กักบริเวณ

1595 Words
เวลา 3 ทุ่มเป็นเวลาที่ทุกคนคงจะต้องเตรียมตัวเข้านอนหรือบางคนก็ต้องอยู่กับครอบครัว แต่ต่างจากมินนาราที่กำลังแต่งตัวสวยเพื่อที่จะออกไปท่องราตรี เพื่อสังสรรค์กับแก็งค์เพื่อนสาวซึ่งเธอก็ทำแบบนี้ทุกคืน “มินวันนี้แกสวยเวอร์ แซ่บเวอร์....” ส้มเพื่อนสนิทสุดเปรี้ยวจี๊ดของมินนาราชมเธอที่เห็นเธอกำลังเดินเข้ามา “ส้มแกนี่พูดเวอร์จริงๆ ฉันก็สวยของฉันแบบนี้อยู่แล้วปะวะ...” ส้มมองหน้าเธออย่างหมั่นไส้ในความมั่นหน้าของเพื่อนตัวเอง “หมั่นเวอร์....” “ชิส์..วันนี้น้ำหวานมันจะมาปะวะ ฉันเห็นมันเงียบไปเลย..?” น้ำหวานคือเพื่อนอีกคนในกลุ่มของมินนารา “มาดิ ฉันโทรหามันแล้วมันบอกกำลังมานะ” “งั้นรอมันก่อนแล้วกัน แล้วเดี๋ยวค่อยเข้าไป” ทั้งคู่ยืนรอน้ำหวานหน้าร้าน แล้วอยู่ๆก็มีคนวิ่งผ่านมากระชากกระเป๋าของมินนาราไปแล้วก็รีบวิ่งไปทันที “เฮ้ย! กระเป๋าฉัน...” มินนารารีบวิ่งตามไปทันทีโดยที่มีส้มวิ่งตามไปด้วยอีกคน “มิน ส้ม...” น้ำหวานลงมาจากรถแท็กซี่พอดีตะโกนเรียกเพื่อนแต่อยู่ๆ เพื่อนเธอก็วิ่งไปอีกทางเธอเลยต้องวิ่งตามไปเพราะสงสัยว่าพวกเธอไปไหนกัน “หยุดนะ..ไอ้ขี้ขโมย ฉันบอกให้หยุด” มินนาราวิ่งมาอย่างไม่ลดละโดยไม่ได้รู้เลยว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นกับเธอต่อจากนี้ เพราะมันคือกับดักที่ล่อเธอเข้ามา “มิน รอด้วย ช้าๆ ดิวะ” ส้มวิ่งตามมาแต่ก็ไม่ทันแล้วแล้วอยู่ดีๆมินนาราก็หายตัวไป จนน้ำหวานวิ่งตามมาทัน “แฮ็กๆๆๆ ...พวกแกวิ่งมาทำไมกันวะ..ฉันเหนื่อยนะเนี้ย..?” “น้ำหวานมินหายไปไหนวะ เมื่อกี้ฉันยังวิ่งตามมันมาอยู่เลยนะ..?" น้ำหวานหันไปมองรอบๆ แต่นี่มันที่ไหนละเนี้ย “แล้วพวกแกวิ่งเข้ามากันที่นี่ทำไมวะ แล้วที่นี่ที่ไหน..?” “ก็กระเป๋าไอ้มินโดนโจรกระชากอะดิ นี่ฉันวิ่งตามมันมาติดๆเลยนะแต่ว่าตอนนี้มันหายไปไหนแล้วไม่รู้อะ” น้ำหวานมองส้มตาโตที่รู้ว่ามินนาราวิ่งตามโจรมามือเปล่า “พวกแกเนี้ยนะวิ่งตามโจรมา จะบ้าหรือเปล่าถ้าพวกมันมีอาวุธจะทำยังไง..แล้วนี่มินหายไปด้วย ก่อนจะวิ่งมาทำไมพวกแกไม่ตะโกนให้คนช่วยหรือโทรเรียกตำรวจกันก่อนวะ..?” น้ำหวานมองหน้าเพื่อนดุๆ แต่ก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาพ่อกับแม่ของมินนาราเพื่อแจ้งให้ทราบ “ระหว่างที่เรารอพ่อแม่ของมินแล้วก็ตำรวจ เราคงต้องหามินไปเรื่อยๆ ก่อนแล้วกัน” “แกลองโทรหามินดิว่าติดมั้ย..?” น้ำหวานสั่งให้ส้มโทรหามินนาราทันทีแต่ก็ไม่มีคนรับสาย “ไม่รับวะ...มินอยู่ไหนของมันวะ ทำไมมันไม่รับสายเลย” ส้มเริ่มใจไม่ดีเพราะความเป็นห่วงเพื่อน “ใจเย็นๆ แก มินมันอาจจะวิ่งตามโจรไปที่ไหนสักแห่งก็ได้ ฉันว่าเราลองไปดูทางนู้นกันมั้ย” น้ำหวานชี้ไปทางขวาที่ดูโล่งๆแต่มันเงียบแล้วก็มืดมาก ถึงมันจะดูน่ากลัวแต่พวกเธอก็เป็นห่วงมินนารามาก จึงยอมเสี่ยงเดินเข้าไป >>>> กริ๊งงง "กรี๊ดดดด" ทั้ง 2 คนสะดุ้งพร้อมกัน แล้วน้ำหวานที่ตั้งสติได้ก่อนก็หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมารับ “ตกใจหมดเลย..” (ค่ะ หนูทราบค่ะ ได้ค่ะคุณพ่อ...หนูจะรออยู่ที่เดิมนะคะ...) น้ำหวานวางโทรศัพท์แล้วสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป “เกิดอะไรขึ้นวะแก..?” ส้มถามน้ำหวานขึ้นหลังจากที่เธอดูเงียบไป “พ่อมินโทรมาบอกว่า ไอ้คนที่ขโมยกระเป๋ามินไปจับตัวมินไปเรียกค่าไถ่ 30 ล้าน” “อะไรนะ..เรียกค่าไถ่หรอ..?” “อืมมม พ่อของไอ้มินบอกว่ากำลังไปเตรียมเงินแล้วให้พวกเรารออยู่ที่เดิมอย่าเพิ่งไปไหน จะให้ตำรวจมาหาที่นี่แต่ให้ส่งโลเคชั่นไปให้แล้วพวกท่านจะรีบมา” “นี่อะไรกันวะ ทำไมอยู่ดีๆ มินถึงโดนจับตัวไปเรียกค่าไถ่ได้ นี่ฉันนึกว่ามันจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแล้วสะอีกนะ” ส้มที่ทำหน้าหนักใจเพราะเธอจำได้ว่ามินนาราเคยโดนจับตัวไปแบบนี้แล้วถึง 2 ครั้ง จนพ่อของเธอต้องจ้างบอดี้การ์ดส่วนตัวมาดูแล แต่พอเรื่องมันซาไปแล้วดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มินนาราก็ใช้ชีวิตปกติมาตลอด 2 ปี แต่ตอนนี้เหตุการณ์พวกนั้นมันกลับมาอีกแล้ว “แล้วเราจะรอกันแบบนี้อะหรอ ไม่รู้มินเป็นยังไงบ้าง ทำไมพวกมันถึงต้องจับตัวมินไปด้วยวะ..?” พวกเธอมองหน้ากันอย่างสงสัยว่าทำไมมินนาราถึงถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ .... ธุรกิจสายการบินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศและความมีชื่อเสียงของตระกูลศิริวัฒนาไพศาล มีเจ้าของเพียงคนเดียวคือคุณมนตรี ศิริวัฒนาไพศาล พ่อของมินนารา ศิริวัฒนาไพศาล ซึ่งเขามีเธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว และเธอก็คือผู้สืบทอดธุรกิจหลายพันล้านที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อให้เธอแต่เพียงผู้เดียว เขาจึงรักและตามใจเธอทุกอย่าง และไม่ว่าเขาจะหยิบจับอะไรก็เป็นที่จับตามองไปหมด นี่จึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้มินนาราต้องโดนจับไปเรียกค่าไถ่ถึง 2 ครั้ง และครั้งนี้ก็ด้วยเช่นกันแต่สุดท้ายเธอก็รอดกลับมาได้ทุกครั้งโดยไม่มีอันตรายไดๆ “มิน...” ส้มและน้ำหวานยิ้มดีใจที่มินนาราถูกช่วยมาได้อย่างปลอดภัย “แกเป็นยังไงบ้าง..แกปลอดภัยใช่มั้ย พวกมันทำอะไรแกหรือเปล่า..?” ส้มถามขึ้นทันทีที่เห็นมินนาราเดินออกมาจากจุดที่โจรจับตัวเธอไป “ฉันไม่เป็นรัยแก ..พวกมันไม่ได้ทำอะไรฉันเลย” มินนาราหันมายิ้มให้เพื่อนทั้ง 2 คน จนพวกเธอสบายใจ “มิน กลับบ้านไปคุยกับพ่อเดี๋ยวนี้” มินนาราหันไปหาพ่อของเธออย่างกลัวๆ เพราเธอรู้ดีว่าพ่อคงโกรธเธอมากที่เธอขัดคำสั่งออกมาเที่ยวแบบนี้ “ฉันไปก่อนนะแก แล้วเดี๋ยวฉันโทรหานะ” มินนาราหันไปลาเพื่อนๆของเธอ แล้วก็เดินตามหลังผู้เป็นพ่อขึ้นรถออกไป “แกคิดว่าไอ้มินมันจะรอดปะวะ..เวลาพ่อมันโกรธนะโคตรดุเลย มันต้องโดนพ่อกักบริเวณไปอีกหลายวันแน่ๆเลยวะ” น้ำหวานมองตามไปรถไปด้วยความเป็นห่วงมินนารา มินนารานั่งรถมาเงียบๆตลอดทางโดยในรถมีพ่อของเธอนั่งอยู่ด้วย รถขับมาจอดหน้าบ้านเธอลงรถแล้วก็กำลังจะเดินเข้าบ้านแม่ของเธอก็วิ่งเข้ามากอดเธอไว้ทันทีด้วยความเป็นห่วง “มิน ลูก..ปลอดภัยใช่มั้ย พวกมันทำอะไรลูกหรือเปล่า..เจ็บตรงไหนมั้ยไหนแม่ดูซิ..?” แม่จับตัวเธอหมุนไปมาด้วยความเป็นห่วงลูกสาว “มินไม่เป็นอะไรค่ะแม่ มินปลอดภัยดี” “ทำไมถึงออกไปเที่ยวแบบนั้น แม่เคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าถ้ามินจะไปไหนต้องมีบอดี้การ์ดไปด้วย มินจะเดินออกไปคนเดียวแบบนี้ไม่ได้” “ก็มินไม่อยากให้ใครมาคอยตามมินนี่คะ มินต้องการอิสระบ้างมินเบื่อที่จะต้องมีคนคอยตามตลอดเวลา” พ่อเธอหันมามองด้วยความโมโห “ก็เพราะแกเป็นแบบนี้งัยแกถึงได้โดนไอ้พวกโจรจับตัวไปอยู่เรื่อย..จะต้องให้ฉันเสียเงินอีกกี่สิบล้านเพื่อไปไถ่ตัวแก เด็กที่ไม่รู้จักคิดอย่างแก” มินนารามองพ่อด้วยความโกรธ “แล้วทำไมมินจะต้องโดนพวกโจรมันจับตัวไปตลอดเวลาเลยละคะ งานของคุณพ่อมันมีอะไรที่ทำให้มินต้องมาถูกจับตัวไปแบบนี้ละคะ..?” “มินนารา...” พ่อเสียงดังใส่จนเธอเงียบขึ้นมาทันที “มิน แม่ว่าเราขึ้นไปข้างบนกันดีกว่านะลูก กลับมาเหนื่อยๆ” แม่รีบพูดแทรกพ่อของเธอขึ้นมาทันทีที่เห็นทั้ง 2 คนเริ่มจะทะเลาะกัน “หลังจากนี้แกห้ามออกไปไหนทั้งนั้น อยู่ที่บ้านจนกว่าฉันจะอนุญาต...” พ่อพูดในระหว่างที่เธอกำลังจะเดินไปแต่เธอก็ชะงักหันมามองพ่อด้วยความไม่พอใจ “พ่อ...” เธอกำลังจะพูดเถียงออกไป แต่ก็โดนแม่ดึงแขนไว้เพื่อปราม “คุณไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันจะดูแลลูกเอง..” แล้วแม่ก็พาเธอเดินขึ้นห้องไป โดยที่เธอทำอะไรไม่ได้ ได้แต่คิดว่านี่เธอจะต้องโดนกักบริเวณไปอีกนานแค่ไหน เธอเบื่อที่จะต้องเป็นแบบนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD