บทที่2) บังอรเอาแต่นอน

1295 Words
คฤหาสน์ศิวาพร ก๊อกๆ "บังอร" "อย่ากวน จะนอน" 'ชนกกมล ศิวาพร หรือบังอร' ที่กำลังซุกตัวอยู่ในผ้านวมผืนหนานุ่มแหวใส่ใครบางคนที่บังอาจเข้ามาขัดขวางการนอนหลับพักผ่อนของเธอ "บังอร พ่อเองนะลูก" "ค่ะคุณพ่อ" น้ำเสียงที่เคยหงุดหงิดเพราะความงัวเงียแปรเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงอ่อนหวานอย่างเห็นได้ชัดเมื่อได้รับรู้ว่าพ่อสุดที่รักของตัวเองนั้นกลับมานอนที่บ้านแทนที่จะเป็นสนามกีฬาชนโคของพ่ออย่างทุกที "รอนานไหมคะคุณพ่อ บังอรขอโทษนะคะ" แขนเล็กเลื่อนเข้าสวมกอดชายวัยห้าสิบต้นๆตรงหน้าด้วยความคิดถึง ปลายเท้าคู่เล็กนั้นเขย่งขึ้นนิดหน่อยก่อนจะกดริมฝีปากเข้าตรงแก้มสากซ้ายขวาของผู้เป็นพ่อ "บังอรคิดถึงพ่อตัวเท่าโลกเลยค่ะ" "หิวไหมลูก พ่อซื้อข้าวขาหมูเจ้าดังมาฝากบังอรด้วยนะ" ชยพัทธ์ยกมือขึ้นกอดลูกสาวตอบ ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาลูบหัวกลมทุยนั้นด้วยความรู้สึกรักและเอ็นดูบุตรสาว ถึงแม้ว่าในตอนนี้จะเป็นเวลาบ่ายสามโมงแล้วและลูกสาวของเขาก็ยังคงไม่ก้าวขาออกมาจากห้องนอนก็ตามที หากแต่เพราะความรักที่เขามีต่อลูกสาวนั้นมันมากพอจนทำให้เขาเลือกที่จะมองไม่เห็นจุดที่ขาดตกบกพร่องของลูกสาว "ขอบคุณค่ะคุณพ่อ คุณพ่อน่ารักที่สุดเลย" เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะได้ทานในสิ่งที่ตัวเองชอบบังอรก็เผยยิ้มกว้างออกมาเสียจนดวงใจของคนเป็นพ่อหลอมละลาย "ลงมาได้สักทีนะแก" ชัยรัมภา แม่ของบังอรกล่าวขึ้นอย่างติติง เธอใช้เวลามาร่วมค่อนวันด้วยกันในการปลุกให้ลูกสาวนั้นยอมก้าวขาออกมาจากห้องนอนแต่บังอรก็ไม่ยอมตื่นเสียที ถ้าหากวันนี้สามีของเธอไม่กลับมา อย่าได้หวังว่าใครในบ้านจะมีบุญวาสนาได้เห็นใบหน้าของบังอร... "ลูกจะทานข้าว ค่อยพูดบ้างจะได้ไหม" ชยพัทธ์ที่ถือลูกสาวเหนือสิ่งอื่นใดในโลกกล่าวขึ้นอย่างไม่ใคร่พอใจในท่าทีของภรรยา "คุณก็ถือหางมันอยู่แบบนี้ไง มันถึงได้เสียผู้เสียคน!" "เรื่องของผมเถอะ" ชยพัทย์ว่าอย่างตัดปัญหาและเลือกที่จะหันไปจัดจานให้กับลูกสาวแทน "ทานให้อร่อยนะครับลูก ทานให้หมดเลยนะครับ พ่อไม่อยู่สัปดาห์เดียวบังอรผอมลงไปเยอะเลยนะลูก" "ก็มันเอาแต่นอน จะเอาเวลาไหนมากิน" "ผมพูดกับลูกสาวของผม" เป็นอีกครั้งที่ชยพัทธ์กล่าวใส่ภรรยาด้วยน้ำเสียงติดฉุน "ผมว่าคุณเอาเวลาที่มีค่าของคุณไปคิดว่าจะทำยังไงให้ตัวเองรอดพ้นจากการถูกขังในตะรางซะยังดีกว่า" "คุณพ่อคะ!" บังอรที่ได้ยินดังนั้นก็ถึงกับวูบโหวงด้วยไม่คิดว่าครั้งนี้ผู้เป็นพ่อนั้นจะโกรธแม่หนักจนถึงขั้นยอมให้แม่ติดคุกติดตะรางจริงๆ "ช่วยคุณแม่ด้วยเถอะนะคะคุณพ่อ" บังอรใช้ลูกอ้อนเข้าช่วยให้บิดาของตัวเองเปลี่ยนใจมาช่วยเหลือแม่อย่างทุกทีที่ผ่านมา แม้จะรู้ดีแก่ใจว่าการกระทำของแม่ในครั้งนี้มันเกินกว่าที่จะให้อภัยได้แต่เธอก็ไม่ได้ต้องการที่จะเห็นแม่ของตัวเองถูกส่งตัวเข้าสู่เรือนจำกลางของจังหวัดหรอกนะ "แม่ของลูกจ้างวานให้คนของเราทำร้ายคนหนึ่งคนจนเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนหลับไม่รู้สึกตัวอยู่ในห้องไอซียูนะบังอร มันไม่ใช่เรื่องที่จะมานั่งใช้เส้นใช้สายนะบังอร คนที่ถูกทำร้ายเขาก็เป็นลูกชายของพ่อแม่เขาด้วยเหมือนกัน ให้ตายพ่อก็ไม่ยอม!" "ไม่ยอมช่วยแล้วคุณจะทำยังไง! ใจคอคุณคิดที่จะให้ฉันนอนขดตัวอยู่ในตะรางอย่างนั้นจริงๆนะเหรอ! ช่วยฉันหน่อยไม่ได้หรือไงฉันเป็นเมียคุณนะ เมียของคุณ!" "คุณสมควรได้รับมันเจ้าเอย" ชยพัทธ์กล่าวอย่างเฉียบขาดก่อนจะหันไปตักข้าวขาหมูป้อนให้ลูกสาววัยยี่สิบห้าปีและเลิกให้ความสนใจภรรยาที่ยังคงนั่งหน้าง้ำงอใส่ตนอยู่ ช่วงบ่ายของอีกวันถัดมา "คุณฮั่น ตำรวจมาขอพบคุณนายค่ะ" สำเริง แม่บ้านเก่าแก่ของชยพัทธ์เดินเข้ามารายงานด้วยท่าทีเกร็งๆ ดูเหมือนกับว่าเธอกำลังพยายามที่จะบีบตัวเองให้ลีบลงมาก็ที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อหลบเลี่ยงสายตาพิฆาตที่ชัยรัมภากำลังส่งมายังตน "หมายจับกุมตัวคุณชัยรัมภา หงษ์สาศิโรคุณครับ" ตำรวจนายหนึ่งยื่นเอกสารแผ่นหนึ่งมาให้สมาชิกทุกคนในบ้านได้รับรู้โดยทั่วกัน ก่อนตำรวจอีกนายที่มาด้วยกันจะเข้าจับกุมตัวชัยรัมภาและใช้กุญแจมือล็อกข้อมือเธอเอาไว้ให้เธอไร้ซึ่งช่องทางได้หลบหนี "ฉันพ้นโทษมาฉันจะหย่ากับคุณ ไอ้ผัวเฮงซวย ชีวิตฉันมันซวยจริงๆที่มีไอ้หน้าโง่อย่างคุณมาเป็นผัว... "คุณพ่อ ไหวนะคะ" บังอรรีบวิ่งเข้ารับร่างสูงใหญ่ของผู้เป็นพ่อที่กำลังจะล้มลงด้วยความเป็นห่วง "นั่งตรงนี้ก่อนนะคะคุณพ่อ บังอรจะไปหายาดมมาให้ค่ะ" ครู่ต่อมา "ดีขึ้นไหมคะคุณพ่อ" เมื่อเห็นว่าพ่อมีสีหน้าที่มีชีวิตชีวาขึ้นกว่าเมื่อก่อนหน้าบังอรก็ถอนหายใจออกมาด้วนความโล่งอก "บังอร" ชยพัทธ์เอ่ยเรียกบุตรสาวที่กำลังนวดไหล่ให้ตนอย่างพึ่งนึกอะไรขึ้นมาได้ "ค่ะคุณพ่อ" บังอรขานรับอย่างรวดเร็วก่อนรีบผละออกมานั่งอยู่ตรงหน้าของคนเป็นพ่อแทน "พ่อวานบังอรช่วยไปเก็บค่าเช่าที่ในตลาดแทนแม่เขาหน่อยนะ วันนี้ถึงวันเก็บงวดค่าเช่าในตลาดแม่เขาพอดี" "บังอรนะเหรอคะคุณพ่อ" ยี่สิบห้าปีที่ผ่านมาเธอออกไปใช้ชีวิตนอกคฤหาสน์หลังใหญ่ของพ่อน้อยครั้งมากจนนับครั้งได้ มาวันนี้ที่ได้รู้ว่าตัวเองกำลังจะต้องเดินทางไปเก็บค่าเช่าที่ในตลาดแทนแม่ก็เกิดรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ "ช่วยพ่อหน่อยนะ เพราะระหว่างนี้พ่อต้องรีบจัดแจงตบแต่งเมียให้ไอ้เสือมันก่อนแม่ลูกจะออกมาขัดขวางอีก" "ได้ค่ะคุณพ่อ!" บังอรตอบรับอย่างหนักแน่น ไอ้เสือที่พ่อว่านั้นก็คือนายอินทร์ ผู้ซึ่งเป็นพี่ชายฝาแฝดของเธอที่ในตอนนี้กำลังแอบมีภรรยาสาวซุกซ่อนเอาไว้โดยที่แม่ของเธอไม่เคยรับรู้มาก่อน และสิ่งที่ทำให้พี่ชายของเธอต้องปกปิดก็เพราะภรรยาของพี่ชายเป็นเพียงหญิงธรรมดาไม่ใช่บุตรสาวของเจ้าขุนมูลนายอย่างที่แม่ของพวกเขาชื่นชอบนั่นเอง... "ขอบคุณนะครับลูก ไปแต่งตัวเถอะ วันนี้พ่อจะไปช่วยลูกเก็บค่าแผงอีกแรงก็แล้วกันนะครับ แต่วันหลังลูกต้องพยายามไปคนเดียวนะครับ พ่อค้าแม่ค้าในตลาดเขาไม่ค่อยชอบพ่อ ลูกก็รู้ใช่ไหมครับ" ชยพัทธ์ทำธุรกิจสนามกีฬาชนโตจึงทำให้ชาวบ้านในละแวกบ้านใกล้เรือนเคียงค่อนข้างที่จะรังเกียจเดียดฉันท์ด้วยคิดว่าธุรกิจของเขานั้นเป็นการทารุณกรรมสัตว์นั่นเอง... "ค่ะคุณพ่อ รอบังอรแต่งตัวสักครู่นะคะ" "ครับลูก" บังอรเอาแต่นอน 🤣🥰
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD