วันต่อมา
เฮียเขื่อนออกไปทำงานตั้งแต่เช้า เพราะหน้าที่พี่ชายคนโตของบ้านค่อนข้างจะหนักกว่าลูกชายคนอื่น ๆ
แต่ถามว่าเธอเห็นใจเขาไหม?
คงตอบได้อย่างเต็มปากว่า ‘ไม่!’
"คุณหนูคะ มีคนมาหาค่ะ"
"ใครเหรอคะ? "
"เห็นบอกว่าชื่อหมูแดงนะคะ"
"จริงเหรอคะป้า! "
ทันทีที่ได้ยินชื่อนี้ ลูกหมีก็รีบวิ่งลงมาข้างล่าง พอเห็นว่าเป็นหมูแดงจริง ๆ เธอก็พุ่งตัวเข้าไปกอดเพื่อนสนิท
พรึบ~
"งื้อ~ หมูแดงมาหาเราจริง ๆ ด้วย”
"โอ๊ะ! กอดแบบนี้ฉันตั้งหลักไม่ทันนะลูกหมี"
"ก็คนมันคิดถึงอ่ะ คิดว่าหมูแดงจะลืมเราซะแล้ว"
"ลืมได้ยังไง เพื่อนทั้งคนนะ ช่วงเวลาที่ผ่านมา เรามีงานเยอะ เลยหาเวลาว่างไม่ได้" หมูแดงอธิบายเหตุผล
"เราเข้าใจ ป่ะ ไปนั่งคุยกัน"
เธอคลายอ้อมกอด แล้วจับมือหมูแดงมานั่งคุยตรงสระว่ายน้ำ จะได้ระบายความรู้สึกในเรื่องที่อดทนมานาน
"เธอดูเข้มแข็งขึ้นเยอะเลยนะ"
"สถานการณ์มันบังคับให้เราต้องเป็นแบบนี้"
"ดีแล้ว เธอต้องเข้มแข็งเอาไว้นะลูกหมี อย่าอ่อนแอเด็ดขาด อย่าให้ใครมาทำร้ายจิตใจเธอฝ่ายเดียว"
"อืม เราจะไม่อ่อนแอ เราสัญญา"
"ดีมาก เก่งมาก"
หมูแดงคอยเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้เธออดทนมาจนถึงทุกวันนี้ ถึงพ่อแม่จะไม่สนใจ แต่เธอก็ยังเหลือเพื่อน
“ทำอะไรกันอยู่~” ระหว่างที่พูดคุยสารทุกข์สุกดิบกับเพื่อนสาว เฮียขุนก็เดินออกมาทักทายด้วยความเป็นมิตร
"สวัสดีค่ะเฮีย นี่หมูแดงเพื่อนหนู"
หมูแดงหันไปยิ้มให้เเล้วยกมือไหว้เฮียขุน
"สวัสดีค่ะเฮีย”
"สวัสดีครับ เพิ่งเคยมาหาแก้มป่องเหรอ? "
"แก้มป่อง? หมายถึงลูกหมีเหรอคะ? "
"ใช่ครับ เจ้าแก้มป่องคนนี้อ่ะ”
เฮียขุยเดินมาด้านหลังเธอแล้วหยิกแก้มเบา ๆ
"อื้อ~ เฮียอย่าแกล้งหนูสิ"
"ฮ่า ๆ ๆ แก้มป่องจริงด้วย”
“หมูแดง เธอเป็นเพื่อนเรานะ~” หมูแดงอมยิ้มที่เห็นว่าเพื่อนสนิทยิ้มได้แบบนี้ ก่อนจะหันไปคุยกับเฮียขุน
“ก่อนหน้านี้หมูแดงไม่ค่อยมีเวลาว่าง เลยไม่มีโอกาสได้มาเยี่ยมเพื่อนที่แต่งงานแล้ว แต่วันนี้มีแล้วค่ะ”
"งั้น…ไหน ๆ ก็ว่างแล้ว เฮียพาไปเที่ยว ดีไหม?"
"เที่ยวที่ไหนเหรอคะ?” เธอหันไปถาม
"สวนสนุก พวกหนูคิดว่าไง? "
"แต่ลูกหมีกลัวหลายอย่างเลยนะ จะไหวหรอ?”
หมูแดงถามเธอด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
"ไหวค่ะ!”
คำตอบของเธอทำเอาหมูแดงอึ้งไปชั่วขณะ เพราะตอนเรียนอยู่ชั้นประถม เราเคยไปทัศนศึกษาแล้วเธอเกิดแอคซิเดนท์ขึ้นมา ทำให้ไม่สามารถเที่ยวเล่นได้เหมือนเพื่อนคนอื่น ๆ ได้ นั่นทำให้หมูแดงเป็นห่วง กลัวว่าเธอจะเป็นแบบนั้นอีก แต่ถ้าเธอเข้มแข็งขึ้นแล้ว เรื่องแค่นี้ต้องเอาชนะได้สิ ไม่งั้นจะไปเอาชนะคนอย่างเฮียเขื่อนได้ยังไง!
เฮียขุนเอารถเก๋งขับพาทั้งสองคนมาเที่ยวสวนสนุก ร่างเล็กเงยหน้ามองรถไฟเหาะตรงหน้า มือไม้สั่นไปหมด ถึงเธอจะพยายามไม่กลัวแต่ลึก ๆ ก็ยังรู้สึกใจหวิว ๆ
"ไม่ต้องกลัว" เฮียขุนคว้ามือเล็กไปจับไว้
"ไหวไหมลูกหมี?” หมูแดงถามเธออีกครั้ง
"ไหวสิ ป่ะ ขึ้นกันเลย"
คนตัวเล็กก้าวขาเรียว เดินไปต่อแถวอย่างไม่เกรงกลัวความสูงที่กำลังจะเผชิญหน้าในอีกไม่ช้า
"เฮียอยู่ตรงนี้ ไม่ต้องกลัวนะ"
เฮียขุนยังคอยอยู่เคียงข้าง ถึงแม้ว่าร่างเล็กจะตัวสั่นขึ้น เมื่อลงไปนั่งบนรถไฟเหาะ ใจดวงน้อย ๆ ดวงนี้เต้นตึกตักราวกับว่ากำลังจะหลุดออกมาจากอก ทันทีที่เครื่องเล่นทยานตัวออกไป สิ่งแรกที่เธอสัมผัสคือความรู้สึกตื่นกลัว ดวงตาคู่สวยหลับลงอย่างไม่กล้ามองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ถึงแม้เธอจะรวบรวมความกล้ามากเท่าไหร่ แต่ในใจมันก็ยังรับไม่ไหวอยู่ดี ครั้งนี้เธอคงฝืนตัวเองเกินไป...
เมื่อเครื่องเล่นหยุดลง ดูเหมือนเฮียขุนจะรู้ว่าเธอไม่โอเค เลยรีบอุ้มออกจากเครื่องเล่นนั้น ท่ามกลางสายตาผู้คนนับร้อย และพนักงานที่เข้ามาช่วยส่งยาดมให้เธอ
"หายใจเข้าออกลึก ๆ นะลูกหมี"
หมูแดงก็เป็นห่วงไม่แพ้กัน
"ดีขึ้นไหม?” เฮียขุนถามเธอ
"ดีขึ้นค่ะ ขอบคุณทุกคนมากเลยนะคะ"
เธอพยักหน้าแล้วขอบคุณทุกคนที่เข้ามาช่วย
"ไม่ไหวแล้วมั้ง หน้าซีดขนาดนี้ กลับบ้านเถอะ"
หมูแดงรู้ว่าถ้าเพื่อนสาวยังอยู่ต่ออาจจะช็อกได้ เลยรีบเอ่ยปากให้พากลับบ้าน ซึ่งเฮียขุนก็เห็นด้วยเช่นกัน
"ป่ะ เฮียพากลับดีกว่า" เฮียขุนพากลับไปที่รถ เธอรู้สึกแย่มาก แทนที่จะได้เอาชนะตัวเอง แต่กลับกลายเป็นภาระให้คนอื่นเฉยเลย ทำไมเธอต้องเกิดมาอ่อนแอแบบนี้
"ไม่โกรธเราใช่ไหมหมูแดง?”
เธอถามหมูแดงขณะที่เรากำลังนั่งรถกลับบ้าน
"ทำไมต้องโกรธด้วยล่ะ ลูกหมีกล้าลองขึ้นไปเล่นขนาดนี้ก็ถือว่าเก่งแล้ว เมื่อก่อนไม่แม้แต่จะเข้าใกล้ด้วยซ้ำ" เธอยิ้มให้เพื่อน ไม่นานก็ขับมาถึงบ้าน หมูแดงขอตัวกลับก่อน (หมูแดงขับรถมา) ส่วนเฮียขุนก็พาเธอเข้าบ้าน
พรึบ!
เฮียเขื่อนเข้ามาดึงตัวเธอออกจากเฮียขุน
"เบา ๆ หน่อยสิเฮีย ผมแค่พาน้องไปเที่ยวเองนะ”
"ใครอนุญาต! กูบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามายุ่ง!”
"ผมก็แค่กลัวน้องมันเหงา"
"เหงาอะไร มันก็มีกูอยู่ทั้งคนไม่เหงาหรอก”
“แต่เฮีย…”
“มึงชอบเห็นมันเจ็บตัวใช่ไหม ได้! มึงมานี่!”
พูดจบเขาก็จิกหัวลากคนตัวเล็กขึ้นไปบนห้องนอนถึงแม้ว่าเธอจะหน้าซีดเซียวจนแทบไม่มีสีเลือด แต่เขาก็ไม่สนใจ เพราะผู้ชายคนนี้จะชอบเอาอารมณ์เป็นใหญ่เสมอ
"นะ หนูเจ็บ โอ้ย!”
เธอโดนฉุดกระชากลากถูเหมือนไม่ใช่คน
"พอเถอะเฮีย ผมผิดเอง อย่าทำน้อง!”
เฮียขุนวิ่งตามขึ้นมาห้ามไม่ให้พี่ชายทำรุนแรงกับเธอ แต่ด้วยความที่เฮียเขื่อนแรงเยอะกว่า จึงพลักน้องชายออกไปให้พ้นทาง แล้วหยิบผ้ามามัดรวบแขนทั้งสองข้าง พร้อมกับหยิบสายเข็มขัดหนังขึ้นมาพันมือเตรียมฟาดเธอ
“มึงดูนี่นะ!”
“เฮียอย่า!”
เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ!
"ฮรึก หนูเจ็บ อย่าตีหนู ฮืออ!”
"เจ็บแล้วทำทำไม กูบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำ!”
เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ!
"เฮียหยุดเถอะ ผมขอร้อง!”
เฮียขุนยังดึงดันที่จะเข้ามาห้ามปรามพี่ชาย
"มึงยืนดูเฉย ๆ อย่าเข้ามาเสือก!”
พลั๊ก!
เฮียเขื่อนใช้เท้าถีบเฮียขุนออกไป แล้วกระหน่ำฟาดคนตัวเล็กด้วยอารมณ์โกรธจัด เขาอาจจะไม่รู้ลิมิตความรุนแรงของตัวเอง แต่นั่นทำให้เธอเจ็บแทบเจียนตาย
"ตัวเล็ก!”
เฮียเข้มที่เพิ่งกลับมารีบวิ่งขึ้นมาห้ามเฮียเขื่อนอีกแรง แต่ตอนนี้หญิงสาวทนความเจ็บไม่ไหว จนสลบไปแล้ว
"เฮียต้องทำขนาดนี้เลยอ๋อวะ จะตีให้น้องมันตายเลยหรือไง!?” เฮียขุนตะคอกใส่พี่ชายตัวเองอย่างเหลือ’อด
"ตัวเล็ก…” เฮียเข้มจะเข้ามาอุ้มคนที่สลบเหมือดไปแล้ว แต่เฮียเขื่อนยังคงผลักน้องชายของตัวเองออกไป
"อย่ามายุ่งกับคนของกู ไสหัวออกไปซะ…”
เขาพูดพลางกัดฟันกรอด ก่อนจะไล่ทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปจากห้องนี้ซะ แล้วกดโทรเรียกผู้หญิงทันที
"ทำไมต้องเอานังเด็กนี่มานอนบนเตียงด้วยล่ะคะ เกะเกะชะมัด" เสียงเจื้อยแจ้วต่อว่าคนตัวเล็กที่ยังนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง ตอนนี้เธอกลับมามีสติอีกครั้งแต่ไม่ยอมขยับเขยื้อนไปไหน ส่วนหนึ่งมาจากความเจ็บปวดที่ได้รับ
"ไม่ต้องไปสนใจ เธอเเค่ทำให้สิ่งที่ต้องทำก็พอ”
"ได้ค่ะ ลินลี่จะทำให้คุณมีความสุขที่สุดในโลกเลย"
หลังจากจบประโยคนั้น ก็มีการบรรเลงเพลงสวาทเกิดขึ้น โดยที่เธอยังนอนกำหมัดแน่นอยู่บนเตียง บางจังหวะที่เขาอยากให้เธอเจ็บช้ำ ก็จิกหัวให้หันไปดูภาพเรท ซึ่งเธอก็มองตามที่เขาอยากให้มอง เพื่อตอกย้ำความเจ็บปวดให้ฝั่งลึกเข้าไปถึงขั้วหัวใจที่ด้านชา เมื่อถึงเวลาเอาคืนเธอจะได้ไม่รู้สึกแย่ ที่ต้องทำร้ายคนเลว ๆ อย่างเขา
"ตายหรือยังเนี่ย?” พอเสร็จภารกิจ เขาก็เดินไปเข้าห้องน้ำแล้วปล่อยให้คู่นอนอยู่กับเธอ แล้วใช้เท้าเขี่ยที่เอว