SPECIAL 03
**********************************
[TAN : SAID]
ผมไม่ได้อยากทำให้หวานเสียใจและไม่ได้อยากทำให้ลูกต้องผิดหวังในตัวผมเลยนะเว้ย
สิ่งที่ผมพูดกับหวานน่ะว่าไม่ได้ติดต่อกับโบวี่หรีือผู้หญิงทุกคนแล้วน่ะมันคือเรื่องจริงนะเว้ย
ผมเลิกไปหมดแล้วเพราะผมกลัวว่าหวานจะจับได้ไงและอาจจะทำให้เธอเสียใจก็ได้ ก็พอรู้นะว่าสิ่งที่ตัวเองทำน่ะมันเลวมากที่นอกใจเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แต่ที่ผมยอมเลิกกับผู้หยิงทุกคนและเลิกเลี้ยงเด็กน่ะมันเป็นเพราะผมไม่อยากทำผิดอีกแล้วไง
ผมอยากจะกลับมาเป็นผัวที่ดีของหวานและเป็นพ่อที่ดีของลูกด้วย แต่มันก็ไม่ทันแล้วไงเพราะหวานจับได้แล้วและดูเหมือนเธอจะไม่อยากอยู่กับผมแล้ว
แม่งเอ้ย เรื่องมันไม่น่าเป็นแบบนี้เลยว่ะ
“กูจะทำยังไงดีวะ หวานไม่เคยพูดขอหย่ากับกูเลยนะเว้ย แต่ครั้งนี้ดูเหมือนเธอจะไม่อยากอยู่กับกูแล้ว”
“มันก็สมควรแล้วล่ะที่หวานจะขอหย่ากับมึงน่ะแทน?”
“นี่กูมาปรึกษามึงนะธารไม่ได้มาให้มึงซ้ำเติมกูแบบนี้”
“ก็ดูสิ่งที่มึงแม่งทำดิ มันคือคำว่าผัวที่ดีให้หวานได้แล้วเหรอ?”
ผมเอาเรื่องที่หวานจับได้ว่าผมแอบเลี้ยงเด็กมาปรึกษาไอ้ธารเพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่มหาลัยเพื่อที่จะให้มันช่วยผมคิดว่าจะเอายังไงกับเรื่องนี้ดี เพราะดูเหมือนว่าหวานต้องการที่จะหย่ากับผมท่าเดียวเลย
แต่พอเล่าจบก็เป็นอย่างที่เห็นเลย ก็คือการที่มันมาซ้ำเติมผมแบบนี้ ผมแม่งพูดจริงๆ นะเว้ยว่าผมเลิกติดต่อกับโบวี่ไปนานแล้วและไม่ได้สานสัมพันธ์อะไรกันอีก
ยอมรับก็ได้ว่าผมนอกใจหวานจริงๆ ตอนนั้นอารมณ์มันพาไปและมันก็ทำให้ผมต้องทำผิดกับเธอ
แต่ผมก็ไม่เคยทำหน้าที่ผัวขาดตกบกพร่องตรงไหนเลยนะ เธอบอกให้ผมกลับบ้านตอนไหนผมก็ทำตามที่เธอบอกตลอดเลย
เรื่องลูกผมก็ดูแลไม่เคยห่าง แวะไปหาลูกบ้างตามที่ตัวเองว่าง แต่ตอนนี้ลูกก็มีแฟนแล้วและผมเชื่อว่ามังกรแฟนของลูกมันจะทำหน้าที่แฟนที่ดีได้อย่างแน่นอน
เพราะถ้ามันทำให้ลูกผมต้องเจ็บผมบอกได้เลยว่ามันจะต้องเจ็บมากกว่าลูกผมหลายเท่าแน่
เอาเหอะ เรื่องของลูกน่ะพักเอาไว้ก่อนเพราะตอนนี้สิ่งที่ผมต้องคิดมากก็คือเรื่องของหวานที่ตอนนี้เธอต้องการที่จะหย่ากับผมไง ต่อให้ผมไม่อยากหย่าหรือไม่ยอมหย่า
แต่ยังไงเธอก็จะไม่อยู่กับผม ซึ่งผมยอมให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้ ที่ผ่านมาเราผ่านอะไรด้ววยกันมาเยอะมากเลยนะ แล้วคิดว่าผมจะยอมเสียเธอไปง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ
“ถ้ากูเป็นหวาน กูเองก็ไม่อยากได้ผัวแบบมึงเหมือนกันนะแทน”
“ก็รู้ว่าตัวเองผิด ตอนนี้ก็สำนึกผิดแล้วไงเพราะว่ากูไม่อยากให้ครอบครัวตัวเองต้องมีปัญหาหรอกนะเว้ย”
“แล้วไงในเมื่อคนที่ทำให้เรื่องมันแบบนี้แบบนี้ก็คือมึง กูเองก็ไม่ได้อยากซ้ำเติมมึงหรอกนะแต่เรื่องที่มันเกิดขึ้นทั้งหมดน่ะมันเป็นเพราะว่ามึงทำตัวเองทั้งนั้นเลยล่ะ”
“กูไม่หย่ากับหวานและไม่อยากเลิกกันด้วย”
ผมพึมพำออกมาเบาๆ ว่าตัวเองไม่ได้อยากจะเลิกกับหวาน ผมอยากจะให้เรื่องที่เกิดขึ้นแม่งเป็นแค่ความฝันเท่านั้นที่หวานจับได้ว่าผมนอกใจเธอ
แต่พอตื่นขึ้นมาก็ยังคงเห็นหวานยิ้มให้ผมด้วยความรักเหมือนกัน แต่ก็พอจะรู้นั่นแหละว่ามันไม่ใช่ความฝันไง เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมันคือเรื่องจริงที่หวานจับได้ว่าผมนอกใจเธอ
“กูจะทำยังไงดีวะธาร ตอนนี้แม่งมืดแปดด้านเลยเว้ย”
“ก็ถ้าไม่อยากหย่าไม่อยากเลิกกันแล้วนอกใจหวานทำไม กูคิดว่าก่อนที่มึงจะทำอะไรลงไปมึงน่าจะคิดมาดีแล้วนะแทน เพราะมึงก็ผ่านเรื่องพวกนี้มาเยอะแล้ว”
“กูพลาดเองแหละที่แม่งอายุขนาดนี้แล้วแต่ยังคิดที่จะกินไม่เลือกแบบนี้ เรื่องนี้กูไม่โทษใครเลยเว้ยนอกจากความเหี้ยของตัวเอง”
“เฮ้อ มึงนี่น่าไม่น่ามาโดนเมียทิ้งเอาตอนนี้เลย นี่ถ้าหวานจะเลิกกับมึงกูก็ไม่แปลกใจหรอก และกูก็เชื่อนะว่ายังมีผู้ชายที่อยากจะดูแลหวานต่อจากมึงน่ะ”
“ไอ้สัส กูกำลังขอคำปรึกษาไม่ใช่ขอคำซ้ำเติมเว้ย!!!”
“ก็คงต้องตามง้อเท่านั้นแหละ ที่ผ่านมามึงก็ทำแบบนี้มาตลอดไม่ใช่เหรอตอนที่หวานโกรธให้มึงน่ะ”
“แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกัน ตอนนั้นเรายังเป็นวัยรุ่นอยู่ไง แต่นี่แม่งแต่งงานมีลูกโตแล้วคิดว่าหวานจะยังยอมกูเหมือนเดิมอีกเหรอ?”
ที่ต้องคิดมากแบบนี้เพราะหวานไม่ได้เป็นหวานเหมือนเดิมแล้ว เมื่อก่อนเวลาที่เธอโกรธตามง้อเธอมันก็ได้นะ
แต่พอเราโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นแล้วไง แม่งเอ้ย ผมแม่งไม่น่าทำให้หวานเสียใจแบบนี้เลยวะ
ไม่น่าเลยจริงๆ ถ้ารู้ว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้ผมก็คงไม่ทำแบบนี้ตั้งแต่แรกหรอก โคตรเหี้ยเลยว่ะกูแล้วทีนี้จะเอายังไงต่อล่ะในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้ว
“เอาน่าไม่ลองไม่รู้หรอก ลองตามง้อเหมือนเมื่อก่อนเผื่อว่าหวานอาจจะยอมยกโทษให้มึงก็ได้”
“พูดน่ะมันง่ายนะเว้ยแต่ถ้าจะให้ทำจริงๆ แม่งโคตรยาก”
“มึงเป็นคนท่ี่ชอบความท้าทายไม่ใช่เหรอ เพราะงั้นกูคิดว่าเรื่องที่มึงกำลังเจออยู่แม่งโคตรท้าทายเลยนะ”
“กูก็ไม่ได้ชอบเรื่องท้าทายทุุกเรื่องหรือเปล่าล่ะ โดยเฉพาะเรื่องที่เมียจะขอหย่าน่ะ”
ผมนั่งทำงานที่บ่อนไปได้สักพักก่อนจะขับรถกลับมาที่บ้านเพื่อที่จะมาตามง้อหวานเหมือนเดิม
อย่างน้อยการที่เราได้พูดคุยกันมันก็ยังดีกว่าการที่ไม่พูดอะไรเลย
แต่พอเดินเข้ามาในบ้านก็เห็นมอร์แกนกลับมาที่บ้านแล้ว ลูกมาคนเดียวไม่ได้พามังกรมาด้วย
ไม่รู้เหมือนกันว่าลูกรู้เรื่องที่ผมกับหวานทะเลาะกันหรือยัง ผมมองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นหวานเห็นแค่มอร์แกนคนเดียวเท่านั้น
ผมเลยเดินเข้าไปนั่งข้างลูกที่นั่งมองหน้าผมกลับมาด้วยสีหน้าที่แปลกไปจากทุกที ปกติแล้วมอร์แกนจะติดผมมากเลยนะ
เวลาที่ได้เห็นผมลูกจะทำหน้าดีใจมากเลยล่ะ แต่ตอนนี้กลับมองหน้าผมด้วยสายตาที่เหมือนผมกลายเป็นคนอื่นของลูกไปแล้ว
“ทำไมได้กลับมาที่บ้านล่ะ หรือว่าทะเลาะกับมังกรหรือเปล่า?”
“เห็นแม่บ้านบอกว่าคุณแม่ย้ายออกไปอยู่ข้างนอกเหรอคะ”
“ว่าไงนะ?”
“ตกใจแบบนี้อย่าบอกนะคะว่าไม่รู้ว่าแม่เก็บเสื้อผ้าออกไปอยู่ที่คอนโดแล้ว”
“พ่อเพิ่งกลับมาที่บ้านยังไม่รู้เรื่องนี้หรอก”
ตกใจเหมือนกันนะที่มอร์แกนบอกว่าตอนนี้หวานไม่ได้อยู่ที่บ้านกับผมแล้ว เพราะเธอเก็บเสื้อผ้าออกไปอยู่ข้างนอก
เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าเราสองคนจะทะเลาะกันรุนแรงมากแค่ไหนก็ตามหวานจะไม่เคยเก็บเสื้อผ้าออกไปอยู่ที่อื่นเลย มันก็เลยทำให้ผมตกใจมากแบบนี้ไง
“แม่ออกไปอยู่ข้างนอกจริงๆ เหรอมอร์แกน”
“หนูไปดูที่ห้องก็ไม่เห็นเสื้อผ้าของแม่แล้วค่ะ”
“จะไปจริงๆ เหรอวะ?”
“พ่อกับแม่ทะเลาะกันเหรอคะ?”
“...”
พอมอร์แกนถามมาแบบนี้ผมก็เงียบไปก่อนจะวิ่งขึ้นไปที่ห้องเพื่อที่จะไปดูเสื้อผ้าของหวานว่ายังอยู่ในตู้เสื้อผ้าหรือเปล่า
ปรากฏว่าเสื้อผ้าของหวานไม่มีแล้วหาไปจริงๆ งั้นก็หมายความว่าที่มอร์แกนพูดเมื่อกี้ก็เป็นเรื่องจริงสินะที่หวานย้ายออกไปอยู่ข้างนอกแล้ว
ผมเดินลงมาหาลูกที่ยังนั่งอยู่ที่เดิมและเห็นว่าสายตาที่มอร์แกนมองผมตอนนี้เหมือนผิดหวังในตัวผมมากที่ทำให้หวานหนีออกไปอยู่ที่อื่น
กูก็ไม่ได้อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้หรือเปล่าล่ะ ก็ไม่คิดว่าเด็กที่เคยเลี้ยงดูจะติดต่อกลับมาไง
อย่างที่ผมบอกว่าผมเลิกคุยกับโบวี่ไปนานมากแล้ว ใครจะคิดล่ะว่าเธอจะทักมาหาผมในตอนที่มือถือผมอยู่กับหวานน่ะ
“เป็นไงคะ ไม่เจอของของแม่แล้วใช่มั้ย?”
“ใช่ สงสัยพ่อคงต้องไปตามง้อแล้วล่ะ”
“แม่จับได้เรื่องที่พ่อแอบเลี้ยงเด็กใช่มั้ยคะ?”
ที่มอร์แกนรู้เรื่องนี้เพราะลูกเคยจับได้เมื่อนานมาแล้ว และผมก็รับปากกับลูกว่าจะเลิก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เลิก
ไอ้ที่เลิกน่ะคือเลิกกับผู้หญิงอีกคนเพื่อมามีใหม่อีกคนไง และที่มอร์แกนไม่ยอมบอกหวานเพราะลูกไม่อยากให้แม่ตัวเองต้องเสียใจ
อีกอย่างก็ไม่อยากให้ครอบครัวต้องไม่เหมือนเดิมด้วย เพราะตอนนั้นผมรับปากกับลูกแล้วไงว่าผมจะไม่นอกใจหวานอีก
ผมมันเลวเองแหละที่รับปากอะไรเอาไว้ก็ไม่เคยทำได้อย่างที่พูดเลย ไม่แปลกหรอกที่หวานจะไม่อยากอยู่กับผมแล้ว แต่ถ้าจะให้ผมหย่ากับเธอผมเองก็ไม่คิดที่จะทำเหมือนกัน
“พ่อไม่คิดว่าแม่จะจับได้”
“ไหนบอกกับหนูว่าจะเลิกไงคะ แล้วทำไมยังไม่เลิกล่ะ”
“พ่อ...”
“พ่อบอกว่าพ่อรักหนูกับแม่มากที่สุด แต่สิ่งที่พ่อทำมันเรียกว่ารักเหรอคะ แล้วถ้าพี่มังกรทำเหมือนที่พ่อทำกับหนูล่ะ พ่อจะเสียใจมั้ยที่ลูกสาวตัวเองถูกนอกใจ”
“พ่อเลิกแล้วนะมอร์แกน ไม่ได้ติดต่อกับผู้หญิงคนนั้นมานานแล้ว แต่วันนี้จู่ๆ เธอก็ทักมาหาพ่อ แล้วแม่ก็เห็น”
“แต่พ่อรับปากกับหนูว่าจะเลิกนานแล้วนี่คะ แล้วทำไมยังมีอีกคนล่ะ”
“พ่อ…ขอโทษ”
“หนูไม่ได้ต้องการคำขอโทษจากพ่อนะคะ เพราะคนที่ต้องการฟังมากที่สุดคงจะเป็นแม่”
มอร์แกนมองหน้าผมด้วยสายตาที่เหมือนว่าตอนนี้ผมไม่ได้เป็นพ่อของลูกอีกแล้ว แม่งโคตรเจ็บเลยที่ผมทำให้ครอบครัวต้องพังเพราะความไม่รู้จักพอของตัวเองแบบนี้
ถ้าย้อนเวลากลับไปกูแม่งจะไม่ทำแบบนี้เลยเว้ย แต่มันไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้แล้วไง
ไอ้เหี้ยแทนเอ้ย ผ่านเรื่องแบบนี้มาตั้งเยอะแต่ทำไมไม่รู้จักจำสักที มันก็จริงอย่างที่ไอ้ธารมันบอกผมนั่นแหละว่าถ้าไม่อยากเลิกกับหวานผมก็ไม่ควรจะนอกใจหวานตั้งแต่แรก
เพราะการที่จะนอกใจเธอนั่นก็หมายความว่าคำว่าครอบครัวมันได้พังลงแล้ว
“หนูไม่คิดเลยนะคะว่าพ่อจะทำแบบนี้กับแม่และหนูได้”
“มอร์แกน…”
“หนูเป็นแค่ลูกยังเสียใจเลยค่ะ แล้วแม่ล่ะจะเจ็บมากแค่ไหน”
“ลูกจะเกลียดพ่อหรือเปล่ามอร์แกน?”
สิ่งที่ผมกลัวมากที่สุดก็คือการที่ลูกจะเกลียดผมและหวานจะหายไปจากผม แต่ทั้งหมดมันก็คือความผิดของผมเองที่ได้ทำผิดต่อเมียตัวเอง และผมก็จะไม่แก้ตัวอะไรทั้งนั้น
เพราะเรื่องที่มันเกิดขึ้นมันเป็นความผิดของผมเองไง แต่ถ้าครั้งนี้หวานยอมที่จะยกโทษให้ผมแล้วกลับมารักกันเหมือนเดิม
ผมแม่งขอสาบานเลยว่าผมจะไม่กลับไปทำผิดแบบนั้นอีกแล้ว ผมจะรักษาครอบครัวเอาไว้และจะรักแค่เมียกับลูกเท่านั้น
ความอยาก ความใคร่ผมพอแล้วล่ะ เพราะมันไม่ได้ทำให้ชีวิตผมแม่งมีความสุขขึ้นมาได้เลย
นอกจากได้รับแค่ความสุขบนเตียงเท่านั้น ทั้งๆ ที่หวานก็ให้ผมตลอดไม่เคยขาดแต่มันเป็นความเหี้ยของผมเองที่เอาไม่เลือก
“จะยังคิดว่าพ่อเป็นพ่อของลูกอยู่หรือเปล่า?”
“หนูเกลียดพ่อไม่ได้หรอกค่ะ แต่สำหรับแม่ไม่แน่เหมือนกัน”
อืม ผมก็คิดเอาไว้อย่างนั้นเหมือนกัน
[TAN : SAID END]