ตอนที่ 3 รสของอดีต

2094 Words
นี่ก็ผ่านมาเป็นเดือนแล้วจากคืนนั้น ฉันกับพี่รามิลไม่ได้ติดต่ออะไรกันอีกและกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขในช่วงวันปิดเทอมของตัวเอง ฉันไม่อยากกลับไปที่บ้านเพราะต้องกลับไปเจอพ่อกับเด็กเลี้ยงของตัวเอง แม่ใหม่ที่อายุไม่ต่างจากฉันเท่าไร มื้อเย็นของวันนี้ฉันตั้งใจที่จะลงมาหาข้าวกินที่ใต้ตึกคอนโดฯ ในขณะที่เอาแต่ยืนครุ่นคิดอยู่หน้าตู้แช่แข็งในร้านสะดวกซื้อกลับถูกมือของใครบางคนสะกิดเรียกจากด้านหลัง ฉันเลยหันไปมอง “พี่สาวครับ” ฉันขมวดคิ้วมองชายวัยรุ่นสวมใส่ชุดนักเรียนมัธยมปลายกางเกงน้ำเงิน ใบหน้าหล่อเหลาถูกบดบังด้วยกรอบแว่นหนาเตอะ “พี่ไม่ชอบเด็กอะ ขอโทษนะ” ฉันเตรียมจะสับเท้าหนีแต่กับถูกยื้อเอาไว้ด้วยคำพูดของเด็กชาย “แต่ผมเป็นน้องชายพี่นะ” หนุ่มน้อยคนนั้นพูดโพล่งขึ้นมาเสียจนฉันตัวชะงักกึก ฉันค่อย ๆ เคลื่อนสายตากลับมามองเด็กหนุ่มอีกครั้งแล้วมองต่ำลงมาที่ชื่อที่ปักอยู่บนเสื้อตรงหน้าอก กรชวัล เลิศพิสิฐ ความทรงจำของฉันเริ่มหวนคืนกลับมาเล็กน้อย หลังจากที่พ่อกับแม่ของฉันเลิกกันตั้งแต่ฉันเกิดฉันก็ไม่เคยเจอหน้าแม่ของฉันอีกเลย รู้จากพ่อแค่ว่าแม่ทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ สามีใหม่แล้วก็ลูกใหม่ มีอยู่ครั้งหนึ่งตอนที่ฉันกำลังนั่งร้องไห้ในงานวันแม่ที่โรงเรียนประถมเพราะพ่อไม่ว่าง มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามากอดฉันแล้วบอกว่าเธอคือแม่พร้อมแนะนำให้ฉันรู้จักเด็กผู้ชายอีกคนว่าเป็นน้องชายของฉัน ในตอนนั้นฉันเองก็เคลื่อนสายตาไปอ่านป้ายชื่อที่ปักอยู่บนเสื้อตรงหน้าอกแบบนี้เหมือนกัน “มิกซ์เหรอ” น้องชายต่างพ่อพยักหน้าหงึก ๆ ทำเอาฉันประหลาดใจที่ได้เจอกับเด็กหนุ่มอีกครั้งในรอบหลายปี หลังจากนั้นฉันก็พาน้องชายขึ้นมานั่งบนห้องพร้อมยื่นกล่องข้าวให้เด็กหนุ่ม “ขอบคุณครับ” มิกซ์รีบขอบคุณก่อนจะรับกล่องข้าวนั้นไปตักเข้าปากทั้งที่ข้าวยังไม่หายร้อนทำเอาฉันเผลอหลุดขำออกมา “รู้ได้ไงว่าพี่อยู่นี่” ฉันนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับน้องชาย เขาเงยหน้าขึ้นมาทั้งที่เคี้ยวข้าวตุ้ย ๆ อยู่เต็มปาก “ผมเจออินสตาแกรมพี่อะ รู้ปะแม่โคตรดีใจเลยที่หาพี่เจอ” น้องชายฉันพูดก่อนจะหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบอย่างชื่นใจ “พี่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยนี้ ใช่ปะ” ฉันพยักหน้ารับก่อนจะยกแขนขึ้นมาเท้าบนโต๊ะอาหารตัวเล็ก แล้วทอดสายตาเพ่งพินิจใบหน้าของน้องชายด้วยความสงสัย ส่วนไหนที่มันเหมือนฉันบ้างเนี่ย “ดีเลย ผมตั้งใจว่าจะมาเข้าคณะสัตวแพทย์ที่นี่อะ ผมขอมาอยู่กับพี่ได้ไหม” “จะบ้าเหรอ มิกซ์เป็นผู้ชายพี่เป็นผู้หญิงจะอยู่ด้วยกันได้ยังไง” น้องชายฉันพ่นลมหายใจออกมาเมื่อไม่ได้ดั่งใจ “โธ่พี่มน แต่เราเป็นพี่น้องกันนะ เนี่ยปีหน้าผมก็อยู่มอหกแล้ว พี่เห็นใจน้องชายคนนี้หน่อยได้ไหมเล่า” เด็กหนุ่มส่งสายตาออดอ้อนมาให้ คงไม่ได้คิดว่าฉันจะอ้อนได้เหมือนแม่หรอกใช่ไหมเนี่ย “เหลือเวลาอีกตั้งเป็นปี หาหอเองเถอะ อีกอย่างพ่อพี่เขาไม่อยากให้ไปยุ่งกับแม่ มิกซ์เข้าใจพี่หน่อยนะ” มิกซ์พยักหน้าอย่างจำใจก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต่อด้วยสีหน้าเหงาหงอยเหมือนลูกหมาหูตก ฉันก้มหน้าลงมองข้าวกล่องของตัวเองก่อนจะเปิดฝาออกเพื่อจะกินข้าวมื้อเย็น กลิ่นอาหารลอยขึ้นมาเตะจมูก แต่ทำไมวันนี้มันทะแม่ง ๆ ชอบกล “มิกซ์ว่าข้าวมันบูดหรือเปล่าอะ” คนน้องคิ้วกระตุกด้วยความสงสัยก่อนจะดึงกล่องข้าวของฉันเข้าไปดมก่อนจะส่ายหน้า “ไม่นะพี่มน กลิ่นก็ปกติดีนี่” เด็กหนุ่มยื่นกล่องข้าวกลับเข้ามาตรงหน้าฉันก่อนจะยกขึ้นมาใกล้เพื่อให้ฉันได้สูดดมอีกรอบ แต่พอกลิ่นมันเข้ามาใกล้ลมในท้องก็ตีขึ้นมาจนฉันต้องรีบเอามือปิดปากของตัวเองแล้ววิ่งตรงไปที่ห้องน้ำ “อึก” “เฮ้ยพี่” มิกซ์รีบวิ่งตามด้วยความตื่นตกใจ ฉันอาเจียนลงชักโครกออกมาจนหมดไส้หมดพุงน้ำตาเล็ดออกมาจากขอบดวงตาจนน้องชายต้องเข้ามาลูบหลังให้ “พี่มนเป็นอะไรอะ” เด็กหนุ่มหยิบกระดาษทิชชูส่งให้ฉันเช็ดปากก่อนที่จะประคองฉันที่อ่อนแรงขึ้นมายืนพิงกับอ่างล้างหน้า ฉันรีบบ้วนปากเอากลิ่นไม่พึงประสงค์ออกไปเพื่อให้ตัวเองโล่งขึ้นแล้วมองใบหน้าของน้องชายผ่านเงาสะท้อนของกระจก “ขอบใจมากนะ พี่ไม่เป็นอะไรแล้วอะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนเพลีย “พี่ไหวไหมให้ผมพาไปหาหมอหรือเปล่า” น้องชายเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงก่อนที่ฉันจะส่ายหน้าแล้วหันกลับมาหาน้อง “พี่ไม่เป็นอะไรแล้วจริง ๆ เย็นแล้วรีบกลับบ้านเถอะเดี๋ยวแม่จะเป็นห่วง” มิกซ์ขมวดคิ้วด้วยความเป็นกังวลก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าที่แขวนอยู่กับเก้าอี้ เขาเปิดกระเป๋าแล้วหยิบซองกระดาษบางอย่างออกมา “แม่ฝากมาให้ครับ” น้องชายยื่นซองกระดาษนั้นมาให้ฉันก่อนจะหยิบข้าวกล่องแล้วเดินไปที่ประตู “ขอบคุณสำหรับข้าวนะครับ” ฉันมองน้องชายที่เดินออกไปก่อนจะปิดประตูลง หลังจากนั้นฉันก็เปิดซองกระดาษออกดู ข้างในมีเงินจำนวนหนึ่งพอที่จะใช้ได้ทั้งเดือน แถมยังมีนามบัตรของแม่ฉันพร้อมเบอร์โทร.ติดต่ออีกต่างหาก มือที่ถือนามบัตรของผู้เป็นแม่อยู่สั่นเครือ ยิ่งเห็นชื่อที่อยู่บนนามบัตรนั้นในใจของฉันมันก็บีบรัดขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ฉันทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนุ่มปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาอย่างเงียบเชียบ แม่จะกลับมาทำไมเอาป่านนี้ ถ้าแม่หายไปเลย ถ้าแม่ไม่คิดจะเหลียวแลฉันเลย ฉันก็คงจะเฉยชาต่อแม่ได้มากกว่านี้ ยิ่งแม่กลับมามันก็ยิ่งตอกย้ำในสิ่งที่ฉันอยากจะรู้ และอยากถามแม่มาตั้งแต่จำความได้ ทำไมแม่ถึงทิ้งหนู ฉันยกมือขึ้นปาดน้ำตาก่อนจะเก็บซองกระดาษนั้นไว้ที่โต๊ะบนหัวเตียง ทั้งเงินสดและนามบัตรนั่น ฉันไม่อยากมีความรู้สึกติดค้างกับคนที่ทิ้งฉันไป แค่นี้บุญคุณที่ให้กำเนิดมันก็มากเพียงพอแล้ว วันนี้เป็นวันรับปริญญาของพวกรุ่นพี่ ฉันเลยกะว่าจะหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุด ถึงแม้จะไม่อยากมาเลยก็ตาม “แกซื้อดอกไม้อะไรไปยินดีกับพวกพี่คิณดีอะ” วิเอ่ยถามขณะที่กำลังเลือกดอกไม้ทีละช่อ “ต้องให้ทุกคนเลยปะ” ฉันเอ่ยถามด้วยความร้อนรนจนเพื่อนสาวต้องเงยหน้าขึ้นมาด้วยความสงสัย “เรากับแกรวมกันให้พี่เขาคนละช่อก็ได้ อย่างน้อยพี่เขาก็เทกแคร์พวกเราดีนะ” เรื่องนั้นยอมรับไม่เกี่ยงแต่ยกเว้นคนหนึ่งในแก๊งนั้นได้ไหมอะ “เอาอย่างที่แกว่าเลย ฉันขอไปซื้อน้ำก่อนนะ” ฉันพยายามทำท่าทีไม่ให้เป็นพิรุธก่อนจะเดินออกไปจากร้านขายดอกไม้ทันทีเพื่อมายืนสงบใจอยู่ที่ร้านคาเฟแต่สายตาก็ยังเหลือบไปเห็นช่อดอกไม้พอดี “ซื้อเครื่องดื่มสามแก้ววันนี้รับฟรีช่อดอกไม้นะคะ” พนักงานสาวกล่าว แต่แค่นี้ไม่ทำฉันใจอ่อนหรอกนะ “โกโก้ปั่นสามแก้วค่ะ” ฉันแค่เห็นแก่ของฟรีเฉย ๆ หรอกนะ แล้วฉันก็มายืนจ๋องในงานอย่างงุนงงก่อนหน้านี้ฉันเพิ่งนั่งดื่มโกโก้ปั่นจนหมดแก้วไปหมาด ๆ ก็ถูกลากเข้ามาในงานเพราะพวกรุ่นพี่ออกมาจากหอประชุมกันแล้วโดยที่มือข้างหนึ่งถือช่อดอกไม้ไว้สายตากวาดมองหาร่างสูงของหนุ่มรุ่นพี่ ไม่ใช่อยากเจอหรอกนะ แค่กันไว้เผื่อหลบไม่ทันเท่านั้นเอง “มีอะไรหรือเปล่ามน” นิดาเอ่ยถามเรียกให้ฉันรีบหันกลับเข้ามาหากลุ่มเพื่อนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กับพี่คิณที่เลิกคิ้วเหมือนต้องการคำตอบอะไร “อ๋อ ค่ะ” ฉันตอบรับอย่างงุนงงแต่ก็แสร้งยกยิ้มไปก่อน “แล้วดอกไม้อีกช่อนี่ของใคร แกให้พี่ธิดาแล้วไม่ใช่เหรอ” วิตั้งคำถามเมื่อในมือของฉันยังคงมีดอกไม้ในมืออยู่อีกช่อ ตอนแรกฉันกะจะเอาไปให้พี่มิลเพราะอย่างน้อยอาจจะรักษามิตรภาพระหว่างกลุ่มพี่เขาและกลุ่มฉันเอาไว้เพราะเห็นแก่ยายนิดา แต่พอสายตาเหลือบไปเห็นว่าพี่มิล รับช่อดอกไม้จากนักศึกษาสาวคนหนึ่ง ที่ตัวเล็กหน้าตาจิ้มลิ้ม แถมยังเข้าไปกอดแขนพี่มิลถ่ายรูป ก็ทำเอาฉันร้อนรุ่มอย่างบอกไม่ถูก “สงสัยฉันจะซื้อมาเกิน ฝากแกเอาไปให้ใครก็ได้ทีนะ ฉันจะไปซื้อน้ำแล้วมีใครจะเอาอะไรไหม” นิดารีบส่ายหน้าก่อนจะฉันจะฝากวิถือช่อดอกไม้นั้นไว้แล้วเดินออกไปจากฝูงชนทันที แต่เอ๊ะ ฉันเพิ่งดื่มน้ำจนจุกไปเองไม่ใช่เหรอวะ ยิ่งคิดได้อย่างนั้นก็ยิ่งอารมณ์เสีย ยายมน แกจะปล่อยให้คนที่มีอะไรกันแค่คืนเดียวมามีอิทธิพลต่อจิตใจแกไม่ได้นะ อย่าลืมสิว่าแกไม่ชอบขี้หน้าพี่มิลมาตั้งแต่วันแรกที่เจอ วันนี้จะใจอ่อนไม่ได้นะ “มน” ฉันสะดุ้งโหยงเมื่อถูกสาวรุ่นพี่สะกิดที่ไหล่จนต้องหันไปมอง “อ้าวพี่ธิดา” พี่ธิดายิ้มแฉ่งอย่างเคยข้างกายมีพี่คุณแฟนหนุ่มของพี่เขาและยังเป็นพี่ชายของพี่คิณอีกด้วย “มายืนทำอะไรคนเดียวอยู่ตรงนี้” “พอดีหนูเพลียแดดนิดหน่อยน่ะค่ะ เลยเข้ามาหลบในร่ม” ฉันยกยิ้มให้พี่ธิดาสบายใจเมื่อเห็นว่าสาวรุ่นพี่มีท่าทีกังวลเล็กน้อย “พี่คุณคะ ขอยืมร่มหน่อยสิ” “ไม่เป็นไรค่ะพี่ธิดายังต้องไปยืนถ่ายรูปกลางแดดเก็บไว้เถอะค่ะ” ฉันรีบดันร่มกลับไปให้สาวรุ่นพี่ “เอางั้นเหรอ” ฉันพยักหน้ารับ “เออน้องมนครับ พวกพี่จะไปทะเลกันสัปดาห์หน้าน้องมนไปด้วยกันนะ เนี่ยน้องนิดากับน้องวิก็ไป น้องมนคงจะไปใช่ไหมครับ” พี่คุณเอ่ยเชิญชวน “นิดาบอกหนูแล้วค่ะ แต่หนูยังลังเล” ฉันตอบกลับไป “ไปด้วยกันนะคะน้องมน กลุ่มพวกพี่ไปกันหมดเลย ไปเยอะ ๆ สนุกดี” เพราะแบบนี้แหละค่ะหนูถึงลังเล “ถ้านิดากับวิไปหนูก็ไปแหละค่ะ” พี่ธิดายิ้มรับอย่างดีใจ “ดีมากเลยค่ะ พี่อยากไปดื่มสไตล์สาว ๆ บ้าง” รุ่นพี่สาวว่าอย่างดี๊ด๊า ดูท่าคนที่ตื่นเต้นที่สุดคงจะเป็นพี่ธิดาเนี่ยแหละ ว่าไม่ได้ก็แฟนเขาดูแลค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่างเลยนี่นา “ยังไงวันนี้ก็ยินดีด้วยนะคะพี่ธิดา” ฉันกล่าวคำยินดีก่อนจะเข้าไปสวมกอดรุ่นพี่ “ขอบคุณนะ น่ารักที่สุดเลย” พี่ธิดาว่าก่อนจะผละกอดออกมา “อ๋อ พี่มียาดมพอดีเราเอาไปนะ” “ขอบคุณค่ะพี่ธิดา” หญิงสาวยัดยาดมใส่ในมือฉันก่อนจะโบกมือลาแล้วเดินจากไปพร้อมกับแฟนหนุ่ม ฉันได้แต่ยกยิ้มแล้วกำลังจะก้าวไปข้างหน้า เชี่ย ฉันร้องอุทานเมื่อเผลอเงยหน้าขึ้นไปสบตากับพี่มิลพอดี ฉันรีบถอยหลังก่อนจะเดินก้าวไปอีกฝั่งด้วยความร้อนรน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD