นายหญิงที่ 2
เจ้าสารเลว
“ฮูหยินยังไม่หายป่วยอีกหรือ” หานเยว่ถามสาวใช้ที่เดินออกจากห้องครัว วันนี้เขาต้องออกไปสังสรรค์กับสหายเขาจึงตั้งใจมาของเงินนางเพิ่ม เขาเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องนางแต่ไม่ยอมเข้าไป
“ผู้ใดอยู่หน้าห้อง” เสี่ยงถงเห็นเงาคนวนไปวนมาจึงตะโกนถามออกไป
“เป็นเราเอง นางดีขึ้นหรือยัง” เขาผลักประตูก้าวเข้าไป
“เรียนนายท่าน ฮูหยินอาการเริ่มดีขึ้นแล้วยามนี้เพิ่งหลับไปหลังจากกินยาเมื่อครู่”
“เช่นนั้นเหรอ เอาไว้เรามาใหม่ภายหลัง”
เขาเดินกลับออกไปจากห้อง ความจริงเขาตั้งใจมาขอเงินนางเพียงแต่ว่าเขาไม่รู้จะออกปากเช่นไร หลายปีที่ผ่านมาเขาและนางต่างไม่ค่อยลงรอยกันนัก ยามนี้ผู้อื่นนอนซมบนเตียงเขายังไม่หน้าหนาพอจะไปร่ำร้องขอทรัพย์สินจากนาง
ความจริงเขาไม่พอใจในตัวภรรยาผู้นี้ตั้งแต่แรก เขาถือกำเนิดในตระกูลบัณฑิตเพียงเพราะครอบครัวขัดสนเรื่องเงินทอง มารดาเขาถึงขั้นบีบบังคับให้เขาแต่งงานกับบุตรีพ่อค้า เขาถือว่านี่คือความอัปยศอย่างหนึ่งในชีวิต สหายบัณฑิตของเขาแต่ละคนแม้ไม่กล่าวออกมาตามตรง แต่เขาก็ทราบได้ถึงสายตาดูถูกดูแคลนที่ผู้คนมองมา
ยามอยู่ต่อหน้าสหาย เขาจะมีความรู้สึกอับอายอยู่ลึกๆ สามส่วน อาชีพพ่อค้าถูกจัดให้อยู่อันดับต่ำชั้นที่สุดทางสังคม ตระกูลเขายิ่งเป็นตระกูลบัณฑิตให้เลยผู้คนจะดูไม่ออก การที่ให้เขาแต่งกับบุตรสาวพ่อค้าคนหนึ่งเพื่ออะไร
เขาเดินออกจากเรือนนางตรงไปหามารดา เมื่อไม่กล้าเอ่ยปากขอนางโดยตรงยังคงขอจากมารดาเถอะ จะอย่างไรค่อยให้มารดาเขาออกหน้าขูดรีดเงินทองจากภรรยาเขาอีกที
เขาใช้วิธีนี้เสมอมายามต้องการเงินทองของนาง
นางหานซือโหยวบัดนี้นอนกอดตนเองอยู่บนที่นอน นางไม่มีหน้าออกไปพบสามี ยามนี้นางนอนร้องไห้มาสามวันแล้ว นับจากวันนั้นหลังจากบุรุษสารเลวนั่นลุกออกจากตัวนาง เขาก็หายออกไปจากห้องทันที นางกลับลืมเรื่องสำคัญประการหนึ่ง นางลืมมองดูว่าเขาคือผู้ใด
ยามเขาควบขับอยู่บนตัวนาง เขาเรียกนางว่านายหญิง นี่แสดงว่าเขาต้องเป็นบ่าวไพร่คนหนึ่งในคฤหาสน์นาง เช่นนั้นก็แย่แล้วนางกลับไม่รู้ว่าเขาคือผู้ใด ยามนี้ผ่านมาสามวันนางแม้รู้สึกผิดต่อสามี แต่นางเริ่มตั้งสติได้แล้ว นางนอนคิดอยู่บนเตียง คิดหาทางล่อเจ้าบุรุษสารเลวนั่นออกมา
“เสี่ยวถง เจ้าเอารายชื่อบ่าวไพร่ทั้งหมดมาให้เราชมดู”
สิ่งแรกที่นางต้องทำคือหาตัวเจ้าสารเลวนั่นออกมา หากช้าเกินไปจนเจ้านั่นแฉเรื่องคืนนั้นออกมา อย่างนั้นชีวิตนี้ของนางต้องจบสิ้นแล้ว
“นี่เป็นรายชื่อและสัญญาขายตัวทั้งหมดของคนในเรือนนายหญิงยังต้องการสิ่งใดอีกหรือไม่” เสี่ยวถงนำกระดาษปึกหนึ่งเข้ามาให้นาง
“เจ้าออกไปพักผ่านเถอะ ถ้ามีอะไรข้าจะสั่นกระดิ่งเรียกเอง”
นางไล่เสี่ยวถงออกไปจากห้อง จากนั้นก็หยิบกระดาษพวกนั้นขึ้นมาอ่านเงียบๆ
บ่าวไพร่ในเรือนมีทั้งหมด 86 คน ตัดสาวใช้ออกไปจะเหลือบ่าวชายอยู่พียง 33 คน ในจำนวนคนที่เหลือตัดผู้ที่มีอายุเกิน 50 ปีออกไปจะเหลืออยู่ 24 คน
ตอนนี้นางเริ่มตัดทอนความเป็นไปได้ลงมาเรื่อยๆ ตัดพ่อบ้านและบ่าวที่นางคุ้นเคยออกไปอีกจะเหลือผู้คนเพียง 14 คน คืนนั้นนางได้ยินเสียงเขา นางจำเสียงเขาได้ บ่าวรับใช้ชายต่างๆ ที่นางรู้จักไม่มีผู้ใดมีเสียงแบบเขา
นางก้มอ่านรายชื่อที่เหลืออยู่ทั้ง 14 คนพวกนี้ตางเป็นบ่าวไพร่ชั้นต่ำที่สุดที่นางไม่เคยคุยด้วย อย่าว่าเพียงไม่เคยคุย แม้แต่หน้าตาพวกเขานางยังไม่เคยสังเกต ต่อให้เรียกพวกเขามายืนอยู่ตรงหน้านางก็ยังไม่ทราบว่าเขาเป็นบ่าวไพร่ของตนเอง
เพียงแค่คิดว่าพวกที่อยู่ในรายชื่อนี้เคยขึ้นขี่นางมาก่อน นางก็อัปยศอดสูยิ่งนัก บุรุษชั้นต่ำพวกนี้กลับกล้าขึ้นขี่นาง จู่ๆ น้ำตานางก็ไหลออกมาอีกครั้ง ไหลหยดลงไปยังกระดาษที่นางถืออยู่...
คนทั้ง 14 แบ่งออกเป็น บ่าวเทอุจจาระ 4 คน บ่าวเรือนซักล้าง8 คน บ่าวผ่าฟืน 1 คน และ บ่าวดูแลคอกม้า 1 คน
คนงานพวกนี้แม้แต่มองนางยังไม่เคยเหลือบแล นางจึงหาได้รู้จักหน้าตาพวกเขาไม่
“เสี่ยวถงเจ้าไปบอกเรือนซักล้าง วันนี้เราจะไปตรวจความเรียบร้อย ให้คนงานทั้งหมดอยู่กันให้ครบ”
เสี่ยวถงรับคำ นางรีบวิ่งออกไปยังเรือนซักล้าง ฮูหยินนอนซมมาสามวัน เพิ่งหายป่วยก็บอกจะตรวจความเรียบร้อยเรือนซักล้าง เห็นทีวันนี้ต้องมีคนรับเคราะห์แล้ว
“พวกเจ้าทั้งหมดวันนี้ห้ามออกไปไหน วันนี้ฮูหยินจะมาตรวจความเรียบร้อย ใครรู้ตัวว่าบกพร่องต่อหน้าที่อันใดรีบจัดการให้เรียบร้อยซะ”
คนพวกนี้ต่างเป็นบ่าวไพร่จะมากจะน้อยต้องคุ้นเคยกับนาง นางยามสงสารจึงบอกให้พวกเขาเตรียมตัวไว้ก่อน
ทุกคนวิ่งวุ่นกันไปหมดไม่ทราบไฉนวันนี้นายหญิงจะมาที่นี้ ปกตินายหญิงไม่เคยก้าวก่ายงานต่ำต้อยพวกนี้ นี่แสดงว่ามีใครทำอะไรไม่เรียบร้อยจนนายหญิงไม่พอใจ
ทุกคนในเรือนรู้กิตติศัพท์นายหญิงดี นางเป็นคนตรงไปตรงมาหากกระทำผิดลงโทษโดยไม่มีข้อแม้ ยามทำดีก็ตบรางวัลอย่างงาม
“พวกเจ้าทั้งหมดเรียงแถวออกมารับรางวัล” ทีแรกทุกคนยังยืนขาสั่นกลัวว่าตนเองจะกระทำผิดอันใด
ยามนี้ฟังว่านายหญิงจะตบรางวัลจากความหวาดกลัวกลับกลายเป็นยินดี
“หลายวันมานี้ข้าไม่ค่อยสบายเท่าไรจึงไม่มีเวลามาดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ในเรือน” นางสาธยายไปเรื่อยๆ เดียวถามนู่นเดียวถามนี้ชวนคนเหล่านี้ให้พูดคุยโต้ตอบนาง สรุปแล้วนางตั้งใจมาตบรางวัลให้พวกเขาที่รับผิดชอบหน้าที่ได้ดียามนางไม่อยู่
นางเดินกลับไปยังเรือนตนเอง ผู้คนทั้งหมดในเรือนนี้ไม่มีคนที่นางตามหาอยู่ นางไม่มีทางจำเสียงเขาผิดเช่นนั้นก็เหลือเพียงบ่าวเทอุจจาระ บ่าวผ่าฟืนกับบ่าวดูแลคอกม้าแล้ว
นางเดินกลับเรือนด้วยความหดหู่ นางงดงามปานนี้ไฉนถูกบุรุษโสโครกขึ้นขี่ได้ “เสี่ยวถงเจ้ากลับไปเจ้าให้คนเอาน้ำร้อนเข้ามาในห้องสามถังเราจะอาบน้ำในบัดดล”
นางสั่งหญิงรับใช้ ให้เตรียมน้ำอาบ ยามนี้นางรู้สึกร่างกายตนเองราวกับหนูสกปรก นางอยากรีบกลับไปขัดผิวตนเองออกอีกสามชั้น ขัดจนเนื้อหนังหลุดออกมาได้ยิ่งดี
เมื่อถึงเรือนตนเองนางก็แก้ผ้าลงแช่น้ำทันที นางขัดทุกส่วนในร่างกายโดยแรง ขัดจนผิดหนังบอบช้ำ แม้แต่ร่องลับนางก็ใช้นิ้วแหย่เข้าไปคว้านเอาบางสิ่งราวกับว่ามีบางอย่างที่น่ารังเกียจอยู่ภายในนั้น
หลังขัดผิวหนังออกไปสองชั้น นางหมดเรี่ยวหมดแรงต้องให้เสี่ยวถงพยุงไปใส่เสื้อผ้า
“นายท่านยังไม่กลับมาหรือ”
“เรียนฮูหยิน นายท่านออกไปสังสรรค์แต่เช้ายังไม่กลับ”
นางให้เสียวถงจัดแต่งอาหารค่ำ วันนี้สามีนางคงไม่มาค้างที่ห้องนางแล้ว นางกับเขาห่างเหินกันหลายวันแล้ว บัดนี้แม้ในใจจะรู้สึกผิดต่อเขาแต่นางก็คิดถึงเขาเช่นเดียวกัน
ก่อนเกิดเรื่องขึ้น นางกับสามีก็ใช่จะใกล้ชิดกันนัก สามเดือนก่อนเขารับตัวสตรีนางหนึ่งเข้าบ้าน ยามนั้นนางทะเลาะกับเขาไปยกใหญ่นับจากวันนั้นถ้าไม่จำเป็นเขาไม่เหยียบเข้ามาเรือนนางอีก
นางเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างนางกับเขา ยิ่งนับวันความสัมพันธ์ของทั้งสองยิ่งจืดจางลง
คืนนี้นางนอนไม่หลับ นางพลิกตัวไปมาหลายครา ทุกครั้งที่นางหลับตาลงนางจะคิดว่าเจ้าสารเลวนั่นทาบทับตัวนางอยู่ ทุกวันนี้นางไม่กล้านอนคนเดียวแล้ว นางมักจะให้เสี่ยวถงนอนอยู่ตั่งเล็กนอกห้องนอน
อืม กว่าครึ่งค่อนคืนกว่านางจะข่มตาหลับได้ ขณะกำลังเคลิ้มนางพลันพบว่ามีของหนักๆ กดใส่แผ่นหลัง
“เจ้า!” นางตกใจสะดุ้งตัวขึ้นมา แต่ถูกบุรุษข้างหลังกดต้นคอไว้ ยามนี้นางรับทราบแล้วว่าเกิดเรื่องราวใด
“ซู่ๆ นายหญิงเงียบเสียงไว้” เขาใช้มือข้างหนึ่งเอื้อมมาปิดปากนางไว้ เขาพอเข้ามาถึงเตียงนางก็จับนางพลิกคว่ำหน้านั่งทับนางไว้กับที่นอน
อือ อื้อ นางดิ้นดุกดิ๊กไปมา เจ้าสารเลวนี้เข้ามาในห้องนางได้ยังไง ด้านนอกยังมีเสี่ยวถงนอนอยู่ เขาไฉนบุกเข้ามายังเตียงนางได้
“นายหญิง หากท่านยังดิ้นไปมาอีกเช่นนั้นเราจะช่วยท่านตะโกนเรียกคนมาช่วยเหลือท่านดีหรือไม่”
เขาถึงขั้นกระซิบท้าทายที่ข้างหูนาง สารเลว เจ้าคนสารเลว
ตอนนี้นางหยุดดิ้นรนแล้ว นางหลั่นน้ำตาออกมาอีกครั้ง นางอยากจะร้องออกไปให้คนช่วย แต่หากผู้คนพบเห็นนางในสภาพนี้ไหนเลยนางจะมีชีวิตต่อไปได้
“นายหญิงท่านอยู่นิ่งๆ ข้ารับรองไม่ทำให้ท่านเจ็บปวด”
เขากล่าวพรางล้วงมือเข้าไปถอดกางเกงตัวในของนาง มืออีกข้างของเขากลับสอดรอดใต้แขนนางกอบกุมหน้าอกที่บี้แบนติดเตียงเนื่องจากเขากดทับนางไว้
“สารเลว” นางได้แต่ด่าเขาในใจ นางกลัวส่งเสียงออกไปเสี่ยวถงจะตื่นขึ้นมาพบเจอนางในสภาพอเนจอนาถนี้
กระโปรงของนางถูกรั้งขึ้นมากองไว้บนสะโพก นางรับรู้ได้ว่าเขาใช้นิ้วมือแหวกประตูหยกทั้งสองข้างของนางออกจากกัน จู่ๆ นางรับรู้ถึงอะไรบางอย่างดุนดันไปมา ตอนแรกนางคิดว่าเขาคงจะยัดแท่งเนื้อของเขาเข้ามาในกายนาย
แต่ผิดคาด เจ้าสิ่งนั้นกลับปาดไปปาดตามกลีบท้อนาง จ๊วบ จ๊วบ เสียงดูดดุนบางอย่างดังขึ้นด้านหลัง
“สวรรค์ เขาถึงกลับกล้าใช้ปากกับเรา”
นางแค้นเขานักสามีนางยังไม่เคยทำกับนางเช่นนี้มาก่อน นางเองก็ไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนี้ เนื่องจากสามีนางเป็นบัณฑิตเขาเห็นว่าการกระทำเช่นนี้เป็นเรื่องน่ารังเกียจ เขาจึงไม่เคยนำมาใช้กับนาง
เพียงแต่นางเคยอ่านเจอในหนังสือ 36กลยุทธ์ในหอหยก กระบวนท่านี้นางแม้ไม่เคยลิ้มรสแต่ไม่ใช้ว่านางไม่รู้จัก
“อืม” นางครางออกมาด้วยความไม่สมัครใจ
“สารเลว เขาเพียงต้องการร่างกายเราชัดๆ ไฉนยังปลุกกระตุ้นเราด้วย” นางกัดฟันแน่นเพื่อกลั้นเสียงครางที่นางไม่อยากได้ยิน
“นางหญิงข้าจะเข้าไปแล้ว”
“เจ้าบัดซบนี้เขาเห็นเราเป็นอะไร เขาบังคับขืนใจเราชัดๆ เรื่องแบบนี้ยังต้องบอกกล่าวอีกหรือ”
นางยามแค้นเคืองต้องลอบด่าบรรพบุรุษสิบแปดชั่วโคตรเขา
“…”
***