"ข้าบอกเจ้าได้เพียงข้าไปช่วยผู้คนมากมาย ยามนี้ข้าอ่อนแรงนัก กลับมาได้แล้วจึงเร่งเดินทางมาพบเจ้าก่อน "
หลิ่งซือแย้มรอยยิ้มให้งดงามแล้วยกผ้าเช็ดหน้าปักลายส่งให้หลินจ้าวหลิว
"หากท่านมิรังเกียจ โปรดรับผ้าเช็ดหน้าของข้าได้หรือไม่เล่าเจ้าคะ "
ร่างหนาแย้มรอยยิ้มออกมาและรับผ้าเช็ดหน้าของนางมาสูดกลิ่นหอมแรงๆ อาไฉหันใบหน้าหนีอย่างเขินอายแทนทั้งคู่ เสแสร้งเป็นว่าตนนั้นมิเห็นสิ่งใดๆในยามนี้
"ข้าจะให้มารดาไปสู่ขอเจ้าแต่งเข้าจวนวารีของสกุลหลิน จงเร่งปักผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวรอข้าซะ อีกมินานข้าจะกลับมาที่เมืองหลวงอีกครา มานำขบวนเจ้าสาวกลับสู่จวนของข้าด้วยตนเอง "
ร่างหนาส่งเสียงดังกังวาลให้นางและผู้คนได้ยินอย่างเปิดเผย เสี่ยวเอ้อดวงตาลุกวาว ผู้คนได้ยินนามสกุลหลิน อ้าปากค้าง และแอบมองว่าที่เจ้าสาวอย่างรีบเร่ง ร่างงามสบสายตาของบุรุษแล้วพยักหน้าน้อยๆ นั่งนิ่งๆตรงหน้าบุรุษ เมื่อยามที่เสี่ยวเอ้อนำอาหารมาวางที่ตรงหน้า บุรุษจึงค่อยตักข้าวต้มร้อนๆลงในปากของตนช้าๆ และฟุบลงไปยามที่ข้าวต้มหมดไปหนึ่งชาม
"คุณชายหลิน !!! "
"เสี่ยวเอ้อเจ้ามาดูคุณชายให้ข้าที "
"ขอรับ..."
เสี่ยวเอ้อเร่งรีบเดินมาโดยพลัน ด้วยตื่นตกใจยิ่งนัก กลัวคุณชายท่านนี้เป็นอะไรในโรงเตี้ยมของตนเองแล้ว แต่เมื่อมองไปดีๆ จึงนึกขึ้นได้ว่า คุณชายสั่งข้าวต้มและหนวดเคราก็ยังมิได้โกนเช่นนี้ คงเร่งรีบเดินทางมาเป็นแน่ มีเสียงลมหายใจเบาๆสม่ำเสมอขึ้นมา
"คุณชายหลับขอรับคุณหนูสุ่ย "
"เอ๋....หลับหรือ"
"ขอรับคงต้องเปิดห้องซะแล้วขอรับ คุณชายหลับสนิทเลยทีเดียว "
"รบกวนเจ้าด้วยเสี่ยวเอ้อ"
ร่างบางรอคอยจนเสี่ยวเอ้อมาประคองคุณชายหลินไปแล้วจึงค่อยตามเข้าไปในห้องและให้อาไฉยืนรอคอยที่ด้านนอกเสียก่อน ร่างบางมองจนเสี่ยวเอ้อออกไปแล้วจึงนั่งลงข้างๆเตียงยกมือบางเสยผมให้บุรุษ นำผ้ามาเช็ดใบหน้ามอมแมมนั้นจนขาวผ่องขึ้นมาบ้างเล็กน้อย
พักหนึ่งจึงเห็นบางสิ่งสีดำที่หางตา จึงหันมองไปพบคล้ายร่างดำทะมึน มองนางห่างๆที่ยอดไม้ ร่างบางตื่นตกใจกลัวผวากอดเข้าที่อกคุณชายหลินจนแนบแน่น
บุรุษยกมือมาลูบผมของนางเบาๆ นางจึงหันมองไปอีกครั้ง มิคาดบนร่างของบุรุษมีเงาดำๆล้อมรอบจำนวนมาก ร่างบางตกใจกรีดร้องอย่างมีมีเสียง เร่งเขย่าร่างบุรุษแรงๆจนลืมตาตื่นขึ้นมา
"ท่านหลินๆ โปรดรีบตื่นเถิด ท่านหลินเจ้าคะ"
"อืม ข้าง่วง ข้าขอหลับมินานนักคนงาม "
"ท่านหลินตื่นเถิด ข้ากลัวพวกมันนัก ฮือๆ "
ร่างหนาปรือตามองนางและมองไปรอบกายช้าๆ เมื่อพบบางสิ่งรอบๆกายจึงตวาดเสียงดังออกไปในทันที
"ออกไป...!!!! "
ในพริบตาเงาสีดำจึงหายไปออกไปจากรอบกาย ร่างหนากระซิบเบาๆที่ข้างหูของนาง
"ข้าไล่มันไปแล้วคนงาม ข้าง่วงขอหลับมินาน เจ้ากลับจวนไปเถิด ข้าง่วงนอนจนจะทานทนมิไหวแล้ว"
ร่างบางมองไปรอบกายเห็นเงาดำอยู่ห่างไกลออกไป จึงรีบเร่งออกมาโดยมิร่ำลาบุรุษของตนอีกเลย
"อาไฉเร่งกลับจวนเร็วๆเข้า "
ร่างบางฉุดสาวใช้เร่งลงบันไดโรงเตี้ยมมาขึ้นรถม้าเร็วรี่ มิหันมองเงาดำเหล่านั้นอีก ใบหน้างดงามเหงื่อผุดพราย นางคล้ายสั่นน้อยๆจนอาไฉตกใจถาม
"เกิดอันใดขึ้นเจ้าคะคุณหนู "
"บุรุษผู้นั้นมีเงาดำอยู่รายรอบกาย น่ากลัวนักอาไฉ "
อาไฉทำตาตื่นแต่ก็คล้ายนึกบางสิ่งออกขึ้นมา
"หากบุรุษผู้นั้นคือสกุลหลิน คงเป็นผู้ติดตามสกุลหลินกระมังเจ้าคะคุณหนู สกุลหลินมีสิ่งลี้ลับมากมายเจ้าค่ะ บางครามันคงเป็นผู้คุ้มภัยนายของมันเจ้าค่ะ"
"อา...น่ากลัวเช่นนั้น...เลย"
"เจ้าค่ะคุณหนู และข้าว่ามันคงติดตามมาปกป้องคุณหนูด้วยเจ้าค่ะ ฮือ"
ร่างงามหันควับเห็นเงาดำๆล้อมรอบรถม้าจำนวนมากช่างน่ากลัวยิ่งนัก นางกอดอาไฉแน่นตัวสั่นงันงกขึ้นมา
"อาไฉข้ากลัวฮือ”
"ข้าก็กลัวเจ้าค่ะคุณหนู ฮือ”
จวบจนที่รถม้าแล่นถึงสกุลสุ่ย ร่างบางเร่งเดินเข้าห้องตนอย่างรีบเร่งแล้วหันมองไปอีกครา เมื่อมิพบเงาดำตามมาอีก จึงถอนหายใจช้าๆแล้วไล่อาไฉกลับไปที่เรือนตนมิเกรงกลัวอีก นางทำตัวเช่นยามปกติอาบน้ำสางผมและเข้านอน จวบจนนางเป่าเทียนดับลงและหลับตาลงไปแล้วนั้นเงาดำๆมากมายมานั่งล้อมวง รอบตัวนางอย่างมหาศาล มันมองจ้องนางอยู่ตลอดทั้งคืน และมีตนหนึ่งขึ้นทับลงไปบนอกของนาง จดจ้องใบหน้าของนางในระยะประชิด แล้วส่งควันสีขาวลงสู่ปากของนางในยามหลับ ในความฝันร่างบางเดินไปตามทางชื้นแฉะอีกครา ทางที่นางคล้ายเคยคุ้น หนทางหนาวเหน็บจนร้าวติดกระดูก นางเดินวกไปวนมาในความฝัน จวบจนพบเด็กสาวคนเดิมที่ต้นไม้ นางจึงขยับไปทักทาย
"สาวน้อยเจ้ามิกลับบ้านเจ้าอีกหรือ ที่นี่น่ากลัวนัก เหตุใดจึงชอบอยู่ผู้เดียวในป่านี้เล่า"
สาวน้อยมองหน้านางเหนื่อยหน่าย แล้วตอบกลับไปเบาๆ
"ข้ามาคอยช่วยนำทางแก่ท่าน มิเช่นนั้นท่านคงหาทางไปที่ใดมิเจอ เมื่ออยู่ในป่านี้เป็นแน่แท้ "
เด็กน้อยจูงนางไปเรื่อยๆจนพบจวนที่นางคุ้นเคย นางพบบุรุษของนางอีกครา บุรุษนอนเปลือยกายอยู่บนฟองน้ำนุ่มนิ่ม
"ท่านหลินเหตุใดจึงมิสวมเสื้อผ้าเล่า ท่านชอบเป็นเช่นนี้ตลอดเลยหรือ”
ร่างหนาตื่นตกใจขึ้นมาที่ได้ยินเสียงนางอีกครั้ง
"เจ้าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไรกันหลิ่งซือ เจ้ามิควรมาที่นี่ได้"
"ข้ามิรู้เจ้าค่ะ ข้าจดจำได้ว่าข้าเข้านอน แล้วก็มาอยู่ในป่าแห่งนี้แล้ว ข้าพบเด็กน้อยผู้นี้นำทางข้ามาที่นี่ "
ร่างหนามิไต่ถามนางอีกแต่ดึงนางไปกอดรัดในอกแน่นๆในที่สุด
"ข้าคิดถึงเจ้ามากหลิ่งซือ "
"ข้าจำได้ว่าท่านยังหลับอยู่เมื่อข้าจากมานี่นาและท่านยังมิได้โกนหนวดเคราเสียเลย เหตุใดยามนี้จึงมีใบหน้าเกลี้ยงเกรานักเล่าเจ้าคะ”
ร่างหนาหัวเราะหึหึแล้วโอบกอดนาง สะบัดมือไปหนึ่งคราประตูก็ปิดลง ริมฝีปากแดงๆที่เชิญชวนนางเลื่อนขยับเข้ามาใกล้ๆนางจุมพิตนางเบาๆ ร่างบางจึงโอบกายตอบกลับบุรุษไปด้วยความคิดถึง จุมพิตตอบกลับกันไปมาเบาๆ
"ข้าง่วงนอนจังเลยหลิ่งซือ"
ร่างบางหัวเราะแล้วนอนกอดบุรุษเบาๆ
"ท่านพูดเหมือนเดิมเลย ข้าก็ถึงเวลานอนแล้ว ข้าคิดถึงท่านยิ่งนัก จุ๊บ”
จ้าวหลิวกอดนางไว้ในอ้อมแขน หลิ่งซือกอดรัดบุรุษบนฟองน้ำนุ่มนิ่ม รู้สึกว่าช่างแสนสบายฟองน้ำนี้นุ่มและเย็นสบายต่อผิวของนางนัก เช่นนี้เองบุรุษผู้นี้จึงชื่นชอบนักหนา หลิ่งซือหลับไปในอ้อมแขนนุ่มทันที
"คุณหนูเจ้าคะ เช้าแล้วเจ้าค่ะ "
อาไฉส่งเสียงปลุกนายของตนที่ยังนอนเคลิ้มฝันมิยอมตื่น แสงแดดสาดส่องอุ่นสบาย หลิ่งซือสะดุ้งตื่นตกใจมองหาบุรุษของนางแต่มิพบจึงถอนหายใจออกมาเบาๆในคราหนึ่ง
"เฮ้อ....ข้าฝันถึงแต่บุรุษผู้นั้น.. "