เวลา 2 ทุ่ม
ทั้ง 2 คนทะเลาะกันจบก็เอาแต่นั่งอยู่แต่ในห้องนั่งเล่นไม่ไปไหน รอให้ถึงเวลาที่พ่อและแม่ของมินนารากลับมาจากที่ทำงาน
“คุณพ่อคุณแม่มาแล้ว….”
มินนารายิ้มดีใจแล้วหันไปมองหน้านวัธที่นั่งหน้าตาไม่ทุกข์ร้อน
“นายไม่รอดแน่ นายได้โดนไล่ออกแน่ๆ”
มินนารารีบวิ่งไปหาพ่อกับแม่ของเธอที่หน้าประตูบ้าน เข้าไปควงแขนคุณพ่อของเธอและก็เริ่มใส่ร้ายเขา
“คุณพ่อคะ บอดี้การ์ดของคุณพ่อแตะเนื้อต้องตัวมินค่ะ เขาพายามจะจับเนื้อจับตัวมินตลอดเวลา”
“นี่มินได้บอดี้การ์ดแล้วหรอคะคุณ ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่อง แล้วไปหาใครมาทำไมถึงมาทำแบบนี้กับลูกของเรา...?”
ผู้เป็นแม่เริ่มทำสีหน้าไม่พอใจที่รู้ว่าสามีหาบอดี้การ์ดมาให้ลูกสาวโดยที่เธอไม่รู้ แล้วยังมาล่วงเกินลูกสาวของเธออีก
“มันอยู่ไหนมิน มันหนีไปหรือยัง คุณคะคุณต้องจัดการมันนะ มันมาทำแบบนี้กับลูกของเราได้ยังไงฉันไม่ยอมนะ”
“ใช่ค่ะคุณพ่อ มันล่วงเกินมิน มันพยายามเข้าใกล้ตัวมินแล้วยังมาทำร้ายมินอีก ดูซิคะขาของมินเขียวไปหมดเลย”
มินนาราหันขาข้างที่เขียวช้ำให้ผู้เป็นพ่อดู และแม่ของเธอก็ไม่พอใจอย่างมากที่เห็นขาของลูกสาวเขียวช้ำแบบนี้
“ทำไมไม่บอกไปด้วยละครับว่าที่คุณเจ็บตัวเพราะผมอุ้มคุณมาจากโรงรถแล้วพาไปโยนที่โซฟา…..”
นวัธเดินเข้ามาในห้องโถงของตัวบ้านโดยมีพ่อและแม่รวมทั้งตัวเธอ ยืนอยู่ด้วยกัน ทั้ง 3 คน
“นายโดนไล่ออกแน่ๆ นายไม่ต้องมาพูดอะไรแล้ว เพราะคุณพ่อกับคุณแม่จะไล่นายออก”
มินนารามองหน้าเขาอย่างผู้ชนะ และคิดว่ามันต้องเป็นอย่างที่เธอคิดแน่ๆ
“มีอะไรจะพูดมั้ยวัธ..?”
นวัธมองหน้าผู้เป็นอาแล้วยกมือไหว้เพื่อขอโทษที่ทำให้ลูกสาวเขาเจ็บตัว
“ผมขอโทษครับคุณอา ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้คุณมินเจ็บตัวเลยจริงๆ คุณมินเธอพยายามที่จะหนีออกไปข้างนอก เรายื้อแย่งกุญแจรถกันจนผมไม่รู้จะทำยังไงผมจึง…เอ่อ..อุ้มคุณมินแล้วพาเข้ามาในบ้านเพื่อไม่ให้เธอหนีออกไปได้ แต่ที่ขาคุณมินเขียวช้ำผมไม่ทราบจริงๆว่าเกิดจากที่ผมทำให้เธอเจ็บหรือเปล่าถ้าเป็นเพราะผม ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่ผมทำรุนแรงเกินไป”
ทุกคนฟังเขานิ่งๆโดยไม่พูดอะไร จนทุกคนได้ยินเสียงหัวเราะของพ่อมินนาราดังออกมา
“ดีแล้วตาวัธ ทำดีแล้ว อาไม่ได้จะโทษหรือว่าอะไรเลย...ทำดีมาก”
“คุณพ่อ…..”
มินนารามองหน้าผู้เป็นพ่ออย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“นี่มันอะไรกันค่ะคุณ ทำไมถึงได้เชื่อนายคนนี้ง่ายๆแบบนี้..?”
“ผู้ชายที่ยืนตรงหน้าคุณคนนี้ เป็นคนที่ผมเคยเล่าให้ฟังไง”
แม่ของมินนาราหันไปมองหน้านวัธอีกครั้ง
“นวัธ ลูกชายของผู้กองนิรุทธิ์ เพื่อนของคุณนะหรอคะ..?”
เธอถามสามีเมื่อนึกขึ้นได้
“ใช่ นี่แหละลูกชายคนเดียวของเพื่อนรักผม สารวัตรนวัธ อินทร์ทนะ บอดี้การ์ดคนใหม่ของยัยมิน...”
ทั้ง 2 คนหันไปมองหน้านวัธอีกครั้งอย่างดีใจที่ได้เขามาดูแลลูกสาวจอมดื้อรั้น เพราะมั่นใจในฝีมือของเขาดีว่าจะดูแลมินนาราได้อย่างปลอดภัย
“โธ่….อาก็คิดว่าใครที่ไหน ขอบคุณมากนะตาวัธที่ช่วยมาดูแลยัยมิน”
ทั้ง 2 คนเดินเข้าไปหาเขา โดยไม่สนใจมินนาราที่ยืนมองอย่างงงๆ
“นี่มันอะไรกันคะ นี่แสดงว่าคุณพ่อจะไม่ไล่นายคนนี้ออกใช่มั้ยคะ..?”
เธอถามผู้เป็นพ่ออีกครั้ง จนพ่อต้องหันมามองพร้อมกับทุกคน
“พ่อไม่ไล่ตาวัธออกด้วยเรื่องไร้สาระหรอกนะ….”
“ไร้สาระหรอคะ นายคนนี้ล่วงเกินมินนะคะ แล้วยังทำให้มินเจ็บ….”
“มินลูก…หนูก็ให้อภัยพี่เขาไปเถอะ หนูเองนั่นแหละที่ดื้อตั้งแต่แรกเอง ถ้าหนูไม่คิดจะหนีออกไปจากบ้านตั้งแต่แรก พี่เขาคงไม่ทำแบบนี้ ถือซะว่าได้ทำความรู้จักกัน ก็แล้วกันนะลูกนะ”
“ทำความรู้จักหรอคะ...มันทำให้มินเจ็บตัวนะคะ?”
มินนาราเริ่มทำเสียงไม่พอใจ
“โทษใครไม่ได้หรอก เพราะตัวแกทำตัวเองตั้งแต่แรก….ไปตาวัธ ทานข้าวกับอาก่อนกลับแล้วกัน เมื่อเช้ายังคุยกันไม่เต็มอิ่มเลย”
พ่อของเธอพานวัธเดินเข้าไปที่ห้องอาหารโดยไม่สนใจเธอที่ยืนหน้าบึ้งตึงอยู่
“คุณพ่อ…คุณพ่อต้องไล่มันออกนะคะ คุณพ่อ…”
“แม่ไปทานข้าวก่อนนะ หิวจะแย่แล้ว..”
เธอหันมามองแม่ด้วยความผิดหวังที่ไม่มีใครฟังเธอเลย
“คอยดูนะฉันจะทำให้นายปวดหัวกับฉันให้ถึงที่สุดแล้วนายก็ทนไม่ได้ขอออกไปเอง....ไอ้บอดี้การ์ดบ้า"
นวัธเคยได้ยินกิตติมศักดิ์มานานว่าเธอเป็นยัยคุณหนูขี้วีนขี่เหวี่ยง ไม่เคยยอมใครและเมื่อต้องมาเป็นบอดี้การ์ดด้วยความจำใจ เขาถึงกลับต้องส่ายหน้าในความเอาแต่ใจของเธอ
เพราะ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมาเขาเห็นฤทธิ์เดชมากมายที่ทำให้เขาถึงกับปวดหัว เพราะเขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่จะร้ายกาจได้ขนาดนี้
“นี่คุณหนูของป้าเจาะยางรถผมอีกแล้วหรอครับ..?”
ป้าหอมพยักหน้าด้วยความหนักใจ
“กี่ครั้งแล้วครับที่คุณหนูของป้าเจาะยางรถผม นี่ผมอุตส่าห์ไม่เอาเรื่องยังทำกับผมแบบนี้ซ้ำ 2 อีก ฮึ...แล้วเราจะได้เห็นดีกันคุณมิน”
เขาเดินออกไปจากรั้วบ้านด้วยความโมโหที่โดนเธอแกล้งเป็นครั้งที่ 2
....
“กาแฟบ้าอะไรเนี้ย ทำไมถึงได้หวานแบบนี้ละครับ...?”
นวัธที่ถึงกับบ้วนกาแฟออกมาจากปาก เพราะความหวานของกาแฟที่เขาดื่มไปรสชาติมันแย่มากๆ
“แต่ป้าก็ให้ยัยสายใจชงให้ปกตินะคะ รสชาติเดิมที่คุณวัธเคยทาน ก็ไม่ได้ใส่อะไรเพิ่มเติมเข้าไปนะคะ”
ป้าหอมบอกเขาด้วยความแปลกใจ
“แต่นี่มันหวานมากเลยนะครับ ป้าหอมลองชิมดูก็ได้ครับ”
ป้าหอมจับช้อนกาแฟที่วางอยู่แล้วลองตักกาแฟชิมไป 1 คำถึงกลับต้องคายทิ้งอีกคน
“หวานมากจริงๆด้วยค่ะ”
ป้าหอมทำสีหน้าหนักใจ จนต้องเรียกสายใจแม่บ้านอีกคนเข้ามาถามว่าทำไมถึงได้ชงหวานแบบนี้
“สายใจชงปกติจริงๆนะคะ แต่ตอนที่สายใจยกมาให้คุณวัธ สายใจแวะเข้าห้องน้ำ เลยวางไว้ตรงโต๊ะหน้าห้องน้ำ พอเดินออกมาก็เห็นคุณมินอยู่ใกล้ๆตรงนั้น สายใจก็ไม่ได้คิดอะไร ก็เลยเดินเข้าไปยกมาให้คุณวัธนี่แหละคะ”
สายใจเล่าไปด้วยความใสซื่อ
“ไม่เป็นรัยครับพี่สายใจ ผมพอจะรู้แล้วว่าเป็นฝีมือใคร”
เขาทำสีหน้าอย่างไม่ค่อยพอใจนัก เพราะรู้ว่าคนที่ทำแบบนี้ได้ก็คงมีแค่มินนาราคนเดียวเท่านั้น