Episode : 1
"สวัสดีค่ะ พอดีทำงานวันแรกหมอต้องรายงานตัวที่ไหนเหรอคะ"
สวัสดีฉัน หมอพรีช หรือ พญ.ปานิศา ประกาศิตานนท์บางคนก็รู้จักฉันมาบ้างแล้วแต่แนะอีกทีเผื่อใครยังไม่รู้ฉันจบหมอจากประเทศจีน ทำงานอยู่ที่นั่นได้สักพักก็ลาออกและกลับมาไทยโดยสมัครที่โรงพยาบาล H ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงและมีเครื่องมือที่ครบครัน ซึ่งวันนี้มารายงานตัวที่โรงพยาบาล H เป็นวันแรก
นี่แหละบรรยากาศแบบนี้เลยที่คิดถึง การเดินทางที่ขึ้นชื่อของเมืองหลวงในบ้านเราฉันว่าใครๆก็ปฏิเสธไม่ได้เลยใช่ไหมละ แต่อะไรที่ฉันติดใจที่สุดอะเหรอ อาหาร ที่เที่ยว แล้วก็ยังมีเพื่อนๆที่นี่อีก ฉันมีเพื่อนที่เรียนมาด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้สมัครที่เดียวกันหรอก ชื่อปลา ไปเรียนด้วยกันตั้งแต่เด็กน้อยแล้วแหละ แต่จะว่าไปตอนนี้ก็ยังไม่ได้โทรหาเลย ไม่รู้ว่ายัยปลาจะไปรายงานตัวที่โรงพยาบาลใหม่หรือยัง
"อ่อ รบกวนทราบชื่อจริงหน่อยค่ะ เดี๋ยวจะได้เช็กเรื่องให้ได้ค่ะ"
"พญ.ปานิศา ประกาศิตานนท์ ค่ะ"
"อ่อ สักครู่นะคะ เรื่องมาถึงเรียบร้อยค่ะ เชิญทางนี้ค่ะคุณหมอเดี๋ยวพี่พาไปที่ห้องตรวจของคุณหมอนะคะ"
พอรายงานตัวเสร็จทำเรื่องอะไรเรียบร้อยพี่พยาบาลก็พามาที่ห้องส่วนตัว อ่อฉันจบแพทย์ทางกระดูกมาก็คือศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ (Orthopedics) หรือเรียกง่ายๆก็คือหมอกระดูกและข้อ โดยจบสาขาเฉพาะทางคือ เวชศาสตร์การกีฬา (Sport Surgery) ซึ่งมีหน้าที่ในการรักษาผู้ป่วยก็คือการผ่าตัดซ่อม สร้างเส้นเอ็นของข้อต่อต่าง ๆ เช่น ข้อเข่า สะโพก ไหล่ ข้อเท้า เป็นต้น โดยใช้อุปกรณ์กล้องส่องเข้าไปในข้อ (Arthroscopic surgery)
ซึ่งฉันได้มีประสบการณ์การทำงานที่จีนมาสักพักและตอนที่อยู่ที่นู้นเคสยุ่งมาก ฉันว่าที่นี่ก็คงไม่แพ้กันแน่ สิ่งที่แพทย์อย่างฉันจะทำได้คือ มีสติแล้วก็กินให้อิ่มนอนให้หลับอย่างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นี่แหละสิ่งที่ฉันคิด พอรอสักพักเจ้าหน้าที่ก็ทำเรื่องให้ฉันเรียบร้อย ก่อนพาฉันเดินมายังห้องที่จะปฏิบัติงานนั่นแหละมั้ง มาถึงห้องก็วางของพร้อมกับถามพี่พยาบาลที่พามา
"ถึงแล้วค่ะห้องตรวจของคุณหมอ พี่อยู่ตรงเค้าท์เตอร์ด้านนอกนะคะ ต้องการอะไรหรืออยากสอบถามอะไรเรียกได้ตลอดจ้ะ ยินดีต้อนรับด้วยนะคะ"
“เออ แล้วลักษณะการทำงานที่นี่เป็นอย่างไรคะ”
“อ่อก็จะมีทั้งการราวด์วอร์ด (ออกตรวจคนไข้ผู้ป่วยใน) ทำการผ่าตัดเมื่อมีเคสเข้ามา และตรวจผู้ป่วยนอกหรือ OPD ใน 5 วันการทำงานอาจแบ่งเป็น 2 วันตรวจ 2 วันผ่าตัด 1 วันทำงานวิจัย ค่ะคุณหมอ อาจจะมีประชุมบ้างประปรายค่ะ”
งงๆกันไหมเอ่ย งั้นฉันขออธิบายสั้นๆแล้วกันนะ OPD ย่อมาจาก Out-Patient-Department ก็คือผู้ป่วยนอก หรือผู้ป่วยที่รับการรักษาแบบไม่ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลส่วนมากเป็นการเจ็บป่วยแบบเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่รุนแรงนั่นเอง และการทำงานวิจัยทางแพทย์ก็คือเป็นอีกงานหนึ่งที่เพิ่มขึ้นมา แต่ส่วนนี้ไม่ได้มีเวลาตายตัวหรอกนะเราจะต้องจัดสรรเวลาไปทำเองควบคู่ไปกับการทำงานเอง เช่นเราต้องเก็บข้อมูลจากการผ่าตัด ตรวจคนไข้ใน OPD และส่งเพื่อรายงาน แต่หนึ่งวันนี้อาจจะเป็นวันศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทำงานวิจัย หรือทำงานอย่างอื่น อยู่ที่โรงพยาบาลแล้วก็ตัวของแพทย์เองด้วย เพราะมันสามารถยืดหยุนได้ หากใครพอรู้มาบ้างแล้วอาจจะอ่อขึ้นมาเลยแหละ
“อ่อขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ”
พี่ผู้หญิงที่อายุมากกว่าฉันไม่กี่ปีได้มั้ง บอกกับฉันและยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร อ่อฉันลืมบอก ประเทศเราอะมีเสน่ห์ความเป็นมิตรที่สุดแล้ว ทุกคนเหมือนเป็นพี่เป็นน้องกันหมดอะ นี่แหละสิ่งที่ทำให้ฉันอยากจะลองมาทำงานที่บ้านเกิดตัวเองสักครั้ง
"แล้ววันนี้มีคนไข้ไหมคะ"
"มีค่ะคนไข้เริ่มมาแล้วคุณหมอพร้อมตรวจเลยไหมคะ หรือจะเริ่มงานพรุ่งนี้ก็ได้นะคะ แล้วแต่คุณหมอจะสะดวกเลยค่ะ ที่นี่หมอเรามีเยอะอยู่ค่ะ คุณหมอกลับไปพักก่อนก็ได้นะคะ"
"เริ่มเลยดีกว่าค่ะพาคนไข้เข้ามาได้เลย หมอพักมาแล้วเรียบร้อย เกรงใจผู้อำนวยการแล้วก็เงินเดือนด้วย"
"คริคริ คุณหมอก็ ได้ค่ะสักครู่นะคะ เดี๋ยวพี่จัดการให้"
ฉันยิ้มก่อนจะหยิบเอกสารเพื่อมาอ่าน มันเป็นเอกสารซักประวัติคนไข้ที่พยาบาลที่ถามมาเบื้องต้นมาแล้วแล้ว ฉันเลยหยิบขึ้นมาดูคร่าวๆ พร้อมกับเริ่มวิเคราะห์ นั่งรอสักพักพี่พยาบาลก็พาคนไข้นั่งรถเข็นเข้ามา
"สวัสดีค่ะ เชิญค่ะ"
ฉันทักคนไข้ที่พี่พยาบาลพาเข้ามาโดยมีพยาบาลเข็นรถนั่งมาให้พอดีโรงพยาบาลที่ฉันทำงานเป็นของเอกชนที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงเรื่องการบริการนี่ไม่ต้องห่วงเลยดูแลอย่างดีเยี่ยมคนไข้ที่เป็นผู้หญิงยิ้มและทักทายให้ฉันก่อนจะเริ่มพูดคุยกันในเวลาต่อมา
"สวัสดีค่ะคุณหมอ"
"ค่ะหมอได้อ่านประวัติที่กรอกไว้คร่าวๆ คนไข้บอกว่า ปวดหลังใช่ไหมคะ"
"ใช่ค่ะปวดมากเลย มันปวดแทบจะทุกเวลาเลยอะค่ะ"
"งั้นลองตอบคำถามต่อไปนี้ของหมอนะ มีอาการปวดหลังร่วมกับอาการปวดร้าวลงสะโพกหรือลงขาไหมคะ"
ฉันมองจอคอมพิวเตอร์ ก่อนจะสลับมามองที่หน้าของคนไข้ ที่ตอนนี้บ่งบอกอาการเจ็บปวดออกมาอย่างชัดเจน
"มีค่ะบางทีปวดแบบทนไม่ได้เลย กินยาแก้ปวดก็ยังไม่หาย"
"มีอาการชาหรืออ่อนแรงบ้างไหมคะ"
"มีค่ะๆ เป็นบ่อยมาก"
ฉันซักประวัติคนไข้สักพักก็เริ่มลงมือตรวจร่างกายตรงที่ฉันสงสัย พอตรวจเสร็จเลยพูดกับคนไข้ เพราะตอนนี้รู้อาการของคนไข้ตรงหน้าตัวเองแล้ว
"หลังจากที่หมอตรวจคนไข้เป็นกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาทระยะเวลาที่ปวด ปวดมานานหรือยังคะ"
"ประมาณหนึ่งปีค่ะตอนแรกไม่เท่าไรแต่ตอนนี้ปวดมากทำอะไรไม่ได้เลย"
"ดูจากประวัติคนไข้ยังไม่เคยไปรักษาและทานยาตัวอื่น นอกจากยาพารามาก่อน ถูกต้องนะคะ ตอยตามความจริงนะคะถ้ามียาตัวอื่นเช่นยาสมุนไพร ยาหม้ออะไรพวกนี้ต้องบอกหมอด้วยนะคะ"
"ค่ะทานแต่ยพาราแก้ปวดทุกครั้งที่ปวด เพราะยังไม่กล้ากินยาตัวอื่น แล้วคือมันยังรักษาทันใช่ไหมคะหมอแล้วเยอะมั้ย"
"ตอนนี้หมอยังบอกไม่ได้ว่ามากน้อยแค่ไหนเดี๋ยวหมอจะส่งคนไข้ไป X-ray computer เพื่อดูตำแหน่งที่มีปัญหา เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนมากขึ้น จะได้ระบุได้ถูก คนไข้มีญาติมาด้วยใช่ไหมคะ"
"ใช่ค่ะสามีอยู่ด้านนอก"
"โอเคนี่เอกสารคนไข้ค่ะ เดี๋ยวพยาบาลพาคนไข้ไป X-ray computer นะคะ ขอเวลาหมอดูผลจาก X-ray ก่อน เสร็จแล้วพาคนไข้กลับมาหาหมออีกหนึ่งรอบนะคะ"
"ได้ค่ะ คุณหมอ"
ฉันพยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้พี่พยาบาลและคนไข้ก่อนที่จะส่งคนไข้ไป X-ray computer สักพักผลของการ X-ray ก็ส่งเข้ามาที่คอมในห้องทำงานฉันเปิดดูก่อนจะเริ่มวินิจฉัยอีกรอบจนคนไข้เข้ามาพร้อมกับพี่พยาบาลตามเวลาที่นัดไว้เรียบร้อยในใบที่ส่งไป
"เป็นไงบ้างคะคุณหมอ มันร้ายแรงไหม"
"ค่ะตอนนี้หมอดูแล้วไม่เยอะเท่าไหร่ คนไข้ทำใจให้สบายก่อนนะคะ ดีที่มาปรึกษาหมอทันหมอดูจากภาพที่ X-ray แล้ว ถ้าถามหมอ หมออยากจะให้ทำการผ่าตัดค่ะ"
"ผ่าตัดเลยเหรอคะมีวิธีอื่นไหมพอดีกลัวอะค่ะ หรือมีแค่วิธีนี้วิธีเดียว"
"ไม่ต้องกังวลนะคะใจเย็นๆก่อนนะ เดี๋ยวขอหมออธิบายเรื่องของการผ่าก่อน หมอจะบอกว่าการผ่าตัดมีแบบใช้กล้องและไม่ใช้กล้อง โดยที่เครื่องมือของทางเราครบครันเป็นอย่างมากค่ะ"
"แบบไหนจะหายค่ะ"
"หายทั้งสองแบบค่ะโอกาสผ่าตัดสำเร็จและหายมีมากถึง 90% และคนไข้จะมีโอกาสหายเป็นปกติเลย ข้อนี้ไม่ต้องกังวลนะคะ หากคนไข้ผ่าตัดไวก็มีโอดกาสหายไว แต่ถ้าไม่ผ่าหมอกลัวว่าจะหนักมากและอาจจะสายไปในการทำการรักษาค่ะ"
"แผลจะใหญ่มั้ยคะ พอดีไม่อยากให้เป็นแผลใหญ่มากอะค่ะ"
"ถ้ากลัวแผลใหญ่หมอแนะนำเป็นการผ่าโดยใช้กล้องเอ็นโดสโคปแผลผ่าตัดจะอยู่ที่ขนาด 7-9 มิลลิเมตรและผลดีด้วยนะคะ โดยการผ่าตัดผ่านกล้องก็คืออาการปวดแผลผ่าตัดน้อย ความเสี่ยงในการติดเชื้อต่ำ ลดการทำลายเนื้อเยื่อส่วนดีที่อยู่รอบบริเวณผ่าตัด คนไข้จะฟื้นตัวเร็วหลังจากการผ่าตัดสามารถกลับบ้านได้ภายใน 24 ชั่วโมงเลยนะคะและค่าใช้จ่ายยังน้อยลงอีกด้วย"
"ถ้าอย่างนั้น"
ฉันอธิบายกับคนไข้แต่มันไม่ใช่การโน้มน้าวหรอกนะ แต่จากที่ฉันดูจากผล X-ray ที่ส่งมาแล้วถ้าปล่อยไป มันก็น่ากังวลกว่าการผ่าแน่ๆ แล้วที่สำคัญร่างกายคนไข้ตรงหน้าก็ดูมีความพร้อมอยู่มาก ฉันมองหน้าคนไข้ที่นั่งอยู่ตรงหน้าฉันก่อนจะเห็นความกังวล ความกลัวส่งมาอย่างชัดเจน ฉันเลยบอกกับคนไข้ผมพร้อมกับส่งยิ้มให้เบาๆ
"หมอให้เวลาตัดสินใจก่อนได้นะคะ ลองไปปรึกษากับญาติก่อนได้แต่ถ้าเป็นไปได้หมออยากให้ผ่านะรักษาเร็วหายเร็ว ถ้าหากปล่อยไว้จะอัตรายเชื่อใจหมอนะคะ"
"ได้ค่ะยังไงเดี๋ยวขอไปปรึกษาแฟนก่อนนะคะ"
"ได้ค่ะ หากจะตัดสินใจได้แล้ว โทรเข้ามาที่เบอร์โรงพยาบาลได้ตลอดนะคะและต่อเข้าที่ 158 จะเป็นฝ่ายของหมอและบอกได้เลยค่ะ อ่อเดี๋ยวพี่พยาบาลให้ข้อมูลกับคนไข้ไปด้วยนะคะ แผ่นพับมีใช่ไหมของแผนกนี้"
“อ่อ มีค่ะคุณหมอเหมืออันเดียวพอดี”
ฉันพยักหน้าและยิ้มตอบกลับไปยังพี่พยาบาล แล้วที่นี่เขาไม่แจกแผ่นพับกันเหรอหรือว่ามันเชยไปแล้ว แต่ที่เก่าฉันยังมีอยู่นะ อธิบายวิธีต่างๆหลังจากผ่าตัด แล้วก็ตัวเลือกของการผ่าว่ามีอะไรบ้าง สงสัยต้องสั่งทำมาไว้แจกที่ห้องฉันเองซะแล้วสิ
"ค่ะยังไงขอบคุณมากนะคะคุณหมอ ที่ตรวจและคำปรึกษาอย่างดีมากเลย"
"ไม่เป็นไรค่ะ อย่าขอบคุณอะไรขนาดนั้นเลยนะคะ เป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้วเดี๋ยวหมอจะให้ยาไปทานก่อนนะคะ"
"ค่ะสวัสดีค่ะคุณหมอ"
"สวัสดีค่ะ หมอสั่งยาแล้วรอรับยาที่ห้องรับยาได้เลยนะคะ"
"ค่ะ"
ฉันยิ้มก่อนพี่พยาบาลจะพาไปหลังจากนั้นก็ตรวจอีกหลายเคสซึ่งก็จะต้องทำการผ่าตัดเยอะเหมือนกันหมด มาถึงก็ได้รับเคสเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ฉันนั่งไล่เวลาพร้อมกับวันนัดพร้อมกับจดใส่ไว้ใน ipad พอจดเสร็จก็มองไปที่นาฬิกา จนตอนนี้ก็ใกล้เวลาจะเลิกงานแล้วสินะ ผ่านไปหนึ่งวันแล้วซินะยัยพรีช
"คุณหมอคะ"
ฉันที่กำลังเก็บเอกสารต่างๆที่อยู่บนโต๊ะก็เงยหน้าขึ้นมาตามเสียงเรียกเป็นหมอผู้หญิงเหมือนกันแต่น่าจะอายุมากกว่าฉัน 2-3 ปีได้นะว่าแต่ทำไมถึงเดินมาหานะ
"ค่ะสวัสดีค่ะ คุณหมอมีอะไรหรือเปล่าคะ"
ฉันวางเอกสารก่อนจะหันมามองหมอผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าฉันตอนนี้ หรืออาจะมาคุยเรื่องของคนไข้คนไหนหรือเปล่า จะว่าไปฉันก็ยังไม่รู้จักหมอคนอื่นเลยนะเนี่ยดูแต่ในข้อมูลที่เข้ามาอ่าน ว่ามีหมออยู่เยอะเหมือนกันแต่ยังไม่ได้เห็นกันจริงสักที
"บังเอิญระพีจะมาขอให้คุณหมออยู่เวรดึกแทนหน่อยอะค่ะ เพราะว่าระพีจะต้องลากลับไปทำธุระกับครอบครัวคุณหมอคนใหม่อยู่เวรแทนหน่อยได้ไหมคะ"
คุณหมอใหม่หึหมอคนนี้ไม่ธรรมดาแน่ๆ วันแรกก็ได้อยู่เวรเลย ถ้าเป็นนางร้ายก็คือเปิดการ์ดตั้งแต่ยังไม่ได้ถามเลยอะเธอ แต่ก็ปกติที่จีนก็อยู่จนชินแล้วฉันยิ้มให้ก่อนจะตอบกลับไป
"ได้ค่ะ เดี๋ยวพรีชอยู่แทนคุณหมอเอง"
"อุ้ยย ขอบคุณนะคะคุณหมอใหม่งั้นระพีไปก่อนนะคะ"
พูดจบหมอระพีก็เดินออกไปฉันเก็บของพร้อมกับถือกระเป๋าและออกมาหาพี่พยาบาลที่อยู่เค้าท์เตอร์หน้าห้อง พร้อมกับพี่พยาบาลรีบถามกันออกมาด้วยน้ำเสียงเหมือนจะเป็นห่วงหน่อยๆ
"คุณหมอหมอระพี ไปหาคุณหมอทำไมคะ"
"อ่อ หมอระพีมาขอให้พรีชอยู่เวรแทนแค่นั้นนะคะ เรื่องอื่นๆไม่มี"
"ห๊ะ!!! ทั้งๆที่รู้ว่าคุณหมอเพิ่งมาและของ ก็อาจจะไม่ได้เตรียมมาเนี่ยนะ เอาใหญ่ไปแล้วมั้งเนี่ย"
"ใจเย็นก่อนค่ะ ใจเย็นๆ ไม่เป็นไรค่ะ ยังไงพรีชก็ต้องเข้าเวรอยู่แล้วช้าเร็วก็เหมือนกัน ขอบคุณพี่ๆนะคะ"
"คุณหมออ่ะ ทีหลังไม่ต้องไปยอมนะคะหมอระพีเนี่ย เวรก็ไม่ค่อยจะชอบอยู่ตรวจคนไข้วันหนึ่งก็แค่ 5 คน คุณหมอมาวันแรกตรวจได้สองวันของหมอระพีเลยนะคะ อยู่กับหมอระพีต้องเถื่อนค่ะคุณหมอ คนในนี้ไม่ว่าจะพยาบาลหรือหมอท่านอื่นรู้กันดีค่ะ ทำได้แต่ส่ายหน้าแล้วก็รอวันที่เบื้องบนรู้นั่นแหละค่ะ"
หื้มมมว่าแล้วว่าหมอระพีต้องไม่ธรรมดาฉันขำออกมาก่อนจะพูดเบาๆกับพี่พยาบาล 4-5 คน นี่แหละนะสถานที่ทำงาน ที่ไหนก็มีปัญหา แต่จะมากจะน้อยแค่นั้นเอง ฉันก็เตรียมใจมานานแล้ว ถ้าไม่อะไรกับฉันจนมากเกินไปก็ไม่เป็น แต่ถ้าอะไรมากไปก็ต้องคุยกันหน่อย
"หึหึ ไม่เป็นไรหรอกคะหมอไหวที่จีนหนักกว่านี้อีก แค่นี้สบายมากว่าแต่หมอต้องเข้าเวรอาทิตย์ละกี่วันคะ"
"2 วันค่ะคุณหมอ ที่นี่หมอแต่ละแผนกเยอะเลยไม่ต้องเข้าหนักเท่าไหร่"
"แล้วเริ่มเข้าเวรกี่โมงคะ หมอจะได้จำไว้เพราะอาจจะไม่เหมือนที่เก่าที่หมอเคยทำ"
"อ่อ ที่นี่เข้าเวรตั้งแต่ 16.00 ค่ะแล้วก็ไปนั่งอยู่ในห้องแผนกฉุกเฉินจะมีห้องสำหรับคุณหมอที่เข้าเวรถ้าวันไหนอุบัติเหตุไม่เยอะมากก็จะสบายหน่อยแต่ถ้าเยอะก็หนักเหมือนกันค่ะแล้วยิ่งคุณหมอจบโดยตรงมาอีก ส่วนมากจะเป็นอุบัติเหตุค่ะคุณหมอที่มีทุกวัน"
"โอเคค่ะ พรีชสู้อยู่แล้วงั้นตอนนี้คนไข้ที่มาตรวจวันนี้หมดแล้วใช่ไหมคะ"
"ใช่ค่ะพักยาวๆได้เลย 2 ชม.ค่ะคุณหมอ"
"โอเคค่ะ งั้นเดี๋ยวหมอกลับไปเอาชุดแล้วก็อุปกรณ์ของใช้ส่วนตัวที่คอนโดก่อนนะคะ"
"โอเคคุณหมอไฟว้ติ้งค่ะ สวัสดีค่ะ"
"สวัสดีค่ะเจอกันพรุ่งนี้นะคะ"
ฉันพูดจบพร้อมกับรีบเดินออกมาเพื่อที่จะรีบกลับคอนโดไปเอาชุดอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ อย่างน้อยๆก็เข้าได้กับพี่พยาบาลแล้วหนึ่งวันต่อไปค่อยๆ ทำความรู้จักกับคุณหมอท่านอื่นแล้วกันนะยายพรีช
"หมอพรีชน่ารักเนาะ สวยมากด้วย ผิวขาวแบบขาวเสื้อสีขาวยังอาย"
"แน่นอนจ้ะเธอ คุณหมอเขามาจากจีนนู้นน่ะ ได้ยินมาว่าได้เงินเดือนสูงมากด้วย สงสัยเก่งน่าดูเลย ทีนี้หมอระพีมีคู่แข่งแล้ว"
"ใช่ๆ ปกติเป็นเหมือนน้องน้อยๆตลอดเพราะเป็นผู้หญิงคนเดียว"
"ดีแล้วนี่หมอพรีชจบเกีรตินิยมจากจีนมาด้วยนะแล้วฝีมือเห็นบอกว่าเก่งมากผู้อำนวยการชมอยู่ตอนที่พาไปรายงานตัวอะ ฉันได้ยินมาดูท่านจะชื่นชมหมอพรีชมากๆเลย"
"โอ๊ยทั้งสวยทั้งเก่งทีนี้กินขนมจีบไม่ทันแน่ เพราะหมอโรงพยาบาลเราก็มีคนหล่อๆ"
"นี่ๆพวกคุณทำงานคร้าาา พวกยัยแมลงวันแมลงหวี่"
"จร้าาาทราบแล้วจร้า ทราบแล้วเปลี่ยนค่ะ ฮ่าๆ"
ฉันเตรียมของเสร็จก็กลับมายังโรงพยาบาลมาถึงห้องช่วงเย็นก็ยังไม่มีคนไข้เท่าไรก็ได้พักสายตาแป๊บหนึ่ง แต่ยังไม่ทันจะได้พักสายตาเลย ก็ได้ยินเสียงเรียกพร้อมกับน้ำเสียงที่ดูร้อนรน
"คุณหมอคะ คุณหมอคนไข้ทะเลาะวิวาทกันมาค่ะ ตอนนี้อาการหนักมาก"
"รีบไป!!!"
ฉันบอกพยาบาลก่อนจะวิ่งไปที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลพอเข้ามาเห็นคนไข้สองกลุ่มที่พยาบาลวิ่งวุ่นทั้งโรงพยาบาลทำแผลตรวจร่างกายของคนไข้ทั้งสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งเป็นวัยรุ่นยังอยู่ในชุดนักเรียนอยู่เลยนั่งตัวสั่นๆอยู่ตรงมุมหนึ่ง
ฉันหันมามองอีกกลุ่มหนึ่งก่อนจะเบิกตากว้างขึ้นนั่นคนที่ชื่อชัตเตอร์ แล้วก็องศามาวินเพื่อนแฟนของเอญ่านี่หน่าอย่าบอกนะว่ามีเรื่องกันมาฉันมองสักพักก็เห็นคนที่ชื่อซัตเตอร์นั่งอยู่บนรถเข็นโรงพยาบาลหน้าตาช้ำคงจะทะเลาะกันมาหนักเหมือนกันเขามองฉันด้วยสายตาดุดุก่อนฉันจะได้ยินเสียงของพยาบาล
"สองเตียงนี้ค่ะคุณหมอค่ะคุณหมอ"
"แล้วคนไหนที่อาการหนักมากค่ะ"
"หนักทั้งคู่ค่ะอาการน่าจะช้ำใน"
"แล้วหมอคนอื่นละ"
"กำลังไปตามค่ะ"
"ค่ะงั้นหมอขอตรวจคนไข้ก่อน"
ฉันพูดก่อนจะเดินนำพยาบาลไปยังเตียงที่ผู้ป่วยอาการเจ็บสาหัสอยู่พร้อมกับลงมือตรวจอย่างละเอียด
"โทรหาญาติหรือยัง"
"ติดต่อแล้วค่ะญาติกำลังเดินทางมา"
"งั้นเข็นคนไข้ไปที่ห้อง X-ray อาการน่าจะหนักพอสมควรน่าจะช้ำในมีเลือดคั่งในช่องท้องเร็วเลย"
"ค่ะหมอ"
ฉันเดินนำพยาบาลเดินมายังห้อง X-ray และนำคนไข้เข้า x-ray
"คนไข้ถูกกระแทกบริเวณช่องท้องมากพอสมควรตับและไตได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงตอนนี้มีเลือดออกในช่องท้องเป็นจำนวนมากมีโอกาสเสียชีวิตสูง"
"แล้วเราจะผ่าตัดเลยไหมคะคุณหมอ"
"ไม่สามารถผ่าตัดได้เพราะตอนนี้สภาพผู้ป่วยหนักมากถ้าผ่าตัดอาจเสียชีวิตในห้องผ่าตัดได้"
"แล้วเราทำอย่างไรดีคะถ้าปล่อยไว้คนไข้อาจจะ"
"เหลือวิธีเดียวคือการรักษาด้วยการสอดสายเข้าทางเส้นเลือดแล้วไปอุดเส้นเลือดของตับในส่วนที่ได้รับบาดเจ็บแต่ต้องหมอที่เชี่ยวชาญด้านการอุดเส้นเลือดที่ตับ ตอนนี้มีเข้าเวรหรือเปล่าไม่งั้นโทรตามด่วนค่ะ คนไข้รอไม่ได้!"
"เออวิธีนี้โรงพยาบาลก็เคยมีแต่หมอที่เชี่ยวชาญย้ายไปแล้วค่ะตอนนี้ก็รอคุณหมอคนใหม่มารายงานตัวพรุ่งนี้"
"หมอเคยรักษาที่จีนมาหลายเคสเหมือนกัน เตรียมห้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมหมอจะลงมือเอง ย้ำนะคะว่าเตรียมทุกฝ่ายให้พร้อม อย่าให้มีอะไรผิดพลาดแล้วก็ด่วนด้วยค่ะ!"
ฉันบอกกับพยาบาลที่อยู่ภายนั้น ก่อนทุกคนจะวิ่งวุ่นโทรประสานฝ่ายต่างๆ รวมถึงฉันตอนนี้ ฉันไม่รู้ว่าจะทำเกินหน้าที่ไปหรือเปล่า เพราะมันคนละหน้าที่คนละสายงานกับของฉัน แต่การช่วยชีวิตคนไข้นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าเลือกไม่ได้ ชีวิตชีวิตหนึ่งมีค่ามากกว่าจะมาห่วงเรื่องนี้ เอาวะจะโดนว่ายังไงก็ทำก่อนเถอะพรีช
"ได้ค่ะหมอ"
"ดูชีพจรคนไข้ตลอด หมอขอไปเปลี่ยนชุด และเตรียมตัวก่อนนะคะ ห้องผ่าตัดพร้อมใช่ไหมคะ มีห้องว่างหรือเปล่า"
"มีค่ะคุณหมอ ประสานงานให้เรียบร้อยหมดแล้วค่ะ"