ปัง!!
เสียงทุบโต๊ะอย่างแรงทำเอาหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าถึงกับสะดุ้งจนตัวลอย เพราะคำพูดของเธอมันดันไปจี้จุดในส่วนลึกของหัวใจเขา จึงทำให้คนอย่างเขานั้นรับไม่ได้และโมโหขึ้นมา
“เธอกล้ามาพูดกับฉันอย่างนี้ได้ยังไง เธอเป็นคนทิ้งฉันไปนะ!!”
“ใช่ ฉันเป็นคนทิ้งนาย แต่มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ชีวิตของนายจะได้ดีขึ้นไม่ต้องมาจมปลักอยู่กับฉัน”
“เฮอะ! คนอย่างเธอมีสิทธิ์มาตัดสินชีวิตของฉันได้ยังไงกัน จะดีขึ้นหรือจะต่ำลงมันก็อยู่ที่ตัวของฉัน”
“ตอนนั้นเราก็ตกลงกันได้ด้วยดีนี่ ทำไมนายถึง...เป็นแบบนี้ไปได้” เธอรู้สึกไม่ชินกับเขาที่เป็นแบบนี้เลย แต่ก่อนเขาเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนมากกว่านี้ แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมเอาซะเลย
“มันเป็นเพราะเธอยังไงล่ะ”
“ที่ให้คนไปจับตัวฉันมาก็เพื่อจะพูดเรื่องแค่นี้น่ะเหรอ?”
“ไม่ใช่แค่นี้ แต่เธอต้องอยู่ที่นี่ตลอดไปต่างหาก”
“ไม่ได้ ฉันมีชีวิตของฉันนะ”
“ตอนนี้ชีวิตของเธอเป็นของฉันแล้ว”
“…..” หญิงสาวกลัวจนไม่กล้าขยับตัว คนตรงหน้าก็ว่าน่ากลัวอยู่แล้วลูกน้องของเขาที่ยืนอยู่หน้าประตูน่ากลัวมากกว่าอีก
“มาแล้วค่ะคุณเจโรม” จู่ๆ ก็มีหญิงสาวมีอายุคนนึงเดินเข้ามาจากประตูอีกด้าน การแต่งตัวของเธอทำให้หญิงสาวรู้ว่าเธอนั้นเป็นแม่บ้าน
“พาเธอไปห้องพัก ให้เธอทำงานแลกอาหาร อ้อ..ให้เธอเป็นคนขึ้นไปดูแลจูโน่ด้วย”
“ค่ะคุณเจโรม เชิญค่ะคุณ”
“มะ หมายความว่ายังไง ทำไมฉันต้องทำงานที่นี่ด้วย ทำไมฉันต้องอยู่ที่นี่ ฉันกับนายเราไม่ได้มีอะไรติดค้างกันนะ”
“มีสิ ลองนึกดีๆ เธอติดค้างฉันนะ”
“ไม่...”
“ทุกอย่างที่ฉันทำให้เธอเมื่อก่อน มันคือบุญคุณที่เธอต้องตอบแทนยังไงล่ะ”
“…..” พอเขาพูดจบเธอก็นึกออกขึ้นมา แต่ก่อนที่ยังคบกันเขาช่วยเธอและครอบครัวไว้หลายอย่างมากๆ แต่ในฐานะแฟนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยจึงทำให้เธอไม่ได้เอะใจเลยว่าเขานั้นจะมาทวงบุญคุณเอาตอนนี้
“มาค่ะคุณ”
“…..” หญิงสาวยอมเดินตามแม่บ้านอีกคนไป แม้จะยังไม่เข้าใจไม่เต็มใจแต่สถานการณ์มันก็บีบบังคับให้เธอต้องยอมทำตามเขา เพราะไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรอีกบ้าง
ไม่นานแม่บ้านก็พาเธอมาถึงห้องพัก เธอไม่รู้และไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องมาอยู่ที่นี่ มันสับสนไปหมดเลย เขาโกรธและทำแบบนี้กับเธอเพียงเพราะว่าเธอบอกเลิกเขาอย่างนั้นเหรอ
"คุณชื่ออะไรคะฉันจะได้เรียกถูก"
"ชื่อจันทร์เจ้าค่ะ เรียกว่าจันทร์เฉยๆ ก็ได้"
"ค่ะ ฉันชื่อศรีนะคะ เป็นหัวหน้าแม่บ้านของที่นี่ มีอะไรไม่เข้าใจก็มาถามได้ ส่วนงานของคุณจันทร์ คุณเจโรมได้มอบหมายให้คุณไปดูแลคุณจูโน่"
"เขาคือใครเหรอคะ?"
"น้องชายของคุณเจโรมค่ะ"
"....." เธอไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะมีน้องชายด้วย ตอนที่ยังคบกันอยู่เขาไม่ค่อยบอกอะไรเกี่ยวกับครอบครัวของเขาสักเท่าไร
"คุณจูโน่ต้องทานอาหารเช้าเจ็ดโมงครึ่ง ตอนกลางวันเที่ยงส่วนตอนเย็นก็ห้าโมงเย็นค่ะ"
"ค่ะ"
"ฉันไม่รู้ อะไรเกี่ยวกับตัวคุณหรอกนะคะ แต่ขอเตือนไว้ว่าอย่าคิดหนีออกไปจากที่นี่ถ้าคุณไม่อยากเจ็บตัว ถ้าคุณเจโรไม่อนุญาต ก็ไม่มีใครได้ออกไปจากที่นี่หรอกค่ะ"
"ทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็โดนบังคับให้อยู่เหมือนกันเหรอคะ?"
"ไม่หรอกค่ะ ฉันแค่เตือนคุณไว้ว่าอย่าคิดหนี"
"....." แม่บ้านที่ชื่อศรีพูดทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้นแล้วก็เดินออกไปเลยปล่อยให้จันทร์เจ้ายืนถือกระเป๋าอยู่ที่หน้าห้องพักของเธออย่างงงๆ
เธอมองไปรอบๆ ตัวเอง เพราะอยากจะรู้ว่าสภาพรอบบ้านนั้นมันเป็นยังไง แต่มันค่อนข้างกว้างและก็ดูจะมีแต่ต้นไม้ แถมยังเป็นกำแพงสูงอีกต่างหาก ดูเหมือนว่าทางออกทางเดียวก็คงจะเป็นประตูใหญ่หน้าบ้านสินะ
แกร๊ก~
พอเปิดประตูเข้าไปในตัวห้องพักมันก็ไม่ได้แย่เลย มีเตียงมีตู้เสื้อผ้ามีโต๊ะนั่งมีโต๊ะกินข้าวเล็กๆ แล้วก็ของใช้จิปาถะอีกนิดหน่อย
ร่างบางทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงอย่างแรง ตอนแรกเธอคิดเอาไว้ว่า พอกลับมาแล้วก็จะหางานที่บริษัททำ เพราะเราถึงยังไงเธอก็ไม่ได้มีหนี้สิน ไม่ได้มีอะไรที่จะต้องรับผิดชอบด้วยนอกจากตัวเอง และที่สำคัญเธอก็ไม่ได้คิดด้วยว่าจะได้เจอกับเขาอีก และก็ไม่ได้คิดด้วยว่าเขาจะยังฝังใจอยู่กับเรื่องที่เกิดขึ้น
เธอไม่เคยลืมเรื่องราวระหว่างเขาและเธอเลย แต่ก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องในอดีตแล้ว จนกระทั่งได้มาเจอเขาอีกครั้ง ความทรงจำเก่าๆ มันถึงได้ย้อนกลับมา
ก๊อกๆๆ
"ใครคะ?"
"ผมเอาของมาให้ครับ"
"....." พอได้ยินอย่างนั้นแล้ว เธอก็รีบเดินไปเปิดประตูทันที หน้าประตูห้องมีผู้ชายคนนึงยืนอยู่ ในมือของเขามีกระเป๋าเดินทางของเธอและกระเป๋าสะพายที่เธอทำหล่นไว้ตอนที่ถูกจับตัวมา
"ผมเอาของมาให้ครับ"
"ขอบคุณค่ะ" เธอรับกระเป๋าสะพายไป และตรวจดูทุกอย่างในกระเป๋า สิ่งที่หายไปก็คือโทรศัพท์มือถือของเธอ แต่ของทุกอย่างยังคงอยู่เหมือนเดิม "โทรศัพท์ของฉันล่ะคะ?"
"อยู่ที่คุณเจโรมครับ"
"แล้วฉันจะใช้อะไร?"
"ผมไม่ทราบครับ เดี๋ยวคุณเจโรมก็คงเอามาให้คุณเอง ผมขอตัวก่อนนะครับ"
"....." เธอลากกระเป๋าเดินทางเข้ามาในห้องนอนของตัวเอง ที่เขาไม่ยอมให้โทรศัพท์มือถือกับเธอคงกลัวว่าเธอจะเอาโทรไปหาใครสินะ มันก็แน่อยู่แล้วล่ะ ถ้ามันมีช่องโหว่ให้เธอหนีออกไปจากที่นี่ได้เธอก็ต้องทำอยู่แล้ว
แกร๊ก!
"อ๊ะ!" เธอสะดุ้งเพราะคนที่เปิดประตูเข้ามานั้นไม่ได้เคาะประตูก่อน แต่คนที่เข้ามาแบบนี้ได้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก
"เดี๋ยวนี้ขวัญอ่อนเก่งนักนะ"
"ก็นายเล่นพรวดพราดเข้ามาแบบนี้ ใครบ้างจะไม่ตกใจ"
"เฮอะ!"
"ขอโทรศัพท์ฉันคืนด้วย ฉันต้องใช้มัน ฉันต้องติดต่อหาเพื่อน"
"ฉันไม่ให้ อยู่ที่นี่เธอไม่จำเป็นต้องใช้ อยากได้อะไรบอกคนของฉัน"
"มันจะเกินไปแล้วนะ นายไม่มีสิทธิ์มาทำอะไรแบบนี้กับฉันเลยสักนิด ต่อให้จะโกรธจะเกลียดกันก็ไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้ ฉันเป็นคนนะไม่ใช่สิ่งของ ที่นายอยากจะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ"
"แล้วไง?"
"ขอโทรศัพท์ของฉันคืน" เธอพูดเน้นเสียง การที่เขาจับเธอมาขังไว้อยู่ที่นี่และทวงบุญคุณเมื่อหลายปีก่อนมันก็ไม่ยุติธรรมสำหรับเธออยู่แล้ว แต่นี่เขายังจะมายึดทรัพย์สินของเธออีก มันเกินไป
"เหรอ อยากได้คืนนั้นเหรอ ได้สิ" เจโรม ล้วงกระเป๋ากางเกงของตัวเอง หยิบเอาโทรศัพท์มือถือที่อยู่ข้างในนั้นออกมาทำท่าจะยื่นคืนให้กับเธอ แต่ทันใดนั้นเขาก็ปาไปที่เสาปูนอย่างแรงจนโทรศัพท์ของเธอนั้นแต่กระจัดกระจาย ไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีกเลย
"มันจะเกินไปแล้วนะ นี่มันของของฉันนะนายมาทำแบบนี้ได้ยังไง!"
"ก็ทำไปแล้วนี่ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย"
"....." หญิงสาวนั่งลงเก็บเศษโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมา จู่ๆ น้ำตามันก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ โทรศัพท์ของเธอมันก็ไม่ได้แพงอะไรขนาดนั้นหรอก แต่มันก็เป็นของมีค่าที่เธอรักษาและทะนุถนอมมาเป็นอย่างดี ตอนนี้ถูกเขาพังจนใช้งานไม่ได้อีกแล้ว
"บอกแล้วไงว่ามันไม่จำเป็นต้องใช้ อยากได้อะไรบอกคนของฉัน"
"แล้วถ้าฉันบอกให้คนของนายพาฉันหนีออกไปล่ะ"
"ถ้ามันกล้ามันก็เจอดี แต่ฉันคิดว่าคงไม่มีใครกล้าลองดีกับฉันหรอก"
"....." อีกครั้งที่เขาใช้น้ำเสียงจริงจังจนเธอไม่กล้าตอบโต้
"อย่าคิดหนีให้เปลืองแรงเลยดีกว่า เพราะมันมีแต่จะทำให้เธอเจ็บตัวเปล่าๆ"
"ฉันต้องชดใช้ยังไง เท่าไหร่ นานหรือเปล่า กว่าฉันจะได้ออกไปจากที่นี่"
"จนกว่าฉันจะเบื่อเธอ และระหว่างนี้ฉันจะทรมานเธอ ให้ทรมานเหมือนกับที่ฉันเคยเจอ"
"แค่คนมันเลิกกัน มันถึงกับต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ" เธอถามทั้งน้ำตา เพราะไม่เข้าใจเลยว่าแค่เลิกกันแค่นี้เขาถึงกับต้องทำแบบนี้กับเธอเลยเหรอ
"เธอจะได้รู้ไง ว่าตอนที่ฉันทรมานเจ็บปวดเพราะคำพูดของเธอการกระทำของเธอ มันเป็นแบบไหน"
"ต้องตายเลยไหม"
"มันเหมือนตายทั้งเป็นมากกว่า อยากจะตายแต่ก็ตายไม่ได้ เพราะต้องรอแก้แค้น กับคนที่ทำให้ฉันต้องเจ็บ"
"การที่จับตัวฉันมาแบบนี้ คือการแก้แค้นของนายเหรอ แล้วมั่นใจได้ยังไงว่าฉันจะทรมาน?"
"เดี๋ยวเธอก็รู้ ว่ามันทรมานยังไง" พูดจบเขาก็เดินตรงมาหาเธอ และด้วยท่าทีที่คุกคามนี้ทำให้เธอนั้นรีบถอยหนีด้วยความกลัว ด้านหลังที่เป็นเตียงอยู่แล้วจึงทำให้เธอสะดุดและล้มลงไปบนเตียง ดูเหมือนว่าจะเข้าทางเขาเลยด้วย
"หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ อย่าคิดจะทำอะไรบ้าๆ!"
"เธอคิดว่าคำพูดของเธอ มันจะทำให้ฉันกลัวเธอขึ้นมาได้เหรอ อย่าลืมสิว่าตอนนี้เธอก็ไม่ต่างอะไรจากลูกไก่ในกำมือของฉัน!"
"ไม่นะ ปล่อย!!" เธอสะบัดตัวอย่างแรง พยายามผลักเขาให้ออกไปจากตัวของเธอ แม้ตัวจะเล็กแต่แรงก็เยอะใช่ย่อย มือไม้ที่พยายามปัดป่ายก็เริ่มทำให้เขารำคาญ บวกกับเล็บที่ค่อนข้างยาวจึงสร้างบาดแผลเอาไว้ตามคอและหน้าอกของเขามากเลยทีเดียว แต่เธอก็ขัดขืนแบบนี้อยู่ได้ไม่นาน เพราะถูกเขาร่วมมือทั้งสองข้างขึ้นไว้เหนือศีรษะ และในตอนนี้เธอก็เสียเปรียบเพราะไม่สามารถฝืนแรงของเขาได้
"เรามารำลึกความหลังกันหน่อยไหม"