แม่ไม่ยอม

1155 Words
บทที่8) แม่ไม่ยอม ผ่านมาสองสัปดาห์เศษหลังจากที่นายอินทร์และน้ำอบตกลงคบหาดูใจกัน ทุกอย่างในโลกใบนี้มันช่างดูสดใสเสียจนทำให้ทั้งสองลืมคิดไปถึงปัญหาบางอย่างที่กำลังคืบคลานเข้ามาหาเขาทั้งคู่ไปเสียสนิทใจ "ไปสักทีเถอะจ้ะ" น้ำอบยกมือขึ้นลูบหัวหยักโศกสีม่วงที่กำลังถูไถอยู่กับต้นแขนของเธออย่างเอ็นดู "น้องน้ำอบไปกับพี่อินทร์ไม่ได้หรือจ๊ะ" นายอินทร์ที่ในวันนี้มีเหตุให้เขาต้องย่างเท้ากลับไปบ้านที่เขาไม่เคยก้าวขากลับไปถึงสามเดือนด้วยกันเอ่ยขอน้ำอบอย่างออดอ้อน "ไม่ได้จริงๆจ้ะ น้ำอบต้องทำงานพี่อินทร์ก็รู้นี่จ๊ะ" แม้แท้จริงแล้วถึงจะไม่ติดงานเธอก็ไม่คิดที่จะย่างกรายไปที่บ้านของเขาก็ตามทีเถอะนะ... หากแต่จะให้เธอบอกไปตรงๆเธอก็กลัวว่าเขาจะเสียใจ... ฟอด ปากหยักหนาพรมจูบลงบนหลังมือขาวผ่องเป็นยองใยนั้นอย่างเสน่หาก่อนทั้งคู่จะประสานสายตาหากันอย่างลึกซึ้งกินใจ "พี่อินทร์รักน้ำอบนะจ๊ะ" เขารวบเธอมากอดด้วยแขนข้างเดียวและสูดดมกลิ่นผมนางด้วยความรู้สึกวูบโหวงบางประการที่เขาเองก็ไม่สามารถที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้เช่นกัน "พี่อินทร์รู้สึกไม่ค่อยดีเลยจ้ะน้ำอบ,ไม่ไปแล้วได้ไหมจ๊ะพี่อินทร์" เมื่อได้เห็นความกังวลที่ฉายแววออกมาอย่างชัดเจนจากคู่ตากลมหวานนั้นนายอินทร์ก็รับรู้ได้ในทันทีว่าเขาไม่ได้รู้สึกไม่ดีอยู่คนเดียว "น้ำอบรู้สึกแปลกๆจ้ะ" ที่สุดแล้วน้ำอบก็ยอมเอ่ยถึงสิ่งที่รบกวนจิตใจเธอให้เจ้าของวงแขนแกร่งที่กอดรัดเธอไว้ได้รับรู้ "น้ำอบแค่...แค่...รู้สึกว่าเราอาจจะไม่ได้เจอกันอีก" เธอรู้ว่าตัวเองกำลังงี่เง่าที่ดึงรั้งเขาไว้เพึยงเพราะตัวเองรู้สึกไม่สบายใจที่จะต้องห่างกัน แต่ก็จะให้เธอทำอย่างไรเล่าก็ในเมื่อเขาสูงส่งเอาเสียขนาดนั้น และมันคงจะไม่แปลกหรอกใช่ไหมถ้าเธอกลัวว่าตัวเองจะสูญเสียเขาไปตลอดกาล... "น้ำอบรักพี่อินทร์นะจ๊ะ ปลอบใจน้ำอบทีได้ไหมจ๊ะว่าพี่อินทร์จะกลับมา" เธอหมุนตัวเข้าหาร่างแกร่งที่อยู่ด้านหลังและซบลงบนอกสามศอกนั้นอย่างคนึงหา ปากกระจับสีแดงสดพรมจูบลงบนหน้าอกด้านซ้ายของนายอินทร์เบาๆอย่างฝากฝังในคำสัญญา "พี่จะกลับมาทูลหัว" แขนแกร่งสวมกอดร่างอรชรนั้นไว้แนบแน่นเคียงกายก่อนจะออกแรงกดหัวกลมทุยนั้นเบาๆเพื่อให้เธอได้ฟังเสียงหัวใจของเขา "ได้ยินเสียงหัวใจของพี่อินทร์ไหมจ๊ะ มันเรียกหาแค่ชื่อน้องน้ำอบคนเดียวนะจ๊ะทูลหัว..ขอให้คนดีของพี่โปรดจงเชื่อใจ" "จ้ะ น้ำอบเชื่อพี่อินทร์" น้ำอบผละจากอ้อมกอดนั้นสองแขนเรียวออกแรงดันคนตัวใหญ่ให้ขึ้นไปบนรถสปอร์ตคันหรูของเขาอย่างกล้ำกลืนฝืนทน "ขับรถดีๆนะจ๊ะพี่อินทร์" "พี่จะกลับมาแน่นอนจ้ะทูลหัว" น้ำอบจ้องมองรถคันคุ้นตาที่ค่อยๆออกตัวไปจนลับสายตาด้วยความรู้สึกห่อเหี่ยวข้างในจิตใจ สองสัปดาห์ที่ผ่านมานายอินทร์ดูแลเธอเป็นอย่างดีประหนึ่งว่าเธอเป็นเทพธิดาตัวน้อยๆของเขา เขาเอาใจใส่เธอดีเสียจนน้ำอบคิดว่าตัวเองคงจะทนไม่ไหวถ้าหากจะต้องสูญเสียเขาไป... "น้ำอบจะรอนะจ๊ะ" คฤหาสน์จักยิ่งรุ่งเรือง "พี่อินทร์" เสียงหวานๆจากปากของน้องสาวฝาแฝดคนสวยอย่าง 'ชนกกมล ศิวาพร หรือบังอร' เรียกความสนใจจากพี่ชายที่กำลังก้าวขาลงจากรถได้เป็นอย่างดี "ว่าไงยัยตัวแสบ" นายอินทร์สวมกอดบังอรที่ยื่นแขนมารออยู่ก่อนหน้าอย่างแสนคิดถึง "แล้ววันนี้ทำไมถึงได้ตื่นตั้งแต่ไม่ทันบ่ายโมงละหือคนเก่งของพี่อินทร์" บังอรคือนิยามของลูกคุณหนูที่แท้จริงสำหรับนายอินทร์ ด้วยว่าหล่อนนั้นใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบายภายในคฤหาสน์หลังหรูโดยมีทุกสิ่งอย่างที่ต้องการมาประเคนถึงหน้าตักโดยที่เธอแทบจะไม่ต้องออกแรงเดินให้เสียเหงื่อ ซ้ำยังเรียนหนังสืออยู่ที่บ้านและนอนตื่นในเวลาเกือบบ่ายสามได้โดยที่ไม่มีใครกล้าด่าทออะไรแม้กระทั่งเจ้าเอยผู้ซึ่งเป็นแม่แท้ๆของพวกเขา เพราะบังอรมีกองหนุนสำคัญอย่าง 'จ้าวฮั่น ชยพัทธ์ ศิวาพร' ผู้เป็นพ่อคอยให้ท้ายอยู่นั่นเอง "ก็แม่นะสิ" บังอรเบะปากคว่ำลงคล้ายจะร้องไห้เมื่อนึกถึงใบหน้าที่ดูเหมือนยักษียักษาขึ้นทุกวันของแม่บังเกิดเกล้านับตั้งแต่วันที่พี่ชายฝาแฝดอย่างนายอินทร์หายหน้าหายตาไปถึงสามเดือนเต็มด้วยกัน "พี่ขอโทษ" นายอินทร์เผยยิ้มอ่อนโยนให้กับน้องสาวอย่างเอ็นดู "พี่ก็กลับมาแล้วนี่ไง" "ไหนละพี่สะใภ้ของบังอร" เธอไม่ได้ไร้เดียงสามากพอที่จะดูไม่ออกว่านายอินทร์นั้นหายหน้าหายตาไปด้วยเหตุอันใด "บังอรรู้หรอกน่า" "รู้ดีจริง แต่ไม่บอกหรอกหลอกให้งง" นายอินทร์เคาะหน้าผากราวสิบไร่เศษของน้องสาวอย่างมันเขี้ยวก่อนจะออกแรงฉุดดึงให้น้องสาวเดินเข้าไปในบ้านพร้อมๆกัน "สวัสดีครับแม่" นายอินทร์ทรุดตัวลงนั่งและนวดเท้าเล็กๆของมารดาผู้ให้กำเนิดอย่างเอาอกเอาใจ "มาแล้วเหรอลูก" ความขุ่นเคืองที่เคยมีมาตลอดหลายเดือนพลันมลายหายไปทันทีที่เจ้าเอยได้เห็นใบหน้าของลูกชายคนโปรด "หิวไหมลูกนายอินทร์ แล้วนั่นแกจะยืนบื้ออยู่อีกนานไหมบังอร! ไปจัดโต๊ะให้พี่เขาสิ พี่เขากลับมาเหนื่อยๆแกไม่เห็นหรือไง!" เจ้าเอยเอ่ยถามบุตรชายเสียงหวานก่อนจะหันไปตะคอกใส่บุตรสาวที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมอย่างขัดใจ "ไปกินข้าวก่อนนะลูกนะแม่เตรียมของโปรดนายอินทร์ไว้ทั้งนั้นเลย" "ครับแม่" หลังจากที่แน่ใจว่านายอินทร์และบังอรเดินออกห่างไปแล้วใบหน้าที่เริ่มร่วงโรยไปตามกาลเวลาของคนเป็นแม่ก็ดุกร้าวขึ้นมาจนเห็นได้ชัดในทันที ."ไม่ว่ามันจะเป็นใครแต่แม่ก็จะไม่มีทางยอมให้ลูกกลับไปหามันเป็นครั้งที่สองเป็นอันขาด!" สตอเบอร์รี่ทั้งสวนก็สู้เจ้าเอยไม่ได้สินะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD