นายหญิงที่ 3
สมควรตาย
“อือ อืม อืม” นางกัดผ้าห่มกลั้นเสียงครางไม่ให้เล็ดลอดออกมาให้ผู้คนได้ยิน บุรุษข้างหลังนางเร่งสาวเอวเข้าออกไปมาราวกับเขาอดอยากปากแห้งมานาน
“เสียวมั้ยนายหญิง” เขาอดอยากจริงๆ อย่างที่นางคิด นับจากวันนั้นเขาไม่มีโอกาสเข้าใกล้นางแม้แต่น้อย วันนี้เขาจึงเสี่ยงชีวิตเข้ามาหานางถึงในห้อง
“พับ พับ พับ ชอบหรือไม่นายหญิง ท่านอยากให้ข้ากระแทกแรงกว่านี้มั้ย”
นางกัดผ้าห่มแน่นเพื่อยับยั้งตนเองไม่ให้แผดเสียงด่าเขาออกมา เขาคิดว่าเขาเป็นใครไฉนถามนางเช่นนี้
ศีรษะนางสะท้านขึ้นลงไปมา เขาไม่อ่อนโยนแม้แต่น้อย นางอยากจะหันกลับไปมองหน้าเขา แต่ทุกครั้งที่พยายามหันกลับไปเขาจะกดศีรษะนางไว้กับที่
“เจ้าต้องตาย เจ้าต้องตายเท่านั้น” แม้นางจะหัวสั่นหัวคลอนไปตามแรงกระแทกของบุรุษหยาบกร้านข้างหลัง แต่ในสมองนางกลับสาปแช่งให้เขาตายตลอดเวลา
“นายหญิงท่านอยากให้เอาข้างหน้าหรือ” เขาเห็นนางพยายามจะพลิกตัวหันกลับมาหลายครั้งจึงลงความเห็นว่านางอยากเล่นท่าอื่น เล่นท่าที่หันหน้าเข้าหากัน
“ใช่ ข้าอยากเอาข้างหน้า” นางได้ยินเขาบอกว่าจะให้นางหันกลับไปมองหน้าเขาจึงยินดียิ่ง นางกลัวเขาไม่ทำตามที่พูดจึงตอบเอาใจเขา
เขาจับนางหันกลับมาจริงๆ
“บัดซบ เจ้าสมควรตาย” ตอนนี้นางหันหน้าเข้าหาเขาแล้ว เพียงแต่ก่อนที่เขาจะจับนางหันหน้า เขาได้ถอดเอาเอี๊ยมจากหน้าอกนางมาผูกมัดไว้ที่ดวงตาทั้งสองข้าง
“พับ พับ พับ ชอบหรือไม่นายหญิง ข้าเอาดีหรือไม่”
ฮือ ฮือ นางร่ำร้องอีกครั้ง เจ้าสมควรตายนั้นกลับผูกตานางไว้แล้วจับขานางถ่างออกจากกัน ขาทั้งสองของนางบัดนี้พาดอยู่บนบ่าเขา
“พับ พับ พับ” เอวสอบเด้งเข้าใส่ราวกับตอกเสาเข็ม เขาจับนางพลิกคว่ำพลิกหงายอีกหลายท่า ก็หลั่งน้ำขาวขุ่นออกมา
“อืม อ่า อ่า” เขาครางอย่างสุขสมยามได้ปลดปล่อยใส่กายคนที่นอนถ่างขาอยู่ตรงหน้า
“นายหญิงข้าไปแล้ว เอาไว้ข้าจะหาโอกาสลอบเข้ามาหาท่านใหม่”
ป็อก! เขาถอนแกนกายออกโน้มหน้าลงไปจูบปากนาง จากนั้นค่อยหายออกไปจากห้อยอย่างแผ่วเบา
หานซือโหยวยังคงนอนถ่างขาอยู่ในท่าเดิม ยามนี้นางแม้กระทั้งผ่าที่ผูกตานางไว้ก็ไม่คลายออก นางสะเทือนใจยิ่งนักนางพลาดท่าเสียที่เจ้าคนเลวนั่นเป็นครั้งที่สองเช่นนี้ได้อย่างไร
ฮือ ฮือ เจ้าสมควรตาย ต่อแต่นี้มีข้าไม่มีเจ้า
นางด่าสาดเสียเทเสียเขาในใจอีกมากมาย แต่นางกลับลืมไปว่ายามนี้นางนอนถ่างขากว้างโดยที่รูร่องยังมีน้ำขาวขุ่นของเขาไหลออกมา..
หอสุราแห่งหนึ่งในเมือง
“พี่หานเชิญทางนี้” หานเยว่เดินขึ้นชั้นบนของหอพลันได้ยินผู้คนเรียกหา เขาเดินตามไปหาคนต้นเสียงด้วยความยินดี
“ไม่พบกันหลายวัน น้องหลิวสบายดี” เขานั่งลงตามคำเชิญของคนกลุ่มนั้น ปากก็ทักทายปราศรัย
พี่เยว่ หลายวันก่อนผู้น้องเดินทางไปเมืองชิงโจว ท่านทราบหรือไม่ผู้น้องพบเจอสิ่งใด ผู้กล่าวคือน้องหลิวที่เขาเรียกขาน ชื่อเต็มๆ ของเขา หลิวกัง หลายวันก่อนเขาเดินทางไปพบอาจารย์สอนหนังสือที่ชิงโจวผู้หนึ่ง ระหว่าทางกับพบเจอสิ่งน่าสนใจบางอย่างจึงคิดจะโอ้อวดต่อสหายรุ่นพี่ผู้นี้
“มีไรหรือ เจ้าพบเจอสิ่งใดรองกล่าวให้เราฟังดู”
พี่เยว่รู้จักหอยุงทองที่ชิงโจวกระมัง ผู้น้อยความจริงได้ยินได้ฟังคำเล่าลือมานาน เมื่อมีโอกาสไปที่นั่นจึงได้รองแวะชมดู
“ไม่ใช่ยังคงเป็นเพียงหอแสดงศิลป์หรือ ยังมีอะไรหน้าสนใจให้เจ้าถึงขั้นเรียกเราออกมา”
โถ่พี่ท่านเราทราบท่านมั่งมีเงินทอง ขอดีๆ อะไรล้วนเคยชมเคยจับต้องมาหมดแล้ว เพียงแต่เรื่องนี้แม้ท่านมั่งมีเงินทองแต่หากไม่มีวาสนาไหนเลยพบเจอได้ในชีวิต
“ไม่มีวาสนาก็ไม่อาจพบเจอได้หรือ” ตอนนี้เขาเริ่มสนใจขึ้นมานิดๆ แล้ว ปกติของดีๆ อะไรนางหานซือโหยวมักจัดหามาไว้ในเรือนมากมาย เขาผู้เป็นสามีนางพลอยได้กินได้ใช้ไปด้วย
“พี่เยว่เคยได้ยินชื่อ หลี่หมิงต๋า กระมัง”
“แน่นนอน เราย่อมเคยได้ยิน” หลี่หมิงต๋าที่เขากล่าวถึงเคยเป็นแม่ทัพใหญ่ทหารเรือของแผ่นดิน
ท่านเมื่อรู้จักหลี่หมิงต๋าแล้วท่านทราบหรือไม่เป็นผู้ใดโค่นล้มเขาลงจากตำแหน่ง
“เรื่องนี้ถ้าเราจำไม่ผิดเป็นเสนาบดีทั้งสามในขณะนั้นร่วมมือกันเปิดโปงคดีลักลอบขนดินปืนของเขาใช่หรือไม่”
เรื่องนี้เป็นเรื่องโด่งดังเมื่อ 8 ปีก่อน เขาจึงจำได้ดี คดีนี้ทำให้มีผู้คนล้มตายหลายพันคนเลยทีเดียว
ใช่แล้วเป็นเสนาบดีลู่ หมิง เทียน สามเสาหลักของราชสำนักในเวลานั้นจัดการเขา
“เรื่องนี้เกี่ยวข้องใดกับเรื่องหอยุงทองเจ้าหรือ” เขาเริ่มสงสัยไฉนเจ้าผู้นี้พูดเรื่องเก่าเล่าความหลังซะยืดยาว
โถ่พี่เยว่อย่าเพิ่งรีบร้อน รับรองเรื่องนี้ไม่ทำให้ท่านผิดหวัง ท่านทราบหรือไม่บัดนี้เสนาบดีทั้งสามในอดีตตอนนี้อยู่ที่ใด
เขาต้องนึกซักพักค่อยคิดออก สามเสนาบดีในอดีตหลังจากจัดการหลี่หมิงต๋าลงได้ สองปีต่อมา เสนาบดีเทียน เทียนเจ้าเวยถูกตัดสินประหารทั้งตระกูลข้อหากบฏเนื่องจากเขาร่วมกับองค์ชายสามวางแผนสังหารฮ่องเต้
ส่วนเสนาบดีอีกคน ลู่เจาฉง เมื่อสองปีก่อนถูกปลดออกจากตำแหน่งและถูกเนรเทศไปชายแดนทั้งตระกูล อีกคนยังอยู่ดีในราชสำนัก
“พี่เยว่เคยได้ยินชื่อ ลู่อวี่เซียนหรือไม่”
“ยอดหญิงอวี่เซียนหรือ” เราย่อมรู้จักบุตรีลู่เจาฉงตอนนี้บิดานางถูกเนรเทศไปแล้วมิใช่หรือ
ใช่แล้วบิดานางถูกเนรเทศออกจากเมืองหลวง เพียงแต่เราไปชิงโจวครั้งก่อนเราพบนางที่หอยุงทอง วันนั้นเราฟังว่ามีการแสดงของนางที่หอยุงทองคราแรกยังไม่เชื่อ พอไปถึงจึงได้รู้ว่าเป็นนางจริงๆ
ตอนนี้ไม่ทราบไฉนนางหย่าขาดจากสามี ฟังว่านางเมื่อออกจากตระกูลสามีไม่ได้นำทรัพย์สินติดตัวมาด้วย จึงขายตนเองให้หอยุงทองนางยามนี้ขายศิลป์ไม่ขายตัว เพียงดีดพิณอยู่ที่หอนั่น
“เป็นเรื่องจริงหรือ!” เขาตกใจไม่น้อยเมื่อทราบว่าลู่อวี่เซียนขายตนเองให้หอยุงทอง ลู่อวี่เซียนผู้นี้เมื่อก่อนเป็นหนึ่งในสตรีมีชื่อที่สุดในแผ่นดิน นางเชี่ยวชาญ พิณหมากกาบกลอน ซ้ำยังงดงามล่มบ้านล่มเมือง
นางในวัย 16 งดงามจนทำให้เกิดศึกรักสี่เศร้า ระหว่างสามองค์ชายกับหนึ่งแม่ทัพ เรื่องราวความรักของแทบจะเป็นตำนานน้ำเน่าชิงรักหักสวาทที่เล่ากันในโรงน้ำชา
“เป็นอย่างไรพี่เยว่ ท่านสนใจแล้วกระมัง”
“อืมนับว่าน่าสนใจ พวกเราว่างๆ ลองไปเที่ยวชมชิงโจวซักครั้งเป็นไร เราผู้พี่ออกค่าใช้จ่ายให้เอง ฮ่า ฮ่า”
ฮ่า ฮ่า ใช่ๆ ไปเที่ยวชิงโจวกันซักครั้ง
ระหว่างที่คนทั้งหลายหารือกันว่าจะไปเที่ยวชิงโจวเมื่อไหร่ ภายในห้องเก็บของหอยุงทองเองก็มีผู้คนกระซับกระซาบกันอยู่
สาวใช้ร่างเล็กหน้าตางดงามผู้หนึ่งกำลังยืนซ้อนอยู่ด้านหลังผู้เป็นนาย นางเรียกว่า เสี่ยวอู ผู้เป็นนายของนางไม่ใช้ใครอื่น เป็นลู่อวี่เซียนเอง เพียงแต่เสี่ยวอูผู้นี้แม้ใส่เสื้อผ้าสตรี ใบหน้าก็น่ารักงดงาม แต่นางกลับมีบางอย่างที่สตรีไม่ควรมี
ใช่แล้ว บางอย่างที่ขณะนี้กำลังเคลื่อนเข้าๆ ออกๆ อยู่ในรูร่องผู้เป็นนาย
“ซีด เสี่ยวอู เจ้าเร็วกว่านี้ข้าใกล้จะได้เวลาขึ้นแสดงแล้ว”
“พับ พับ พับ” พี่อวี่เซียน ข้าปวดเอวยิ่งเร็วกว่านี้ไม่ได้แล้ว
ลู่อวี่เซียนยืนเกาะกำแพงห้องเก็บของโดยที่มีเสี่ยวอู่กระแทกแท่งลำเข้าออกรูร่องนางอยู่ด้านหลัง นางกลัวชุดที่ใส่อยู่ยับจึงไม่ยอมนอนลงกับพื้น ครั้นจะถอดออกก็กลัวใส่กลับเข้ามาไม่ทัน
“เจ้าอดทนหน่อยข้ายังไม่เสร็จเลย”
“ข้าไม่ไหวแล้ว อ่า อ่า อ่า” เขาครางออกมา บางอย่างที่ถูกบีบรัดปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นออกมา
“เจ้ามันไม่เอาไหน ข้ายังไม่ทันเสร็จซักครั้งเจ้าก็ปลดปล่อยออกมาสองรอบสามรอบ” นางหงุดหงิดกับเจ้าเด็กคนนี้นัก หากไม่ใช่ว่านางถูกใจหน้าตาเขานางไหนเลยเลี้ยงเขาไว้ข้างกาย
“เกาต้าเข้ามา” นางส่งเสียงเรียกใครบางคนเบื้องนอกให้เข้ามาข้างใน
บุรุษร่างเล็กผู้หนึ่งเดินเข้ามา เขาหน้าตาไม่น่าดูนักหลังก็ค่อมดูจากอายุอานามไม่น่าจะต่ำกว่า 50 ปี
“เสี่ยวอูไม่ได้เรื่องเจ้าส่งข้าขึ้นสวรรค์ที” เสี่ยวอูที่ถูกดุว่านั่งน้ำตาคลอราวกับสาวน้อยถูกรังแก
เกาต้าที่นางเรียกหาไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ปลดกางเกงลงมา หากมีผู้คนอื่นพบเห็นเขาที่เปลือยท่อนล่างร่อนจ้อนคงต้องตกใจไม่น้อย เขารูปร่างเล็กผอมหลังค่อม แต่กลับมีลำเนื้อใหญ่ราวกับของลา
“อืม พับ พับ พับ” เกาต้าไม่พูดไม่ใจก็เด้งเอวเข้าออกประตูหยกนางทันที นางครางออกมาด้วยความสมใจ
เกาต้าผู้นี้ติดตามนางมาตั้งแต่อยู่บ้านเดิม เขาเป็นบ่าวขับรถม้าของนางตั้งแต่วัยเด็กและเป็นเขาผู้นี้เองที่เปิดบริสุทธิ์นางในวัย 13
“พับ พับ พับ” คุณหนูถูกใจท่านหรือไม่
“อืม แรงอีกเกาต้า ข้าต้องการแรงกว่านี้” นางเสียวซ่านมาก แต่นางยังต้องการมากกว่านี้ ที่ผ่านมานางแม้ลิ้มลองรสชาติบุรุษมาหลายรูปแบบ แต่ไม่ว่าจะคนไหนๆ ก็ไม่สามารถตอบสนองนางได้เท่าเกาต้าผู้นี้
“ท่านยกข้าขึ้น” เขาจับนางยกขาข้างหนึ่ง จากนั้นซอยเอวเข้าออกแรงกว่าเดิม....
***