ตอนที่ 6

1049 Words
“คุณพูดเรื่องอะไร! ฉันแค่จะมาหาพี่สาวและไม่เคยรู้อะไรที่คุณพูดมาด้วย” “ไม่มีใครที่คุณอยากพบทั้งนั้น! และนับแต่นี้คุณต้องอยู่ที่ได้โอนีห้ามออกไปไหน!” “คุณมันบ้า! ฉันจะเรียกตำรวจให้มาลากคอคนบ้าคนโรคจิตอย่างคุณเข้าคุก...ว้าย!” บุษราคัมร้องเสียงหลงมื่อผลักเขาออกห่างและล้วงหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงแต่ไม่ทันจะยกขึ้นกดหมายเลขก็ถูกคนหยาบร้ายแย่งเอาไปและบีบมันจนแหลกคามือ ร่างบางอ้าปากค้างกับภาพที่โทรศัพท์เครื่องบางกลายกลับเป็นเศษโลหะร่วงหล่นจากมือของชายหนุ่มทั้งได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอคล้ายจะเยาะเย้ย “คุณไม่ต้องโทรหาตำรวจที่ไหนหรอก! ที่เกาะนี่ไม่มีคลื่นโทรศัพท์ จะติดต่อภายนอกได้ก็ต้องใช้สัญญาณดาวเทียมเท่านั้น หรือไม่...” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเข้มคมหรี่ตาพร้อมเหยียดยิ้มมุมปากก่อนก้าวเข้าไปประชิดร่างบอบบางอีกครั้ง “ถ้าคุณอยากแจ้งเจ้าหน้าที่นัก...ผมนี่แหละเป็นทหารอยู่หน่วยปฏิบัติการสงครามพิเศษกองทัพเรือสหรัฐ มีอะไรอยากบอกผมมั้ยล่ะยาหยี” ฮอฟมันน์ยิ่งเบียดตัวเข้าใกล้ ท่าทียียวนของเขายิ่งจุดไฟโทสะให้ลุกท่วมความรู้สึกของหญิงสาว “ถ้าคุณเป็นทหารจริง ๆ แล้วกักขังฉันไว้ที่นี่ทำไม ฉันแค่มาหาพี่สาวของฉัน พี่อิงอุตส่าห์ส่งตั๋วเครื่องบินไปให้ฉันที่เมืองไทย ป่านนี้เขาคงเป็นห่วงฉันแย่แล้ว” บุษราคัมพูดเสียงเครือ เธออยากจะร้องไห้แต่ก็ต้องสะกดใจไว้แค่ให้หยาดน้ำซึมที่หางตาหากก็ดูเหมือนว่าแววตาของอีกฝ่ายไม่ลดราความดุดันลงเลย ร่างแน่งน้อยหัวใจแทบหยุดเต้นเมื่อไหล่บางถูกมือหนาใหญ่ตรึงอาไว้ก่อนก้มหน้าลงมาหาจนรับรู้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดบนกลีบปากซีด “จะไม่มีใครเป็นห่วงคุณเพราะไม่มีใครรู้ว่าคุณมาที่นี่แม้แต่คนเดียว” “คุณ...หมายความว่ายังไง?” “ก็หมายความว่า พี่สาวของคุณไม่รู้เรื่องตั๋วเครื่องบินที่คุณได้รับเพื่อเดินทางมาบาฮามาส...แม้แต่นิดเดียว!” “อะไรนะ! ไม่จริง...คุณมันบ้า คุณมันโรคจิตจริง ๆ ด้วย!” บุษราคัมกรีดร้องและพยายามดิ้นรนแต่ดูเหมือนคนตัวใหญ่จะได้เปรียบทุกทาง ฮอฟมันน์ไม่ยี่หระต่อการขัดขืน เขาออกแรงกดมือหนาลงบนบ่าเล็กเพียงนิดร่างบางก็เหมือนถูกตรึงไว้ด้วยคีมเหล็กกล้า “อยู่นิ่ง ๆ !” ชายหนุ่มบัญชาเสียงดุไม่ต่างจากทหารออกคำสั่งกับศัตรู หญิงสาวจำต้องหยุดดิ้น ดวงตาคู่สวยแดงก่ำขณะคอยฟังสิ่งที่เขาพูด “คุณคงจะสงสัยว่าทำไมผมต้องพาคุณมาที่นี่ ถ้าคุณรู้ดีว่าพี่ของคุณทำอะไรไว้บ้าง!” “ฉันไม่รู้...” “โกหก!”  ฮอฟมันน์ตะคอกกลับทั้งนัยน์ตาก็เป็นสีเข้มจัดด้วยโทสะพลุ่งพล่าน ร่างสูงคลายมือจากไหล่บางแต่กลับกอดรัดร่างเล็กไว้ในอ้อมแขนแกร่งแทน “พวกเชลยไม่เคยเปิดเผยความจริงจนกว่าจะถูกเค้นหนักปางตายนั่นล่ะถึงจะยอมเปิดปากพูด” “ฉันไม่ได้โกหก! อย่าทำอะไรบ้า ๆ นะ ฉันไม่รู้เรื่องที่คุณพูดมาจริง ๆ “ “เป็นไปได้ยังไงที่คุณไม่เคยรู้ว่าพี่สาวคุณมีเบื้องหลังเป็นโสเภณีของพวกเศรษฐีแก่ ๆ ตัณหากลับ หรือว่าคุณก็เหมือนกันที่ทำงานเป็นประชาสัมพันธ์ไว้บังหน้าอาชีพอย่างว่า!” หญิงสาวถึงกับสะอึกกับคำพูดปรามาสจากผู้ชายทั้งเถื่อนและถ่อยจนเหลือจะรับ บุษราคัมกัดปากตัวเองจนห้อเลือดหากก็ยังไม่เจ็บเท่ากับถูกทิ่มแทงด้วยวาเจ็บแสบนั่น “ว่ายังไง! จะให้ผมแปลให้ฟังมั้ยว่าอาชีพอย่างว่ามันเป็นแบบไหน!” “หยุดดูถูกพี่สาวฉันกับฉันเสียที! คุณนั่นแหละ คนเลว!” ร่างบางตัดสินใจเฮือกสุดท้ายรวบรวมกำลังยกเข่าขึ้นกระแทกบนหน้าขาของชายหนุ่ม มันอาจพลาดเป้าไปนิดแต่ก็ทำให้ฮอฟมันน์เผลอคลายวงแขนที่รัดรึงร่างเล็กและมันเป็นโอกาสทองให้เธอผลักเขาออกห่างก่อนวิ่งตรงไปยังหน้าต่างที่บานกระจกเปิดอ้า หากสวรรค์ยังมีตาคงนำทางให้เธอหลุดจากนรกขุมนี้ “บุษราคัม!” เสียงคำรามที่ลั่นขึ้นเบื้องหลังทำให้ร่างบอบบางชะงักอีกครั้งขณะปีนขึ้นไปบนขอบหน้าต่างซึ่งเธอเห็นว่าสูงจากพื้นด้านล่างไม่มากนัก “คุณไม่มีวันหนีผมพ้น! ไม่มีวันหนีไปจากไดโอนีของผมได้!”  บุษราคัมไม่สนใจคำคาดโทษที่กังวานก้อง หญิงสาวตัดสินใจกระโดดลงไปบนพื้นทรายก่อนรีบลุกขึ้นและตั้งหน้าออกวิ่ง เธอหวังว่าจะได้เห็นเครื่องบินลำนั้นจอดอยู่ที่เดิม แต่แล้วกลับเห็นเพียงแนวหาดทรายว่างเปล่าทอดยาวออกไปไม่สิ้นสุด เธอควรจะไปที่ใด...หญิงสาวมืดมนไปหมดทั้งที่แสงแดดแผดกล้า และแล้วร่างบางก็วิ่งตัวปลิวเข้าไปในป่ารกเรื้อริมชายหาด  บุษราคัมวิ่งลัดเลาะไปตามทางเต็มไปด้วยรากอากาศของไม้ใหญ่ที่โผล่พ้นดินทรายอย่างทุลักทุเลโดยไม่ยอมเหลียวหลังกระทั่งรู้สึกว่าไกลห่างออกมาจาก ที่นั่น มากแล้ว ร่างแน่งน้อยวิ่งหอบแฮกถึงใต้พงไม้ใหญ่ก่อนหันกลับไปเห็นว่าไม่มีใครตามมาก่อนค่อย ๆ ทรุดตัวลงนั่งพิงโคนไม้และเริ่มร้องไห้กับความโชคร้ายที่ไม่เคยคาดคิด “พี่อิง...พี่อิงไปทำอะไรให้เขาเจ็บแค้นถึงมาทำกับบุษแบบนี้” บุษราคัมรำพึงกับตัวเองขณะปาดน้ำตาที่หยดไหลผสมเหงื่อกาฬและเม็ดทรายเปรอะเปื้อนด้วยความเหน็ดเหนื่อย หญิงสาวยกมือขึ้นกุมบนหน้าอกข้างซ้ายรู้สึกถึงเสียงหัวใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาข้างนอก เสี้ยวหนึ่งของสำนึกแห่งความหวาดหวั่นใบหน้าของบิดาก็แวบเข้ามาในความคิด “พ่อขา...พ่อช่วยบุษด้วย บุษกลัวเหลือเกิน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD