8. เยี่ยมบ้าน

1492 Words
เนี่ยซวงลืมตาตื่น แว่วเสียงสะอื้นของเสี่ยวซาน นอกห้องดูเหมือนสาวใช้ทั้งสองจะกระซิบกระซาบกัน นางอยากจะตะโกนเรียกทั้งสองคนแต่ลำคอแห้งผากไปหมด ศีรษะก็หนักอึ้ง ได้แต่ส่งเสียงอืออาเบาๆ เสี่ยวซานหูไวรีบเข้ามาในห้อง "คุณหนูเจ้าขา เป็นอย่างไรบ้าง จะให้ไปตามหมอมาหรือไม่เจ้าคะ" สาวใช้ตัวน้อยปาดน้ำตา เวลาที่วุ่นวายใจมักจะเรียกนางว่าคุณหนูด้วยความเคยชิน เนี่ยซวงมองไม่เห็นเรือนร่างของตัวเองใต้ผ้าห่ม แต่เดาได้ว่าคงจะเต็มไปด้วยร่องรอยที่เขาทิ้งไว้ นางรู้สึกปวดเมื่อยขัดยอกไปทั้งเนื้อตัว  ค่อยๆ ชันกายขึ้นนั่งพิงหัวเตียง พยักเพยิดให้เสี่ยวซานรินชาให้ดื่ม เสี่ยวซานยกกาน้ำชาที่อุ่นบนกระถางไฟรินมาส่งให้ เมื่อจิบแล้วจึงค่อยเปิดปาก                 "ข้าไม่สบายหรือ นี่ยามอะไรแล้ว" "เจ้าค่ะ ฮูหยินน้อยตัวร้อนจับไข้ ตอนเช้าบ่าวเข้ามาดูรอบนึงแล้ว ตอนนี้กลางยามซื่อ (10.00 น.) แล้วเจ้าค่ะ" "ยกอาหารเช้ามาก่อนเถอะ" เนี่ยซวงอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรง แต่อย่างไรกองทัพก็เดินด้วยท้อง มิหนำซ้ำอาหารเลิศรสพวกนี้ยังเป็นสิ่งที่นางใช้ร่างกายแลกมาเมื่อคืน เช้านี้นางกินเยอะอย่างน่าตกใจราวกับจะชดเชยพลังงานที่สูญเสียไปกระนั้น กินอิ่มแล้วจึงค่อยเอ่ย "เสี่ยวซานมาช่วยข้าแต่งตัว เสี่ยวถงไปเตรียมของฝาก เสร็จแล้วไปเรียกรถม้ามารอข้าที่หน้าจวน" "ฮูหยินน้อยเจ้าคะ! ท่านไม่สบาย ยังจะกลับไปเยี่ยมบ้านอีกหรือ" เสี่ยวซานทักท้วง ตามธรรมเนียมเมื่อสตรีออกเรือนแล้วมักจะกลับไปเยี่ยมบ้านในวันที่สามเพื่อให้คนในครอบครัวเห็นว่าบุตรสาวของตนอยู่ดีหรือไม่ แต่ฮูหยินน้อยอยู่ในสภาพเช่นนี้จะให้นายท่านเนี่ยวางใจได้อย่างไร มิสู้หาข้ออ้างแล้วไปเยี่ยมวันหลังดีกว่า "ไม่เป็นไร ข้าไม่เป็นอะไรมาก กลับมาแล้วค่อยตามหมอก็ยังไม่สาย แต่หากข้าไม่กลับไป ท่านพ่อคงจะเป็นห่วงยิ่งกว่า" เนี่ยซวงตอบพลางให้เสี่ยวซานช่วยเช็ดเนื้อตัว เสี่ยวซานเห็นผิวเนียนละเอียดของเจ้านายมีแต่รอยฝากรักก็อดทอดถอนใจไม่ได้ หากท่านแม่ทัพเมตตาฮูหยินน้อยได้สักเสี้ยวหนึ่งของความใคร่คงจะดีไม่น้อย เห็นได้ชัดว่าโปรดปรานนางมากเพียงไร แต่กลับทำตัวไร้น้ำใจต่อฮูหยินน้อยเหลือเกิน แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เสี่ยวซานก็เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ของเดิมคงต้องเอาไปซักใหม่เพราะเปรอะเปื้อนคราบรักเต็มไปหมด หน้าต่างห้องถูกเปิดกว้างเพื่อระบายกลิ่นอายวสันต์ที่ยังอบอวลอยู่ในห้อง เช้านี้ร่างกายของฮูหยินน้อยมีร่องรอยเพิ่มขึ้นอีกแล้ว ท่านแม่ทัพช่างป่าเถื่อนเหลือเกิน เนี่ยซวงแต่งกายด้วยชุดสีเหลืองนวลดูมีชีวิตชีวา นางมิได้แต่งแต้มใบหน้าเพื่อปกปิดความซีดเซียว ยิ่งปิดบังยิ่งจะทำให้คนสงสัย ยิ่งเนี่ยหรานบิดาของเนี่ยซวงแล้ว ยากนักที่จะมีสิ่งใดเล็ดรอดสายตา นางสวมเครื่องประดับหยกเหอเถียนที่ได้รับเป็นของขวัญตอนยกน้ำชา ทั้งปิ่น ต่างหู กำไล พู่ห้อย ล้วนดูเรียบง่ายงามสง่า เสร็จแล้วจึงให้เสี่ยวซานพยุงก้าวออกจากเรือน ระหว่างทางบ่าวไพร่ลอบมองนางอยู่ห่างๆ พอไปถึงเรือนส่วนหน้านางก็บังเอิญพบซ่งฉีหลิงที่กำลังจะออกไปข้างนอกพอดี เขาเหลือบมองนางวูบหนึ่ง เห็นดวงหน้าอ่อนใสแดงเรื่อดวงตาฉ่ำปรือ นางคงจะอ่อนเพลียจากเมื่อคืน เขายกมือขึ้นลูบจมูกเบือนสายตาไปทางอื่น "จะไปไหนหรือ" เขาเอ่ยถามพลางยกมือขึ้นจัดสาบเสื้อ ท่าทางไม่ได้สนใจราวกับถามไปอย่างนั้น เนี่ยซวงก็ไม่ได้มองเขาเช่นกัน เสี่ยวซานเป็นฝ่ายตอบ "ไปเยี่ยมบ้านเดิมฮูหยินน้อยเจ้าค่ะ" ซ่งฉีหลินลอบกำหมัดในแขนเสื้อ ตอบอย่างไม่ใส่ใจ "อ้อ" จากนั้นก็เดินจากไป เสี่ยวซานมีสีหน้าผิดหวัง นางนึกว่าเขาจะพาฮูหยินน้อยกลับไปเยี่ยมบ้านเดิม ฮูหยินน้อยจะได้มีหน้ามีตา แต่เขากลับปล่อยให้นางไปคนเดียว แม้แต่รถม้าในจวนก็ไม่ได้สนใจจะเรียกให้ เนี่ยซวงกลับไม่ได้สนใจ นางก้าวเดินต่อไปช้าๆ รู้สึกศีรษะหนักอึ้งดวงตาพร่าเลือน เมื่อครู่ที่เขาคุยด้วยนางก็แทบไม่ได้ยินและไม่ได้สนใจเสียด้วยซ้ำ พอเนี่ยซวงออกมาถึงประตูใหญ่ คนเฝ้าประตูก็ถามอึกอัก "ฮูหยินน้อยจะให้บ่าวไปเรียกรถม้าในจวนให้ดีไหมขอรับ" ขนาดเขาเห็นยังนึกสงสาร เป็นถึงฮูหยินน้อยจวนแม่ทัพ ไม่เพียงกลับบ้านเดิมตามลำพัง แม้แต่รถม้ายังต้องว่าจ้าง "ไม่ต้องหรอก ขอบใจเจ้ามาก" เนี่ยซวงตอบอย่างไม่เห็นเป็นสำคัญ นางให้เสี่ยวซานพยุงขึ้นรถม้า เสี่ยวถงขนของขวัญขึ้นรถเรียบร้อยยืนรออยู่นานแล้ว ทั้งสามจึงขึ้นรถม้าจากไปด้วยกัน นายท่านเนี่ยเห็นลูกสาวกลับมาก็ดีใจ เขาตื่นแต่เช้าเตรียมต้อนรับเนี่ยซวงกลับบ้าน พอเห็นรถม้ารับจ้างจอดลงหน้าคฤหาสน์ มีลูกสาวลงมากับสาวใช้ก็ไม่ประหลาดใจ เขารู้อยู่แล้วว่าเนี่ยซวงแต่งเข้าไปต้องเป็นเช่นนี้ ไม่ปรากฏเงาของลูกเขย เนี่ยหรานจะไม่รู้หรือว่าลูกเขยแม่ทัพผู้นี้รู้สึกต่อเขาอย่างไร... แต่เพื่ออนาคตของบุตรสาวที่เขารักคนนี้ เนี่ยหรานได้แต่ยอมทนให้คนดูหมิ่น เขารู้ดีว่าเนี่ยซวงน่ารักเพียงใด หากมิใช่คนใจหิน มีหรือจะไม่ตกหลุมรักนางได้ ลูกเขยของเขาเป็นคนหนุ่มหยิ่งผยอง แม้แรกเริ่มจะไม่ยอมรับ แต่ในไม่ช้าเขาเชื่อว่าเนี่ยซวงจะต้องเอาชนะใจท่านแม่ทัพและคนในจวนได้แน่ เท่าที่เขารู้มาซ่งฉีหลินเป็นบุรุษที่ดีคนหนึ่ง อายุยี่สิบสามแล้วแต่ในจวนกลับไม่มีเมียบ่าวหรืออนุ ที่ผ่านมาอุทิศชีวิตให้กับการศึก เชี่ยวชาญทั้งบุ๋นและบู๊ เป็นลูกผู้ชายขนานแท้ พอเห็นลูกสาวท่าทางป่วยไข้ก็แอบเรียกเสี่ยวซานมาสอบถาม "แต่งเข้าไปแล้ว ท่านแม่ทัพได้ค้างที่เรือนของนางบ้างหรือไม่" เสี่ยวซานพยักหน้า "เมื่อคืนก็ค้างอยู่กับคุณหนูเจ้าค่ะ แต่พอฟ้าสางก็จากไป" เนี่ยหรานพยักหน้า ค่อยรู้สึกวางใจ ที่แท้เนี่ยซวงป่วยเพราะท่านแม่ทัพโปรดปรานนางมาก เขาให้คนพาเนี่ยซวงไปพักแล้วตามหมอมาตรวจทันที พี่น้องคนอื่นๆ ไม่ค่อยชอบเนี่ยซวงนัก พวกเขาต่างริษยาที่บิดารักใครเซียวอี๋เหนียงผู้เป็นมารดาของเนี่ยซวงมากที่สุด พอไม่เห็นท่านแม่ทัพกลับมาต่างก็นึกสมน้ำหน้าในใจ เซียวอี๋เหนียงนั่งเฝ้าลูกสาวอยู่ข้างเตียง ลูบศีรษะนางอย่างรักใคร่ บุตรสาวคนนี้ได้แต่ส่วนดีๆ ของพ่อแม่ไป งดงามปานนี้หากได้แต่งไปตระกูลธรรมดาสามีคงรักถนอม เนี่ยซวงรู้สึกโชคดีที่ตัวเองป่วย ไม่เช่นนั้นบิดามารดาของเจ้าของร่างคงผิดสังเกตแน่ พวกเขาคงตบตาไม่ได้ง่ายๆ เหมือนสาวใช้ทั้งสองของนาง หมอมาตรวจแล้วก็เขียนเทียบยา บิดาสั่งให้คนไปซื้อยาและต้มให้ดื่ม การเยี่ยมบ้านของนางจึงกลับกลายเป็นว่าทั้งบิดามารดาต้องมาคอยพยาบาล แต่พวกเขากลับเป็นสุขใจที่ได้ดูแลบุตรสาวเหมือนเมื่อครั้งนางยังเป็นเด็ก แม้พวกเขาจะไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้จริงของเนี่ยซวงที่เป็นคนจากโลกปัจจุบัน แต่นางก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจเหลือเกิน ตกเย็นก็ยังไม่อยากกลับจวนแม่ทัพ นางออดอ้อนพ่อแม่ขออยู่กินข้าวเย็น พวกเขาก็ยอมตามใจ เนี่ยหรานได้ยินข่าวที่ฮูหยินน้อยสั่งอาหารจากเหลาเทียนฝูแต่ก็ไม่ได้ถาม เขารู้ดีว่านางย่อมมีแผนการของตน "เนี่ยซวง เจ้าไม่โทษพ่อใช่หรือไม่" เนี่ยหรานถามตอนที่ออกมาส่งเนี่ยซวงหน้าบ้าน เขาให้รถม้าโอ่อ่าของคฤหาสน์ไปส่งนางกลับจวน "จะโกรธได้อย่างไรเจ้าคะ ท่านพ่อปรารถนาดีต่อข้าจริงๆ" "ลูกรัก เจ้าอดทนอีกหน่อย พ่อเชื่อว่าเขาคงไม่อาจใจแข็งต่อเจ้าได้" แม้เนี่ยซวงจะไม่ค่อยเห็นด้วยแต่ก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่ายเพื่อให้บิดาสบายใจ อันที่จริงนางวางแผนจะหนีไปต่างหากเล่า เรื่องอะไรจะยอมทนให้เขาโขกสับอยู่ในจวน กว่าเขาจะเห็นความดีของนาง ไม่รู้ต้องรอจนแก่เฒ่าหรือไม่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD