เมื่อไม่มีทางเลี่ยง พิมพ์ประไพรก็ก้าวเข้าไปในห้องช้าๆ สายตามองร่างสูงสง่าที่ยืนหันหลังให้ ไหล่ผึ่งผายตั้งตรงอย่างคนที่มั่นใจในตัวเองและไม่มีวันที่จะก้มหัวให้ใคร ขณะที่ยืนรอเขาหันมา เธอก็มีเวลามองสำรวจรอบๆ ห้องทำงานของเขา
“คิดเท่าไหร่?” อยู่ๆ เสียงเข้มก็เอ่ยถามขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้คนที่มองห้องทำงานเพลินๆ พลันสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ จนต้องถามอีกครั้ง
“คุณถามว่าอะไรนะคะ?”
“ฉันถามว่าคิดเท่าไหร่?” ร่างสูงหันมาเผชิญกับเธอ ดวงตาคมเข้มเวลานี้ไม่มีแว่นกันแดดปกปิด และกำลังมองเธอราวกับจะสแกนไปทั้งตัว ทำเอาคนถูกมองถึงกับหน้าร้อนผ่าวในทันที
“ค่าตัวฉันระบุในสัญญาแล้วนี่คะ คุณไม่จำเป็นต้องต่อรองอะไร ถ้าต้องการจะเปลี่ยนพรีเซ็นเตอร์ก็บอกมาตรงๆ เถอะค่ะ” พิมพ์ประไพรมองเขาหน้าตึง ทยุตแสยะยิ้มก้าวเดินมายืนใกล้ๆ เท้าเรียวรีบขยับออกห่างด้วยความตกใจ แต่ก็ช้ากว่ามือหนาที่รวบเอวเธอไว้พร้อมกับรั้งเข้ามาชิดตัว ทันทีที่ก้อนเนื้อเจลชั้นดีกระแทกเข้ากับอกกว้างอย่างจัง ทยุตก็รับรู้ความนุ่มหยุ่นและกะขนาดได้ทันที…ว่าล้นมือ…
“ว้าย…ทำอะไรของคุณ ปล่อยฉันนะ!” พิมพ์ประไพรยกมือดันอกเขาไว้พร้อมกับโก่งตัวห่าง เพื่อไม่ให้หน้าอกเบียดเสียดกับเนื้อตัวของเขามากไปกว่านี้ ตาคมโตมองใบหน้าคมเข้มขึ้นเหลี่ยมที่ดูร้ายลึกแต่แฝงไปด้วยเสน่ห์
“ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องงาน” เขาออกแรงกอดรัดเจ้าของร่างบางแน่นกว่าเดิม
“คุณหมายถึงอะไรไม่ทราบคะ?” พิมพ์ประไพรถามเสียงกระด้างเมื่อเห็นแววตาพราวระยับของอีกฝ่าย ฝ่ายมือหนาที่โอบแผ่นหลังเริ่มเคลื่อนไหวลงไปหาบั้นท้ายเต่งตึงแล้วขย้ำแรงๆ ก่อนจะดันเข้ามากระแทกกับรอยนูนกลางตัว
“เธอรับจ๊อบนอกเหนือจากงานเดินแบบนี่ ตอนอยู่ในลิฟท์ฉันยังเห็นเธอโฆษณาสินค้าอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?” เขาเอ่ยยั่ว ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดซอกคอและข้างแก้ม ทำให้พิมพ์ประไพรหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ
“สกปรก ฉันไม่เคยทำแบบนั้น และไม่คิดจะทำด้วย ปล่อยนะ!” พิมพ์ประไพรพยายามดิ้นออกจากวงแขนแกร่ง ทยุตกระตุกยิ้มที่มุมปากนิดๆ เขารู้สึกถูกใจผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่ได้สัมผัสเธอครั้งแรก
“หึหึ แน่ใจเหรอว่าจะไม่ขาย…” เขาแกล้งเล้าโลมสรีระของเธอด้วยฝ่ามือ แล้วเผาผลาญร่างด้วยสายตาอันเร่าร้อน พิมพ์ประไพรไม่เคยคาดคิดเลยว่าผู้ชายที่หน้าตาดีแบบทยุตจะมีจิตใจเน่าเฟะขนาดนี้
“ถ้าคุณไม่หยุดดูถูกฉันก็ไม่ต้องมาร่วมงานกัน ฉันขอถอนตัวค่ะ”
“ถึงไม่มีคุณ ผมก็หาคนอื่นมาแทนได้สบาย เพราะฉะนั้นคุณควรจะเอาใจผมมากๆ เพื่อจะไม่ให้ผมเปลี่ยนพรีเซ็นเตอร์”
“คุณอยากเปลี่ยนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? เพื่อที่จะเอาแฟนตัวเองมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ คุณไม่จำเป็นต้องยกข้ออ้างห่วยแตกพวกนี้มาให้ฉันต้องรู้สึกสะอิดสะเอียนไปมากกว่านี้หรอกนะคะ” หญิงสาวกัดฟันกรอดไม่กลัวสิ่งที่เขาขู่ ถึงแม้ว่างานนี้เธอจะอยากได้มันมากแค่ไหน แต่ถ้าจะมีนายจ้างห่วยแตกแบบนี้เธอก็ไม่ขอเอาเสียดีกว่า
“ใคร?” ทยุตถามพลางขมวดคิ้ว
“เมญ่ามาได้ยินคงเสียความรู้สึกน่าดูที่คุณไม่คิดว่าเธอเป็นแฟน” เธอยิ้มเยาะ ทยุตถึงบางอ้อในทันที และเพิ่งจะนึกได้ว่าเมญ่าโทรมาอ้อนให้ได้งานนี้ แต่เขาเปลี่ยนไม่ได้เพราะเป็นการคัดเลือกตามขั้นตอนของทีมงาน หากเขาเกิดเปลี่ยนกลางคันก็เท่ากับว่าใช้อำนาจในทางที่ผิด และที่สำคัญเขาก็เห็นด้วยกับทีมงานที่คัดเลือกคนในวงการมาเป็นพรีเซ็นเตอร์
“ผมกับเมญ่าก็แค่…” ทยุตคิดจะหาคำพูดที่หมาะสมมาพูดไม่ได้จึงหยุดเพื่อให้เธอคิดต่อ พิมพ์ประไพรเลือดขึ้นหน้า ไม่คิดว่าคนอย่างเขาที่เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจะเห็นผู้หญิงเป็นของเล่นแบบนี้
“ไอ้เลว…” พิมพ์ประไพรเตรียมจะขึ้นเข่าที่กล่องหัวใจของเขา ทว่าทยุตกลับรู้ตัวทันยกขากันไว้ก่อน และเหวี่ยงเธอไปที่โซฟา ร่างสูงรีบเดินมาหาอย่างคุกคาม พิมพ์ประไพรเริ่มใจเสียรีบวิ่งหนีแต่ก็ไม่ทันการ เธอถูกเขารวบตัวไปนั่งบนโซฟา
“ปล่อยนะ ปล่อย!” หญิงสาวดีดดิ้นอย่างหนักด้วยความกลัว กำปั้นเล็กทุบลงบนอกเขาไม่ยั้งมือ ทยุตรีบล็อคมือบางไปไว้ข้างหลังด้วยมือเพียงข้างเดียว ทำให้อกอวบอิ่มที่เขาเคยกะไซส์ด้วยมือเสียดสีกับอกกว้างอย่างไม่ตั้งใจ
“เพราะผมอยากได้คุณไปขึ้นเตียงด้วย เสร็จงานโฆษณา ผมมีจ๊อบเล็กๆ ให้คุณ ค่าเหนื่อยเช็คเปล่าพร้อมให้คุณกรอกตัวเลขได้ตามใจ”
“ฉันไม่…” เธอไม่ทันได้เอ่ยอะไรอีก ริมฝีปากหนาก็ฉกวูบลงไปประกบปากเธอบดขยี้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับดูดกลีบปากอิ่มแรงๆ จนเกิดเสียงจ๊วบๆ มือข้างที่ว่างอยู่กอดเอวบางในทันที ก่อนจะพลิกตัวเปลี่ยนตำแหน่งให้เธอขึ้นมานั่งบนตักเขาและหันหน้าชนกัน ทำให้ชายกระโปรงสั้นร่นไปถึงต้นขา เปิดโอกาสให้มือหนาลูบไล้ต้นขานวลเนียน
“ฮึ่ม!” พิมพ์ประไพรครางประท้วง และพยายามงับลิ้นสากที่รุกล้ำเข้าไปในโพรงปากด้วยความยากเย็น การกระทำของเธอทำให้ทยุตรู้สึกสนุกและตื่นเต้นเป็นพิเศษที่หญิงสาวคอยหลบเลี่ยง ทว่าทยุตกลับเน้นขยี้ปากอิ่มของเธอจนเจ็บระบมไปหมด
“อ้า…” เมื่อเขาผละห่าง หญิงสาวก็รีบอ้าปากสูดเอาอากาศเข้าในทันที ตาคมโตลุกวาวมองเขาด้วยความโมโห เธอไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะถูกเขาทำท่ากักขฬะเช่นนี้
“อืม…เต็มไม้เต็มมือดี” ทยุตหลุบตามองอกอวบที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะก้มใบหน้าซุกไซ้เช็คขนาดผ่านเนื้อผ้านุ่ม เคราแข็งเป็นตอทิ่มแทงผ่านเนื้อผ้าเข้าไปถูไถกับเนินเนื้ออิ่มช้าๆ ก่อนจะเคลื่อนมาซุกไซ้ซอกคอ แล้วค่อยยกสะโพกผายเคลื่อนไปมา ให้เนินสาวถูไถกับรอยนูนเด่นเป็นระยะๆ
“ยะ...อย่านะ” พิมพ์ประไพรพยายามขืนตัวไว้สุดฤทธิ์ แต่ทว่ามือหนาข้างหนึ่งก็เคลื่อนไปบีบคลึงทรวงอกอวบอิ่มอย่างย่ามใจ ริมฝีปากบวมเป่งเม้มแน่นเพื่อกั้นเสียงครางเอาไว้ และก่อนที่ห้องจะกลายเป็นสนามสงครามสวาท เสียงเคาะประตูพลันดังขึ้น
“ระยำเอ้ย!” ทยุตสบถอย่างหัวเสีย ส่วนพิมพ์ประไพรก็ดิ้นรนอย่างสุดแรง “เสร็จงานแล้วเธอต้องคลานขึ้นเตียงกับฉัน...แม่สาวน้อย” ทยุตบอกเธอยิ้มๆ ก่อนจะปล่อยหญิงสาวให้เป็นอิสระ
“ไม่มีทาง!” เธอรีบปฏิเสธตาเขียวปั๊ด ก่อนจะรีบเช็คความเรียบร้อยของตัวเองในทันที ท่าทีของพิมพ์ประไพรเล่นเอาทยุตหัวเราะออกมาในทันที ก่อนจะเดินเฉียดหญิงสาวไปเปิดประตูห้อง เมื่อดิเรกเห็นใบหน้าแดงๆ ของบอสใหญ่ก็ถึงกับชะงัก
“มีอะไร?”