ตอนที่ 7

976 Words
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันเชื่อว่าเจ้านายสุดหล่อของแกไม่เอาเปรียบอะไรฉันหรอก” รินรดาถอนใจออกมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจกับความใจร้อนของเพื่อนสนิท “ก็แล้วแต่แกเถอะ งั้นฉันไปจัดการหาชุดให้แกสำหรับใส่ตอนเย็นก่อนก็แล้วกันนะ” “อ้าว ไม่ให้ฉันไปชุดนี้เหรอ” ไหมแก้วก้มมองตัวเอง “ท่านประธานบอกว่า ท่านไม่อยากให้คุณย่ากล่าวหาว่าท่านไปลากแกออกมาจากโบสถ์น่ะ” “ห๊า... นี่เขาหาว่าฉัน... เหมือนแม่ชีอย่างนั้นเหรอ” “ก็น่าจะประมาณนั้นแหละ” “เจ้านายแกนี่ทั้งปากร้าย ปากเสีย แถมเย็นชาเหมือนน้ำแข็งเลยนะ มีดีอย่างเดียวคือหล่อลากดิน” คนพูดย่นจมูกหน้างอง้อ “สาวติดกันตรึมเลยนะ แต่ท่านประธานไม่สนใจใครก็เลยยังไม่มีแฟน ว่าแต่แต่แกเถอะ อย่าตกหลุมรักท่านประธานของฉันเข้าล่ะ” “เชอะ ฉันไม่ตกหลุมรักคนเย็นชาแบบนี้หรอก พระเอกละครที่ฉันเคยร่วมแสดงด้วย หล่อกว่านี้อีก แกก็รู้นี่ว่าฉันเคยเล่นละครเรื่องเดียวกับหมาก ปริญ ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นแค่ตัวประกอบก็เถอะ” “ยะ... ขอให้มันจริงเถอะ” “จริงแท้แน่นอนยะ” ไหมแก้วตะโกนตามหลังรินรดาที่เดินออกไปเสียงดัง ก่อนจะหน้าซีดเผือด รีบตะครุบแว่นมาสวมแทบไม่ทัน เมื่อฐิติพัฒน์เดินกลับเข้ามาพอดี “เอ่อ... ท่านประธานมาแล้วเหรอคะ” เขาไม่ได้ตอบ แต่เดินอ้อมโต๊ะมานั่งบนเก้าอี้ตัวใหญ่ของตัวเองตามเดิม หล่อนระบายยิ้มอ่อนหวาน และก็เลื่อนสัญญากลับคืนให้กับเขา “อ่านเรียบร้อบแล้วค่ะ” คิ้วเข้มของเขาเลิกสูง แต่ยังไม่ได้พูดอะไรออกมา เป็นหล่อนที่พูดออกไปก่อน “แล้วไหมก็เซ็นชื่อเรียบร้อยแล้วด้วยค่ะ นี่ไงคะ เซ็นสวยด้วยนะคะ” หล่อนหัวเราะเสียงสดใส ในขณะที่สีหน้าของเขายังคงราบเรียบเหมือนเดิม พ่อก้อนน้ำแข็ง ทำไมจะแสดงอารมณ์ออกมาสักนิดไม่ได้เลยหรือไงนะ “คุณแน่ใจนะว่าคุณอ่านละเอียดแล้ว” “แน่ใจที่สุดเลยค่ะ” ละเอียดแน่นอนค่ะ เฉพาะหน้าแรกนะ ไหมแก้วต่อประโยคนี้ในใจ ขณะมองเขาที่กำลังจรดปลายปากกาลงบนสัญญาอย่างใจจดใจจ่อ และเมื่อเขาเซ็นชื่อแล้ว หล่อนก็ถอนใจออกมาอย่างโล่งใจ “งั้นต่อจากนี้ไป เราก็คือหุ้นส่วนกัน” “ใครเป็นหุ้นส่วนกับคุณ” “ก็... เราสองคนไงคะ” หล่อนมองเขา นึกไม่ออกว่าตัวเองพูดอะไรผิดไป “คุณคือลูกจ้างของผมต่างหาก” แล้วเขาก็เลื่อนสัญญาหนึ่งฉบับมาให้หล่อน “เก็บเอาไว้คนละหนึ่งฉบับ เพราะถ้าเกิดการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น สัญญานี้จะเป็นหลักฐานสำคัญในชั้นศาล” “จะ... จะมีการฟ้องร้องด้วยเหรอคะ” หล่อนเริ่มใจคอไม่ดี “มันคือเรื่องในอนาคต ซึ่งผมไม่ได้บอกว่ามันจะเกิดขึ้น” “แต่... ท่านประธานพูดแบบนี้ ทำให้ไหมใจคอไม่ค่อยดีนะคะ” หล่อนลืมตัวแสดงตัวตนแท้จริงออกไปอีกแล้ว “ถ้าคุณไม่ได้ทำอะไรผิดสัญญา เรื่องฟ้องร้องก็คงไม่มีทางเกิดขึ้นได้หรอกครับ” “อ๋อ... แน่นอนค่ะ ไม่ผิดสัญญาแน่นอนค่ะ” “งั้นก็เชิญคุณออกไปจากห้องทำงานผมได้แล้ว ไปนั่งจิบกาแฟ หรือจะไปทำอะไรก็ได้ที่คุณชอบเช่นอ่านหนังสือ...” “ให้ไหมรอที่นี่ไม่ได้เหรอคะ” “ไม่ได้” “ทำไมล่ะคะ ห้องก็อย่างกว้างขวาง ทำไมต้องให้ไหมไปรอที่อื่นด้วย” เขาเริ่มมองหล่อนด้วยสายตาไม่พอใจ และหล่อนก็เพิ่งสำเหนียกได้ว่าตัวเองพูดมาก และต่อปากต่อคำเกินไป “ไหม... ตื่นเต้นน่ะค่ะ ก็เลยพูดมากไปหน่อย ปกติจริงๆ แล้วไหมไม่ค่อยพูดเลยค่ะ จนเพื่อนๆ บอกว่าพูดหน่อยเถอะเดี๋ยวเป็นใบ้ค่ะ” หล่อนแก้ตัวแถไปเรื่อยเปื่อย หวังว่าเขาจะเชื่อ “ถ้าคุณคิดว่า คุณจะไม่รบกวนการทำงานของผม จะนั่งรอในห้องนี้ก็ได้” “ไม่รบกวนแน่นอนค่ะ” หล่อนฉีกยิ้มกว้างเลยคราวนี้ และก็มองเขาด้วยดวงตาเป็นประกายสดใส ฐิติพัฒน์ส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะก้มหน้าลงมองหน้าจอแล็ปท็อปของตัวเองเงียบๆ ไหมแก้วเดินไปหย่อนกายลงนั่งบนโซฟาตัวยาวริมหน้าต่าง หล่อนบอกตัวเองว่าให้นั่งนิ่งๆ ทำตัวให้เรียบร้อยเป็นกุลสตรี แต่พอนั่งไปนานๆ ความง่วงก็คืบคลานเข้ามาหาเสียอย่างนั้น ในที่สุดก็ต้องเอนตัวลงนอนราบบนโซฟา และหันตะแคงหน้ามองไปที่เจ้าของห้องทำงานกว้าง เขายังคงก้มหน้าก้มตาทำงานเหมือนเดิม ไม่วอกแวกเลยสักนิด ทำเหมือนกับว่าในห้องนี้ไม่มีคนอื่นอยู่เลยอย่างนั้นแหละ ทั้งๆ ที่หล่อนก็นอนตาแป๋วมองเขาอยู่แบบนี้ คนบ้าอะไร ตอนทำหน้าเย็นชามีเสน่ห์ดีจัง ไหมแก้วระบายยิ้ม และก็มองโลมเลียฐิติพัฒน์ด้วยสายตานานเลยทีเดียว จนกระทั่งผล็อยหลับไปในที่สุด ฐิติพัฒน์เงยหน้าขึ้นจากหน้าจอแล็ปท็อปเพราะว่าได้ยินเสียงรบกวน คร่อกกกกก เขาส่ายหน้าไปมาน้อยๆ ก่อนจะกดหยิบกระดาษเปล่ามาขยุ้มเป็นก้อนกลมๆ และปาไปที่โซฟา ไหมแก้วสะดุ้งตื่น และก็รีบผุดลุกขึ้นนั่งทันที เมื่อเห็นเขามองมา “เอ่อ... มีอะไรให้ไหมช่วยเหลือคะ” “ถ้าจะนอน ช่วยกรนเบาๆ หน่อยนะ ผมรำคาญ” ใบหน้าของไหมแก้วหดเหลือไม่ถึงนิ้วเลย เมื่อถูกเขาตำหนิตรงๆ “เอ่อ... ค่า...” หล่อนมองคนที่ก้มหน้าก้มตาทำงานต่ออย่างโมโห คนบ้า...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD