[Chapter1 แมวดำ NC]
เสียงนกร้องระงม แสงอาทิตย์ที่เล็ดลอดเข้ามาทางหน้าต่างทำให้เปลือกตาที่ไม่อยากจะลืมจำต้องเปิดขึ้น ‘เช้าแล้วสินะ’ ผมลุกขึ้นบิดขี้เกียจไปมาแล้วเดินไปปิดหน้าต่าง จากนั้นเดินกลับมาที่เตียง เอนตัวลงแล้วเอาหัวหนุนกับหมอน ใช้เท้าเขี่ยผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวไว้เหมือนเดิม ผมขอนอนต่อก่อนนะครับ...
ไลน์
ไลน์
ไลน์
ฮึ่มมมม ผมเอาหมอนปิดหูตัวเองด้วยความหงุดหงิด ใครกันไลน์มาเช้าขนาดนี้ เอี้ยวตัวไปหยิบโทรศัพท์มาเปิดดู เที่ยงแล้วนี่หว่า ผมรู้สึกเพลียมาก ๆ เมื่อคืนก็หลับ ๆ ตื่น ๆ เพราะระแวงด้วย พอจะหลับจริง ๆ กลับฝัน...เฮ้อ ช่างเถอะ ผมกดเปิดเข้าแอปพลิเคชันสีเขียว สาเหตุที่ปลุกผมให้ตื่น
คุณแม่ : send photo *สวัสดีวันจันทร์//รูปพระพุทธชินราช*
คุณแม่ : อินเอยตื่นหรือยังลูก
คุณแม่: เมื่อคืนเจออะไรไหม
อิน : ตื่นแล้วครับแม่ ไม่เจออะไรครับ
คุณแม่ : แม่ส่งสร้อยพระห้อยคอไปทางไปรษณีย์นะลูก อาจจะช้าหน่อย
อิน : ขอบคุณครับ ช้าก็ไม่เป็นไรครับ
คุณแม่ : แต่แม่แอบใส่กล่องไม้ไว้ในกระเป๋าหนู เป็นมีดอาคม แม่ไปบูชามา ถ้ามีอะไร...เอ่อแบบว่านั่นแหละ หนูหยิบมาแทงมันเลยนะลูก
อิน : เดี๋ยวผมเปิดดูครับแม่
คุณแม่ : send stickers *กระต่ายถือป้ายโอเค*
คุณแม่ : send stickers *สู้ๆ *
เช็กโทรศัพท์เรียบร้อย ท้องก็เริ่มร้องโครกคราก ก็เที่ยงแล้วนี่นา ผมลุกไปหยิบผ้าเช็ดตัวพาดบ่าเดินเข้าห้องน้ำ ในห้องน้ำกว้างขวาง มีอ่างอาบน้ำด้วย แต่ท้องผมหิวไม่ไหวแล้ว ค่อยมาแช่ทีหลังแล้วกัน
ผมพาดผ้าเช็ดตัวไว้ที่ราวค่อย ๆ ถอดชุดนอนออกเดินไปทางฝักบัวอาบน้ำพลันชะงักไปเล็กน้อยแล้วเดินต่อไปหยิบฝักบัวมาเปิด เมื่อกี้...ไม่ผิดแน่ เงาในกระจกนั่น ผมไม่ได้ตาฝาดแน่นอน ผมรีบถูสบู่ เอาน้ำราด ๆ ตัวแล้วคว้าผ้าเช็ดตัววิ่ง ออกมาทั้งอย่างนั้นเลย ฟันเฟินไม่แปรงมันแล้วครับ
หลังจากทานข้าวเช้าวันนี้อัปเกรดขึ้นมาหน่อยไข่เจียวหมูสับฮ่า ๆ ล้างจานเสร็จพลันนึกไปถึงเงาในกระจกห้องน้ำทำเอาขนลุกซู่ไปทั้งตัว ผมเดินขึ้นมาห้องเดิม ค้นกระเป๋าสองสามใบที่ยังไม่ได้เปิดจนค้นไปเจอกล่องไม้ นี่สินะที่แม่แอบใส่เข้า มา
ผมค่อย ๆ เปิดกล่องไม้เก่า ๆ ออกกลัวกล่องมันจะหัก ข้างในเป็นมีดสั้นใบมีดเปรอะไปด้วยสนิม ตรงด้ามเป็นด้าม ไม้ มีตัวอักษรคดงอคล้ายยันต์สลักไว้ตรงใบมีดทั้งสองด้าน ผมมองมันอย่างพิจารณา ถึงแม้จะมองเห็นผีตั้งแต่เด็ก แต่ผมกลับไม่เชื่อ พวกเรื่องไสยศาสตร์เลยสักนิด ตลกด้วยซ้ำไม่รู้ว่าแม่ไปฟังใครมา คิดจริง ๆ เหรอว่ามันจะช่วยอะไรได้
ผมส่ายหน้าขำ ๆ หยิบอุปกรณ์วาดรูปพวกพู่กัน สี แขนอีกข้างแบกขาตั้งเดินลงมาจากบันได รู้อย่างนี้เอามาทีละอย่างดีกว่า ผมเดินอย่างทุลักทุเลจนมาถึงศาลาเล็กหน้าบ้าน เอาผ้าปัด ๆ ใบไม้ออกและนั่งจัดอุปกรณ์
วันนี้ผมว่าจะวาดบ้านหลังนี้สักหน่อย เป็นการรำลึกถึงคุณย่าที่ฝากฝังให้ผมมาดูแลที่นี่ ผมหยิบกระดาษแผ่นใหญ่มาขึงกับขาตั้ง ใช้ดินสอร่างสัดส่วนรูป สายตาเริ่มไล่มองภาพรวมของบ้านเพื่อเก็บรายละเอียด
บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้สองชั้นเก่า ๆ แต่สภาพไม่ได้ดูทรุดโทรมเหมือนบ้านร้าง ผมไล่สายตามองไปเรื่อย ๆ จนไปสบตาคู่หนึ่งที่จ้องมาพอดี เฮือก ขนทั้งตัวลุกชัน แต่จำต้องแสร้งมองต่อไป มองเหมือนมันไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมมองไปที่หน้าต่างบ้านและก้มลงวาดเหมือนเด็กที่ถูกอาจารย์จับได้ว่าลอกข้อสอบ พยายามทำหน้าคร่ำเคร่งตั้งใจวาดต่อ ไปให้เนียนที่สุด
‘โครม’
“เฮ้ย” หันไปมองอุปกรณ์วาดรูป พวกพู่กันสีน้ำกระจัดกระจายที่พื้นเต็มไปหมด โดยเจ้าตัวการยืนท้าทายอยู่ข้าง ๆ ‘แมวดำ’ ตากลมโตของมันจ้องมาที่หน้าของผม ผมเองก็จ้องกลับอย่างไม่มีใครยอมใคร จ้องมันไปสักพักหัวใจผมพลันเต้นโครมคราม ตึกตักตึกตัก มัน...น่ารักมาก!!! ดวงตากลมโตเหมือนตุ๊กตา มันเป็นแมวสีดำอ้วน ๆ คาดว่าขนของมันต้องนุ่มมากแน่ ๆ ผมอยากเลี้ยงแมวมานานแล้วแต่คุณแม่ไม่ให้เลี้ยงเพราะให้ เหตุผลว่าเดี๋ยวขนมันจะเข้าในปอด ผมค่อย ๆ ยื่นมือไปจับมัน เจ้าตัวก็โก่งหลังแยกเขี้ยวขู่ ‘ฮือ น่ารักมากจริง ๆ’ มันจ้องหน้าสักพักก็เริ่มสงบลง ผมค่อย ๆ ลูบหัวเบา ๆ เจ้าเหมียวเองก็ดันหัวมาถูไถกับมือของผมอย่างเอาใจขนนุ่ม ๆ ของมันทำเอาผมใจอ่อนยวบ เรียกได้ว่าอยู่ในสภาวะโดนแมวตกเข้าเต็มเปา
“อะแฮ่ม ถึงแม้ตลาดจะไกลสักหน่อย แต่จะไปซื้ออาหารมาให้นะ” ผมบอกมันที่เริ่มมาพันแข้งพันขามากขึ้น จำต้องตัดใจเดินมาทางโรงเก็บของเห็นจักรยานเก่าอยู่คันนึง สภาพยังใช้ได้แค่ยางแบน ผมเดินไปรื้อของหลังบ้านได้ที่สูบลมมาจัดการสูบลมยางจักรยานให้เรียบร้อย
กว่าจะไปตลาดกลับมาก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมง ในมือของผมถืออาหารแมวทั้งแบบแห้งและเปียก ไม่ลืมที่จะซื้อถ้วย เล็ก ๆ สำหรับใส่อาหารแมวมาด้วย
“ไปไหนแล้วน้า” ผมสอดส่องสายตาไปรอบบริเวณบ้านเมื่อไม่เห็นจึงวิ่งเข้ามาดูด้านในก็ยังไม่เจอเจ้าแมวดำทำเอา
ผมใจเสีย เฮ้อผมคิดน้อยไปสินะ มันเป็นแมวที่ไหนก็ไม่รู้ เล่นซื้ออาหารมาซะเยอะเลย
‘ใจง่าย’ น้ำเสียงเย็นเยียบมากระซิบที่ข้างหู เป็นคนละเสียงจากเมื่อวาน ผมทำเป็นไม่สนใจและเดินเข้าไปในครัว เอาอาหารแมววางซุกไว้ตรงช่องว่างของชั้นวาง จากนั้นก็เดินออกมานั่งที่ศาลาเช่นเดิม มือก็กดเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อย ไม่มีอารมณ์วาดแล้วครับ บ้านก็ยังไม่อยากเข้า วันนี้นอนข้างนอกดีไหมนะ
หลังจากทานอาหารเสร็จ มื้อนี้ดีขึ้นมาหน่อยไปตลาดเลยซื้อผักมาติดตู้เย็นไว้ เย็นนี้เลยได้เมนูแกงจืดไข่น้ำ เรียกได้ว่าอยู่ไปสักเดือนผมคงกลายพันธุ์เป็นไข่แน่ ๆ
ตอนนี้ผมนอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียง พยายามที่จะข่มตาหลับทั้งที่ยังไม่อาบน้ำ ใช่ครับ ผมยังไม่อาบน้ำ และก็จะไม่อาบด้วย!! ถึงจะเจอผีมาทั้งชีวิตแต่ก็ไม่เคยอยู่บ้านเดียวกับผีนะครับ ฉะนั้นขอผมทำใจให้ชินก่อน บางทีพรุ่งนี้ผมอาจจะไปถามชาวบ้านแถวนี้ว่ามีวัดใกล้ ๆ หรือเปล่า ว่าจะไปนิมนต์พระมาสวดพรมน้ำมนต์สักหน่อย
…
‘อึก’ แน่นหายใจไม่ออก ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกเหมือนมีอะไรไม่รู้มาทับตัวผมไว้ มันหนักมาก พยายามลืมตาแต่ลืมเท่าไหร่ก็ลืมไม่ขึ้น เอาแล้วไง โดนผีอำเข้าแล้ว ไม่ใช่ครั้งแรกในชีวิตที่โดนอำ โดนมาทั้งชีวิตแค่นี้สบายมาก แค่ทำเป็นหลับต่อไป ยิ่งพยายามดิ้นจะยิ่งเหนื่อย ผมพยายามข่มใจตัวเองให้สงบลง
‘มันได้ผล...รู้สึกเบา ๆ ตัวขึ้นแล้ว’
‘หมับ’ เฮือก มือ...มีมือมาจับตัวผมไว้ ไม่ใช่แค่สองแต่มีถึงสี่มือ ที่ช็อกกว่านั้นคือผมโดนผีอำอยู่จะโดนจับตัวได้ยังไง ผมเคยบอกว่ายิ่งอายุมากขึ้นยิ่งได้ยินเสียงและเห็นชัดขึ้น แต่ไม่เคยโดนผีจับตัวนะครับ เป็นไปไม่ได้ที่ผีจะจับตัวคน หรือตอนนี้ผมกำลังฝันอยู่?!
มือเย็นค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามขา สองมือด้านบนก็ลูบไล้แขนทั้งสองข้าง หัวของผมโดนยกขึ้นให้ไปหนุนด้านบนไว้ ผมพยายามจะลืมตาแต่ลืมเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้น พยายามจะขยับตัวก็ขยับไม่ได้เลย เราต้องทำเป็นหลับ ต้องทำเป็นหลับเท่านั้น!
ใจผมตกวูบเมื่อมีลิ้นมาเลียตรงบริเวณโคนขา มือด้านบนเริ่มลูบไล้ไปทั่วทั้งตัว นี่มันอะไรกัน ฝันอยู่หรือโดนผีหลอก สัมผัสทุกอย่างมันชัดขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนความจริง ตอนนี้ด้านบนเริ่มมาซุกไซ้ตรงซอกคอ ตวัดเลียติ่งหูและค่อย ๆ ลากลงมาจนถึงหน้าอก ‘อื้ออ!’ ผมครางในลำคอเพื่อจะปรามให้ผีสองตัวนั้นหยุดการกระทำอุจาดเดี๋ยวนี้
แต่เหมือนจะยิ่งได้ใจจากการลากลิ้นไปมาอย่างอ้อยอิ่ง กลายเป็นดูดดึงยอดอกอย่างหนักหน่วงและรุนแรงขึ้น ด้านล่างเองก็ไม่แพ้กัน ผมรู้สึกว่ามีสิ่งเปียกชื้นตรงแก่นกาย มือเย็นค่อย ๆ รูดรั้งขึ้นลงเบา ๆ จนตัวผมเกร็งไปหมด
‘อื้อ อื้ออ’ ผมได้แต่ส่งเสียงในลำคอเพราะไม่สามารถอ้าปากได้ รู้สึกถึงลิ้นชื้น ๆ มาไล่เลียรอบหัวป้านคลึงลิ้นย้ำ ๆ ตรงช่วงรูเล็กส่วนปลาย ‘ฮื้ออื้ออ’ มือเย็นค่อยรูดขึ้นรูดลงเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ความเสียวกระสันวิ่งแล่นไปรวมอยู่ตรงจุดจุดเดียว เหมือนต้องการจะปลดปล่อยให้ได้ลิ้นยังคงตวัดขึ้นลงทั้งท่อนบนและท่อนล่าง ผมเกร็งไปทั้งตัวเหมือนร่างกายกำลัง จะกระตุก จะถึงแล้ว..จะถึงแล้ว
“เมี๊ยววววววววววว”