Episode 5

2622 Words
ฉันมองคนตัวสูงก่อนจะตอบเขากลับไปด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรที่สุดแล้วมั้งตั้งแต่คุยกันมา "ไม่หรอกชินแล้ว" "ไม่มีเวลาพักทั้งคืนแบบนี้อะนะวันหยุดก็ไม่มี" "ก็นั่นเป็นหน้าที่ของหมอคุณจะให้ทำยังไง หมอและพยาบาลทุกคนก็รู้ข้อนี้กันหมดแล้วค่ะ ไม่มีอะไรที่น่าแปลกหรือตื่นเต้น หรือจะเปลี่ยนแปลงได้หรอกค่ะ" ฉันพูดพร้อมกับวัดไข้คนตัวสูงที่นอนถามคำถามอยู่บนเตียงก่อนจะทำหน้ากวนๆ และหันมาตอบ "ผมมีวิธี" ฉันกอดอกพร้อมกับถามคนตรงหน้าอย่างงงๆ และถามเขาออกไปด้วยน้ำเสียงที่สงสัย วิธีอะไรมันก็ไม่มีทั้งนั้นแหละฉันทำงานมาฉันรู้ดี แต่ก็อยากจะฟังเขาว่าเขาจะตอบมาอย่างไง "วิธีอะไร" "วิธีที่หมอจะไม่ต้องเหนื่อยไม่ต้องเข้าเวรไง" "มันไม่มีวิธีหรอกคุณบ้าไปแล้วหรือไง นอนพักเถอะฉันว่าร่างกายคุณต้องการพักผ่อน" "มีสิ" "อะ พูดมา จะได้จบๆไป" "ลาออกสิหมอ" อืมนี่เขาคิดว่าเป็นคำตอบที่ดีที่สุดแล้วงั้นสิ หึ นี่ฉันเสียเวลามานั่งฟังเขาพูดคำนี้เนี่ยนะ ฉันมองคนที่อยู่บนเตียงพร้อมกับหยิกที่แขนเขาเเรงๆ จนคนตัวสูงร้องโอดโอยออกมา "โอ๊ยยยย ลาออกมาเป็นเมียผมมั้ยละมีเงินให้ใช้อยากได้อะไรเดี๋ยวจัดให้หมดเลยจริง" "คุณนี่น่าจะเป็นประสาทจริงนะฉันว่าสนใจตรวจหน่อยไหมพรุ่งนี้จะส่งตัวไปตรวจ เดี๋ยวจะเขียนบอกเขาไว้ อาการคุณน่าจะหนักอยู่พอสมควร ควรรีบไปรักษานะคะ ปล่อยไว้มันจะเรื้องรัง" "เอ้า!! ผมพูดจริงนะเนี่ยไม่เคยให้ตัวเลือกใครแบบนี้เลยนะหมออะคนเเรกเลยนะ พร้อมเมื่อไหร่บอกผมเลย ผมนี่จริงจังแล้วก็จริงใจกับหมอนะ" "ขอบคุณมากๆนะคะคุณชัชนันต์ แต่หมอยังอยากทำงานและดูแลตัวเองได้ไม่รบกวนคุณดีกว่าค่ะ ขอบคุณในความจริงจังแล้วก็จริงใจนะคะ" "หึ!! เสียใจด้วยนะเพราะผมจะจีบหมอแบบจริงจัง" "เห้ออฉันว่าคุณนอนพักเถอะฉันจะไปนั่งตรงโซฟามีอะไรก็เรียกแล้วกัน" "เดี๋ยว!!" คนตัวสูงใช่มือเขามาจับไว้ที่ต้นแขนฉัน ฉันมองเขาก่อนจะแกะมือเขาออกแต่มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด "อะไรของคุณ!!" "หึหึ ไม่ต้องตกใจขนาดนั้นก็ได้ผมยังไม่ได้ทำอะไรหมอเลย" "แล้วคุณมีอะไรพูดเฉยๆก็ได้ปล่อยแขนฉันได้แล้ว" "แค่จะถามหมอว่าอีกกี่วันผมถึงจะกลับบ้านได้อะ" "ถ้าไม่มีอะไรผิดบาดแผลสนิทดี ไข้ไม่มี ทุกอย่างปกติสองวันก็กลับได้แล้ว" "อ่อ" "ได้เวลาประคบเจลเย็นที่แผลหน้าท้องแล้ว อะพยาบาลมาพอดี" "คุณหมอคะคุณไข้ถึงเวลาประคบเจลที่แผลแล้วค่ะ พาพร้อมเปลี่ยนน้ำเกลือ และยาแก้ไข้ที่คุณหมอสั่งค่ะ" "งั้นก็ฝากพี่พยาบาลด้วยนะคะ" ฉันบอกพี่พยาบาลที่ถือเจลประคบเย็นเข้ามาพร้อมกับเตรียมของมาอย่างครบถ้วน แต่คนที่นอนอยู่บนเตียงกลับพูดออกมาเสียงดังไม่พอใจ "ไม่ต้องเมียผมเป็นหมอเดี๋ยวเมียผมทำให้คุณออกไปเถอะ!!" ฉันมองหน้าเขาก่อนจะหันไปมองพี่พยาบาลตอนนี้ที่หลุดยิ้มออกมา "นี่คุณจริงๆ อันนี้มันไม่ต้องถึงมือหมอนะพยาบาลเขาทำให้ได้ คุณให้ความร่วมมือกับทางเราสักครั้งเถอะค่ะ" "คุณเป็นเมียผมทำไมต้องให้คนอื่นทำให้ด้วยมาเร็วๆยิ่งพูดนานยิ่งเลยเวลาเนี่ย" "นี่ค่ะคุณหมอ" พี่พยาบาลยื่นเจลมาตรงหน้าก่อนจะยิ้มๆ พร้อมกับจัดการเปลี่ยนน้ำเกลือให้ใหม่ หลังจากนั้นพี่เขาก็ขอตัวออกไปด้านนอก "นี่คุณทำไมต้องพูดต่อหน้าคนอื่นว่าฉันเป็นเมียคุณด้วยห๊ะคุณรู้ไหมฉันเสียหายคนอื่นก็เข้าใจผิดกันหมดพอดี" "ก็ผมบอกว่าผมจะจีบคุณยังอีกไม่นานคุณก็เป็นแฟนผมอยู่ดีจะได้ไม่ต้องเสียเวลาแนะนำอีกไงแนะนำไปเลยตอนนี้" "เห้อออนี่ฉันอายุมากกว่าคุณนะเผื่อลืม" "คุณอายุเท่าไร" "25 ฉันอายุมากกว่าคุณก็เรียกฉันพี่ด้วย และขอโทษฉันที่ทำอะไรล่วงเกินฉันด้วย" "หึมากกว่าผมแค่ 4 ปีเองพี่ผมห่างกับผมมากกว่าหมออีกผมยังไม่เรียกพี่เลยแล้วอีกอย่างหมออะว่าที่เมียผมไม่ต้องเรียกก็ได้ อยู่กันไปก็สนิทกันเอง อายุไม่เห็นเกี่ยวในความสัมพันธ์ของความรักเลย คนสองคนต่างหากที่เกี่ยว" ฉันมองบนพร้อมกับนับหนึ่งถึงสิบอยู่ในใจพูดไอ้บ้านี่ก็ไม่ได้นึกหรอกดูแล้วอะ ฉันคงแพ้แหละทำใจไว้นานแล้วดูท่าทางไม่น่าจะมีโอกาสชนะ "ฉันว่าหยุดพูดแล้วประคบแผลเถอะ" ฉันพูดก่อนจะปลดกระดุมชุดผู้ป่วยของทางโรงพยาบาลออกสองสามเม็ดพร้อมกับเอาเจลเย็นประคบแผลให้เขาโดยที่คนก็พูดอยู่นั่นอะเหมือนไม่เหนื่อยจนสักพักเสียงเขาก็หายไปฉันเลยเงยหน้ามองก็เห็นว่าเขาหลับไปแล้วเรียบร้อย "เห้อ นายนี่น่าจะบ้าอายุแค่นี้จะมาจีบฉันเนี่ยนะหึ โตกว่านี้ให้ได้ก่อนเถอะ เด็กน้อยเอ๊ย" ฉันส่ายหัวก่อนจะมานั่งที่โซฟาจนสักพักรู้สึกง่วงเลยนอนหลับไปที่โซฟา ผมตื่นมาอีกทีก็ตี 5 ก็มองหาร่างบางจนเห็นว่านอนหลับอยู่บนโซฟาสักพักก็มีพยาบาลเดินถือแผ่นเจลประคบเข้ามาในห้อง "เออจะให้ปลุกคุณหมอไหมคะหรือให้พี่ทำให้" "ไม่ต้องก็ได้ครับเดี๋ยวผมทำเอง" "โอเคค่ะงั้นขอวัดไข้หน่อยนะคะ" "ครับ" พยาบาลยิ้มให้ผมก่อนจะลงมือวัดไข้หลังจากวัดเสร็จผมก็บอกกับพี่พยาบาลที่กำลังเก็บของจะเดินออกไป ผมเลยเรียกเขาไว้และพูดเบาๆ เราะกลัวคนตัวเล็กที่หลับอยู่จะตื่น "เออพี่พยาบาลครับ" "ว่าไงคะต้องการอะไรหรือเปล่า" "รบกวนพี่ห่มผ้าให้หมอดีๆหน่อยได้ไหมครับผ้าห่มมันหล่นนอนขดเป็นหนอนเลย ดูแลแต่คนอื่นตัวเองไม่เคยจะดูแล" พี่พยาบาลหันไปมองก่อนจะขำออกมาเบาๆ พร้อมกับหันมาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่เยาเหมือนกันเป็นเชิงล้อๆ "หึหึได้ค่ะเป็นห่วงคุณหมอน่าดูเลยนะคะ" "ผมไม่ห่วงว่าที่แฟนจะให้ห่วงใครละครับ" "อื้ออพี่จิ้นนะคะเนี่ยพี่เชียร์อยู่นะ" "หึหึขอบคุณครับ ผมจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังถ้าพี่พนันพี่เตรียมตังชนะได้เลย" พี่พยาบาลห่มผ้าให้ร่างบางที่นอนขดอยู่บนโซฟาก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับปิดไฟให้ด้วยแต่ตอนนี้มันเริ่มจะเช้าแล้วก็มีแสงลอดเข้ามาทำให้เห็นกันโดยไม่ต้องเปิดไฟ ผมจัดการประคบเจลที่หน้าท้องก่อนจะมองไปยังร่างบางที่นอนอยู่ตอนนอนนี่ดูเป็นผู้หญิงสวยสดใสพอตื่นเท่านั้นแหละเถียงเป็นเด็กๆแล้วบอกว่าโต ผมรู้ว่าถ้าเธอไม่ได้ทำงานหรืออยู่ในหน้าที่ปากน่าจะแซ่บกว่านี้รับประกันได้ ผมมองไปสักพักก่อนจะเห็นร่างบางลุกขึ้นนั่งพร้อมกับหรี่ตามองมาที่ผมเหมือนปรับสายตาให้ชินกับแสงภายในห้อง หัวก็ยุ่งไปหมด พร้อมกับถามผมด้วยน้ำเสียงที่ยังงัวเงียปนมานิด "ทำอะไร" "ประคบเจลที่แผลแล้วทำไมตื่นไวอะ เสียงดังเหรอ" "ไวอะไร เผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ นี่จะหกโมงแล้วเหรอเนี่ยเดี๋ยวจะไปอาบน้ำแต่งตัว" "อาบที่ไหน" "เออนั่นสิ ที่นี่มีห้องอาบน้ำแหละมั้ง ในห้องเวรก็น่าจะมีเดี๋ยวลองถามพี่พยาบาล" "ไปเอาเสื้อผ้ามาอาบห้องนี้แหละ นู้นห้องน้ำ จะได้ไม่ต้องเดินหาที่อาบน้ำ" "อืม" ฉันพยักหน้าเพราะครั้งนี้ก็เห็นด้วยในความคิดเขาเพระต้องเสียเวลาเดินหาอีกเดี๋ยวต้องทำความเคยชิน แล้วที่สำคัญจะได้เวลาไปราวด์วอร์ดคนไข้แล้วด้วย ฉันปรับตาให้ชินกับแสงก่อนจะเดินออกจากห้องมาและไปเอาอุปกรณ์ของใช้ในรถก่อนจะเดินขึ้นมาที่ห้องพอมาถึงก็เห็นคนตัวสูงกินข้าวที่โรงพยาบาลจัดให้ก่อนจะถามไปที่เขาด้วยน้ำเสียงที่พอจะได้ยินกันสองคน "พยาบาลเข้ามาวัดไข้หรือยัง" ฉันถามคนตัวสูงที่ตอนนี้ตาจ้องอยู่ที่ทีวีโดยไม่ได้สนใจข้าวหนักตาก็ดูมือก็กิน ก่อนเขาจะตอบฉันกลับมาด้วยน้ำเสียงโทนเดียวกัน "มาวัดไปแล้ว" "เขาบอกว่าไง เขาอธิบายอาการอะไรไหม เมื่อกี้ไปข้างนอกพี่เขาไม่อยู่สงสัยไปพัก" "ไม่รู้อะ ไม่ได้ฟังดูหนังอยู่ เห็นพูดอะไรก็ไม่รู้" คนที่นั่งอยู่บนเตียงตอบออกมาด้วยท่าทีไม่ใส่ใจไอ้บ้านี่พยาบาลพูดอาการตัวเองยังไม่ฟังอีก ฉันส่ายหัวก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกายให้สดชื่น หลังจากอาบน้ำแต่งตัวแต่งหน้าเสร็จก็เกือบจะครึ่งชั่วโมงได้แหละมั้งพอเสร็จก็เก็บของใส่กระเป๋าเรียบร้อยและเดินออกมาพร้อมกับวางกระเป๋าของใช้ที่โซฟาก่อนจะเดินมาหาคนตัวสูงที่จ้องทีวีตาไม่กะพริบ "นี่คุณวัดไข้ถ้าวัดอีกสักรอบหนึ่งแล้วกัน ถ้าครั้งนี้ไม่เป็นคือปกติแล้ว ไม่น่าจะมีไข้แล้ว" "อืม" ฉันหยิบอุปกรณ์ก่อนจะทำการวัดไข้โดยใช้ปรอทวัดที่รักแร้ก่อนจะได้ยินเสียงแจ้งเตื่อนแสดงถึงการมีไข้ "มีไข้เดี๋ยวจะให้ยาเพิ่ม" "อยากอาบน้ำอะได้กลิ่นครีมอาน้ำหมอแล้วอยากอาบบ้าง" ฉันหยิบปรอทวางไว้ในลิ้นชักก่อนจะมองไปที่คนตัวสูงที่พูดออกมาเหมือนไม่คิดอะไรอะ หรือฉันคิดมากไปหรือเพราะเขาไม่คิดอะไรเลยกันแน่ก็ไม่รู้ "นี่พูดอะไร" "ก็จริงอะตัวหมอโคตรหอมเลย" "ฉันว่าคุณโรคจิตแน่ๆ" "หึ เมื่อวานก็บอกประสาทวันนี้บอกโรคจิตต่อไปก็คงบ้าอะ" "อ้าวคนไข้รู้ตัวด้วยเหรอคะ รีบบอกครอบครัวนะคะหมอแนะนำ" "นี่หมอ" "จะเช็ดตัวไหมล่ะ เดี๋ยวบอกพยาบาลให้ จะได้สดชื่น" "หมอนั่นแหละที่ต้องเช็ดให้ผมอะรับปากกับลุงผมแล้วจะเบี้ยวเหรอครับ" "เฮ้อออ งั้นจะเช็ดก็รีบเช็ดฉันจะลงไปกินข้าวเดี๋ยวต้องไปราวด์วอร์ดคนไข้" "คือ" "การตรวจเยี่ยมผู้ป่วยในห้องพักผู้ป่วย" "อ่อเคงั้นเช็ดเลยเดี๋ยวลงไปกินข้าวด้วย" "ไม่ต้องแผลที่หน้าท้องคุณกำลังจะเริ่มดีเดี๋ยวก็ได้เวลาประคบเย็นแล้วมันจะได้หายทีละอย่าง" "เฮ้อออ ออกไปได้นะฆ่าแม่งให้หมดแบบนี้ใช้ชีวิตลำบากโคตร" ฉันมองคนตัวสูงที่ตอนนี้เขาเริ่มน่ากลัวขึ้นแววตาไม่มีการเล่นใดๆเลย บงบอกถึงอารมณ์ได้อย่างชัดเจน ฉันเดินมาเตรียมอุปกรณ์ก่อนจะเดินมาหาคนเรื่องมากพร้อมกับลงมือถอดเสื้อให้เขาและทำการเช็ดตัวอย่างเบามือ "ผมนี่ตาถึงจริงๆเลยที่เลือกหมอมาเป็นเมีย" "นี่หยุดพูดได้แล้วพูดอะไรบ้าๆ" "หึ" ผมขำออกมาในลำคอเพราะมองร่างบางตรงหน้าที่เช็ดตัวให้อย่างเก้ๆกังๆจนเสร็จเรียบร้อย "อยู่กับพยาบาลไปก่อนนะมีอะไรก็เรียกได้เลย" "แล้วจะไปไหน" "ไปกินข้าวและไปตรวจคนไข้คนอื่นๆ" "ไม่ต้อง กินข้าวแล้วขึ้นมาหาผมตรวจผมคนเดียวพอ ผมเป็นคนไข้คนเดียวของหมอนะ" "ฉันเป็นหมอจะให้มาดูแลแต่คุณได้ยังไง คนไข้คนอื่นของฉันก็มีค่ะ แล้วหลังจากราวด์วอร์ดเสร็จ ฉันก็ต้องไปตรวจคนไข้ จะมาดูแลคุณได้อีกทีช่วงเย็น เข้าใช่ไหมคะ” "ทำตามที่สั่งก่อน กินข้าวแล้วมาหาผมคนไข้คนอื่นก็ส่งต่อให้หมอคนอื่นดูแลแทน" ฉันมองหน้าเขาอย่างโกรธๆก่อนจะพูดกับเขาเสียงดัง "ฉันทำหน้าที่ของฉันถ้าคุณไม่พอใจก็เปลี่ยนหมอได้นะคะ!! ฉันไม่ได้ซีอะไร หมอรับเคสต่อมีพอสมควร" ฉันพูดจบก่อนจะเดินออกมาด้วยอารมณ์ที่มันเกินคำว่าโมโหไปแล้วแหละ ต้องใช่คำว่าอะไรดี ประสาทจะกินอะใช้ได้ไหมอะเธอ ให้ตายเถอะ ไม่รู้ว่าตอนขึ้นเครื่องกลับมาก้าวเท้าข้างไหนออกจากประเทศ ผมมองคนตัวดีที่กล้าขัดคำสั่งแล้วจะรู้ว่าผมพูดจริงทำจริงอ่อวิธีนี้มันอาจจะชั่วช้าไปบ้างแต่ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอนะอย่าทำทำตามให้ผมเลวคนเดียวก็พอ "ฮัลโหลผม ชัชนันต์ ภักดีวัฒนากุล หลานชายผู้บริหาร" (เออ ค่ะคุณชัชนันท์ต้องการอะไรคะ) "ผมต้องการให้หมอปานิศามาดูแลผมและคนไข้ของหมอปานิศาย้ายไปให้หมอคนอื่นดูแลให้หมด" (อ่อได้ค่ะๆจะรีบจัดการให้ค่ะ รอสักครู่นะคะ) ผมยิ้มมุมปากก่อนจะนอนดูทีวีอย่างสบายใจ และนอนนับเวลากับตัวเองอยู่ในใจ สักพักก็ได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามาพร้อมกับปิดแรงๆไม่ต้องถามก็รู้ว่าใคร "คุณทำบ้าอะไรของคุณ!!!!" ฉันเดินกำมืออย่างโมโหมาตรงเตียงที่มือคนตัวสูงนอนดูทีวีอยู่อย่างไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด ก่อนเขาจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ดังเกือบจะเท่ากัน "ก่อนออกไปผมบอกคุณว่าไง!!" "คุณมันเห็นแก่ตัว!!" "หึ ผมอะต้องการอะไรก็ต้องได้ไปปอกผลไม้ในตู้ให้ผมกินหน่อย" "ฉันเรียนหมอมาเพื่อมาตรวจคนไข้ไม่ได้เรียนมาเพื่อปอกผลไม้ให้คนไข้อย่างคุณทาน" "ผมสั่งให้ไปทำ!!!" ฉันมองคนตัวสูงก่อนจะตอบเขากลับไปอย่างเร็ว "ฉันไม่ทำ!!! ก็ดีฉันจะนั่งเฝ้าคุณเฉยๆ ยังไงโรงพยาบาลนี้ก็เป็นของลุงคุณอยู่แล้วจะจ้างฉันมานั่งเล่นรับเงินเดือนเยอะๆก็ดีเหมือนกัน แล้วบอกไว้ก่อนนะเงินเดือนที่หมอผ่าตัดอย่างฉันได้เนี่ยหลายหลักเหมือนกัน แต่หลานผู้บริหารอยากให้ฉันอยู่เฉยๆ ก็ดีฉันก็ชอบเหมือนกัน ถ้าคนที่เขาคิดออกเขาจะไม่ค่อยทำกันหรอกคุณว่าไหมคะ" ฉันพูดพร้อมกับจ้องหน้าเขาอย่างไม่มีใครยอมใคร ฉันก็หมดความอดทนแล้วเหมือนกัน นี่ก็พยายามที่สุด ที่สุดมากๆแล้วอะ "คุณยั่วโมโหผมเองนะ!!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD