EP.3 SLAVE TO LOVE ♥
ตอน CLINT
“ผมทำงานที่นี่มานาน ครั้งนี้ก็ถือเป็นความผิดครั้งแรกของผมจริง ๆ โปรดยกโทษให้ผมด้วยเถอะคุณคลินต์” หัวหน้าเชฟรีบยกมือไหว้ GM หนุ่มรุ่นน้องอย่างไม่อาย เขายกมือไหว้พร้อมทั้งเอ่ยขอโทษเป็นสิบ ๆ ครั้ง
“แล้วไง?” คลินต์เบะปากใส่เขาทันที
ฟุ่บ! เขาปล่อยปกเสื้อของหัวหน้าเชฟอย่างพยายามข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ข้างใน
“เป็นถึงหัวหน้าเชฟตำแหน่งสูงสุดในห้องครัว เอาความไว้วางใจ เอาตำแหน่งหน้าที่การงานที่ทางโรงแรมแต่งตั้งให้ย้อนกลับมาทรยศ คดโกงโรงแรมตัวเอง” คลินต์เหยียดยิ้มและกระชากเอาป้ายชื่อของเขาออกจากปกเสื้อทันที จนเสื้อเชฟสีขาวสะอาดขาดติดป้ายชื่อของเขามาด้วยทันที
“คุณคลินต์ครับ...ผมขอโอกาสอีกสักครั้งเถอะครับ ผมจะตั้งใจทำงานและไม่ยักยอกเงินของทางโรงแรมอีกแล้ว” หัวหน้าเชฟร้องไห้ออกมา และเขาแทบจะลงไปกราบเท้าเพื่อให้เขาได้ทำงานที่นี่ต่อไป
“ผมขอสาบาน ผมจะไม่ทำอีกแล้ว” เขาวิงวอนต่อ GM ปากร้ายตรงหน้าอย่างหมดทางเลือก เขาคร่ำครวญออกมาอย่างน่าสมเพช แม้แต่เหล่าลูกน้องพนักงานคนอื่น ๆ ก็ต่างพากันส่ายหน้าและรู้สึกผิดหวังกับความประพฤติของหัวหน้าตัวเองมากจริง ๆ คลินต์ขยับเท้าหนีอย่างไม่แยแสใด ๆ
“ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปไม่ต้องมาทำงานที่นี่อีก!” เขาพูดไปอย่างเสียงแข็ง
“นี่จะไล่ออกจริง ๆ ใช่ไหม...ผมรับใช้โรงแรมนี้มาตั้งแต่สมัยพ่อของคุณซะด้วยซ้ำนะ” หัวหน้าเชฟหน้าซีดและพยายามจะบอกว่าเขาทำงานให้กับที่นี่มานานมาก ๆ กว่าจะขึ้นถึงตำแหน่งหัวหน้ามันไม่ง่ายเลย เขาต้องอดทนมาหลายต่อหลายปีกว่าจะขึ้นมาอยู่ในจุดนี้
และด้วยเงินเดือนหลักแสนรวมไปถึงสวัสดิการที่ดีของโรงแรมคิงส์ตัน มีใครบ้างที่ไม่เสียดาย ขนาดเหล่าพนักงานทั่ว ๆ ไปที่เงินเดือนหลักหมื่น ส่วนใหญ่ก็อยู่ทำงานกันจนถึงวัยเกษียณ น้อยคนมากที่จะลาออกจากที่นี่ นอกจากเงินเดือนแล้วยังมีอาหารเลี้ยงดูสามมื้อไม่มีขาดตกบกพร่องใด ๆ
“ผมทำงานอยู่ที่นี่ ก่อนที่เด็กเมื่อวานซืนอย่างมึงจะบริหารงานเป็นซะด้วยซ้ำ” ด้วยความเก็บกดภายในใจทำให้หัวหน้าเชฟหลุดพูดจาหยาบ ๆ ออกมาใส่คลินต์อย่างเริ่มหมดความอดทน
“มาทีหลังแล้วไง...กูเป็นลูกเจ้าของคิงส์ตัน ไม่ใช่พนักงานขี้โกงอย่างมึง!” คลินต์เห็นว่าอีกฝ่ายดูถูกเขาก่อน เขาจึงไม่สามารถสุภาพกับชายคนนี้ได้อีกต่อไป
“และกูกับพ่อไม่ใช่คนคนเดียวกัน พ่ออาจจะใจดีมาก ๆ แต่สำหรับกู...” คลินต์ประกาศออกไปเสียงดังกร้าวและกวาดสายตามองพนักงานทุกคนอย่างกดดัน
“ถ้าทรยศแม้แต่ครั้งเดียว...ฉันเอาตาย!” เขาชี้ไปที่หน้าของชายวัยกลางคนคนเดิมอย่างเอาจริง
“ไม่มีคำว่าให้อภัย ในพจนานุกรมของคนอย่างกู...จำไว้!” น้ำเสียงที่เยือกเย็นและแววตาที่ดุดันของเขาทำให้พนักงานคนอื่น ๆ ก้มหน้าหลบสายตาทันที
ฟุ่บ!! หัวหน้าเชฟยืนขึ้นทันทีเมื่อรู้แล้วว่าวิงวอนต่อไปก็ไร้ประโยชน์
“มึงไล่กูออก กูไปทำงานที่อื่นก็ได้โว้ย!” เขาตวาดลั่นอย่างสติแตกจนพนักงานชายรีบตรงปรี่เข้ามาช่วยห้ามทันที
“กูโกงมาได้ตั้งหลายปี...เพราะที่นี่มันมีแต่คนโง่ไง คนโง่มาบริหาร” เขาเสียสติจนสารภาพออกมาจนหมดเปลือก
“หึ” คลินต์หัวเราะออกมาอีกครั้ง
หัวหน้าเชฟกำหมัดแน่นอย่างเจ็บแค้นใจ เมื่อเขารู้ดีว่าเขาถูกไล่ออกอย่างแน่นอนแล้วจริง ๆ
“มึงมันก็แค่ไอ้เด็กเมื่อวานซืน...กูขอให้โรงแรมมึงเจ๊ง ๆ ๆ ไปทุกสาขาเลยไอ้เด็กนรก” หัวหน้าเชฟระบายออกมาอย่างเจ็บใจที่เขาถูก GM ที่เพิ่งจะเข้ามาบริหารได้ไม่ถึงเดือนไล่ออกแบบง่าย ๆ
คลินต์ยืนยิ้มรับฟังคำด่ากราดและสาปแช่งของอดีตหัวหน้าเชฟอยู่พักใหญ่อย่างไม่ได้สะทกสะท้านใด ๆ ก่อนที่เขาจะสวนกลับไปด้วยสรรพนามแทนตัวที่เปลี่ยนไป เพราะคนตรงหน้าหยามเกียรติของเขาก่อน
“ถ้าไม่มีคนขี้โกงอย่างมึง...โรงแรมคงไม่เจ๊งง่าย ๆ หรอก” เขาเอ่ยตอบกลับไปนิ่ง ๆ
“ไหน ๆ มึงก็ปากดีขนาดนี้แล้ว อย่าลืมไปปากดีต่อในศาลด้วยแล้วกันนะ” คลินต์ขยับสูทของเขาเล็กน้อยและมองคนตรงหน้าด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ คำพูดของ GM หนุ่มทำเอาอีกฝ่ายชะงักไปในทันที
“อะไรนะ...” ชายวัยกลางคนพูดขึ้นเบา ๆ อย่างเสียงสั่น ๆ
“ลากตัวออกไปและห้ามให้มันกลับมาเหยียบที่นี่อีก...ตัวเสนียดจัญไร!” คลินต์ออกคำสั่งให้พนักงานชายสองคนลากตัวอดีตพนักงานสารเลวของโรงแรมออกไปทันที
“มึงเตรียมรับหมายศาลที่บ้านได้เลยนะ” คลินต์ทิ้งท้ายไปเพียงเท่านั้น เล่นเอาหัวหน้าเชฟทรุดล้มลงไปกองกับพื้นทันทีอย่างไร้ซึ่งเรี่ยวแรง
“กูสาบานได้เลยว่า...กูเอาคืนทุกบาททุกสตางค์แน่นอน” เขาเหยียดยิ้มอย่างสะใจ
“...” อดีตหัวหน้าเชฟกำหมัดแน่นเตรียมจะเข้ามาต่อยหน้าคลินต์ แต่ถูกเขาเตะเข้าที่หัวเข่าจนล้มลงไปคุกเข่าอยู่ตรงหน้าแทน
“ไอ้เด็กเปรต ไอ้ขี้งก กูไม่เคยเจอคนรวยที่ไหนขี้งกอย่างมึงมาก่อนเลย...ไอ้ (อั้ก)” เสียงด่าทอของอดีตหัวหน้าเชฟเงียบไปในทันที เมื่อคลินต์ขยำผ้าเช็ดโต๊ะที่วางอยู่ใกล้ ๆ มือยัดใส่ปากของอดีตหัวหน้าเชฟไปโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว
“ลากตัวมันออกไปทางด้านหลัง...อย่าให้เสียงโวยวายดังออกมา เดี๋ยวแขกที่เข้าพักจะตกใจเอา” เขาออกคำสั่งกับพนักงานชายสองคนที่เข้ามาประกบตัวอดีตหัวหน้าเชฟ
“ครับ GM” พนักงานสองคนขานรับก่อนจะลากตัวปัญหาออกไปจากโรงแรม ทั้ง ๆ ที่มีผ้าอุดปากแบบนั้น
คลินต์พูดต่อพร้อมกับขยับสูทของเขาเล็กน้อย
“พรุ่งนี้ฉันจะส่งหัวหน้าเชฟคนใหม่จากสาขาอื่นมาคุมงานที่ห้องอาหารนี้!” เขาพูดทิ้งท้ายเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินออกไปจากห้องอาหารแห่งนี้ เพื่อกลับโต๊ะทำงานหลังจากสะสางเรื่องทุกอย่างจบ
“นี่หัวหน้าโกงเงินจริง ๆ เหรอคะ?” หนึ่งในพนักงานครัวคนหนึ่งอุทานขึ้นเบา ๆ ด้วยใบหน้าที่ผิดหวัง และอีกหลาย ๆ คนก็เริ่มซุบซิบนินทากันทันที
คลินต์ชะงักฝีเท้าและหันกลับไปมองพนักงานเหล่านั้นนิ่ง ๆ ทุกคนดูจะขวัญเสียและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะหัวหน้าคนนั้นทำงานที่นี่มาเกือบ 20 ปีได้ และเป็นที่เคารพของบรรดาลูกน้องเช่นกัน
เขาเองก็เพิ่งเข้ามาบริหารงานต่อจากพ่อได้ไม่กี่เดือนนี่เอง จึงเป็นเรื่องยากที่เขาจะเข้าใจการทำงานหรือปรับตัวเข้ากับเหล่าพนักงานได้ภายในระยะเวลาอันสั้น
“ถ้ามีใครอยากลาออกตามหัวหน้าตัวเอง...ก็ไปได้นะ!” คลินต์พูดเสียงดังขึ้นอีกครั้งอย่างไม่ง้อใครทั้งสิ้น ทำเอาพนักงานที่กำลังพูด ๆ กันอยู่เงียบกริบในทันที
“ไม่ค่ะ พวกเราจะทำงานต่อที่นี่” รองหัวหน้าเชฟรีบออกตัวแทนลูกน้องที่เหลือทันที พร้อมกับหันไปบอกให้ทุกคนเงียบ
“ก็ดี...ถ้าใครอยู่ต่อก็ช่วยตั้งใจทำงานกว่านี้ และก็ช่วยทำงานให้คุ้มกับเงินเดือนที่ทางโรงแรมจ่ายให้ด้วย!”
“ฉันขอย้ำทุกคนในห้องนี้อีกครั้งนะ...ถ้าหากฉันเจอคอมเมนต์ติเตียนเรื่องอาหารหรือบริการจากห้องอาหารที่นี่อีก...แม้แต่คอมเมนต์เดียว” คลินต์พูดขึ้นขณะที่เท้ากำลังจะก้าวผ่านประตูทางออก
“ฉันจะไล่ออกทั้งทีม!” คลินต์พูดออกไปอย่างเด็ดขาดพร้อมกับกวาดสายตามองหน้าพนักงานทุกคนอย่างดุดัน คลินต์ชี้ขึ้นไปที่กล้องวงจรปิดที่มีอยู่ทั่วห้องอาหาร ซึ่งเขากำลังจะสื่อให้รู้ว่าเขาจะตรวจการทำงานและพฤติกรรมของทุกคนผ่านกล้องทุก ๆ ตัวในห้องนี้อย่างเข้มงวดมากกว่าเดิม
“ค่ะ / ครับ GM” ทุกคนรีบตอบรับในคำสั่งของเขาอย่างพร้อมเพรียงและยกมือไหว้ตามหลังเขาและรอจนเขาเดินหายไปจนลับตาแล้ว ทุกคนถึงจะได้หายใจกันอย่างทั่วท้อง...
หลังจาก GM จอมโหดเดินออกไปได้ไม่นาน พนักงานทุกคนก็เร่งทำงานอย่างขยันขันแข็งขึ้นมาทันตา ด้วยความกลัวว่าตัวเองจะตกงานเข้าจริง ๆ
พนักงานแทบจะทุก ๆ แผนกที่คลินต์เดินผ่านก็ต่างกุลีกุจอตั้งหน้าตั้งตาทำงานด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และใจรักบริการอย่างมากกว่าปกติทันที จนแม้แต่แขกที่เข้าพักยังแปลกใจกับการบริการที่ดีเยี่ยมของพนักงานต้อนรับ พนักงานยกกระเป๋า และแผนกอื่น ๆ
“GM สวัสดีค่ะ” พนักงานต้อนรับยกมือไหว้คลินต์ทันทีที่เจอหน้า
“สวัสดีครับท่าน GM” พนักงานยกกระเป๋ารีบหยุดรถเข็นกระเป๋าเพื่อทำความเคารพเขาทันที
เขาก็พยักหน้ารับทุกคน สายตาของเขายังคงสอดส่องไปรอบ ๆ อาณาจักรโรงแรมที่กว้างใหญ่ของพ่อตัวเอง คลินต์ตั้งปณิธานในใจว่าจะบริหารให้มันดีเหมือนที่พ่อเคยทำ
โรงแรมเครือคิงส์ตัน มีพนักงานหลายพันชีวิตที่เขาต้องดูแล ถ้าโรงแรมผลประกอบการดีพนักงานเองก็จะได้เซอร์วิสชาร์จที่มากขึ้น และรวมไปถึงความเป็นอยู่ที่สุขสบาย เพราะการทำงานโรงแรม เงินเดือนครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งคือเงินจากเซอร์วิสชาร์จของแต่ละเดือน
คลินต์ในตอนนี้ดำรงตำแหน่ง GM คนปัจจุบันของโรงแรมคิงส์ตันในทุก ๆ สาขา และการขึ้นรับตำแหน่งของเขาถูกประกาศออกไปอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมของปีนี้ ขณะที่เขาเดินผ่านโซนของล็อบบี้และจุดเช็กอินของโรงแรม ก็ต้องสะดุดตาเข้ากับ...
พนักงานแผนกช่างสองคนกำลังจับบันได และเตรียมค้อนเตรียมตะปูส่งให้กับช่างอีกคนหนึ่งปีนขึ้นบันไดสูงขึ้นไป โก่งลำตัวเพื่อไปติดรูปถ่ายของคลินต์เอาไว้ เขาเอนตัวไปเอนตัวมาเพื่อเล็งตำแหน่งของรูปอยู่ เพราะรูปของเขาต้องแขวนเอาไว้ในระดับที่ต่ำกว่ารูปของพ่อและปู่ เป็นคล้าย ๆ กับธรรมเนียมรุ่นผู้ก่อตั้งโรงแรม และในตอนนี้คลินต์ก็คือทายาทเพียงคนเดียวของคุณคิมหันต์ เจ้าของโรงแรมคนปัจจุบัน ผู้ดำรงตำแหน่ง GM สูงสุดคนปัจจุบัน ที่คิงส์ตันทุก ๆ สาขาต้องติดรูปถ่ายของเขาเอาไว้เพื่อเป็นการให้เกียรติเจ้าของ เพียงแต่ว่า...
“เก็บรูปแล้วรีบลงจากบันไดเดี๋ยวนี้!” คลินต์เอ่ยขึ้นอย่างไม่อาจจะปล่อยผ่านไปได้จริง ๆ