ธิดาบูรพามองสาส์นจากบุตรชายของนางด้วยสายตาแปลกประหลาด
"สู่ขอสตรีของขุนนาง"
ธิดาบูรพาหย่อนสาส์นนั้นลงไปในน้ำตกที่ข้างเตียง สาส์นหล่นลงไปที่ศีรษะของราชาพรายผู้เป็นพ่อ จนตื่นจากจำศีลในรอบสามเดือนพอดี ร่างหนาลืมดวงตาแข็งกร้าว แล้วหยิบสาส์นมาเปิดอ่านอีกครา
"สู่ขอสตรีเช่นนั้นหรือ”
บุรุษใบหน้าสวยขมวดคิ้วขึ้นมาแล้วทะยานสู่ผิวน้ำขึ้นมาในทันที ผมยาวๆเปียกลู่ลงรับกับใบหน้าที่งดงามกว่าสตรีแต่คมคายเฉกเช่นบุรุษเพศ ร่างหนาค่อยๆก้าวขึ้นไปบนเรือนริมน้ำตกช้าๆ มีนางพรายเร่งหยิบผ้ามาเช็ดตัวและซับน้ำให้อย่างว่องไว
"นายหญิงมิชอบให้เรือนเปียกน้ำนะเจ้าคะท่านจ้าว"
"อือ เจ้าก็เร่งเช็ดเข้าซิ บอกข้าทำไมเล่า"
สองร่างกระซิบไปมาเบาๆ ส่งสายตาปะทะกันอย่างรุนแรง ในที่สุดร่างสูงก็หยุดสายตาลงไปก่อนและเดินเข้าไปอย่างรุ่มร่าม
"ว่าอย่างไรจ๊ะยาหยี คิดถึงข้าอยู่หรือไม่เจ้า"
ร่างบางปรายสายตามองแล้วยกขาขึ้นไขว่ห้าง ดวงตาคมมองตามรอยแยกของสาบเสื้อนางไปอย่างลุ้นระทึก
"บุตรของท่านชมชอบสตรีมนุษย์ ท่านเคยบอกข้าว่าราชาพรายแต่งกับสตรีธรรมดามิได้ ครานี้บุตรของท่านส่งสาส์นมาเช่นนี้ท่านจะทำเช่นไรเล่า"
"โอ้....นั่นเป็นชะตาลิขิตกระมัง ข้าส่งบุตรของเราไปที่ในเขตแดนแห่งเมฆหมอก หากสตรีนางใดฝ่าเข้าไปได้ ย่อมหมายว่านางคู่ควร แต่ปัญหาก็คือบุตรของเรานั้นไปพบเจอสตรีนางนั้นที่ใดกันเล่า "
ยามมิทันไต่ถามภูติต้นไม้ก็ส่งเสียงเจื้อยแจ้วดังขึ้นมาแต่ไกล
"ราชาน้อยล่อลวงนางไปในความฝัน ย่ำยีนางทุกค่ำคืน ภูติความฝันลักพานางไปจากเรือนทุกค่ำคืน ในความจริงแม้นมิได้เข้าหอ แต่ในความฝันนั้นราชาน้อยล่อลวงนางทุกคืน จนนางแยกความฝันและความจริงมิออก ก่อนไปจัดการปัญหาน้ำท่วม ราชาน้อยก็แอบลักลอบเข้าไปที่สกุลสุ่ย ชำเรานางฉีกคร่าพรหมจรรย์และหลอกนางว่านางนั้นจมอยู่ในความฝัน ทั้งล่อลวงลวนลามนางในเทศกาลลอยโคมอีกด้วย "
ฟังเช่นนี้แล้วธิดาบูรพากรุ่นโกรธบุตรชายตนขึ้นมาและตวัดสายตามองไปสวามีตนเอ่ยอย่างมิพอใจนัก
"เชื้อมิทิ้งแถว...!! "
ร่างโปร่งดึงสาบเสื้อของตนเองตกลงมาเบาๆ ยั่วยวนนางในดวงใจแล้วขยับกายเข้าหากอดรัดนางจนแนบแน่น
"โถ่ ยาหยี บุรุษเพศก็เป็นเช่นนั้นเอง หนึ่งบุรุษพันสตรีย่อมมิใช่ปัญหา เจ้าอย่าโกรธบุตรชายของข้าเลย นั่นก็บุตรของเจ้าเช่นกันนะยาหยี ทีนี้เจ้าเห็นว่าสกุลสุ่ยเป็นเช่นไรเล่า ตบแต่งให้บุตรเราได้หรือไม่"
"สกุลสุ่ยนั้นเดิมเป็นทหารเรือลงรบในผืนน้ำ เคยกำชัยชนะมากมายในคาบสมุทรใหญ่ นานวันไปผู้สืบสกุลละทิ้งทางเรือมาเป็นขุนนางในราชสำนักดูแลเรือพระราชพิธีและกิจการเรือในเมืองหลวง จึงได้ชื่อว่า...สุ่ย .."
"โอ้...เช่นนั้นยิ่งดีเยี่ยม นางคงว่ายน้ำและดำน้ำได้เยี่ยมยอด ยามที่บุตรของข้านั้นจับนางกิน "
"เพี๊ยะ !!! "
"หยุดพูดอะไรน่าเกลียดเช่นนั้น มนุษย์นั้นถือสาได้ง่าย เจ้าจะนำสงครามมาสู่จวนข้าได้นะเจ้าพรายลามก "
"สกุลสุ่ยนั้นล่วงเกินมิได้ สกุลหลินเกรงใจสามในเจ็ดส่วนมิอาฆาตพยาบาทกันมีสัมพันธ์ยาวนานมาด้วยดีในราชสำนัก การแต่งงานในครานี้ต้องยิ่งใหญ่และจัดในวังหลวงเพียงเท่านั้น เพราะสกุลหลินของเราคือพระญาติ ชาติกำเนิดบุตรของเรานั้นยิ่งใหญ่เป็นถึงราชาแห่งผืนน้ำ "
ร่างบางหยุดเอ่ยคำลงไปและส่งสายตาตำหนิสวามีขึ้นมาในทันที
"ท่านยิ่งใหญ่ในผืนน้ำ แต่ท่าน!!!.
ร่างบางชี้หน้าฟูจวินของตนเองและขึ้นเสียงดังขึ้นมา
"ท่านมิมีจวนใดๆที่จะต้อนรับแขกมนุษย์ได้ในเมืองนี้ และผู้เข้าร่วมพิธีของท่านคงโผล่ขึ้นมาแทะมนุษย์เป็นอาหารว่าง ก่อนที่จะจัดงานเลี้ยงเป็นแน่แท้ "
"โถ่ยาหยีเจ้าก็กล่าวเกินไป นางพรายคงเพียงลากบุรุษไปเสพสม ซักห้าปีสิบปีแล้วค่อยแทะเนื้อหนังกินลงไป”
"นั่นล่ะคือสิ่งที่น่ากลัวยิ่งนัก มนุษย์ใดจะอยากมาร่วมงานเลี้ยงกับแขกของท่านเล่า "
"อืม แต่งานแต่งงานของบุตรข้า อย่างไรก็ต้องแต่งในน้ำ ข้าจะมอบพลังให้นางลงสู่ผืนน้ำได้เช่นเฉกเช่นเดียวกับบุตรของเรา และนางพรายนั้นต้องเป็นสักขีพยานในครานี้ มิเช่นนั้นนางจะลงสู่บาดาลมิได้ หากยามครรภ์ของนางเป็นพิษ นางจะต้องตกตายบนภิภพอย่างทุกข์ทรมาน มีเพียงสายน้ำและนางพรายสีทองที่จะช่วยนางได้ และราชาพรายองค์ต่อไปมิอาจกำเนิดขึ้นมาบนภิภพได้ "
"เช่นนั้นสระมรกตในวังหลวงคือที่ ที่เหมาะสมที่สุด หากท่านควบคุมพลังมิได้ ท่านปู่และฮองเฮาในต้าหวาง คงสามารถช่วยข้าได้ หากจัดงานในตำหนักของท่าน ที่มีทางเข้าล้วนแสนพิศดารเช่นนั้น แขกเหรื่อของข้าคงจะตกตาย ก่อนถึงประตูจวนเสียก่อนเป็นแน่ "
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้ารอบคอบดีนักยาหยี "
"เช่นนั้นท่านจงส่งภูติไปแจ้งแก่บุตรของท่านเถิด ข้ามิอยากส่งสาส์นด้วยตนเองเชื่องช้านัก "
"ได้จ่ะยาหยี สวามีจะตามใจเจ้า "
ราชาพรายกอดรัดสตรีของตนที่นับวันนางยิ่งงดงามยั่วยวนใจ ร่างบางลุกขึ้นสะบัดมือปิดหน้าต่างเรือน บดบังสายตาจากบ่าวไพร่ แล้วขยับกายไปนั่งในเตียงน้อยเรือนกายเย้ายวนปากสีแดงชาด
"วันนี้เจ้าแปลกตาไปหรือไม่ชายารัก "
ร่างหนาขยับเอามืออังหน้าผากของชายาตน ที่วันนี้คล้ายเชิญชวนแปดในเก้าส่วน ใบหน้างดงามขยับเข้ามาใกล้แล้วกระซิบเบาๆที่ข้างใบหู
"ข้าต้องการกุญแจไขมหาสมุทรอย่างไรเล่า !!! "
"หึ หึ หึ ง่ายดายเพียงนี้ งั้นเจ้าจงใช้ร่างยาหยีของข้าเอาใจข้าซิ ราชินีแห่งพราย หากข้าถูกใจข้าจะตบรางวัลให้อย่างงาม คิก คิก "
"เจ้ามิหวงสิ่งของวิเศษเช่นนั้นหรือ "
"ข้าครองผืนน้ำและผืนป่าสิ่งไร้สาระใต้สะดือทะเลเช่นนั้น ใยข้าต้องเหนื่อยแรงจมลงไป ไขมันขึ้นมาด้วยเล่า ราชินีแห่งพราย "
ร่างหนาขยับเข้าไปใกล้และกอดรัดสตรีของตน กดจุมพิตร้อนแรงส่งพิษสู่ปลายลิ้นของนาง มิคาดในพริบตาเดียว ร่างบางก็ละลายเป็นเศษเนื้อในพื้นเรือนในทันที
"ฮึ่ม ยาหยีของข้าอยู่ที่ไหน บอกข้ามาเดี๋ยวนี้นะ!!! "
นางพรายสีทองและนางพรายดำเร่งขยับกายมาหน้ามากมาย
"พระชายาอาบน้ำอยู่ในน้ำตกเพคะองค์ราชา"
"ฮึ่ม บังอาจหลอกลวงข้า ทั้งยังขึ้นมาถึงบนเรือนช่างบังอาจนัก "
"ยาหยี.....!!!"
ร่างหนาทะยานออกจากเรือนเตะประตูออกไปดังโครม เร่งตามภูติต้นไม้ไป ในน้ำตกมีนางพรายสีทองมากมายรายล้อมร่างงดงามช่วยขัดสีฉวีวรรณให้พระชายาคนงาม นางหลับตานอนรอคอยการปรนนิบัติจากฝ่ามือนิ่มของพรายสีทอง มิคาดจู่ๆมือหนาก็มาแทนที่และลูบไล้ไปตามตัวนางอย่างอุกอาจนัก
"อ๊ะ เจ้าพรายชีกอเจ้าตื่นขึ้นมาแล้วเช่นนั้นหรือ"
"อือ ข้าคิดถึงเจ้า จึงตื่นขึ้นมาแล้วล่ะชายารัก "
ร่างหนาอุ้มนางขึ้นไปในถ้ำหลังน้ำตกเสกฟองน้ำนุ่มนิ่มมารองรับกายตนดั่งเช่นเคย เรือนร่างงดงามยั่วยวนใจ พลิกกายหันหลังนอนหลับมิสนใจตน
"ยาหยีเจ้าคิดถึงข้าเลยหรือ"
"ข้าง่วงนัก ข้าเมื่อยล้าด้วย นวดให้ข้าหน่อยซิ เจ้าพรายชีกอ"