ตอนที่ 2ชื่อตอน ท่านแม่ทัพหลี่ลู่เจ๋อ

1328 Words
ท่านแม่ทัพหลี่ลู่เจ๋อหรือองค์ชายสามแห่งต้าหลี่ บุรุษผู้ชื่นชอบสุรานารีและมีนิสัยดุดันแข็งกร้าว แต่ทว่าทรงมีใบหน้าที่หล่อเหลาเฉกเช่นชายงาม ยังมิมีสาวงามใด ถือครองตำแหน่งฮูหยินเอกในจวนของท่านแม่ทัพในยามนี้ แต่ทว่าทรงเป็นบุรุษนักรัก ตัวฉกาจของเมืองหลวงในยามนี้ มีสตรีมากมายที่คิดปีนเตียง แต่ทว่าท่านแม่ทัพหลี่ก็เพียงเสพสมนางและทอดทิ้งไปอย่างมิใยดี สตรีต่างน้ำตาตกกันไปทั้งสิ้น ทรงเป็นแม่ทัพแห่งต้าหลี่ มีสมญานามว่าแม่ทัพหน้าหยก หรือคุณชายเจ้าสำราญแห่งต้าหลี่ คราแรกที่เห็นหลินเหลียนฮวา นางแต่งกายยั่วยวนนัก แม้จะพบเจออิสตรีใดในใต้หล้าก็มิเคยเจอสตรีใดๆแต่งกายแพศยาเฉกเช่นนาง แต่ร่างของนางยั่วยวน จนเกินจะยับยั้งชั่งใจนัก ผิวเนื้อที่เปิดเปลือย มากกว่านางคณิกาในห้องหอ เรือนร่างที่ขาวผ่องล่อตาล่อใจ ก่อให้เกิดอารมณ์เดือดพล่าน ร่างแกร่งช้อนร่างนางขึ้นมาบดขยี้จนสุดแรง แก่นกายร้อนฉ่าเรือนร่างหนาหนัก บุรุษที่ที่ปกตินางคณิกายังแทบไม่อาจจะรับไหว ร่างบอบบางถูกกดแทรกอย่างรุนแรง ฉีกคร่าพรหมจรรย์นาง ในรัชสมัยหลี่หวางสงครามเกิดขึ้นเป็นปกติ อาณาจักรต้าหลี่ถูกปกครองโดยสกุลหลี่ สงครามขนาดย่อมเกิดขึ้นมาที่ชายแดน หลี่หวางทรงแต่งตั้งแม่ทัพใหญ่หลี่ลู่เจ๋อขึ้นไปปราบกบฎต้าไห่ที่ชายแดน สงครามรบดุเดือด ม้าของท่านแม่ทัพคำรามลั่น แผดเสียงดังทะลุฟ้าขึ้นมา “ฮี๊ๆๆๆ ฮี๊ๆๆ ” เสียงม้าร้องคำรามลั่น เท้าของม้าเหยียบกระทืบผู้คนที่ล้มลงไปจนศีรษะแตกดังโพล๊ะ ทวนขนาดใหญ่เสือกแทงเข้ากับร่างของศัตรู ในคราแล้วคราเล่า “อ๊ากกก อ๊ากกก อ๊ากก ” เสียงข้าศึกร้องโหยหวนดังขึ้นมาหลังจากถูกอาวุธเข้าที่ในกลางอก ก่อนจะล้มลงและถูกม้าศึกขนาดใหญ่กระทืบศรีษะลงไปจนแตกดังโพล๊ะ เลือดและสมองไหลสาดกระจายออกไปทั่วทั้งสนามรบ กายแข็งแกร่งชักม้านำกองทัพบุกเข้าไปทะลวงไปมิยั้ง เรี่ยวแรงมหาศาลของท่านแม่ทัพหนุ่มและฝีมือทวนที่ลึกล้ำ ผู้ใดก็มิอาจจะต้านทานได้ ยามที่ผู้นำทัพนั้นแข็งแกร่งมาก ทหารผู้ติดตามก็ย่อมมีกำลังใจฮึกเหิมขึ้นมาเป็นอย่างมาก เสียงทหารโห่ร้องตะโกนขึ้นมาจนกึกก้อง ม้าร้องคึกคะนองศึกอย่างข่มขวัญศัตรู จนสติหล่นหายวิ่งหนีไปอย่างไร้ทิศทาง แม่ทัพหลี่ลู่เจ๋อได้นำม้าวิ่งไล่ต้อนข้าศึกจนมิอาจหลุดรอดออกไปได้ ทวนยาวเสือกแทงสังหารทหารกบฎลงไปจนสิ้น เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาอย่างโหยหวน ยามที่ดวงตาของข้าศึกผสานกับดวงตาดุดันเหล่านั้นเข้า ร่างก็สั่นลนลานจนล้มลุกคลุกคลานไป ก่อนที่จะถูกม้าศึกของกองทัพหลงหวาง บดขยี้กระทืบลงจนเป็นจุลไป "ฮี้ ฮี้ ฮี้ “ ”เฮ เฮ เฮ !!!! " เสียงแผ่นดินสะเทือนลั่น ฝุ่นควันลอยคลุ้งไปจนทั่วสนามรบ กองทัพหลงหวางโห่ร้องดังลั่นขึ้นมา ชักม้าแปรขบวนย่ำเท้าประกาศชัยชนะในการศึกจนแผ่นดินสะเทือนไหว "เฮ ท่านแม่ทัพหลี่ เฮ ท่านแม่ทัพหลี่ “ แม่ทัพหลี่คือท่านแม่ทัพหน้าหยก ที่มีใบหน้าดังน้ำแข็ง ไร้รอยยินดียินร้าย ใบหน้างดงามดั่งเทพบุตร ท่านแม่ทัพๆด้ถอดหมวกเหล็กออกไปเบาๆ นำมาถือไว้และชักม้าไปช้าๆ ใบหน้าของหลี่ลู่เจ๋อนั้นหวานแต่มิคล้ายไปทางสตรีเพราะมีร่างกายที่ใหญ่โต ดวงตาจดจ้องผู้คนดั่งตาเหยี่ยว แต่หากดวงตานั้นยามแย้มรอยยิ้มก็คล้ายจะพบว่ามันหยาดเยิ้มยั่วยวนจนผู้คนนั้นมิอาจจะต้านทานไหว สาวน้อยสาวใหญ่แม้แต่บุตรีของขุนนางและเสนาบดี ล้วนมุ่งหวังไต่เต้าขึ้น เป็นฝุเหรินของท่านแม่ทัพกันทั้งสิ้น หลี่ลู่เจ๋อนับเป็นชายที่สตรีทุกนางเฝ้าฝันจะได้ไต่ขึ้นไปบนเตียงร่วมเคียงคู่ ยามที่ท่านแม่ทัพไปที่ใด เสียงกรีดร้องคลุ้มคลั่งของสตรีมักจะดังขึ้นไปทุกทิศ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่บุรุษทั้งต้าหลี่นั้นเจ็บใจกันเป็นอย่างมาก บุรุษทั้งหลายมักคั่งแค้นเลือดสุมอยู่ในอกในทุกครา ยามที่ท่านแม่ทัพนั้นเพียงแค่ผ่านทางไป เพราะสตรีทั้งหลายจะตกอยู่ในความฝัน บ้างหมดสติ บ้างกรีดร้อง บ้างคลุ้มคลั่งไปจนทุกทิศ แม้แต่สาวใช้ยังคิดหาวิธีปีนเตียงของท่านแม่ทัพกันจนขาขวิด ซึ่งแม่ทัพลู่เจ๋อก็มิเคยปฎิเสธพวกนางอย่างจริงจัง ร่วมเสพสังวาสแต่มิคิดแต่งตั้งผู้ใดเป็นอนุ หรือภรรยาเอก แม้แต่ภรรยารองหรือมอบตำแหน่งใดๆให้พวกนางก็ไม่เลย จึงสร้างความเจ็บช้ำ สาปแช่งกันขึ้นมาทั้งแผ่นดิน แต่แม้ถึงเป็นเฉกเช่นนี้บ่อยครั้งนัก แต่กลับมิมีผู้ใดติดใจเอาความท่านแม่ทัพได้อย่างจริงจัง เพราะแม่ทัพลู่เจ๋อนั้รเหี้ยมโหดนัก สังหารคนเป็นผักปลา ทำศึกสงครามต่อสู้กับข้าศึกทำลายอริราชศัตรูบดขยี้ไปจนดับดิ้น มอดไหม้ตกตายไปในสนามรบเป็นเพียงเศษเนื้อผุพังไปเช่นนั้นเอง แต่ล้วนที่สตรีนั้นสมยอมก็เพราะใบหน้าและเรือนกายกำยำที่ทำให้พวกนางนั้นต่างตกลงไปในกับดักร้ายจนมิอาจถอดถอนกายขึ้นมาได้ หลี่ลู่เจ๋อเป็นคนเจ้าแผนการ มิว่าจะย่างเท้าไปที่ใดนั้น ทุกๆที่นั้นย่อมยอมศิโรราบไปจนหมดสิ้น หากมิเช่นนั้นก็เพียงราบลงเป็นจุลไป ผู้ใดก็มิอาจจะต้านทาน เช่นนั้นทุกสิ่งในเมืองนี้จึงคล้ายอยู่ในกำมือของหลี่ลู่เจ๋อผู้นี้ไปแทบทั้งสิ้น แท่ทัพหลี่นั้นมีรองแม่ทัพคู่ใจอยู่ผู้หนึ่ง มีนามว่าลู่เสียน รองแม่ทัพผู้นี้นั้นเป็นน้องชายของท่านแม่ทัพหลี่ลู่เจ๋อ ทั้งสองนั้นนับว่าเป็นดวงดาวที่นำทางสว่างมาสู่กองทัพหลงหวางอย่างแท้จริงในยามนี้ ทั้งสองไต้เต้าขึ้นมาด้วยสองมือสองเท้าของตนเอง ผ่านศึกผ่านสมรภูมิรบมามากมาย ผ่านร้อนหนาวมากับทหารเลวทั้งหลายจนได้ชื่อว่ามิแพ้พ่าย และยามนี้ก็เป็นอีกคราที่กองทัพหลงหวาง ได้รับชัยชนะภายใต้การนำทางของท่านแม่ทัพหลี่อีกเช่นกัน ขวัญและกำลังใจของทหารนั้น เต็มเปี่ยมขึ้นมาอย่างท่วมท้น เอ่อล้นไปด้วยพลังงานลับในกายตน ทหารทั้งกองทัพต่างรู้สึกว่า กองทัพหลงหวางนี้จะต้องยิ่งใหญ่มากกว่านี้แน่ หากมีผู้นำกล้าแกร่งมิแพ้พ่าย เช่นท่านแม่ทัพหลี่ลู่เจ๋อผู้นี้ตลอดไป ทหารมองแผ่นหลังของท่านแม่ทัพใหญ่อย่างเคลิบเคลิ้ม แม้ยามที่เสี้ยวใบหน้าสง่างามนั้นกระทบแสงจันทร์ขึ้นมานั้นก็น่าชื่นชมเป็นอย่างมาก ทั้งสง่างามและดุดันไปในคราเดียวกัน แสงจันทร์สาดส่องกระทบร่างของผู้คนในกองทัพจนทิ้งเงาน่าเกรงขามเอาไว้ที่ภายหลัง เงาสีดำนั้นช่างดูแล้วดั่งปีศาจร้ายใต้แสงจันทราเป็นอย่างยิ่ง "ฮี้ ฮี๊ ฮี๊ " เสียงม้าของท่านแม่ทัพดังขึ้นมาดั่งฟ้าคำราม เสียงของมันดังก้องไปทั้งหุบเขา คล้ายกัยเสียงของฟ้าผ่าเช่นนั้นเอง มันจึงมีชื่อว่า เหลยจี๋ หรือเจ้าฟ้าผ่าเช่นนั้นเอง ม้าตัวนี้แสนรู้นัก มันคือม้าคู่ใจเคียงบ่าสู้รบมายาวนานแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD