้นคอนกรีตเต็มแรงจนมีเลือดไหลโชก ดวงตาพร่าเลือนพยายามจ้องมองคนขับที่กำลังก้าวลงมาจากรถพร้อมกับเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ตามลงมาด้วย
วินาทีที่ได้เห็นใบหน้านั้นใกล้ ๆ เธอก็แทบจะหยุดหายใจ พยายามขยับตัวถอยหนี ไม่คิดไม่ฝันว่าโลกมันจะกลมได้ขนาดนี้
“นี่คุณอีกแล้วเหรอ...” ภคมนโอดครวญ พยายามคิดในแง่ดีว่าเลือดที่กำลังไหลรกปรกหน้าลงมาทำให้เธอตาฝาดจนมองเห็นคนตรงหน้าเป็นเฟลิกซ์ “ปล่อยฉันไปเถอะ...”
หญิงสาวรีบถอยหนีแต่ก็ถูกธนาประคองเอาไว้ทำให้เธอไม่สามารถขยับไปไหนได้อีก
“ใจเย็นสิ อย่าเพิ่งลุกรอให้รถพยาบาลมาถึงก่อน”
“ไม่...ปล่อยผม ผมไหว...” พูดยังไม่ทันจบ หญิงสาวก็หมดสติไปในวงแขนของอีกฝ่าย เห็นสถานการณ์ไม่สู้ดี ธนาจึงเงยหน้าขึ้นถามเจ้านายเพื่อขอความคิดเห็น
“เอายังไงดีครับคุณเฟย”
“เดี๋ยวฉันจัดการเอง นายล่วงหน้าไปก่อนได้เลย” อีกฝ่ายออกคำสั่งทำให้ธนาต้องวางร่างที่ไร้สติลงท่ามกลางสายตาของชาวบ้านที่เข้ามามุงดูเหตุการณ์ด้วยความอยากรู้
“เอายังไงดีเนี่ย เป็นเพราะพี่คนเดียวเลย” ยี่หวาหันไปค้อนใส่วายุที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ข้าง ๆ ไม่กล้าจะเข้ามาแสดงตัวเพราะกลัวความผิด
“แล้วใครใช้ให้มึงไปยุ่งกับมันล่ะ”
“ก็บอกแล้วว่าพี่เขาไม่ได้ชอบผู้หญิงก็ยังไม่เชื่อ จะทำยังไงดีเนี่ย ถ้าแม่รู้ฉันต้องโดนดุแน่ ๆ” ยี่หวากุมขมับอย่างคนคิดหนัก และในจังหวะนั้นเองที่รถพยาบาลแล่นเข้ามาจอดหลังจากที่ธนาเป็นคนโทรเรียก หญิงสาวจึงรีบผละจากวายุเพื่อจะติดตามภคมนไปด้วย
“มึงจะไปไหน”
“ฉันจะไปโรงพยาบาลกับพี่ตะวัน”
“กูไม่ให้ไป มึงต้องไปคุยกับกูให้รู้เรื่อง” ว่าแล้วเขาก็ออกแรงลากยี่หวากลับไปที่รถของตัวเองทิ้งภคมนให้อยู่ที่นั่นแต่เพียงลำพัง