บทที่2.ก็เลือกที่จะเดินไป...จะสนทำไมกับทางที่ผ่านมา

1608 Words
“ไม่คิดว่าจะบังเอิญได้เจอเจ้าบ่าวหมาดๆ มานั่งก๋งเหล่าอยู่ที่นี่คนเดียว แทนที่จะนอนอุ่นอยู่ในรังรักเมื่อมีเมียให้กกอย่างสบายอารมณ์” เสียงทักทายแบบคนยอมเสียมารยาท เมื่อโลแกนลงทุนเปิดห้อง VIP เขาต้องการความเป็นส่วนตัว เวลานี้ชายหนุ่มกำลังอารมณ์เสียสุดขีด สายตาคมกริบเหลือบมองคนพูด จะเป็นใครล่ะที่กล้าแหย่หนวดเสือ ไม่มีใครกล้าโผล่หน้าเข้ามาหาเขา ถ้าไม่ใช่ เอแวน!! “คุณอ่านหนังสือไม่ออกเหรอเอแวน หน้าประตูนั่น ไม่ได้ติดคำว่า private ไว้หรอกเหรอ?” เป็นการไล่แบบอ้อมๆ เพราะตอนนี้โลแกนไม่อยากสร้างเรื่องฉาวให้ตัวเองอีก แค่เรื่อง ‘เจ้าสาวหนี’ เรื่องเดียวเขาก็ปวดกะบาลแทบแยก หากมีเรื่องชกต่อยกับหุ้นส่วนด้วยละก็ เขาไม่อยากคิดเลยว่าราคาหุ้นของโคล์อินดัสตรี้จะดิ่งลงเหวได้ขนาดไหน หนุ่มหล่อน้องๆ แบรดพิตต์ตอบกลับทันควัน “ก็เห็นอะนะ แต่ผมมันคนชอบเสือก...คุณก็รู้” มุมปากสีเข้มกระดกยิ้มหยัน เขาลืมไปได้ยังไงว่าเอแวนมันเป็นหมาบ้า มันกัดเขาไม่ปล่อยมาหลายปี ไม่รู้ว่าไปเผลอเหยียบตาปลามันเข้าตอนไหน “นั่นสินะ ผมก็ลืมไป สรุปเรื่องที่คาร่าหายตัวไป ฝีมือคุณงั้นสิ” เอแวนนิ่งเขาไม่ตอบ เท่ากับมันยอมรับกลายๆ “ผมไม่รู้นะว่าคุณทำเพราะต้องการอะไร” โลแกนหยุดพูด เขาฉวยแก้วบรั่นดีขึ้นกระดกอึกๆ “แต่ก็ต้องขอบคุณคุณนะเอแวน คุณช่วยทำให้ผมไม่ต้องติดคุก” แก้วเปล่าในมือ โลแกนยกชู เหมือนกำลังแสดงความยินดีกับอิสรภาพที่มีใครบางคนหยิบยื่นให้ “ข้อตกลงระหว่างผมกับแม่...จะไม่เปลี่ยน แม้ว่า ‘หล่อน’ จะไม่อยู่ เมื่อผมไม่ได้เป็นคนผิดข้อตกลง ทีนี้คุณรู้แล้วหรือยัง คุณไม่มีวันจะเขามากร่างในโคล์อินดัสตรี้ได้ ต่อให้คุณทุ่มหมดตัวก็เถอะ” ไหนๆ ก็ได้โอกาสกระแทกสักที โลแกนเลยจัดหนัก กระแทกเสียจนเอแวนหน้าหัน ให้มันรู้เสียบ้างว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร เขาไม่ใช่ไก่อ่อนที่จะถูกมือใหม่เข้ามาลูบคม หนุ่มหล่อพอฟัดพอเหวี่ยงกับแบรดพิตต์ ยิ้มย่อง “มันก็ไม่แน่...ตอนนี้คุณลำพองกับอิสระที่คุณเพิ่งได้รับ ในอนาคต คุณอาจจะอยากจับตัวเองยัดกลับเข้าไปในกรงทองเองก็ได้” เอแวนได้พบเจอกับมรินญาแล้ว หล่อนมีเสน่ห์ไม่น้อยและหากมองกันดีๆ อีกหลายๆ ปีให้หลัง หล่อนจะต้องเพอร์เฟคกว่านี้ เขาไม่รู้ว่าโลแกนใช้อะไรมอง ถึงได้ไม่เห็นว่ามรินญางามพร้อมขนาดไหน...มาดามนับทองตาแหลม ท่านวางแผนอนาคตให้บุตรชาย ด้วยการหาคนที่ไว้ใจได้ให้มายืนขนาบข้าง แต่ความหวังดีของท่านถูกปัดทิ้ง เขาอยากสมน้ำหน้าโลแกน แต่รอเวลาอีกหน่อยก็ได้ เพราะหัวเราะตอนนี้ หรือในอนาคต เขาก็ย่อมหัวเราะได้เสียงดังกว่าแหงๆ เอแวนถอยหลังกลับ แววตาของเขาจัดจ้า เขาอยากเห็นวันที่ไอ้เพื่อนแสนทะนงสัมผัสคำว่า ‘พ่าย’ เขาอยากเห็นโลแกนแพ้หมดรูป หากโลแกนได้สัมผัสคำว่า ‘ความรัก’ “ไม่มีวันนั้นแน่ เอแวน” หนุ่มสุดทะนง รำพันเสียงแผ่วๆ เขาจมดิ่งในหุบเหวของความลำพอง ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าตัวเองป้ายรอยร้าวไว้ในหัวใจใครบ้าง เมื่อความเย็นชาถูกฉาบหน้า แถมด้วยความเห็นแก่ตัวของเพศชาย เขาสนุกกับการโปรยเงินตราลวงล่อเหล่าผีเสื้อแสนสวย ฉีกกระชากทำลายปีกอันบางเบานั่น และเดินเหยียบย่ำด้วยฝีเท้าหนักๆ ผ่านไป หลังหมดค่าความสวยงามนั่นแล้ว!! วันนี้โลแกนยังฮึกเหิมอยู่ได้ เพราะยังไม่มีสตรีนางใด สามารถทำลายปราการที่ชายหนุ่มสร้างไว้ป้องกันหัวใจตัวเองได้ แต่ในอนาคตล่ะ? คงมีสักคนล่ะที่สามารถเดินฝ่ากำแพงแข็งแรงอันนั้นเข้าไปได้...เพราะพระผู้เป็นเจ้าคงไม่กำหนดไว้ให้คนๆ หนึ่งลิ้มรสกับคำว่าชัยชนะฝ่ายเดียว... หลังจากวันนั้นโลแกนก็ทำอย่างที่ตัวเองพูด เขาไม่เคยติดตามสืบหามรินญา ปล่อยให้หล่อนหายเงียบเข้ากลีบเมฆ เปลี่ยนคู่ควงเป็นว่าเล่น และทุกๆ คนก็ลืม...ลืมว่าโลแกนมีภรรยาตัวเป็นๆ แล้วในชีวิต 3ปีผ่านไป... เวลาเดินเร็วเหมือนลมพัด ชั่วเวลาไม่นาน มรินญาก็เดินผ่านเวลาแสนนานนั่นมาเกือบ3 ปี หญิงสาวปิดหูปิดตาตัวเอง เธอไม่เสพสื่อ พยายามไม่หลงลงไปเวียนว่ายในอินเตอร์เนต เพราะไม่อยากให้ความเจ็บช้ำ ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองอีก เพราะต่อให้ ‘เขา’ อยู่เฉยๆ เขาก็ยังมีพลังอำนาจทำให้เธอน้ำตาร่วงได้เป็นอย่างดี ‘นาง’ คำนำหน้าชื่อของมรินญาเป็นคำว่า...นาง...หาใช่นางสาว เมื่อเธอเคยแต่งงานมาก่อน หญิงสาวไม่เคยป่าวร้อง แม้จะมีหนุ่มแวะเวียนมาถาม ตลอดช่วงเวลา3 ปี หญิงสาวเลือกที่จะนิ่ง เธอไม่ปริปากพูด นานๆ เข้าพวกเขาก็คร้านที่จะถาม แต่ไม่มีใครถอยทัพ เมื่อบุคคลที่เป็นสามีของหญิงสาว ไม่ปรากฏตัวขึ้นสักที กรุ้งกริ้ง!! เสียงกระพรวนที่มรินญาห้อยไว้เหนือประตูทางเข้าสั่นกราว หญิงสาวเงยหน้าขึ้นจากการมองเครื่องบดเมล็ดกาแฟ พรางส่งยิ้มให้กับลูกค้าคนใหม่ แต่รอยยิ้มนั้นกลับต้องค้างไว้บนเรียวปากอิ่ม พร้อมกับเธอที่ค่อยๆ เดินถอยหลังช้าๆเพราะคนที่เดินผ่านประตูร้านกาแฟของเธอเข้ามา เป็นคนที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี... แต่หาได้อยากพบเจอกับเขาไม่ ‘โลแกน โคล์’ เจ้าของนามสกุลที่เธอใช้มากว่า3ปี!! ชายหนุ่มกราดตามองรอบร้านกาแฟเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมถนนเขายิ้มเย็นๆ ส่งให้ทุกคนรอบตัว โดยเฉพาะคนที่เขาเจตนามาหา แม้จะอึ้งไปสักนิด เมื่อหล่อนไม่ใช่แบบที่เขาคิดไว้ โลแกนแอบทึ่ง!! หล่อนเลือกทำเลเหมาะในการค้าขายชลบุรีเป็นเมืองที่มีคนต่างชาติแวะเวียนมาเยอะที่สุด!! เนื่องจากมีทะเลสวย มีแหล่งท่องเที่ยวหลายที่ แถมยังไม่แออัดเหมือนในเมืองกรุง ธรรมชาติยังคงความสวยงาม แม้จะถูกทำลายไปไม่น้อย โลแกนกระตุกยิ้มซ้ำ เขาทอดสายตามองผู้หญิงคนนั้น พรางใคร่ครวญเค้าหน้าหล่อนในใจ...ในความทรงจำของชายหนุ่ม มรินญาคือผู้หญิงแสนเฉิ่มเชย หล่อนมักจะสวมกระโปรงยาวกรอมเท้าสีหม่นๆ กับเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งและผมเปียสองข้างบนศีรษะ แว่นตากรอบโตหนาเตอะปิดใบหน้ากว่าครึ่ง และเมื่อได้พบหล่อนอีกครั้งในวันนี้ หลังเวลาผ่านไป 3ปี หล่อนแทบจะไม่เหลือเค้าเดิม...แม่มโคตรเหลือเชื่อ!! ผู้หญิงสาวตรงหน้าเขา หล่อนสวยหวานขึ้น ใบหน้าเนียนใส หล่อนสลัดแว่นตาหนาเทอะทะนั่นทิ้งไปแล้ว ผมเส้นเล็กสีน้ำตาลอ่อนคลอเคลียไหล่ ดูเหมือนจะถูกดัดเป็นลอนเล็กๆ ทำให้ใบหน้าหล่อนดูอ่อนหวานมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม ดวงตากลมโตใต้แพขนตางามงอน ไม่มีแว่นตาหนาเตอะที่เขาเคยแอบค่อนในใจ ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อจนทำให้เขานึกถึงกลีบดอกไม้ชนิดหนึ่ง ‘ซากุระ’ โลแกนอยากรู้...รสสัมผัสของหล่อนจะหอมหวานดั่งเช่นกลีบละมุนของดอกไม้นั่นหรือไม่ สายตาแหลมคมของเขาไล่เรียงลงมาเรื่อยๆ พยายามทำตัวเนียนๆ ไม่กระโตกกระตากให้หล่อนรู้ เขาใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีก็สามารถจดจำรูปลักษณ์แบบใหม่ของหล่อนได้จนขึ้นใจ หล่อนถอดรูปจากคุณป้ายุค60 กลายมาเป็นสาววัยใสได้อย่างไม่มีที่ติ เวลานี้โลแกนชักอยากจะเปลี่ยนใจ... หากต้อง ‘หย่า’ กับหล่อนจริงๆ ขอเขา ‘ชิม’ หล่อนให้สมอยากก่อนคงพอไหว เขาคุมเกมได้ และแน่ใจว่าไม่ยาก...กว่าที่สาวคนรักจะรู้ตัว เขาก็คงทิ้งมรินญาไปแล้ว “สวัสดี คาร่า!!” เขาทัก หล่อนตระหนกจนเผลอทำแก้วกาแฟในมือหลุดมือ หล่นกระจายบนพื้น เพล้ง!! “ว้าย!!” เธอร้องเสียงหลง รนรานทรุดตัวลงเก็บเศษแก้วที่เกลื่อนกระจายเต็มพื้น จนเผลอหยิบแรงๆ เศษแก้วจึงกดลึกเข้าไปในผิว จนทำให้เลือดไหลซึมออกมา “คุณคะ ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวเอมเก็บเองค่ะ” พนักงานในร้านสะกิดเจ้านาย เพราะหนุ่มสุดหล่อตรงหน้า ไม่ยอมขยับไปทางไหน เขาทำเหมือนรู้จักกับนายจ้างสาวเป็นอย่างดี “ขอบใจจ้ะ พี่ขอตัวนะเอม ปวดหัวมาก” ทางเดียวที่มรินญาคิดออก เธอต้องหนีไปตั้งหลักก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง... “เดี๋ยวสิคาร่า... เธอคิดจะหนีอีกหรือไงหะ ไม่ปัญญาอ่อนไปหน่อยเหรอ?” โลแกนท้วง เขาเดินไปเกาะขอบเค้าน์เตอร์ชะโงกหน้าไปพูดใกล้ๆ หล่อน หญิงสาวคอตกหน้าสลดซีด... เธอหนีต่อไปคงไม่มีประโยชน์จริงๆ ความจริงเธอควรฮึดสู้ แต่ถามหน่อยเธอพร้อมแล้วเหรอ? พร้อมที่จะต่อกรกับคนที่มีอิทธิพลกับหัวใจ ไม่!! หญิงสาวยอมรับ...เธอไม่มีวันชนะโลแกน ไม่ว่าวันนี้ หรือวันไหนๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD