ภคมนหนีตายกลับมาถึงบ้านด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำเพราะความหวาดกลัว มือที่สั่นเทาไขกุญแจสำรองเข้าไปทางหลังบ้าน แอบย่องเข้าไปในห้องแคบ ๆ ของตัวเองอย่างเงียบ ๆ เพราะไม่อยากให้คนในบ้านได้ยิน
“ทำไมมันซวยอย่างนี้เนี่ย” หญิงสาวล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างหมดเรี่ยวแรง พยายามคิดหาทางออกว่าจะทำยังไงเธอถึงจะไม่ถูกฆ่าทิ้งเพราะเท่าที่ได้ยินบทสนทนาก่อนหน้า ยังไงพวกนั้นก็ไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่ “ทำคุณบูชาโทษแท้ ๆ ไอ้คิงคองยักษ์”
เธอสบถลั่นด้วยความเจ็บใจ ก่อนจะรีบหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อค้นหาชื่อที่ได้ยินเมื่อครู่ด้วยความอยากรู้ว่าเขาเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงมีสิทธิ์มาสั่งฆ่าแกงใครได้ง่าย ๆ แบบนี้
“เฟยหลงหรือเฟลิกซ์ ไพศาลบดินทร์ ประธานบริษัทแห่งพีเอชกรุป ลูกครึ่งฮ่องกง ฝรั่งเศส แต่เข้ามาประกอบธุรกิจในไทยเป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากมาย ชอบช่วยเหลือสังคม” พออ่านจบ ภคมนก็ถึงบางอ้อว่าทำไมเขาถึงได้หมายเอาชีวิตเธอแบบนี้ “ที่แท้ก็เป็นมาเฟียในคราบนักบุญนี่เอง”
ยิ่งได้รู้ว่าเขามีอิทธิพลมากขนาดนี้เธอก็ยิ่งคิดไม่ตกว่าจะหาทางหนีเอาตัวรอดได้ยังไงไม่ให้ถูกสั่งเก็บ
“นังพะแพง!” .ในขณะที่กำลังคิดหนักอยู่นั้น เสียงลำดวนผู้มีศักดิ์เป็นป้าแท้ ๆ ก็ทุบประตูเสียงดังสนั่นเอ่ยเรียกเธอจนหญิงสาวสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ
“มีอะไรป้า”
“กลับมาดึกเลยนะมึง” อีกฝ่ายยังคงทุบประตูเสียงดังสนั่นเพราะเธอไม่ยอมลุกไปเปิดให้
“หนูติดออเดอร์ลูกค้าน่ะป้า ก็เลยกลับช้า”
“มึงอย่าทำแชเชือนนะเว้ย ใกล้จะสิ้นเดือนแล้ว อย่าลืมค่าน้ำค่าไฟด้วย” ว่าแล้ว ลำดวนก็สอดบิลค่าไฟฟ้าของเดือนล่าสุดลอดเข้ามาผ่านช่องใต้ประตู เมื่อเห็นตัวเลขเรียงกันสี่หลักในบิล ภคมนก็อ้าปากเหวอด้วยความตกใจ
“สามพันเจ็ด ทำไมมันแพงอย่างนี้ล่ะ” หญิงสาวกุมขมับรีบกระชากประตูเปิดออกไปด้วยความไม่พอใจแต่ลำดวนกลับวิ่งหายขึ้นไปบนห้องเสียก่อน เหลือเพียงแค่แสงไฟสลัวที่ลอดออกมาจากห้องนอนของต้นไผ่ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของลำดวน ผู้มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอพร้อมกับเสียงเจ้าตัวที่กำลังเล่นเกมอย่างเมามันในห้องข้าง ๆ “นี่ไง ตัวต้นเหตุ”
ภคมนขบกรามแน่น หันไปกระชากประตูห้องของต้นไผ่ออกแล้วถอดปลั๊กไฟทันทีจนเจ้าของห้องร้องเสียงหลง
“เชี่ย อะไรของมึงเนี่ยไอ้แพง”
“ค่าไฟตั้งสามพัน พี่ไม่ช่วยจ่ายหนูไม่ว่าหรอก แต่ช่วยประหยัดไฟหน่อยได้ไหม นี่มันเที่ยงคืนแล้วนะ ใจคอจะเล่นจนสว่างทุกวันหรือไง”
“ก็นี่มันบ้านกู”
“เออ กูรู้ว่าบ้านมึง คราวหลังถ้าจะเล่นเกมขนาดนี้ช่วยออกค่าไฟให้หน่อยก็ยังดี ไม่ใช่ทำตัวเป็นเห็บหมัดแบบนี้”
หญิงสาวตวาดกร้าวก่อนจะรีบหมุนตัวกลับไปที่ห้องของตัวเอง ทรุดกายนั่งลงบนเตียงอีกครั้งด้วยความเหนื่อยล้า
“จะบ้าตาย จะทำยังไงกับชีวิตดีเนี่ย” มือเรียวยกขึ้นกุมขมับ ลำพังชีวิตของเธอก็แย่อยู่แล้ว ยังต้องมาหนีเอาชีวิตรอดจากพวกมาเฟียที่ตามล่าหมายเอาชีวิตอีก “บ้าที่สุดเลย รู้อย่างนี้น่าจะปล่อยให้ถูกยิงเป็นผีข้างทางซะยังดีกว่า ไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลยยัยแพงเอ๊ย”
ภคมนครุ่นคิด เธอไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้เลยตลอดทั้งคืนเพราะมัวแต่ระแวงกลัวว่าพวกนั้นจะตามมาเอาชีวิตเธอถึงบ้าน
แกร๊ก
เสียงไขกุญแจห้องของเธอดังขึ้นในตอนเช้าตรู่ ทำให้คนที่กำลังนั่งขดตัวอยู่ตรงมุมห้องรีบถลาลุกไปดันประตูไว้เพราะรู้ดีว่าเวลานี้ใครเป็นคนถือวิสาสะเปิดเข้ามา
“พะแพง ตื่นหรือยัง”
“ลุง มีธุระอะไร” เธอเอ่ยถามทั้งที่ยังออกแรงดันประตูไว้ ไม่ให้ทองดี ซึ่งเป็นสามีใหม่ของลำดวนเข้ามาในห้อง
“แค่จะเข้ามาดูว่าทำไมป่านนี้แล้วยังไม่ตื่น ไม่สบายหรือเปล่า”
“ฉันตื่นแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง ลุงออกไปเถอะ” หญิงสาวรีบปฏิเสธ เธอรู้ดีว่าถ้าปล่อยให้ทองดีเข้ามา เธอก็จะถูกอีกฝ่ายลวนลามเหมือนเช่นทุกครั้ง
“เปิดประตูให้ลุงเข้าไปหน่อยสิ”
“ไม่ อย่าเข้ามานะ”
“ทำอะไรน่ะลุง” ในขณะที่สถานการณ์เริ่มคับขันเพราะต่างฝ่ายต่างดันประตูกันไปมา ต้นไผ่ก็ผ่านมาเห็นเข้าพอดี ตาแก่หัวงูอย่างทองดีจึงต้องผละจากไป
“พี่ไผ่” ภคมนเห็นว่าตัวเองปลอดภัยแล้ว เธอจึงวิ่งออกมาจากห้องทันที “อีตาลุงโรคจิตนั่นมันจะบุกเข้ามาในห้องฉัน”
“เอาอีกแล้วเหรอ”
“ใช่พี่ มันกำลังจะพังประตูเข้าไปอยู่แล้ว โชคดีนะที่พี่ออกมาเห็นก่อน”
“ไม่ กูหมายถึงมึงน่ะ อีกแล้วเหรอ” ต้นไผ่ตบศีรษะเล็กเบา ๆ แล้วจึงเดินผ่านไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำขึ้นมาดื่มดับกระหาย “กูบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าพูดเรื่องนี้ให้แม่กูได้ยิน มึงก็รู้ว่าแม่กูหลงลุงทองเสียยิ่งกว่าอะไร”
ต้นไผ่เตือนด้วยความหวังดี ถึงแม้เขาจะเป็นพี่ชายที่ไม่เอาไหน แต่ในสายตาเขาคงจะเป็นคนเดียวกระมังที่เห็นว่าภคมนยังเป็นน้องสาวอยู่
“จริงด้วย” ดวงตารูปพระจันทร์เสี้ยวเหลือบมองออกไปที่หน้าบ้าน ซึ่งลำดวนเปิดเป็นร้านขายข้าวแกงในสลัมเล็ก ๆ แห่งนี้มานานหลายสิบปีแล้ว
“ไม่ไปทำงานเหรอมึง ไหนบอกต้องหาเงินมาจ่ายค่าไฟไง”
“ไปสิ กำลังจะไปอาบน้ำแล้วเนี่ย” ว่าแล้วเธอก็หันกลับเข้าไปหยิบผ้าขนหนูในห้อง แต่พอนึกบางอย่างได้จึงรีบวิ่งตามต้นไผ่ออกมาพร้อมกับเงินอีกสองร้อยบาท “เดี๋ยวก่อนพี่ไผ่”
“อะไรของมึงอีก กูเล่นเกมค้างอยู่”
“ไปเฝ้าห้องน้ำให้ฉันหน่อยสิ เดี๋ยวฉันจ้างสองร้อย” หญิงสาวยื่นข้อเสนอให้พลางยกธนบัตรสีแดงขึ้นมา ซึ่งต้นไผ่เองก็ยินดีรับไว้ก่อนจะเดินเข้าไปทรุดกายนั่งสูบบุหรี่ที่ห้องน้ำหลังบ้านด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ “เร็วหน่อยล่ะ”
“เออ” คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาอย่างเซ็ง ๆ เพราะต้องอาศัยร่วมชายคาบ้านกับทองดี เธอจึงตกเป็นเป้าสายตาของคนบ้ากามที่มักจะแอบมองเธออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่บ่อยครั้ง ถึงจะระวังตัวเป็นพิเศษแต่ก็อดระแวงไม่ได้อยู่ดีจนต้องจ้างให้ต้นไผ่มานั่งเฝ้าหน้าห้องน้ำอยู่บ่อยครั้ง คิดไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าถ้าไม่มีเขา เธอจะรอดพ้นมาจากปากจระเข้อย่างทองดีมาจนถึงทุกวันนี้หรือเปล่า