งานมงคลสมรสพิธีเช้าแบบไทยผ่านพ้นไปนานหลายชั่วโมงแล้ว และตอนนี้ก็กำลังเข้าสู่พิธีมงคลสมรสในช่วงเย็นที่เต็มไปด้วยความชื่นมื่นของญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย และเจ้าสาว แต่มันไม่ใช่สำหรับเจ้าบ่าวผู้ที่ถูกบีบบังคับให้เข้าพิธีแต่งงานอย่างเช่นเขา
กล้าตะวันในชุดสูทเจ้าบ่าวสีน้ำเงินอมดำกำลังยกแก้วเหล้าขึ้นเทลงคอ ใบหน้าหล่อเหลาไม่แพ้พระเอกซีรีส์เกาหลีแดงก่ำเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปจำนวนมาก
ฟ้ารดาทอดทิ้งเขาไปเพราะเข้าใจผิดเรื่องของเขากับหวันยิหวาในคืนนั้น และถึงแม้ว่าเขาจะตามไปง้องอนหล่อนเพียงใด แต่ฟ้ารดาก็ยืนกรานว่าต้องการจบความสัมพันธ์กับเขาเหมือนเดิม
ชีวิตรักของเขาพังทลาย เพียงเพราะความดื้อรั้นอยากเอาชนะของหวันยิหวา โดยมีมารดาของเขาเป็นคนให้ท้ายหล่อน
สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่มีทางเลือก จำต้องก้มหน้ายอมแต่งงานกับเด็กผู้หญิงที่เขาไม่เคยคิดจะรักเช่นหวันยิหวาอย่างไม่มีทางเลือก
“พ่อตะวัน มานั่งดื่มอะไรตอนนี้ ไปต้อนรับท่านผู้ว่าฯ เร็วเข้า”
คนเป็นแม่เดินมาตามลูกชายที่กำลังกระดกเหล้าอย่างไม่สนใจใคร
“ก็ให้ลูกสะใภ้คนดีของคุณแม่ต้อนรับไปสิครับ”
“พ่อตะวัน อย่าทำตัวไม่มีเหตุผลสิ นี่มันงานแต่งงานของลูกกับหนูหวันนะ”
กล้าตะวันละสายตาจากแก้วเหล้าในมือขึ้นมามองสบตากับมารดา
“งานแต่งงานที่ผมไม่ได้ต้องการ”
“ลูกจะต้องการหรือไม่ก็ตาม แต่ในเมื่อลูกตัดสินใจทำแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบการตัดสินใจของตัวเองให้ตลอดรอดฝั่ง”
กรามแกร่งของเจ้าบ่าวสุดหล่อขบกันแน่นจนขึ้นสันปูดเบ่ง
“แม่รู้ว่าพ่อตะวันยังตัดใจจากแม่ดาราดังนั่นไม่ได้ แต่แม่เชื่อว่าความน่ารักของหนูหวันจะทำให้ลูกของแม่มีความสุข”
คนที่หน้าบูดบึ้งอยู่แล้วถึงกับเบ้ปาก แววตาคมเข้มเต็มไปด้วยความเยาะหยัน
“ชีวิตต่อจากนี้ไปของผม... คงจะมีแต่ความทุกข์เท่านั้นแหละครับคุณแม่”
“ไม่เอาอย่าพูดแบบนี้สิ พ่อตะวัน” มารดาแตะแขนของเขาเบาๆ
“ผมพูดความจริงครับ ผมไม่มีทางมีความสุขกับลูกสะใภ้คนโปรดของคุณแม่ได้หรอกครับ”
“พ่อตะวันก็ต้องลองเปิดใจ อย่าปิดโอกาสหนูหวัน...”
คนเป็นมารดาพยายามชักแม่น้ำทั้งห้ามาเพื่อโน้มน้าวจิตใจของลูกชาย แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีประโยชน์ใดๆ เลย
“หัวใจของผม ไม่มีที่ว่างให้กับหวันยิหวามาก่อน และมันก็จะเป็นแบบนี้ไปชั่วชีวิตครับ”
คนเป็นมารดาอย่างกรรณิการ์อดที่จะหน้าเสียไม่ได้ แต่ก็พยายามที่จะแก้ไขสถานการณ์
“หยุดดื่มก่อน แล้วก็ตามแม่ไปต้อนรับท่านผู้ว่าฯ เร็วเข้าพ่อตะวัน”
เมื่อลูกชายยังนั่งเฉย คนเป็นแม่ก็จำต้องกระชากแขนให้ลุกขึ้น
“ถือว่าทำเพื่อแม่ก็แล้วกันนะ พ่อตะวัน”
กล้าตะวันลุกขึ้นยืน ดวงตาคมเข้มของเขามืดดำน่ากลัว
“ก็ได้ครับ ผมจะทำตามความต้องการของคุณแม่อีกครั้ง แต่มันจะเป็นครั้งสุดท้าย แล้วต่อจากนี้ไป ผมจะทำทุกอย่างที่ผมอยากจะทำ และคุณแม่ก็ห้ามมาขัดขวางผมด้วย”
“ก็ได้”
กรรณิการ์ไม่มีทางเลือก จำต้องตอบตกลงไป ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ลูกชายจะทำหลังจากนี้คืออะไร
“แล้วก็ยิ้มๆ หน่อย แขกเหรื่อจะได้ไม่คิดว่าลูกถูกบังคับให้แต่งงาน”
“พวกเขาก็เข้าใจถูกต้องแล้วนี่ครับ”
“พ่อตะวัน”
ผู้เป็นแม่เอ่ยปรามลูกชาย ก่อนจะลากแขนของกล้าตะวันให้เดินตามไปยังด้านหน้าของงานแต่ง ที่มีหวันยิหวาในชุดเจ้าสาวสีขาวฟูฟ่องยืนต้อนรับแขกอยู่
“เจ้าบ่าวมาแล้วค่ะ” กรรณิการ์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสดชื่น
หวันยิหวาช้อนตาขึ้นมองเจ้าบ่าวสุดหล่อของตัวเองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความยินดี
แม้วันนี้ใบหน้าหล่อๆ ของกล้าตะวันจะไม่ค่อยมีรอยยิ้มนัก แต่หล่อนก็มั่นใจว่าจะสามารถทำให้เขายิ้มได้ในไม่ช้าอย่างแน่นอน
หญิงสาวสอดแขนเข้าไปคล้องท่อนแขนกำยำของเจ้าบ่าว เขาปรายตามองหล่อนเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดคำใดออกมา
หล่อนจึงคิดเข้าข้างตัวเองไปว่า กล้าตะวันอาจจะไม่ได้รังเกียจตนเองแล้ว
หลังจากต้อนรับผู้หลักผู้ใหญ่คนสำคัญเรียบร้อยแล้ว พิธีการในยามค่ำคืนก็เริ่มต้นขึ้น โดยที่หล่อนกับกล้าตะวันถูกเชิญขึ้นไปบนเวที
พิธีกรสัมภาษณ์หล่อนกับกล้าตะวันด้วยคำถามทั่วๆ ไป
หล่อนตอบด้วยความขัดเขิน บอกถึงความรู้สึกที่ตัวเองมีกับกล้าตะวันออกมาโดยไม่คิดปิดบัง ตรงกันข้ามกับเขาที่ตอบเลี่ยงๆ ออกไป
หลังจากผ่านพิธีการบนเวทีเรียบร้อยแล้ว กล้าตะวันก็แยกตัวไปต้อนรับเพื่อนๆ ของเขา และเขาก็ดื่มกับกลุ่มเพื่อน โดยไม่ให้ความสนใจใดๆ กับเจ้าสาวอย่างหล่อนอีกเลย
แม้จะรู้สึกโหวงๆ ไม่น้อย แต่กระนั้นหวันยิหวาก็อดทนเอาไว้
เพราะถึงแม้ว่ากล้าตะวันจะยังไม่ได้รักหล่อนในตอนนี้ แต่อีกไม่นานหล่อนก็จะทำให้เขารักหล่อนให้ได้