รถแท็กซี่เลื่อนตัวเข้าเขตคฤหาสน์หลังใหญ่สุดหรูหราในหมู่บ้านชื่อดังที่มีแต่พวกเศรษฐีอยู่อาศัยกัน บ้านที่พริกแกงไม่อยากจะมาเยือนตั้งแต่ที่พ่อของเธอได้แยกทางกับแม่แล้วอยู่กินกับเลขาหน้าห้องที่เลื่อนสถานะมาเป็นภรรยาแทน ทั้งสองมีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคนที่ซ้อนเอาไว้ เรื่องนี้แม่ของเธอรับไม่ได้จึงจับเธอเปลี่ยนนามสกุลแล้วพาเธอไปอาศัยอยู่ที่ฮ่องกงด้วยกันก่อนจะถูกส่งไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษ
"ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะหนูพริกแกง" สายหยุดหญิงวัยกลางคนหน้าตาดียิ้มให้ผิดกับในใจที่กำลังลุกเป็นไฟเพราะไม่ชอบคนตรงหหน้า
"ดี... ยังไม่เลิกกับคุณพ่ออีกเหรอ" พริกแกงทักทายทำเอานางหน้าถอดสี เธอมองบรรดาสาวใช้ที่มาต้อนรับอย่างสงสัยว่าแห่มากันทำไมเยอะแยะเธอไม่ใช่ รัฐมนตรีเสียหน่อย
"แหม... หนูพริกแกงก็พูดเล่นไปเรื่อย ฮิวโก้คุณแม่สบายดีนะคะ อยู่ทานข้าวด้วยกันมั้ยคะ"
"ขอบคุณที่ชวนครับแต่ผมมีงานต่อขอตัวก่อนนะครับสวัสดีครับ เดี๋ยวโทรคุยกันนะยู" ฮิวโก้ขอตัวไปทำงานต่อโดยนั่งแท็กซี่คันเดิมออกไปปล่อยให้พริกแกงเผชิญหน้ากับครอบครัว
"มาเหนื่อยๆ ไปพักข้างบนก่อนเถอะค่ะ... เด็กๆ เอากระเป๋าคุณหนูไปเก็บที่ห้องปีกซ้ายที"
"ห้องปีกซ้าย... ห้องฉันอยู่ฝั่งขวานี่?" พริกแกงสงสัย
"พอดีน้าย้ายเองแหละค่ะ คือเพื่อนน้องพริ้งเขามานอนค้างบ่อยแล้วห้องน้องเขาก็เล็กเลยให้เปลี่ยนห้องกับหนูพริกแกงเห็นหนูนานๆ ที่ถึงกลับ"
"ย้ายห้องให้เป็นเหมือนเดิมเดี๋ยวนี้..."
"แต่น้าขอคุณพ่อแล้วนะคะ"
"จะย้ายกันเองหรือให้ฉันย้ายให้ แต่บอกก่อนนะถ้าฉันย้ายให้ของลูกคุณสภาพไม่เหมือนเดิมนะ" น้ำเสียงบ่งบอกว่าเธอทำจริงแน่ถ้าไม่ได้อย่างที่เธอต้องการ ตอนนี้ตัวเธอเหมือนระเบิดที่คอยเวลาระเบิดอยู่ทุกเมื่อและเหมือนทุกคนจะรับรู้ได้
"ค่ะๆ เอาพวกเธอเร็วๆ เก็บของไปไว้ห้องเดิม!" สายหยุดรีบเดินไปสั่งงานแม่บ้านทันที
"ไอ้เด็กบ้า... มาถึงก็สร้างเรื่องเดี๋ยวฉันจะเขี่ยแกให้ไปไกลถึงแอฟฟิกาให้ได้เลย..." สายหยุดมองค้อนพริกแกงที่เดินไปรอที่ห้องนั่งเล่นเร่งมือให้คนขนของลูกสาวนางออกไปไว้ที่ห้องเดิม โชคดีที่พริกแกงไม่สั่งให้รื้อเตียงใหม่ทั้งชุด
"อีกครึ่งชั่วโมงช่างจะเข้ามาแต่งห้องให้ใหม่ครับคุณหนูผมบอกแล้วว่าต้องเสร็จก่อนหนึ่งทุ่ม แต่แบบที่ส่งให้เขาขอค่าแรงเพิ่มอีกเพราะต้องใช้คนงานเยอะ" ไชโยที่แยกออกไปคุยโทรศัพท์เดินมารายงาน
"แต่งห้องใหม่? แค่เปลี่ยนที่นอนก็ได้มั้งคะ"
"ฉันไม่คิดว่างั้นนะ พี่โยคะเพิ่มค่าแรงไปเลยสามเท่าแต่ห้องพริกต้องเสร็จวันนี้"
"ครับ"
"ดะ เดี๋ยวนะ มันจะไม่วุ่นวายกระทันหันไปหน่อยเหรอคะ!" บ้าแล้ว...
"ถ้าไม่อยากวุ่นวายวันหลังอย่าเอาอะไรที่เป็นของฉันไปเป็นของลูกเธอ ฉันจะไปนอนที่ห้องเฮียพีชก่อน อ้อ... อย่าลืมฉีดน้ำหอมปรับอากาศด้วยนะไม่รู้เหม็นกลิ่นอะไร"
สายหยุดมองพริกแกงที่ขึ้นชั้นบนไปอยากจะกระชากผมให้หมดสวยเสียเลย มาแค่ครึ่งชั่วโมงเล่นเอาเหนื่อยกันทั้งบ้าน
พริกแกงเพียงอยากจะแกล้งสายหยุดเล่นเท่านั้น สายหยุดเหมือนจะเป็นแม่พระของใครต่อใครแต่ไม่ใช่กับพริกแกงที่มักจะไปเห็นด้านมืดของนางอยู่เรื่อยจนมีปัญหาทะเลาะกัน สายหยุดเลยหาเรื่องแกล้งให้เธอทะเลาะกับนายธงชัยเป็นประจำจนแม่เธอตั้งมาฟ้องร้องเพื่อขอเธอไปอยู่ด้วย ชีวิตของเธอนั้นดูพร้อมไปซะทุกด้านทั้งรูปร่างหน้าตาชาติตระกูลและทรัพย์สมบัติ เธอค่อนข้างที่จะถูกตามใจจากพี่ๆ และแม่ ซึ่งต่างจากพ่อของเธอที่ชอบบังคับจิตใจและชอบหาว่าเธอเป็นตัวซวยเพราะตอนเธอเกิดมาบริษัทที่พ่อเธอบริหารมีปัญหามากมายแถมบ้านยังไฟไหม้อีก และอีกหลายครั้งที่เธอเป็นต้นเหตุจนท่านไม่ค่อยอยากจะยุ่งกับเธอเท่าไหร่นัก
"กลับมาแล้วค่ะคุณแม่ขา... พริ้งกับคุณพ่อไปช้อปปิ้งมา นี่... หนูซื้อกระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่มาฝากด้วยสวยมั้ยค่ะ" พริ้งพรายหรือพรรณนาราย ลูกสาวของนายธงชัยกับสายหยุดเดินเข้ามายังห้องนั่งเล่นกับนายธงชัยอย่างอารมณ์ดี
"สวยมากค่ะคุณลูกขา แล้วนี่ไปไงมาไงถึงได้กลับกับคุณพ่อละฮือ" สายหยุดถามพลางชื่นชมกระเป๋าแบรนด์เนมรุ่นใหม่ล่าสุดราคาสี่แสนบาท โดยไม่มีใครทันสังเกตเห็นพริกแกงที่ยืนกอดออดูครอบครัวสุขสรรค์
"พอดีผมเลิกประชุมเร็วก็เลยไปรับ แล้วลูกพริ้งหิวข้าวเราก็เลยแวะที่ห้างก่อนกลับ" นายธงชัยอธิบายให้ภรรยาฟังอย่างอารมณ์ดีเพราะวันนี้การประชุมร่วมหุ้นกันระหว่างบริษัทในเครือกิจพาณิชกับบริษัทเพื่อนท่านเป็นไปด้วยดี ท่านคาดการว่าผลกำไรที่จะได้นั้นจะต้องมหาศาล
"อ้าวพริกแกง... กลับมาถึงแล้วเหรอเป็นไงบ้างไม่เจอกันนานเลยสูงขึ้นเยอะเลยนะ" ท่านยิ้มให้ลูกสาวคนสวยที่ทำหน้านิ่งใส่ยกมือไหว้อย่างไม่เต็มใจ
ชิ... กะจะลงมาหาข้าวกินสักหน่อยกับมาเห็นครอบครัวสุขสรรค์เห็นแล้วอิ่มเลย ทีกับเราละไม่มีเวลาไปรับแต่มีเวลาไปช้อปปิ้งกับยัยหนูผีนั่นได้
"พ่อขอโทษที่ไม่ได้ไปรับติดประชุมสำคัญ"
"ค่ะ... พริกเข้าใจว่าเรื่องงานยังไงก็สำคัญกว่า นัดสี่ครั้งเบี้ยวทั้งสี่ครั้ง" เธอพูดประชดผู้เป็นพ่อทำเอาบรรยากาศในห้องเปลี่ยนทันที สายหยุดกับลูกสาวแอบส่งสายตากรุ้มกริ้มใส่กันเหมือนมีแผนบางอย่าง นายธงชัยขอคุยกับพริกแกงสองคนท่านให้สายหยุดและลูกสาวไปรอที่ห้องอาหาร
"เป็นไงแผนยั่วโมโหยัยพริกแกงของแม่ได้ผลดีมะ นี่ดีนะที่คุณพอติดประชุมจริงๆ ไม่งั้นแม่ก็ไม่รู้จะอ้างอะไรที่ไม่ให้ไปรับเด็กนั่น" สายหยุดแอบกระซิบเพื่อไม่ให้ใครได้ยิน
"มันจะดีหรือคุณแม่ที่ทำแบบนี้ แต่ก็แอบสะใจนิดๆ พริ้งอุตส่าห์โทรไปดักให้คุณพ่อมารับเลยนะคะ ตอนแรกไม่ยอมบอกจะไปสนามบินพริ้งก็เลยแกล้งเจ็บท้องซะเลย"
"เก่งมากลูกแม่ ที่นี้มันจะได้รู้ว่าคุณพ่อไม่ได้เห็นความสำคัญอะไรไม่มีใครสนใจมัน เราก็ค่อยๆ ยั่วโมโหมันที่ละนิดให้มันอาละวาดเดี๋ยวอีกหน่อยคุณพ่อทนไม่ไหวก็เขี่ยมันไปเองแหละ" สองแม่ลูกวางแผนกำจัดพริกแกงออกจากบ้านเหมือนเมื่อหลายปีที่แล้วที่นางเคยแกล้งพริกแกงจนทะเลาะกับพ่อเธอทุกวัน นายธงชัยกับพริกแกงเดินเข้ามาในห้องอาหารทั้งสองรีบปรับสีหน้าทันทีและชวนทั้งสองพูดคุย ธุระที่นายธงชัยพูดกับพริกแกงคือเรื่องเรียนที่มหาลัยแห่งใหม่ที่เธอต้องไปเรียนอีกสองอาทิตย์ข้างหน้าโดยที่เลขาเขาได้จัดการไว้หมดแล้ว ที่ๆ เธอต้องไปเรียนนั้นเป็น มหาวิทยาลัยชื่อดังในเมืองไทยที่นายธงชัยเป็นหุ้นส่วนและเป็นที่เดียวกับที่พริ้งเรียนอยู่แต่เธอเรียนอยู่โซนมัธยมปลาย สาเหตุที่ท่านต้องให้พริกแกงมาอยู่ใกล้ส่วนหนึ่งคือเรื่องดวงที่ท่านเชื่อเอามากๆ หมอดูที่นับถือทักให้ท่านนำบุตรและธิดามาอยู่ใกล้ท่านไม่เช่นนั้นจะเกิดเรื่องไม่ดี ท่านโทรไปขอร้องแม่พริกแกงให้ช่วยพูดให้เธอกลับมาอยู่เมืองไทยก่อนสักพัก ซึ่งแม่ของเธอตอบตกลงทันทีเพราะพวกพี่ๆ ได้กลับมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยในไทยกันหมดแล้ว จะให้เธอเที่ยวเล่นอยู่เมืองนอกคนเดียวก็ใช่เหตุเผื่อเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น