Code Line 7
“เอาล่ะค่ะน้องๆ วันนี้พี่มีข่าวมาแจ้งนะคะเนื่องจากสัปดาห์หน้าที่เป็นวันเฉลยสายรหัสใกล้กับการเตรียมงานสถาปนามหาวิทยาลัยทางคณะเลยเลื่อนวันเฉลยสายมาเป็นวันนี้”
“โฮ พี่ครับพวกผมยังหาพี่ปีสี่ยังไม่เจอเลยครับ”
“ไม่ต้องซีเรียสจ๊ะ พี่มีเวลาให้ตั้งสองชั่วโมงในการเฉลยสายรหัส” สองชั่วโมงจะทันได้ยังไงกันฉันหามาทั้งสัปดาห์ก็ไม่เจอกับอีแค่สองชั่วโมงจ้างนักสืบไม่รู้จะเจอหรือเปล่าเลย
“ขิงเจอยังพี่ปีสี่อะ” กะทิที่นั่งข้างๆเอียงหน้ามากระซิบถามเมื่อพี่ๆปล่อยให้พัก
“ยังเลยอะดิ”
“ของฉันเจอแล้วนะ คุยกันแล้วด้วย” กะทิบอกแบบนั้น
“ดีจัง”
“น้ำขิง รหัส 9397 อยู่ไหนครับ!” หือ? รหัสกับชื่อฉันนี่นา ฉันมองตามเสียงแล้วยกมือให้พี่รู้ เราถูกปล่อยให้พักก็จริงแต่พี่ๆไม่ให้เดินออกไปไหนนอกจากเข้าห้องน้ำ พอยกมือไปพี่ที่เรียกหาฉันเมื่อกี้ก็เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับหอบถุงขนมถุงใหญ่เข้ามาใกล้
“น้ำขิง รหัส 9397 ใช่ไหมครับ?” พี่หน้าหล่อๆเอียงคอถาม
“ค่ะ สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ อะนี่ปู่รหัสเรามันฝากมาให้ มันบอกว่า อะแฮ่ม!
หาพี่ให้เจอนะครับพี่มองเราอยู่
“เอ่อ พี่คะ พอจะใบ้ให้หนูหน่อยได้ไหมคะว่าพี่ปีสี่ลักษณะยังไง?” ฉันมองพี่ตรงหน้าอย่างมีความหวัง
“อือ มันสูงเราน่าจะเท่าไหล่มันพอดี มันขาวมากมีลูกเป็นหมาแล้วก็อยู่ใกล้ๆน้อง พอๆพี่ไปละนะ”
“ขอบคุณค่ะพี่”
คำใบ้ที่ได้มาเหมือนกับต้นไม้กินไฮเตอร์อะทั้งสูงแล้วก็ขาวขนาดนั้น ฉันคิดขำๆก้มมองขนมในถุงอย่างตื่นเต้นเพราะในถุงเต็มไปด้วยช็อกโกแลตที่ฉันชอบฉันหยิบออกมาแบ่งเพื่อนแต่พวกนั้นปฏิเสธบอกว่ามันจะอ้วน ชิ ไม่รู้จักของอร่อยซะแล้ว พี่ปล่อยให้นั่งพักอีกสักพักใหญ่ๆก่อนจะเข้ามาทำกิจกรรมแล้วปล่อยให้หาสายรหัสฉันยังไม่ทันจะได้เดินไปไหนพี่สสิลุงเอ่อ ป้ารหัสที่เป็นผู้ชายหน้าสวยเสียงหวานเขียนคิ้วโก่งกว่าฉันเดินเข้ามาล็อคคอแล้วพาเดินไปที่ใต้ต้นไม้ที่มีลุงรหัสยืนอยู่ด้วย
“ไงเราร้อนไหม?” พี่ลมเอ่ยถามเมื่อฉันหยุดยืนอยู่ตรงหน้ายกมือไหว้พี่เขา
“นิดหน่อยค่ะ เอ่อ พี่คะไม่มีคำใบ้ให้หนูจริงๆเหรอคะ” ฉันถามอย่างร้อนรน ฉันกลัวหาสายรหัสไม่ครบจริงๆนะ
“มีแต่ยังไม่ให้” พี่ลมบอกมาแบบนั้น ส่วนพี่สสิยื่นผ้าเย็นมาให้พร้อมกับบ่นนิดๆหน่อยๆ
“โอ๊ยผิวแกบางเกินไปแล้วนะขิง แก้มแดงหน้าแดงไปหมดแล้ว”
“พี่บอกให้น้องพักก่อนแล้วค่อยให้น้องเดินไปหา” พี่ลมพูดกับพี่สสิแต่ฉันแอบเสียมารยาทฟังไปด้วย
“เออๆ นั่งค่ะลูก”
“ขอบคุณค่ะ” ฉันยิ้มให้พี่ทั้งสองแล้วนั่งลงข้างๆพี่สสิ ไม่กล้านั่งใกล้พี่ลมหรอกฉันกลัว
“เสร็จนี่ปู่รหัสเราจะพาไปเลี้ยงสายนะ อยากกินอะไร”
“หนูยังนึกไม่ออกหรอกค่ะ พี่อยากกินอะไรเราไปอันนั้นก็ได้ค่ะ”
“บ้าเหรอต้องตามใจเราสิ เอาไว้เดี๋ยวค่อยคิดก็ได้ มาพี่จะใบ้ให้นะ” หูตั้งเลยฉัน มือที่กำลังจะยกขวดน้ำขึ้นดื่มชะงักรอฟังคำใบ้จากพี่สสิ
“ปู่รหัสเรานั่งอยู่กลุ่มนั้นกลุ่ม
เดือนรหัสปีสี่
” กลุ่มเดือนรหัสปีสี่? ปลายนิ้วที่เคลือบด้วยสีสันแสบตาชี้ไปยังกลุ่มพี่วินที่นั่งอยู่ม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ฝั่งตรงข้ามพวกเรา รอบข้างลานกว้างๆมีนิสิตทั้งสี่ชั้นปีกำลังวิ่งวุ่นหาสายรหัส บางคนร้องเพลง บางคนเต้น บางสายรหัสทั้งเต้นทั้งร้องตั้งแต่ปีหนึ่งถึงปีสาม เสียงกลองเสียงเพลงสนุกทำให้ฉันรู้สึกสนุกไปด้วยและอดที่จะตื่นเต้นตามไม่ได้
“ปู่เรามีขนมที่เราชอบ” พี่สสิกับพี่ลมบอกแค่นั้น ฉันมองกลุ่มพี่วินทุกคนแต่มีจังหวะหนึ่งที่ฉันและพี่วินจ้องตากันมันรู้สึกแปลกๆฉันเลยหลบสายตาคมของเขามองรอบๆกลุ่มเขาอีกครั้ง พี่ๆแต่ละคนมีปีหนึ่งเข้าไปหาเข้าไปรายงานตัวและทุกคนก็โดนแกล้งให้ร้องให้เต้นแล้วฉันก็คงจะไม่วายโดนให้ร้องให้เต้นสินะ
“ว้าวๆๆๆ มาแล้วๆตัวพีคอยู่นี่เว้ย”
“กูจองๆ อยากให้น้องเต้น”
“มึงถามเพื่อนมึงหรือยัง” เสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นเรื่องๆเมื่อฉันหิ้วถุงขนมเดินเข้าไปยังกลุ่มพี่วิน พี่วินจ้องฉันไม่วางตาจนฉันกลัวว่าตัวเองจะเดินสะดุดล้มเพราะประมาทกับสายตาคมนั่น
“พอๆน้องมาถึงละ”
“ว่าไงน้องน้ำขิง มาหาใครครับ?” พี่นนท์ถามกลั้วเสียงหัวเราะ แต่แววตาพวกพี่ที่มองมาทำไมฉันสัมผัสได้แต่คำว่าลูก หนู น้อง อะไรแบบนี้เต็มไปหมด พวกเขาเห็นฉันเป็นลูกเหรอ
“สวัสดีดีค่ะ หนูชื่อ...” ฉันรายงานตัวไม่ใช้อภิสิทธิ์ที่รู้จักพี่ๆทำให้ตัวเองสบายกว่าเพื่อน เลยตัดสินใจรายงานตัวเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ
“หนูมาตามหาปู่รหัสค่ะ”
“น้องไม่เล่นกับมึงว่ะนนท์ ฮาๆๆๆ”
“ไอ้ขิง! พี่งอนแกเว้ยมาง้อด้วยนะเว้ย” พี่นนท์ดีดดิ้นไปมาอย่างขัดใจ ฉันมองอย่างขำแต่แอบกวาดสายตามองพี่ๆทุกคนอย่างสังเกตแต่ทุกคนไม่มีสิ่งที่ฉันต้องการเลยกระทั่งก้มมองพี่วินที่นั่งอยู่ตรงหน้าพอดีมือขาวนั้นเหมือนจะกำซองขนมไว้แต่เสียใจฉันจำได้ว่าซองนั้นมันคืออะไร
“พี่วินพี่คือปู่รหัสหนูใช่ไหมคะ”
“หือ? ทำไมคิดว่าเป็นพี่ล่ะ” พี่วินเงยหน้าถาม
“พี่มีขนมที่หนูชอบ ป้ากับลุงรหัสใบ้มาค่ะ”
“หึ ใช่พี่เป็นปู่รหัสเราแต่บอกหน่อยสิทำไมพี่ต้องรับเราเข้าสาย ทั้งที่พี่ก็อยู่กับเราตลอดไม่สังเกตกันบ้างเลยเหรอ?” อ่า แล้วฉันจะตอบยังไงล่ะทีนี้ น้ำเสียงจริงจังของเขาทำให้ฉันไม่กล้าสบตาเขาอีกเลย
“ขอโทษค่ะ หนูไม่ทันสังเกตเอง”
“เอาเถอะ ยังไงก็มารายงานตัวแล้วนี่นา” พี่วินว่าอย่างจำยอม เหมือนเขาเองก็ไม่อยากรับฉันเข้าสายรหัสฉันก้มหน้าบีบมือตัวเองแน่น ใจเย็นๆน้ำขิง
“กูข้ามไปจุดสายรหัสก่อนนะ” คนตรงหน้าขยับลุกขึ้นยืนฉันเลยถอยสองก้าวให้ห่างจากเขา สองก้าวนี่ออกมายืนตรงแสงแดดส่องพอดีสินะ
“จะข้ามไปฝั่งนู้นเหรอ?”
“อือ”
“พี่บัณฑิตมึงฝากของมาให้ บอกว่าให้มึงใช้เพราะเขาแอบมองอยู่”
“สัส! ชอบนักนะให้ผัวมาแกล้งกูเนี่ย” เสียงพี่วินเถียงอะไรสักอย่างกับเพื่อนก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะพอแอบเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นว่าพี่วินถือร่มคล้ายๆกับร่มแม่ค้าแผงลอยแต่อันนี้เล็กกว่านิดหน่อยคล้ายกับร่มสนามที่สำคัญเป็นสีรุ้งด้วย
“เอาถุงมาพี่ถือให้” เมื่อพี่วินกางร่มเดินเข้ามาใกล้เขาก็ปรับเสียงนุ่มยื่นมือมาช่วยถือถุงขนมถุงใหญ่ที่คาดว่าเขานั่นแหละที่เป็นคนซื้อให้ ฉันไม่อยากจะให้เขาถือให้แต่ก็ขัดไม่ได้
“โกรธพี่เหรอ?”
“เปล่าค่ะ” ฉันไม่มีสิทธิ์ขนาดนั้น ฉันส่ายหน้ายิ้มให้เขา ถ้ากะทิเห็นก็จะบอกว่าฉันโกหกไม่เนียน
“ขิง พี่ดูออก”
“หนูไม่ได้โกรธจริงๆ” ฉันยืนยันแต่ไม่ยอมมองหน้าพี่วินเลยเอาแต่ก้มหน้าเดินตามเงาร่ม
“ถ้าไม่โกรธก็เงยหน้ามองพี่” ฉันส่ายหน้า เมื่อไหร่จะถึงเนี่ยทำไมพี่วินเดินช้าจัง ถึงร่มมันจะมหึมาแต่มันก็ยังร้อนนะ
“เมื่อกี้พี่แกล้งเล่นเฉยๆ อย่าโกรธพี่เลยนะ”
“หนูไม่ได้โกรธ” ฉันยืนยันคำเดิมและได้ยินเสียงถอนหายใจจากพี่วิน
“เดี๋ยวค่อยคุยกันตอนกลับบ้าน เย็นนี้อยากกินอะไรจะพาไปเลี้ยง”
“นึกไม่ออกค่ะ”
“ให้เวลาคิดอีกสามสิบนาทีแล้วกัน อะถึงแล้ว” เราเดินมาถึงโต๊ะที่พี่ลมกับพี่สสิรออยู่พี่ๆคุยกันอีกนิดหน่อยก่อนจะหันมามองฉันเป็นตาเดียว
“ไปหาไรกินกันเถอะ พี่วินเลี้ยง”
“ถามน้องอยากกินไร” พี่วินจ้องฉันอย่างเปิดเผย มีเพื่อนหลานคนบอกว่าต้านทานสายตาพี่วินไม่ไหวเวลาถูกเขามองแม้จะเป็นเวลาแค่เสี้ยววิ ทีแรกฉันก็เฉยๆอยู่หรอกหลังๆมาไม่เข้าใจว่าทำไมตัวฉันเองต้องใจสั่นกับเขามันเป็นอากการร้อนวูบวาบหัวใจเต้นแรง ยิ่งเขาพูดครับพูดคะขาด้วยแล้วยิ่งทำให้เขิน
“ว่าไงอยากไปไหน”
“คะ? อ้อ ไป ไปกินข้าวเฉยๆก็ได้ค่ะ”
“ฮื่อ พี่อยากกินหมูกระทะชาบูอ่า” พี่สสิร้องไห้ออกมาอย่างงอแง พี่ลมหัวเราะส่วนพี่วินมองฉันพร้อมกับยิ้มมุมปาก
“เราไปชาบูก็ได้ค่ะ”
“ไม่ๆ ไปกินข้าวนั่นแหละ”
“ไปพร้อมพี่เลยไหมหรือเอารถมาเอง” พี่วินถามพี่สสิกับพี่ลม ส่วนมือเขาก็ก้มหยิบกระเป๋าสะพายฉันรวมถึงร่มของฉันที่กางมาเมื่อเช้า แต่เดี๋ยวนะของๆฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงฉันเอาไว้ที่จุดฝากของนี่
“พี่เอามาให้เองแหละ เขาเก็บโต๊ะน่ะ” พี่สสิบอก
“ขอบคุณนะคะ” ฉันยกมือไหว้พี่สสิสวยๆอย่างขอบคุณ
“ไม่เป็นไร”
“งั้นก็ไปพร้อมกันเลยเดี๋ยวพี่วนรถเข้ามาส่ง” พี่วินสรุป เราทั้งสามค้านไม่ได้เลยตกลงตามที่เขาเสนอ พี่วินเดินถือของเพื่อพาไปที่รถด้านหลังนั้นคือพี่ลมที่ถือร่มสนามและพี่สสิที่ถ่ายรูป
“ขิง”
“คะ?”
“หยิบกุญแจรถหน่อยในกระเป๋ากางเกงมือพี่ไม่ว่างครับ” พี่วินหยุดยืนอยู่ข้างๆรถบอกเร่งๆฉันพยักหน้าหงึกหงักล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงสแลคเนื้อดีอย่างกล้าๆกลัวๆ ก็กลัวมันจะไปโดนอะไรที่ไม่ควรโดนน่ะสิ พอได้กุญแจฉันก็กดปลดล็อครถทันทีพี่วินเอาของไปไว้ที่ท้ายรถหมายถึงร่มฉันนั่นแหละ พี่ลมวิ่งเอาร่มสนามตามเข้าไปเก็บจากนั้นพี่วินก็เดินมาเปิดประตูด้านหน้าคู่คนขับให้ฉันพร้อมกับรับกุญแจรถกลับไป ถุงขนมและกระเป๋าสะพายพี่วินยื่นให้หลังจากฉันนั่งบนรถเรียบร้อย ดูแลดีมากนี่เป็นแค่เหลนรหัสนะ
“ขิง”
“คะ?”
“ไปกินสเต็กไหม อยู่ในห้างตอนนี้คนไม่น่าจะเยอะเท่าไหร่”
“ได้ค่ะ โอ๊ะ ขออนุญาตรับสายนะคะ” ฉันมองหน้าเจ้าของรถอย่างรู้สึกผิด แต่พี่วินแต่หัวเราะแล้วพยักหน้าให้เท่านั้น
“ค่ะพี่”
(ทำอะไรอยู่)
“กำลังจะไปกินข้าวค่ะ ทำงานเสร็จแล้วเหรอ?”
(เสร็จแล้ว กำลังจะไปหานะอาจจะถึงสักตีหนึ่งนอนไปก่อนเลยไม่ต้องรอ)
“จะมาจริงๆใช่ไหม บริษัทไม่ว่าใช่หรือเปล่า” ครั้งก่อนที่พี่แอบมาเพราะฉันเข้าโรงพยาบาลฉันก็รู้สึกผิดจะแย่แล้วฉันไม่อยากให้พี่โดนดุอีก
(ไม่ว่า ก็มันเป็นช่วงวันหยุดนี่นาอีกอย่างพี่มีงานที่ไทยชิ้นหนึ่งด้วย)
“ก็ได้ค่ะ ให้ทำอะไรไว้ให้ก่อนไหม”
(ไม่เป็นไรๆ แล้ววันนี้เป็นยังไงบ้างรับน้องอะไรด้วยใช่ไหม)
“ใช่ๆ สนุกมากได้ขนมมาเยอะมากพี่ๆซื้อให้”
(กินเยอะจะกลายเป็นหมู ไปกินข้าวก็ดูแลตัวเองดีๆนะเดี๋ยวเจอกันคนสวย)
“เจอกันค่ะ”