"อ้อมกอด"

2510 Words
“แล้วจ้องอะไร” หญิงสาวรีบขยับผ้าเช็ดตัวที่นุ่งอยู่ให้แน่นขึ้น “มองให้รู้ไง ว่ามีอะไรน่ามองมั้ย” ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี หญิงสาวรีบหยิบเสื้อผ้าเข้าไปใส่ในห้องน้ำ ด้านนอกชายหนุ่มเปิดทีวีดูระหว่างรอ หญิงสาวจัดการตัวเองเรียบร้อย จึงเปิดประตูออกมา พบว่าชายหนุ่มนอนหลับอยู่บนเตียงของเธอไปแล้ว “แกล้งหลับหรือเปล่านะ” หญิงสาวพึมพำเบาๆ แล้วเดินไปสะกิด “นี่ๆ เธอ” ชายหนุ่มยังคงไม่ตื่น หญิงสาวโน้มตัวลงไปใกล้ๆหน้าของเขา หน้าใสมาก เนียนอมชมพูกว่าเธออีก หญิงสาวเบาเสียงทีวีลง แล้วปล่อยให้เขาหลับต่อ เสียงกรนเบาๆ ออกมาจากในลำคอของชายหนุ่ม “เมื่อคืนไม่ได้นอน คงง่วงมากสินะ” หญิงสาวมานั่งเล่นโทรศัพท์ที่โซฟารอชายหนุ่มตื่น จนเผลอหลับไปเช่นกัน แต่เมื่อเธอรู้สึกตัวขึ้นมาก็พบว่าตัวเธอนอนอยู่บนเตียงแล้ว ก่อนนอนเรานั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่โซฟานี่นา ทำไมถึงมานอนบนเตียงได้นะ หรือจะละเมอเดินขึ้นมาเองหรอ เธอกำลังคิดทบทวน แต่ความคิดทุกอย่างต้องชะงัก เมื่อหันไปเจอชายหนุ่มกำลังจ้องอยู่ เธอสะดุ้ง เตรียมจะลุกขึ้น แต่ชายหนุ่มกลับกอดเธอไว้ ทำให้หญิงสาวนอนหนุนแขนเค้าอยู่บนเตียง ส่วนแขนอีกข้างของเค้ากำลังโอบกอดเธออยู่ “ปล่อยนะ” “นอนหลับอยู่ ปล่อยไม่ได้” “หลับแล้วใครตอบ” “ละเมอตอบ” “ปล่อยเลยนะ” “ยังง่วงอยู่เลย นอนต่อนะๆๆ " พร้อมส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้เธอ “ไม่ง่วงแล้ว” พยายามยกแขนเขาออก “จะนอนเฉยๆ หรือจะให้ทำอย่างอื่นด้วย” “จะทำอะไร” หญิงสาวตกใจ “อยากลอง?” “ไม่ๆๆๆ” ด้วยน้ำเสียงของชายหนุ่ม หญิงสาวคิดดีไม่ได้เลย ชายหนุ่มอมยิ้ม “นอนเฉยๆ ไม่งั้นไม่รับประกันนะ” “นอนก็ได้ แต่ปล่อยชมก่อนสิ หายใจไม่ออกแล้ว” “ถ้าปล่อย เธอก็หนีสิ ผมไม่โง่นะคร้าบบบ” ย่ะ พ่อคนฉลาดแอบด่าในใจ ฮ่าๆๆ “ไม่หนีจริงๆ” พร้อมสงสายตาอ้อนวอน “อย่ามาทำสายตาแบบนี้อีกนะ ถ้าไม่อยากโดน!!!” “โดนอะไรหรอ...” ความจริงก็พอรู้แหล่ะว่าที่เค้าพูดหมายถึงอะไร แต่อยากแกล้ง ชายหนุ่มยื่นหน้ามาใกล้เธอ ด้วยความตกใจ คิดหาทางจะเอาตัวรอด “ปล่อยเถอะ ปวดอึ จะไปเข้าห้องน้ำ” หญิงสาวพูดออกไป ชายหนุ่มทำหน้าเหวอ ...แล้วก็หัวเราะออกมา ทำให้หญิงสาวอายมาก “หัวเราะอะไร” “หาข้ออ้างได้ บื้อมาก” แล้วก็หัวเราะต่อ มือขยี้ผมเธอด้วยความเอ็นดู “พอๆ พอได้แล้ว.. ผมยุ่งหมดแล้ว” ชายหนุ่มหยุดขำ แล้วจุ๊บหน้าผากเธอ หญิงสาวตกใจจนตาเหลือก อ้าปากค้าง นอกจากพ่อกับแม่ก็ไม่มีใครมาทำแบบนี้กับเธอมาก่อน และยิ่งไม่คิดว่าเค้าจะทำแบบนั้น “ตาจะหลุดออกมาอยู่แล้ว ปกติก็โตอยู่แล้ว “เอ๊ะ...หรืออยากให้ทำอะไรต่อ” ทำหน้ากะล่อนใส่ “บ้า... แล้วจะปล่อยได้ยัง” หญิงสาวรู้สึกเขินมากๆ ทำอะไรไม่ถูกเลย “จะรีบไปขี้หรอ....” เขาหันมาถาม “ใช่ ปล่อยสิ” ชายหนุ่มจึงปล่อยหญิงสาวให้เป็นอิสระ เธอรีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที ไม่ใช่ปวดขี้ตามที่บอก แต่รู้สึกอายมาก เธอส่องกระจก ทำไมแก้มถึงแดงขนาดนี้นะ หัวใจเต้นรัวๆ เลย เธอใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำ 5 นาทีได้ จนได้ยินเสียงเคาะประตูพร้อมประโยคที่ฟังแล้วเคืองหูเป็นที่สุด “ตกส้วมไปแล้วหรอ” “กำลังตะเกียกตะกายขึ้นมาอยู่” หญิงสาวไม่ยอมแพ้ “ลงไปหาอะไรกินอิ่มแล้วสิ” “ไอ้บ้า” “ในนั้นไม่อร่อยหรอก ไปหาของอร่อยที่อื่นกินดีกว่า” ชายหนุ่มผู้ที่มีปากเป็นอาวุธเอ่ยบอก “ก็ได้ๆ” เธอเองก็ไม่อยากอยู่ในห้องสองต่อสอง พอเปิดประตูออกมา พบชายหนุ่มยืนอยู่หน้าประตู และเอามือยันประตูกั้นไว้ไม่ให้เธอออกมา “หลบไปสิ จะไปกินข้าวไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มเอามือที่ยันประตูออก เราจะเดินออกมาจากห้องน้ำ แต่ยังไม่ทันได้ออกมา ชายหนุ่มคว้าแขนเธอให้หันไปทางเขา หน้าของเธอจึงซบที่อกเขาพอดี มือทั้งสองของชายหนุ่มโอบกอดหญิงสาวไว้ “จะรีบไปไหน” “กอดอีกแล้วนะ” “แก้มแดงจัง เขินพี่หรอ” ชายหนุ่มมองหญิงสาวด้วยแววตาที่พอใจ เมื่อโดนเขาจับได้ว่ากำลังเขิน หญิงสาวก้มหน้ามุดลงในอ้อมแขนของชายหนุ่ม เพื่อไม่ให้เขาเห็นใบหน้าอีก “รู้ไหมว่าพี่เป็นห่วงแค่ไหน” ชายหนุ่มกระซิบข้างหูหญิงสาว มันยิ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกวาบวามและรู้สึกถึงความห่วงใยที่เขามีให้เธอ “ห่วงชมหรอ” หญิงสาวเงยหน้ามองชายหนุ่มมองเขาด้วยสายตาไร้เดียงสา ชายหนุ่มก้มมาจุ๊บที่หน้าผากหญิงสาว “ยัยบื้อเอ้ย” แล้วกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น การกระทำของชายหนุ่ม ยิ่งทำให้หญิงสาวที่ไม่เคยมีความรัก มาตลอด 22 ปี หัวใจพองโต แต่ด้วยความอ่อนประสบการณ์ เธอไม่รู้จะจัดการกับสถานการณ์แบบนี้อย่างไรดี “ชมหิวแล้วค่ะ” หญิงสาวเอ่ยออกมา ชายหนุ่มมองหน้าคนตัวเล็กในอ้อมกอดของเขานิ่ง ให้กอดอีกหน่อยก็ไม่ได้ “อยากกินอะไรครับ กินข้าวหรือกิน...” ชายหนุ่มกระซิบข้างหู แต่ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพูดต่อ “ข้าวค่ะ” หญิงสาวรีบตอบทันที เธอหายใจเร็ว หน้าแดง เพราะเธอเดาในสิ่งที่ชายหนุ่มจะพูดต่อได้ “สัญญาได้ไหม จะไม่หายไปแบบนี้อีก” ชายหนุ่มจ้องตาหญิงสาวและลูบผมอย่างเอ็นดู “ไม่ได้หายค่ะ แค่หลงทาง แล้วลืมโทรศัพท์แค่นั้นเอง” หญิงสาวตอบเสียงใส “เถียงเก่งจริงๆ” ชายหนุ่มถอนหายใจ เฮ้อ.... “ไม่ได้เถียงซะหน่อย แค่อยากอธิบาย” ตอบเสียงอ่อยๆ “ไม่ต้องไปกินข้างนอกหระ โทรสั่งมากินในห้องนี่แหระ เถียงเก่งดีนัก” ความจริงชายหนุ่มอยากอยู่กับสาวน้อยในอ้อมกอดของเค้าตามลำพังแบบนี้ต่างหาก ชายหนุ่มจับมือเธอ แล้วพาไปโทรศัพท์ แล้วสั่งๆๆ อาหารมาเกือบ 10 อย่าง “สั่งมาเยอะขนาดนี้ จะกินหมดเหรอคะ” “ก็ไม่รู้ว่าอยากกินอะไร ก็สั่งมันมาหมดนี่แหระ” “แล้วไมไม่ถาม” “เสียเวลา อยากคุยเรื่องอื่น มากกว่า...” ชายหนุ่มจับมือของเธอและพากลับมานั่งลงที่เตียง เอาหัวมาซบไหล่เธอ หญิงสาวได้กลิ่นหอมจากผมของชายหนุ่ม มันหอมละมุนมากกก จนเธอเริ่มเคลิ้ม แต่เธอเป็นกุลสตรีหญิงไทยที่ได้รับการสั่งสอนมาอย่างดี เธอจะยอมให้ผู้ชายมาทำแบบนี้ไม่ได้ แม้จะพึงพอใจก็ตาม แต่เดี๋ยวชายหนุ่มจะหาว่าเธอเป็นผู้หญิงใจง่าย... เธอจึงเบี่ยงไหล่หลบ “อยู่นิ่งๆ สิ ซบไหล่แค่นี้ ไม่ท้องหรอก” ชายหนุ่มยังซบไหล่เธออยู่ “ไอ้บ้า ปากนี่จะหาเรื่องตลอดเลยนะ” “นึกว่าจะไม่กลับมาซะแล้ว” “กลับสิ ไม่กลับได้ไง เสียเงินจองไปแล้ว” แอบงก...ทั้งที่พ่อกับแม่เธอเป็นคนจ่ายค่าที่พักให้เธอทั้งหมด “หายไปทั้งคืน” เสียงอ้อนมาก “หื้ม” เธอมองหน้าชายหนุ่มที่ยังซบไหล่ของเธออยู่ “คิดถึง” “ห๊ะ... ว่าอะไรนะ” เขาเงยหน้ามองเธอ “บอกไปแล้ว หูไม่ดีเอง ช่วยไม่ได้” ชายหนุ่มยิ้มให้ เวลาชายหนุ่มยิ้มโคตรมีเสน่ห์เลย แต่เขาไม่ค่อยยิ้ม ชอบทำแต่หน้ายักษ์ “คิดถึงชม หรอ” ชายหนุ่มทำหน้ามุ่ย แล้วหอมแก้มป่องๆ ของเธอ โดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว “หอมจัง” ชายหนุ่มบอกหญิงสาว “ฉวยโอกาสอีกแล้วนะ” หญิงสาวตาโต “ฉวยโอกาสพี่คืนสิ จะได้หายกัน หรือจะฉวยโอกาสพี่คืน หลายๆ รอบก็ได้นะ พี่ยินดีเสียเปรียบ” ชายหนุ่มบอกหญิงสาวตัวเล็ก เธอใช้มืออีกข้าง ที่ไม่ได้โดนชายหนุ่มจับไว้ ฟาดลงที่ขาของชายหนุ่ม แต่ด้วยไม่ทันระวัง นอกจากโดนขาแล้ว เหมือนจะโดนอย่างอื่นด้วย “โอ้ย” ชายหนุ่มร้อง “เจ็บตรงไหนค่ะ” หญิงสาวถาม โอ้ย ... ถามอะไรออกไปนี่ อยากเอามือตบปากตัวเองจริงๆ หญิงสาวบ่นตัวเองในใจ “แล้วฟาดลงมาตรงไหนหระ” ชายหนุ่มกระเซ้า “ขะ....ขาค่ะ” หญิงสาวตอบออกไปด้วยเสียงสั่นเทา ปนความเขินอาย “ช่าย หรอ” ชายหนุ่มถามย้ำ “เอ่อ.....” หญิงสาวไม่กล้าตอบคำถาม “เป่าให้เลย เธอทำน้องพี่เจ็บ” พร้อมชี้ลงไปตรงที่โดนหญิงสาวตี “ขะ..ขอโทษค่ะ” “ขอโทษไม่หายเจ็บ ต้องเป่าถึงจะหาย” หญิงสาวนั่งตัวแข็ง ทำอะไรไม่ถูกชายหนุ่มมองท่าทางของเธอจึงเอามือไปขยี้ผมด้วยความเอ็นดู ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้นะ “หัวยุ่งหมดแล้ว” หญิงสาวเอ่ยทักท้วง “ถ้าไม่กล้าเป่า (เอานิ้วชี้ไปตรงที่หญิงสาวตี) ต่อไปชมต้องเรียกพี่ว่า พี่เอสนะได้ไหม” ชายหนุ่มยักคิ้วให้ “ทำไมชมต้องเรียกด้วย อายุเท่าไหร่ ไม่แน่อาจน้อยกว่าชมก็ได้นะ” หญิงสาวแย้ง “แม่สาวน้อย แก้มป่อง เธอเพิ่งอายุ 22 ปีเอง ไม่ใช่เหรอไง” “รู้ได้ไง” หญิงสาวตกใจ ชายหนุ่มชี้ไปตรงโต๊ะข้างเตียง ที่บัตรประชาชนใบหนึ่งวางอยู่ และไม่ใช่ของใครอื่น เพราะมันคือของเธอเอง “แอบดูเหรอ” “นางสาวชมพูนุช เลิศวัฒนา เกิดวันที่ 9 เดือนกันยายน พ.ศ. 2543 สาวน่าน” ชายหนุ่มพูดต่อ “รู้หมดเลย” หญิงสาวทำหน้าละห้อย “เรียก พี่เอส ให้ฟังหน่อยสิครับ น้องชมพูนุช” “ไม่เรียกค่ะ” “งั้นเป่าตรงนี้ เลือกเอา” ชายหนุ่มก้มมองไปที่ตรงนั้นของเขา “ทำไมถึงอยากให้เรียกพี่นัก” “ก็พี่อายุมากกว่าเธอไง” “แล้วอายุเท่าไหร่ บอกมาก่อนสิคะ” “เดี๋ยวนี้เริ่มสนใจเรื่องของพี่แล้วหรอ” ชายหนุ่มเอ่ยถาม “ไม่บอก ก็ไม่เรียกหรอก” หญิงสาวหันหน้าไปทางอื่น “อายุพี่ 29 แต่อย่างอื่น....คูณสองนะ” กระซิบข้างหูหญิงสาว “อะ อะ...อะไรคะ” หญิงสาวถามติดขัด “ก็....ตรงที่ชมเพิ่งสัมผัสไปไง ถ้าไม่เชื่อลองพิสูจน์ได้นะ” ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ “ทะลึ่ง” “ชมถาม พี่ก็ตอบให้ ” ชายหนุ่มพูดแหย่หญิงสาวอย่างอารมณ์ดี เขารู้สึกว่าการได้ต่อล้อต่อเถียง พูดแหย่หญิงสาวแก้มป่องคนนี้ ให้เธอโมโหได้ มันทำให้เขามีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ตัวเขาเองไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน ปกติเขาไม่ชอบพูดกับอื่นมากนัก แต่กับเธอเขากลับอยากหาเรื่องมาคุยด้วย เขาอยากฟังเสียงใสๆ ของเธอ “ถ้าไม่เรียก แสดงว่าชมอยากพิสูจน์ว่า คูณสองจริงมั้ย” โน้มหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาว “พะ..พี่..เอส” หญิงสาวรีบเรียกชายหนุ่ม “ต่อไปเรียกพี่แบบนี้นะ” ชายหนุ่มยิ้มพอใจ พร้อมหอมแก้มเธออีกครั้ง เขาชอบแก้มป่องๆ ของเธอจัง มันทั้งนิ่ม ทั้งหอม...หญิงสาวยกมือจะฟาดชายหนุ่ม แต่ชายหนุ่มรู้ทัน หันขาหลบ “จะเต๊ะอั๋งน้องชายพี่อีกแล้วหรอ” “พี่เอส!!” หญิงสาวยกมือค้าง ทำตาค้อนใส่ชายหนุ่ม “ฮ่าๆๆ......กินข้าวเสร็จ เราไปเดินเล่นที่เพลินวานกันนะครับ” ชายหนุ่ม เอ่ยชวน เพราะถ้าอยู่ในห้องแบบนี้ต่อไป เขาคงทนแค่หอมแก้มหญิงสาวเฉยๆ ไม่ได้แน่ ในหัวเขามันว้าวุ่นไปหมด ก๊อกๆๆ “สวัสดีครับ อาหารมาส่งแล้วครับ” พนักงานเสิร์ฟมาเสิร์ฟอาหาร ชายหนุ่มให้เอาอาหารมาวางด้านในห้อง “มากินข้าวได้แล้วครับ” ชายหนุ่มเอ่ย คนตัวเล็กเดินมานั่งที่โต๊ะ ตามที่ชายหนุ่มบอก “จะทานแล้วนะค่า” หญิงสาวเอ่ย ชายหนุ่มตักอาหารใส่จานให้ เธอกินด้วยความเอร็ดอร่อย จนชายหนุ่มอดยิ้มไม่ได้ ชายหนุ่มทานอาหารไปนิดหน่อย เพราะมีความสุขกับการตักอาหารให้หญิงสาว ระหว่างที่กินก็คุยกันไปด้วย ชายหนุ่มมีหน้าที่ถาม ส่วนเธอก็ตอบตรงบ้างเลี่ยงบ้าง จนเธอทานเสร็จ ชายหนุ่มที่ทานเสร็จอยู่ก่อนแล้ว ชวนเธอออกไปเที่ยวที่เพลินวานเลย “ขอนั่งย่อยแป๊บหนึ่ง” เธอทักท้วง เพราะยังอิ่มอยู่ “กินแล้วนั่ง ถึงได้อ้วนลงพุงแบบนี้ กินก็เยอะยังจะมาขี้เกียจอีก” ชายหนุ่มไม่ยอม “ก็สั่งมาเยอะเอง น่าเสียดายนะ” เธอเถียงชายหนุ่ม “สักวันต้องกลิ้งแทนการเดินแน่ๆ ค่อยไปนั่งย่อยในรถเอา” ชายหนุ่มบ่นต่อ แล้วลากเธอไปขึ้นรถ จนมาถึงเพลินวาน ที่นี้สวยดีนะ บรรยากาศย้อนยุค มีขนม แบบที่เคยกินตอนเด็กๆ ที่หาซื้อไม่ได้แล้วขายด้วย อารมณ์ประมาณ ย้อนเวลาไปเป็นเด็กอีกครั้ง มุมถ่ายรูปเยอะมาก แต่ละมุมจัดน่ารักสุดๆ “ช่วยถ่ายรูปให้ชมหน่อยค่ะ” ยื่นโทรศัพท์ของเธอให้ ชายหนุ่มรับ โทรศัพท์ของเธอไป “ถ่ายยังไงก็ได้ แค่ให้ขาว สูง สวย พอค่ะ” หญิงสาวกำชับ “พี่คงทำไม่ได้ เอาโทรศัพท์คืนเถอะ” ชายหนุ่มยื่นโทรศัพท์คืนให้ “พี่เอส !” “ฮ่าๆ พี่พูดเล่น” เธอทั้งขาว ทั้งน่ารัก รูปร่างก็ดี เอวขอด ถ่ายยังไงก็สวย แต่เขาขอพูดแหย่สาวน้อยตรงหน้าให้โมโหเล่นเท่านั้น เวลาเธอโมโหดูแล้วน่ารักชะมัดเลย แค่นี้เขาก็มีความสุขแล้ว หรือเขาจะหลงเสน่ห์ยัยแก้มป่องนี่แล้วจริงๆ ชายหนุ่มถ่ายรูปให้หญิงสาวจนพอใจ “เอาโทรศัพท์ไว้ที่พี่นี่แหระ” “ก็ได้ค่ะ” ยิ้มให้ชายหนุ่ม ชายหนุ่มมีหน้าที่ถ่ายรูปให้เธอ เดินตามถ่ายไม่มีบ่น ช่วยออกแบบท่าถ่ายรูปให้เธอด้วย แล้วรูปที่ออกมามันก็ดูดีจริงๆ ทำให้หญิงสาวรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก ถึงความใส่ใจของชายหนุ่ม เธอเองก็อยากถ่ายรูปกับชายหนุ่มไว้เป็นที่ระลึก เพราะไม่รู้หลังจากเธอกลับไปแล้วจะยังมีโอกาสได้เจอกันอีกหรือเปล่า “ถ่ายด้วยกันสิคะ” เธอเอ่ยชวน “พี่ถ่ายให้ชมดีกว่า พี่ไม่ชอบถ่ายรูปตัวเอง” ชายหนุ่มปฏิเสธ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD