กล้าตะวันหงุดหงิด เมื่อส่งข้อความไปหา
ฟ้ารดาแล้วดาราสาวไม่ยอมอ่าน ความเย็นชาของหญิงสาวทำให้เขายิ่งปวดใจ
เขารักหล่อนมาก แต่ทุกอย่างก็ต้องมาพังพินาศลงด้วยน้ำมือของเด็กสาวที่เขารู้จักมาตั้งแต่เล็กอย่างหวันยิหวา
เขาเคยเอ็นดูหล่อนในฐานะน้องสาว แต่ต่อจากนี้ไป หวันยิหวาจะเป็นยิ่งกว่าศัตรูในสายตาของเขาอีก
กรามแกร่งขบกันแน่นจนขึ้นสันนูนเป่ง ดวงตาคมเข้มเต็มไปด้วยความเจ็บปวดระคนคั่งแค้น ขวดเหล้าในมือถูกยกขึ้นและเทเข้าปาก
“ตายแล้วพ่อตะวัน มานั่งทำอะไรตรงนี้เนี้ย”
เสียงอุทานตกใจของมารดาทำให้กล้าตะวันหันไปมอง
“คุณแม่ยังไม่เข้านอนอีกหรือครับ”
“ถ้าแม่นอน แล้วแม่จะมาเห็นว่าแกออกมาจากห้องหอแบบนี้เหรอ พ่อตะวัน รีบกลับไปเข้าห้องหอเลยนะ”
ผู้เป็นแม่พูดขึ้นอย่างร้อนอกร้อนใจ แต่กล้าตะวันไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นเลย
ชีวิตของเขามันพังทลาย ตั้งแต่ถูกบังคับให้แต่งงานกับหวันยิหวาหมดแล้ว
“แม่บอกให้กลับเข้าห้องหอไงพ่อตะวัน ใครเขาออกจากห้องหอกันในคืนวันแต่งงาน รีบไปเร็วเข้า”
“ผมยังไม่อยากกลับครับ”
“ไม่ได้นะ แกต้องรีบกลับ เร็ว”
คนเป็นแม่ฉุดกระชากลากแขนของลูกชาย จากนั้นก็ดึงให้มุ่งหน้าไปยังห้องหอ ระหว่างทางก็บ่นตลอดเวลา
“ทำอย่างนี้ได้ยังไงกัน ป่านนี้หนูหวันไม่เสียใจแย่แล้วเหรอ”
“ผมไม่สนใจความรู้สึกของลูกสะใภ้คุณแม่หรอกครับ”
“นี่เมื่อไหร่แกจะตาสว่าง เลิกลุ่มหลงแม่ดาราดังนั่นสักทีนะ ยัยนั่นไม่ใช่คนดีอย่างที่แกคิดเลยสักนิด”
“ฟ้าเป็นคนดีครับ และเธอก็เป็นคนที่ผมรัก”
“แกนี่มันตามืดบอดไม่เลิกนะพ่อตะวัน ยัยนั่นมันไม่ได้มีแกแค่คนเดียว ข่าวที่ออกๆ มาน่ะ มันก็จริงทุกอย่าง แต่แกก็เชื่อคำแก้ตัวของแม่นั่น”
“ผมไว้ใจฟ้าครับ”
“ไอ้ลูกตาต่ำ”
กล้าตะวันไม่สนใจคำตำหนิของมารดาแม้แต่น้อย เพราะยังไงซะ ฟ้ารดาก็คือนางฟ้าในสายตาของเขาเสมอ
“เข้าไปในห้องได้แล้ว และอย่าออกมาอีกนะ ไม่งั้นแม่จะตัดแกออกจากกองมรดกให้หมดเลย พ่อตะวัน”
เขาไม่ได้พูดอะไรกับมารดาอีก นอกจากจำต้องก้าวกลับเข้าไปในห้องหอ ที่มีนางมารร้ายอย่างหวันยิหวารออยู่
ภายในห้องยังคงเปิดไฟสว่างเหมือนเดิม แต่หวันยิหวานอนหลับไปแล้ว
กล้าตะวันเดินไปหยุดที่ขอบเตียง ดวงตาจ้องมองร่างบอบบางที่นอนนิ่งหลับปุ๋ยของเด็กสาวอย่างโมโห
“หลับสบายเชียวนะ”
เขาเค้นเสียงเล็ดลอดออกมาจากไรฟันด้วยความกรุ่นโกรธ
หล่อนคงสบายใจแล้วที่สามารถแย่งชิงเขามาจากฟ้ารดาได้
หวันยิหวาคงกำลังมีความสุขมาก ในขณะที่เขากำลังทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส
ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปมากมาย ทำให้สำนึกผิดชอบชั่วดีของกล้าตะวันเลือนหายไปเกินกว่าครึ่ง
ความคิดชั่วร้ายบางอย่างผุดขึ้นมาในสมอง กรามแกร่งขบกันแน่น ดวงตาที่จ้องมองร่างของหวันยิหวาลุกโชนไปด้วยเพลิงร้าย
“เธอไม่มีวันมีความสุข อย่างที่ต้องการหรอก หวันยิหวา”
มือหนาที่แข็งแกร่งราวกับคีมเหล็กตะปบเข้ากับท่อนแขนเรียวเล็กของเด็กสาว และกดนิ้วลงไปบนเนื้อนุ่มนั้นแรงๆ อย่างต้องการให้เจ้าของร่างตื่นลืมตาขึ้นมา
แล้วมันก็ได้ผล เพราะหวันยิหวาที่ผล็อยหลับไปเพราะความอ่อนเพลียสะดุ้งตื่นขึ้นมา ดวงตากลมโตเมื่อเห็นเขาก็เบิกกว้างตกใจ
“พี่ตะวัน...”
หล่อนสลัดความงัวเงียออกไป และก็ดื่มด่ำกับความรู้สึกเจ็บระบมที่ท่อนแขนมากขึ้นเรื่อยๆ
“หวันเจ็บแขนพี่ตะวัน... อื้อ...”
กล้าตะวันยิ้มหยัน เขากระชากให้หล่อนลุกขึ้นนั่ง ใบหน้าหล่อเหลาตอนนี้ดำคล้ำ และน่ากลัวมากมายเหลือเกิน
หวันยิหวาใจคอไม่ดี ขณะพยายามบิดแขนออกจากอุ้งมือใหญ่ แต่ไม่สำเร็จ
“มีความสุขมากสินะ หวันยิหวา”
“พี่ตะวัน... ปล่อยแขนหวันก่อน หวันเจ็บค่ะ”
เขาไม่สนใจคำวิงวอน และความเจ็บปวดที่หล่อนบอกออกมาเลย
“ฉันจะไม่มีวันยอมให้เธอมีความสุขคนเดียวแน่นอน ในเมื่อฉันทุกข์ เธอก็ต้องทุกข์ทรมานมากกว่าฉันร้อยเท่าพันเท่า”
พี่กล้าตะวันกำลังพูดอะไร เขากำลังจะทำอะไรกันแน่
“พี่ตะวัน... หวันเจ็บแขนค่ะ อ๊ะ... พี่ตะวัน!”
หล่อนตกใจสุดขีด เมื่อกล้าตะวันฉีกกระชากชุดนอนตัวสวยของหล่อนจนขาดวิ่น จากนั้นก็เอาเศษผ้าบางเบานั้นมามัดข้อมือทั้งสองข้างของหล่อนผูกตัดกับหัวเตียงเอาไว้
“พี่ตะวัน... ปล่อยหวันนะ จะทำอะไรหวันน่ะ ปล่อยค่ะ... ปล่อย!”
หล่อนดิ้นรนอย่างตกใจ ตอนนี้ร่างสาวเปลือยเปล่า แถมยังถูกมัดโยงเอาไว้กับหัวเตียงอย่างแน่นหนา
กล้าตะวันลุกขึ้นยืน ใบหน้าที่เคยหล่อกระชากใจของเขาตอนนี้ถูกความเหี้ยมเกรียมเข้าครอบงำจนน่ากลัว
เขากวาดตามองไปทั่วร่างแน่งน้อยที่กำลังดิ้นรนของหล่อน ด้วยสายตาสมเพช ก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสียงกระด้าง
“ดิ้นทำไมล่ะ”
“หวันกลัว... อื้อออ...”
“จะกลัวทำไม ในเมื่อฉันกำลังจะให้ในสิ่งที่เธอต้องการ...”
เขาถอดชุดเจ้าบ่าวออกอย่างใจเย็น แววตาเหี้ยมเกรียมยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
“อยากได้ฉันเป็นผัวนัก ฉันก็จะจัดให้... จะจัดให้หนักหน่วง จนเธอลงจากเตียงไม่ได้เลยล่ะ หวันยิหวา”
“พี่ตะวัน... หวันไม่...”
ดวงหน้างามซีดเผือด ดวงตากลมโตอัดแน่นไปด้วยความหวาดกลัว
หล่อนไม่เคยเห็นกล้าตะวันในโหมดแบบนี้มาก่อนเลย