ฉันมองคนตัวสูงก่อนจะตอบเขากลับไปด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรที่สุดแล้วมั้งตั้งแต่คุยกันมา
"ไม่หรอกชินแล้ว"
"ไม่มีเวลาพักทั้งคืนแบบนี้อะนะวันหยุดก็ไม่มี"
"ก็นั่นเป็นหน้าที่ของหมอคุณจะให้ทำยังไง หมอและพยาบาลทุกคนก็รู้ข้อนี้กันหมดแล้วค่ะ ไม่มีอะไรที่น่าแปลกหรือตื่นเต้น หรือจะเปลี่ยนแปลงได้หรอกค่ะ"
ฉันพูดพร้อมกับวัดไข้คนตัวสูงที่นอนถามคำถามอยู่บนเตียงก่อนจะทำหน้ากวนๆ และหันมาตอบ
"ผมมีวิธี"
ฉันกอดอกพร้อมกับถามคนตรงหน้าอย่างงงๆ และถามเขาออกไปด้วยน้ำเสียงที่สงสัย วิธีอะไรมันก็ไม่มีทั้งนั้นแหละฉันทำงานมาฉันรู้ดี แต่ก็อยากจะฟังเขาว่าเขาจะตอบมาอย่างไง
"วิธีอะไร"
"วิธีที่หมอจะไม่ต้องเหนื่อยไม่ต้องเข้าเวรไง"
"มันไม่มีวิธีหรอกคุณบ้าไปแล้วหรือไง นอนพักเถอะฉันว่าร่างกายคุณต้องการพักผ่อน"
"มีสิ"
"อะ พูดมา จะได้จบๆไป"
"ลาออกสิหมอ"
อืมนี่เขาคิดว่าเป็นคำตอบที่ดีที่สุดแล้วงั้นสิ หึ นี่ฉันเสียเวลามานั่งฟังเขาพูดคำนี้เนี่ยนะ ฉันมองคนที่อยู่บนเตียงพร้อมกับหยิกที่แขนเขาเเรงๆ จนคนตัวสูงร้องโอดโอยออกมา
"โอ๊ยยยย ลาออกมาเป็นเมียผมมั้ยละมีเงินให้ใช้อยากได้อะไรเดี๋ยวจัดให้หมดเลยจริง"
"คุณนี่น่าจะเป็นประสาทจริงนะฉันว่าสนใจตรวจหน่อยไหมพรุ่งนี้จะส่งตัวไปตรวจ เดี๋ยวจะเขียนบอกเขาไว้ อาการคุณน่าจะหนักอยู่พอสมควร ควรรีบไปรักษานะคะ ปล่อยไว้มันจะเรื้องรัง"
"เอ้า!! ผมพูดจริงนะเนี่ยไม่เคยให้ตัวเลือกใครแบบนี้เลยนะหมออะคนเเรกเลยนะ พร้อมเมื่อไหร่บอกผมเลย ผมนี่จริงจังแล้วก็จริงใจกับหมอนะ"
"ขอบคุณมากๆนะคะคุณชัชนันต์ แต่หมอยังอยากทำงานและดูแลตัวเองได้ไม่รบกวนคุณดีกว่าค่ะ ขอบคุณในความจริงจังแล้วก็จริงใจนะคะ"
"หึ!! เสียใจด้วยนะเพราะผมจะจีบหมอแบบจริงจัง"
"เห้ออฉันว่าคุณนอนพักเถอะฉันจะไปนั่งตรงโซฟามีอะไรก็เรียกแล้วกัน"
"เดี๋ยว!!"
คนตัวสูงใช่มือเขามาจับไว้ที่ต้นแขนฉัน ฉันมองเขาก่อนจะแกะมือเขาออกแต่มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
"อะไรของคุณ!!"
"หึหึ ไม่ต้องตกใจขนาดนั้นก็ได้ผมยังไม่ได้ทำอะไรหมอเลย"
"แล้วคุณมีอะไรพูดเฉยๆก็ได้ปล่อยแขนฉันได้แล้ว"
"แค่จะถามหมอว่าอีกกี่วันผมถึงจะกลับบ้านได้อะ"
"ถ้าไม่มีอะไรผิดบาดแผลสนิทดี ไข้ไม่มี ทุกอย่างปกติสองวันก็กลับได้แล้ว"
"อ่อ"
"ได้เวลาประคบเจลเย็นที่แผลหน้าท้องแล้ว อะพยาบาลมาพอดี"
"คุณหมอคะคุณไข้ถึงเวลาประคบเจลที่แผลแล้วค่ะ พาพร้อมเปลี่ยนน้ำเกลือ และยาแก้ไข้ที่คุณหมอสั่งค่ะ"
"งั้นก็ฝากพี่พยาบาลด้วยนะคะ"
ฉันบอกพี่พยาบาลที่ถือเจลประคบเย็นเข้ามาพร้อมกับเตรียมของมาอย่างครบถ้วน แต่คนที่นอนอยู่บนเตียงกลับพูดออกมาเสียงดังไม่พอใจ
"ไม่ต้องเมียผมเป็นหมอเดี๋ยวเมียผมทำให้คุณออกไปเถอะ!!"
ฉันมองหน้าเขาก่อนจะหันไปมองพี่พยาบาลตอนนี้ที่หลุดยิ้มออกมา
"นี่คุณจริงๆ อันนี้มันไม่ต้องถึงมือหมอนะพยาบาลเขาทำให้ได้ คุณให้ความร่วมมือกับทางเราสักครั้งเถอะค่ะ"
"คุณเป็นเมียผมทำไมต้องให้คนอื่นทำให้ด้วยมาเร็วๆยิ่งพูดนานยิ่งเลยเวลาเนี่ย"
"นี่ค่ะคุณหมอ"
พี่พยาบาลยื่นเจลมาตรงหน้าก่อนจะยิ้มๆ พร้อมกับจัดการเปลี่ยนน้ำเกลือให้ใหม่ หลังจากนั้นพี่เขาก็ขอตัวออกไปด้านนอก
"นี่คุณทำไมต้องพูดต่อหน้าคนอื่นว่าฉันเป็นเมียคุณด้วยห๊ะคุณรู้ไหมฉันเสียหายคนอื่นก็เข้าใจผิดกันหมดพอดี"
"ก็ผมบอกว่าผมจะจีบคุณยังอีกไม่นานคุณก็เป็นแฟนผมอยู่ดีจะได้ไม่ต้องเสียเวลาแนะนำอีกไงแนะนำไปเลยตอนนี้"
"เห้อออนี่ฉันอายุมากกว่าคุณนะเผื่อลืม"
"คุณอายุเท่าไร"
"25 ฉันอายุมากกว่าคุณก็เรียกฉันพี่ด้วย และขอโทษฉันที่ทำอะไรล่วงเกินฉันด้วย"
"หึมากกว่าผมแค่ 4 ปีเองพี่ผมห่างกับผมมากกว่าหมออีกผมยังไม่เรียกพี่เลยแล้วอีกอย่างหมออะว่าที่เมียผมไม่ต้องเรียกก็ได้ อยู่กันไปก็สนิทกันเอง อายุไม่เห็นเกี่ยวในความสัมพันธ์ของความรักเลย คนสองคนต่างหากที่เกี่ยว"
ฉันมองบนพร้อมกับนับหนึ่งถึงสิบอยู่ในใจพูดไอ้บ้านี่ก็ไม่ได้นึกหรอกดูแล้วอะ ฉันคงแพ้แหละทำใจไว้นานแล้วดูท่าทางไม่น่าจะมีโอกาสชนะ
"ฉันว่าหยุดพูดแล้วประคบแผลเถอะ"
ฉันพูดก่อนจะปลดกระดุมชุดผู้ป่วยของทางโรงพยาบาลออกสองสามเม็ดพร้อมกับเอาเจลเย็นประคบแผลให้เขาโดยที่คนก็พูดอยู่นั่นอะเหมือนไม่เหนื่อยจนสักพักเสียงเขาก็หายไปฉันเลยเงยหน้ามองก็เห็นว่าเขาหลับไปแล้วเรียบร้อย
"เห้อ นายนี่น่าจะบ้าอายุแค่นี้จะมาจีบฉันเนี่ยนะหึ โตกว่านี้ให้ได้ก่อนเถอะ เด็กน้อยเอ๊ย"
ฉันส่ายหัวก่อนจะมานั่งที่โซฟาจนสักพักรู้สึกง่วงเลยนอนหลับไปที่โซฟา
ผมตื่นมาอีกทีก็ตี 5 ก็มองหาร่างบางจนเห็นว่านอนหลับอยู่บนโซฟาสักพักก็มีพยาบาลเดินถือแผ่นเจลประคบเข้ามาในห้อง
"เออจะให้ปลุกคุณหมอไหมคะหรือให้พี่ทำให้"
"ไม่ต้องก็ได้ครับเดี๋ยวผมทำเอง"
"โอเคค่ะงั้นขอวัดไข้หน่อยนะคะ"
"ครับ"
พยาบาลยิ้มให้ผมก่อนจะลงมือวัดไข้หลังจากวัดเสร็จผมก็บอกกับพี่พยาบาลที่กำลังเก็บของจะเดินออกไป ผมเลยเรียกเขาไว้และพูดเบาๆ เราะกลัวคนตัวเล็กที่หลับอยู่จะตื่น
"เออพี่พยาบาลครับ"
"ว่าไงคะต้องการอะไรหรือเปล่า"
"รบกวนพี่ห่มผ้าให้หมอดีๆหน่อยได้ไหมครับผ้าห่มมันหล่นนอนขดเป็นหนอนเลย ดูแลแต่คนอื่นตัวเองไม่เคยจะดูแล"
พี่พยาบาลหันไปมองก่อนจะขำออกมาเบาๆ พร้อมกับหันมาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่เยาเหมือนกันเป็นเชิงล้อๆ
"หึหึได้ค่ะเป็นห่วงคุณหมอน่าดูเลยนะคะ"
"ผมไม่ห่วงว่าที่แฟนจะให้ห่วงใครละครับ"
"อื้ออพี่จิ้นนะคะเนี่ยพี่เชียร์อยู่นะ"
"หึหึขอบคุณครับ ผมจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังถ้าพี่พนันพี่เตรียมตังชนะได้เลย"
พี่พยาบาลห่มผ้าให้ร่างบางที่นอนขดอยู่บนโซฟาก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับปิดไฟให้ด้วยแต่ตอนนี้มันเริ่มจะเช้าแล้วก็มีแสงลอดเข้ามาทำให้เห็นกันโดยไม่ต้องเปิดไฟ
ผมจัดการประคบเจลที่หน้าท้องก่อนจะมองไปยังร่างบางที่นอนอยู่ตอนนอนนี่ดูเป็นผู้หญิงสวยสดใสพอตื่นเท่านั้นแหละเถียงเป็นเด็กๆแล้วบอกว่าโต ผมรู้ว่าถ้าเธอไม่ได้ทำงานหรืออยู่ในหน้าที่ปากน่าจะแซ่บกว่านี้รับประกันได้
ผมมองไปสักพักก่อนจะเห็นร่างบางลุกขึ้นนั่งพร้อมกับหรี่ตามองมาที่ผมเหมือนปรับสายตาให้ชินกับแสงภายในห้อง หัวก็ยุ่งไปหมด พร้อมกับถามผมด้วยน้ำเสียงที่ยังงัวเงียปนมานิด
"ทำอะไร"
"ประคบเจลที่แผลแล้วทำไมตื่นไวอะ เสียงดังเหรอ"
"ไวอะไร เผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ นี่จะหกโมงแล้วเหรอเนี่ยเดี๋ยวจะไปอาบน้ำแต่งตัว"
"อาบที่ไหน"
"เออนั่นสิ ที่นี่มีห้องอาบน้ำแหละมั้ง ในห้องเวรก็น่าจะมีเดี๋ยวลองถามพี่พยาบาล"
"ไปเอาเสื้อผ้ามาอาบห้องนี้แหละ นู้นห้องน้ำ จะได้ไม่ต้องเดินหาที่อาบน้ำ"
"อืม"
ฉันพยักหน้าเพราะครั้งนี้ก็เห็นด้วยในความคิดเขาเพระต้องเสียเวลาเดินหาอีกเดี๋ยวต้องทำความเคยชิน แล้วที่สำคัญจะได้เวลาไปราวด์วอร์ดคนไข้แล้วด้วย
ฉันปรับตาให้ชินกับแสงก่อนจะเดินออกจากห้องมาและไปเอาอุปกรณ์ของใช้ในรถก่อนจะเดินขึ้นมาที่ห้องพอมาถึงก็เห็นคนตัวสูงกินข้าวที่โรงพยาบาลจัดให้ก่อนจะถามไปที่เขาด้วยน้ำเสียงที่พอจะได้ยินกันสองคน
"พยาบาลเข้ามาวัดไข้หรือยัง"
ฉันถามคนตัวสูงที่ตอนนี้ตาจ้องอยู่ที่ทีวีโดยไม่ได้สนใจข้าวหนักตาก็ดูมือก็กิน ก่อนเขาจะตอบฉันกลับมาด้วยน้ำเสียงโทนเดียวกัน
"มาวัดไปแล้ว"
"เขาบอกว่าไง เขาอธิบายอาการอะไรไหม เมื่อกี้ไปข้างนอกพี่เขาไม่อยู่สงสัยไปพัก"
"ไม่รู้อะ ไม่ได้ฟังดูหนังอยู่ เห็นพูดอะไรก็ไม่รู้"
คนที่นั่งอยู่บนเตียงตอบออกมาด้วยท่าทีไม่ใส่ใจไอ้บ้านี่พยาบาลพูดอาการตัวเองยังไม่ฟังอีก ฉันส่ายหัวก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกายให้สดชื่น
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวแต่งหน้าเสร็จก็เกือบจะครึ่งชั่วโมงได้แหละมั้งพอเสร็จก็เก็บของใส่กระเป๋าเรียบร้อยและเดินออกมาพร้อมกับวางกระเป๋าของใช้ที่โซฟาก่อนจะเดินมาหาคนตัวสูงที่จ้องทีวีตาไม่กะพริบ
"นี่คุณวัดไข้ถ้าวัดอีกสักรอบหนึ่งแล้วกัน ถ้าครั้งนี้ไม่เป็นคือปกติแล้ว ไม่น่าจะมีไข้แล้ว"
"อืม"
ฉันหยิบอุปกรณ์ก่อนจะทำการวัดไข้โดยใช้ปรอทวัดที่รักแร้ก่อนจะได้ยินเสียงแจ้งเตื่อนแสดงถึงการมีไข้
"มีไข้เดี๋ยวจะให้ยาเพิ่ม"
"อยากอาบน้ำอะได้กลิ่นครีมอาน้ำหมอแล้วอยากอาบบ้าง"
ฉันหยิบปรอทวางไว้ในลิ้นชักก่อนจะมองไปที่คนตัวสูงที่พูดออกมาเหมือนไม่คิดอะไรอะ หรือฉันคิดมากไปหรือเพราะเขาไม่คิดอะไรเลยกันแน่ก็ไม่รู้
"นี่พูดอะไร"
"ก็จริงอะตัวหมอโคตรหอมเลย"
"ฉันว่าคุณโรคจิตแน่ๆ"
"หึ เมื่อวานก็บอกประสาทวันนี้บอกโรคจิตต่อไปก็คงบ้าอะ"
"อ้าวคนไข้รู้ตัวด้วยเหรอคะ รีบบอกครอบครัวนะคะหมอแนะนำ"
"นี่หมอ"
"จะเช็ดตัวไหมล่ะ เดี๋ยวบอกพยาบาลให้ จะได้สดชื่น"
"หมอนั่นแหละที่ต้องเช็ดให้ผมอะรับปากกับลุงผมแล้วจะเบี้ยวเหรอครับ"
"เฮ้อออ งั้นจะเช็ดก็รีบเช็ดฉันจะลงไปกินข้าวเดี๋ยวต้องไปราวด์วอร์ดคนไข้"
"คือ"
"การตรวจเยี่ยมผู้ป่วยในห้องพักผู้ป่วย"
"อ่อเคงั้นเช็ดเลยเดี๋ยวลงไปกินข้าวด้วย"
"ไม่ต้องแผลที่หน้าท้องคุณกำลังจะเริ่มดีเดี๋ยวก็ได้เวลาประคบเย็นแล้วมันจะได้หายทีละอย่าง"
"เฮ้อออ ออกไปได้นะฆ่าแม่งให้หมดแบบนี้ใช้ชีวิตลำบากโคตร"
ฉันมองคนตัวสูงที่ตอนนี้เขาเริ่มน่ากลัวขึ้นแววตาไม่มีการเล่นใดๆเลย บงบอกถึงอารมณ์ได้อย่างชัดเจน
ฉันเดินมาเตรียมอุปกรณ์ก่อนจะเดินมาหาคนเรื่องมากพร้อมกับลงมือถอดเสื้อให้เขาและทำการเช็ดตัวอย่างเบามือ
"ผมนี่ตาถึงจริงๆเลยที่เลือกหมอมาเป็นเมีย"
"นี่หยุดพูดได้แล้วพูดอะไรบ้าๆ"
"หึ"
ผมขำออกมาในลำคอเพราะมองร่างบางตรงหน้าที่เช็ดตัวให้อย่างเก้ๆกังๆจนเสร็จเรียบร้อย
"อยู่กับพยาบาลไปก่อนนะมีอะไรก็เรียกได้เลย"
"แล้วจะไปไหน"
"ไปกินข้าวและไปตรวจคนไข้คนอื่นๆ"
"ไม่ต้อง กินข้าวแล้วขึ้นมาหาผมตรวจผมคนเดียวพอ ผมเป็นคนไข้คนเดียวของหมอนะ"
"ฉันเป็นหมอจะให้มาดูแลแต่คุณได้ยังไง คนไข้คนอื่นของฉันก็มีค่ะ แล้วหลังจากราวด์วอร์ดเสร็จ ฉันก็ต้องไปตรวจคนไข้ จะมาดูแลคุณได้อีกทีช่วงเย็น เข้าใช่ไหมคะ”
"ทำตามที่สั่งก่อน กินข้าวแล้วมาหาผมคนไข้คนอื่นก็ส่งต่อให้หมอคนอื่นดูแลแทน"
ฉันมองหน้าเขาอย่างโกรธๆก่อนจะพูดกับเขาเสียงดัง
"ฉันทำหน้าที่ของฉันถ้าคุณไม่พอใจก็เปลี่ยนหมอได้นะคะ!! ฉันไม่ได้ซีอะไร หมอรับเคสต่อมีพอสมควร"
ฉันพูดจบก่อนจะเดินออกมาด้วยอารมณ์ที่มันเกินคำว่าโมโหไปแล้วแหละ ต้องใช่คำว่าอะไรดี ประสาทจะกินอะใช้ได้ไหมอะเธอ ให้ตายเถอะ ไม่รู้ว่าตอนขึ้นเครื่องกลับมาก้าวเท้าข้างไหนออกจากประเทศ
ผมมองคนตัวดีที่กล้าขัดคำสั่งแล้วจะรู้ว่าผมพูดจริงทำจริงอ่อวิธีนี้มันอาจจะชั่วช้าไปบ้างแต่ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอนะอย่าทำทำตามให้ผมเลวคนเดียวก็พอ
"ฮัลโหลผม ชัชนันต์ ภักดีวัฒนากุล หลานชายผู้บริหาร"
(เออ ค่ะคุณชัชนันท์ต้องการอะไรคะ)
"ผมต้องการให้หมอปานิศามาดูแลผมและคนไข้ของหมอปานิศาย้ายไปให้หมอคนอื่นดูแลให้หมด"
(อ่อได้ค่ะๆจะรีบจัดการให้ค่ะ รอสักครู่นะคะ)
ผมยิ้มมุมปากก่อนจะนอนดูทีวีอย่างสบายใจ และนอนนับเวลากับตัวเองอยู่ในใจ สักพักก็ได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามาพร้อมกับปิดแรงๆไม่ต้องถามก็รู้ว่าใคร
"คุณทำบ้าอะไรของคุณ!!!!"
ฉันเดินกำมืออย่างโมโหมาตรงเตียงที่มือคนตัวสูงนอนดูทีวีอยู่อย่างไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด ก่อนเขาจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ดังเกือบจะเท่ากัน
"ก่อนออกไปผมบอกคุณว่าไง!!"
"คุณมันเห็นแก่ตัว!!"
"หึ ผมอะต้องการอะไรก็ต้องได้ไปปอกผลไม้ในตู้ให้ผมกินหน่อย"
"ฉันเรียนหมอมาเพื่อมาตรวจคนไข้ไม่ได้เรียนมาเพื่อปอกผลไม้ให้คนไข้อย่างคุณทาน"
"ผมสั่งให้ไปทำ!!!"
ฉันมองคนตัวสูงก่อนจะตอบเขากลับไปอย่างเร็ว
"ฉันไม่ทำ!!! ก็ดีฉันจะนั่งเฝ้าคุณเฉยๆ ยังไงโรงพยาบาลนี้ก็เป็นของลุงคุณอยู่แล้วจะจ้างฉันมานั่งเล่นรับเงินเดือนเยอะๆก็ดีเหมือนกัน แล้วบอกไว้ก่อนนะเงินเดือนที่หมอผ่าตัดอย่างฉันได้เนี่ยหลายหลักเหมือนกัน แต่หลานผู้บริหารอยากให้ฉันอยู่เฉยๆ ก็ดีฉันก็ชอบเหมือนกัน ถ้าคนที่เขาคิดออกเขาจะไม่ค่อยทำกันหรอกคุณว่าไหมคะ"
ฉันพูดพร้อมกับจ้องหน้าเขาอย่างไม่มีใครยอมใคร ฉันก็หมดความอดทนแล้วเหมือนกัน นี่ก็พยายามที่สุด ที่สุดมากๆแล้วอะ
"คุณยั่วโมโหผมเองนะ!!"