ในยามจื่อ วันนี้ ก็เป็นอีกคืนหนึ่งที่ท้องฟ้าสุกสกาว กองทัพหลงหวาง ได้นำไพล่พลกรีฑาทัพไปบดขยี้กองทัพ ของกบฎต้าไห่จนพังยับเยิน ไม่มีผู้ใดเหลือรอดกลับไปได้ แม่ทัพหลี่ลู่เจ๋อนำทัพสังหาร ทั้งแม่ทัพนายกองต่างๆของกบฎต้าไห่ไปอย่างเหี้ยมโหด
"ฆ่ามันให้หมด อย่าให้มีมดปลวกตัวใดเล็ดรอดมาให้รำคาญตาได้อีก แม้มันร้องขอชีวิตก็จงแล่เนื้อมันซะ จับตายไม่จับเป็น!!!!"
"เฮ!!!!!! "
ทหารเดนตายได้ยินแล้วฮึกเหิม เร่งเข้าไปบดขยี้กองทัพกบฎต้าไห่จนแหลกเหลว เลือดสาดกระเด็นจนอาบทั่วร่างทหารทั้งกองทัพ กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง ซากศพกองเป็นภูเขา สะเก็ดไฟโหมกระหน่ำรุนแรง
จนกระทั่งยามจื่อ ดวงดาวสว่างจ้ากลางขอบฟ้า สันญาณแห่งชีวิตของกบฎนั้นหมดลง มิมีผู้ใดรอด ร่างสูงบนหลังม้า จึงออกคำสั่งให้ขึ้นไปตั้งค่ายบนหุบเขาสูงชัน
"ไปตั้งค่ายบนบ่อน้ำร้อนเย่วเสวียน"
เสียงคำสั่งดังขึ้นมาจากร่างสง่างาม แต่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดจากอริราชศัตรู ร่างหนาขมวดคิ้วยับยุ่งเพราะเหม็นคาวเลือดและเหนียวตัวมากยิ่งนัก ถอดหมวกเหล็กถือไว้ข้างหนึ่ง แล้วเร่งฝีเท้าม้าขึ้นไปบนน้ำพุร้อนสายหนึ่งบนเขา และออกคำสั่งแด่รองแม่ทัพ ให้สั่งนายกองผู้ติดตามลงไปอีกทอดหนึ่ง
"จัดเวรยามผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าระวังไว้ ผู้ใดจะชำระล้างร่างกายจงผลัดเปลี่ยนกัน อย่าได้ร่ำสุราในคืนนี้ จนกว่าจะถึงเช้า จนแน่ชัดว่าตรวจดูศพกบฎครบถ้วนว่ามิมีผู้ใดรอด เราจึงจะผ่อนคลายกำลังลง เฝ้าระวังรอบๆบ่อน้ำพุร้อนระยะหกฉื่อ ข้าจะไปแช่น้ำร้อนที่บ่อแสงจันทร์ "
"ขอรับท่านแม่ทัพ "
เสียงรองแม่ทัพสั่งการเสียงดังโหวกเหวก ร่างหนาลงจากม้า ในบริเวณใกล้ๆมีน้ำพุร้อนที่มีไอน้ำร้อนพวยพุ่งขึ้นมา และปล่อยม้าให้พลทหาร จูงไปชำระล้างคราบเลือดและพักม้าให้ไปกินหญ้าเสีย มือเรียวยาวแต่สากระคายเพราะกรำศึก ค่อยๆถอดเกราะ ออกจากร่างกายแล้ววางไว้ที่ข้างบ่อ เรือนกายสูงโปร่งปลดสายรัดผม ให้ทิ้งตัวลงยาวสยายลงดั่งสายน้ำหมึก
เกราะอ่อนถูกถอดออกไปพร้อมผ้าคลุมบ่า และร่างหนาก็ปลดเสื้อผ้าออกไปจากเรือนกาย วางลงไปบนโขดหินทีล่ะชิ้น แสงจันทร์สาดส่องลงมาที่เรือนร่างแข็งแกร่ง ที่มีมัดกล้ามสะท้อนอยู่ในความมืด ร่างหนาค่อยๆเดินลงไปในบ่อน้ำพุร้อนช้าๆ แล้วเอนกายลงพิงไปที่โขดหิน เพื่อชำระล้างคราบเลือดและเหงื่อไคล
"อ่า...."
ร่างหนาครวญครางเบาๆ เมื่อน้ำพุร้อนช่วยไล่ความเมื่อยขบออกไปได้หลายส่วน เมื่อชำระล้างเหงื่อไคลออกไปจนหมดแล้ว ร่างหนาจึงดำน้ำลงไปสระผมให้สะอาดสะอ้านเสียอีกหน ทันใดนั้นร่างหนาก็ต้องสะดุ้งสุดตัวและดำน้ำลงไปลึกกว่าเดิม
ดวงตาโตๆเบิกกว้างขึ้นมา เมื่อเห็นเรือนร่างขาวผ่องใส่อาภรณ์น้อยชิ้นและเปิดเปลือยเรือนร่างแสนงดงามนัก เรือนผมสีแดงยาวสยายอยู่ในผืนน้ำ
มือหนาคว้ารีบร่างของนางขึ้นมาจากน้ำในทันที เพื่อพิสูจน์ว่านางเป็นภูตพรายหรือไส้ศึกกันแน่ ทันที ที่นำร่างนวลของนางขึ้นมาจากน้ำได้ ร่างหนาก็ใจเต้นโครมคราม นางอ่อนบางและยั่วยวนนัก เอี้ยมที่แสนแปลกตา ผลักดันเนื้อนวลของนางให้อร่ามกลางแสงจันทร์
ร่างหนาเครียดเกร็งจนแข็งขึงไปทั้งกาย ถึงแม้นางจะเป็นไส้ศึกหรือนักฆ่า แต่เนื้อกวางอร่ามตาเช่นนี้ เช่นใดอันใดใครจะสน !!!
ร่างน้อยขยับตัวเบาๆ เหมือนคล้ายว่าจะลืมตาขึ้นมาแล้ว หลินเหลียนฮวารู้สึกร้อนแปลกๆ เหมือนว่ากำลังลงแช่อยู่ในน้ำพุร้อน แล้วขึ้นมาข้างบ่อถูกสายลมหนาวพัดผ่านเล็กน้อย แต่ไอร้อนรอบบ่อก็ยังแผ่ไอร้อนขึ้นมา ทำให้บริเวณรอบๆยังคงอบอุ่นนัก ร่างน้อยป่ายมือเปะปะ คล้ายจะคลำหาสิ่งที่อยู่รอบตัว
แต่ยังไม่ทันรู้สึกดี มือน้อยๆก็ถูกรวบขึ้นไปอยู่เหนือหัว ฉับพลันสัมผัสนุ่มนิ่มแต่ดุดัน ก็บดขยี้ลงมาบนริมฝีปากบาง อย่างหิวกระหาย
ร่างแกร่งที่กรำศึกมาแรมเดือน ขาดการเคล้านารีมาระยะหนึ่ง
เมื่อเห็นสิ่งหอมหวานที่อยู่ตรงหน้าจึงจับขยำขย้ำอย่างไม่ลังเล เรือนกายหนาหนักหอบถี่กระชั้นเมื่อยามที่มองเรือนร่างวาบหวาม เรือนกายขาวผ่องยอดอกชูชันที่ปรากฎอยู่ตรงหน้า
เอื้ยมสีดำของนางของนางช่างแปลกตานัก มือหนาดึงรั้งมันขึ้นไปที่ข้างบน เพราะหาวิธีถอดออกไปไม่เป็น ริมฝีปากหนาคลุกเคล้าโพรงปากหวานลงไปอย่างหิวโหย ร่างหนาขึ้นคล่อมทับกายบางๆแล้วบดเบียดเรือนกายที่ใหญ่โต เบียดขยี้ที่ใจกลางร่างสาวลงไปแรงๆ
เนื้อนางช่างนุ่มนักและหอมกรุ่นกว่านางใดๆ กายบอบบางที่คล้ายเอวจะหักลงมาจนคามือ แต่ส่วนที่ควรจะมีนางนั้นก็มีเต็มไม้เต็มมือมากยิ่งนัก ลิ้นร้อนๆสอดลงไปในโพรงปากหวาน ตวัดแรงๆจนร่างสาวที่คล้ายจะตื่น หลับตาลง แล้วตวัดลิ้นตอบรับขึ้นมาด้วยความไร้เดียงสาอย่างที่สุด ความเสียวซ่านวิ่งผ่านกายหนาหนักอย่างรุนแรง เรียวลิ้นของนางช่างหวานหอมลิ้มรสแล้วยากจะลืมเลือนยิ่ง
"จุ๊บ อร่า “
"สตรีแพศยาเจ้าเปิดเปลือยกายเสียยิ่งกว่านางคณิกา ต่อให้เป็นสายลับข้าก็จะไม่สน เจ้าต้องรับโทษในการบังอาจที่มายั่วยวนข้า อา“
มือหนาตะปบลงไปที่สะโพกงามที่โผล่พ้นเอี๊ยมแปลกตานั้นออกมาแรงๆ บดเบียดเรือนกายใหญ่โตแข็งขึงคลึงลงที่กึ่งกลางกายนางแบบเร่าร้อน ลมหายใจอุ่นร้อนหอบถี่กระชั้นชิด กายหนาคล้ายมึนเมาความนุ่มนิ่มที่หอมหวาน ปากแดงๆครอบดูดลงบนยอดออกสีชมพูเล็กๆ ความเสียวซ่านจากริมฝีปากนุ่มร้อน ทำให้แพขนตางามขยับไหว ริมฝีปากบางส่งเสียงครวญครางดังๆขึ้นมา
"ซี้ด อร่า อรูย"
ร่างหนาที่ได้ยินดังนั้น จึงออกแรงดูดยอดอกสีหวานเข้าไปอีกและใช้ฝ่ามือหยาบระคายคลึงเคล้นเนื้อนุ่มๆอย่างรุนแรง จนมือน้อยๆป่ายปะมาขยุ้มเรือนผมนุ่มลื่นเบาๆ สูดปากครวญครางลั่น
"อา เหลียนฮวา เสียว อา เสียวเหลือเกิน”
"อา เจ้าแพศยา เสียงของเจ้านั้นหวานยิ่งนัก"
ร่างหนาเงยหนาขึ้นจากยอดอกสีชมพูหวาน แล้วเลื่อนกายลงต่ำไป ไล้ลิ้นลงมาตามผิวอ่อนนุ่มแรงๆ ตวัดปลายลิ้นปาดไล้ไปทั่วหน้าท้องขาวๆ ผิวของนางนุ่มและหอม สองมือหนาจับเอี้ยมสีดำชิ้นล่างแรงๆ และแปลกใจเล็กน้อยที่มันยืดขึ้นมาได้ ร่างหนาติดใจเพียงเล็กน้อยและรีบรูดมันลงที่ปลายเท้าขาวๆและโยนมันออกไปข้างๆอย่างไม่ใยดี
ทันทีที่เอี้ยมแพศยาของนางหลุดไป ร่างหนาๆก็กระพริบขนตายาวๆและกลืนน้ำลายลงคอไปอย่างยากเย็น เรียวขาขาวเรียวยาวสวย กับกึ่งกลางกายนางแรกแย้มผลิบานน้อยๆ ดั่งกลีบดอกไม้สีชมพู มันฉ่ำชื้นและสีหวานเกินจะบรรยาย ร่างหนาจึงซุกใบหน้าลงไปแรงๆสูดกลิ่นคาวสาวให้ชุ่มปอด มือหนาช้อนสะโพกกลมกลึงและจับยึดแน่นหนา ก่อนจะแลบลิ้นหนาๆ ตวัดเลียกดลงแรงๆอย่างหิวโหย
"อือ อร้า ซี้ด อร้า อรูย โอย “
ร่างน้อยใช้ฝ่ามือหนาๆขยุ้มเรือนผมนุ่มแรงๆ กดลงไปตามแรงพิศวาส เหลียนฮวาคล้ายครึ่งหลับครึ่งตื่น พยายามจะลืมตา แต่ความเสียวซ่านก็จู่โจมขึ้นมาจนต้องสูดปากเอาอากาศเข้าปอดไปแรงๆ เรียวขางดงามเกร็งกระตุกขึ้นมา
"อร๊าย เสียวเหลือเกิน อย่าทำเหลียนฮวา อรูย ซี้ด ซี้ด"
เสียงครวญครางกอปรกับร่างนุ่มนิ่มที่ดิ้นพล่าน ส่งให้กายหนาหนักแข็งขืนจนปวดร้าวระบม ช่องทางของนางคับแคบและอ่อนไหว กลีบเนื้อสีชมพูดูอ่อนบาง ร่างหนาปรือตาหยาดเยิ้มคล้ายว่าจะหมดแรง มือหยาบๆข้างหนึ่งเกร็งนิ้วเรียวยาวขึ้นมา แล้วแหย่แยงลงในกลีบเนื้อนุ่มเบาๆ
"อุ๊ อร้า อย่าทำเหลียนฮวา อร้า "