บ้านไชยากร... อดีตพระยาไชยากรผู้ที่ครั้งมีชีวิตได้ทำคุณงามความดีแก่แผ่นดินได้รับพระราชทานจากเสด็จฯในวังราชกาลที่ 4 เป็นบ้านไทยสไตส์ยุโรปเป็นรางวัล ปัจจุบันอยู่ในความดูแลคือคุณหญิงวัชรี ไชยากรที่ยังคงทำนุบำรุงรักษาให้ยังคงงดงามโอ่อ่าเหมือนดังอดีตที่ผ่านมา
รถเบนซ์คันหรูวิ่งเข้ามาจอดด้านใน คริสลงจากรถของท่านรัฐมนตรีช่วยฯ ที่มาส่งสีหน้าเรียบเฉยไม่ยินดียินร้าย
"คุณคริสคะคุณหญิงรอพบอยู่ที่เรือนกล้วยไม้ค่ะ"
"ไปบอกคุณแม่ว่าอาบน้ำเสร็จแล้วจะตามไป จัดอาหารว่างให้ด้วย" คริส หรือจันทรภานุ ไชยากร ลูกชายคนเล็กของคุณหญิงวัชรี ไชยาการ และพลเอกปราบ ไชยากร นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังอดีตข้าราชการทหารพึ่งกลับจากธุระข้างนอกสั่งแม่บ้านเสร็จก็เดินไปยังห้องนอนของตนพลางถอดเสื้อสูทออกเตรียมอาบน้ำเพื่อผ่อนคลายอารมณ์โกรธ
"ยัยบ้านั่นอย่าให้เจออีกนะ" นึกแล้วยังโมโหไม่หายคนอะไรปากดีชะมัด ฮิวโก้ไปคบกับคนแบบนั้นได้ยังไงหน้าตาก็จัดว่าใช้ได้อยู่หรอก ช่างเถอะมันไม่ให้เรื่องของเรา
คริสอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบลงไปยังเรือนกล้วยไม้ไม่อยากให้ผู้ใหญ่รอนาน
"มาแล้วเหรอคริสไปพบท่านรัฐมนตรีเกริกเป็นอย่างไรบ้าง" คุณหญิงวัชรีที่นั่งพูดคุยกับคุณนมละเอียดอย่างออกรสเอ่ยถามเมื่อเห็นหน้าลูกชายที่เดินเข้ามาใกล้
"ก็ไม่มีอะไรครับแค่เชิญไปทานอาหารเที่ยงแล้วก็แนะนำลูกสาวให้รู้จักน่ะครับ" คริสเอ่ยเซ็งๆ
"เป็นยังไงบ้าง!" คุณหญิงฯ กับคุณนมเอ่ยถามพร้อมกัน
"หมายถึงอะไรครับ" คริสแกล้งถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าคืออะไร
"แหม... ก็ลูกสาวท่านสิคะถามได้ สวยมั้ยคะคุณหนู"
"ก็สวยดีครับดูเป็นสาวมั้นดี ดูจะเรียนเก่งซะด้วยดีกรีเหรียญทอง"
"อย่างนี้แม่ต้องหาเวลาไปพบสักหน่อยละ เก่งๆอย่างนี้ต้องจีบไว้" คุณหญิงฯ ผู้ที่วันๆ ง่วนอยู่กับการออกงานสังคมและการหาคู่ให้แก่บรรดาลูกๆ
"คุณแม่... ที่พูดนี่ผมไม่ได้ชอบเขาแค่พูดตามที่ถาม"
"ก็นั่นล่ะแม่แค่ดูๆ ไว้ไม่เสียหาย คริสก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้วควรจะมีแฟนจริงๆ จังๆ ได้แล้วนะลูก ไม่ใช่คบแต่พวกแม่ดารานางแบบอะไรนั่นที่หวังแต่ผลประโยชน์จากเรา"
"ผมรู้แล้วครับผมแค่คบเล่นๆ ไม่ได้จริงจังอะไร แล้วนี่คุณแม่มีธุระอะไรถึงเรียกผมมาพบ"
"ไม่มีอะไรแค่อยากจะให้เป็นธุระเรื่องงานวันเกิดคุณยาย"
"เฮ้อ... วันเลือกคู่มาถึงอีกแล้ว"
"คริส/คุณหนู"
คฤหาสน์สุดหรูตระกูลกิจพาณิชวันนี้ก็เสียงดังโหวกเหวกเช่นเคย ตั้งแต่พริกแกงกลับมาที่นี่ก็ไม่เคยสงบอีกเลย ทุกๆ วันจะต้องได้ยินเสียงเพลงเสียงซ้อมดนตรีดังกระหึ่มไปทั่วเพราะเวลาซ้อมดนตรีเธอจะแกล้งเปิดประตูไว้ทั้งที่เป็นห้องเก็บเสียงต่อด้วยเสียงทะเลาะกัน
"ใครบังอาจปล่อยไอ้หมาบ้านี่เข้ามาในห้องฉัน!" โอ้ยจะบ้าตาย... ฉันไม่อยู่บ้านแป้บเดียวไอ้หมาบ้านี่มันเข้ามาตะกุยห้องฉันซะเละเทะ ฉันจะฆ่ามัน!
บับบี้สุนัขตัวเมียพันธ์พุดเดิลของพริ้งพรายเข้ามาวิ่งเล่นตะกุยข้าวของเกลื่อนกลาดทั่วห้องนอนตอนพริกแกงออกไปชอปปิ้ง หนังสือที่เธอแยกไว้ที่พื้นยังไม่ทันเก็บเข้าตู้ล้มระเนระนาดบ้างเล่มมีรอยแทะด้วย
"ขอโทษค่ะคุณหนู! คือเจ้าบับบี้สงสัยจะแอบเข้ามาตอนหวานมาเอาผ้าไปซักนะค่ะ" สาวใช้รีบขอโทษเธอสีหน้าตกใจกลัวจะโดนไล่ออก เธอสั่งเอาไว้แล้วว่าอย่าไปยุ่งกับห้องเธอ
"เอามันออกไปไกลๆเลย! ก็รู้ว่าฉันไม่ชอบสัตว์ยังจะเอามาใกล้ฉันถ้ามันเข้ามาห้องนี้อีกมันได้เป็นหมาวัดแน่! รวมทั้งเธอด้วย!!"
ปัง!!!
พริกแกงปิดประตูห้องเสียงดังทำเอาสาวใช้ตกใจกันเป็นแถว สายหยุดนั่นเองที่เป็นคนอยู่เบื้องหลังทุกเรื่องไม่ว่าจะเรื่องรถคันโปรดของเธอที่บับบี้ข่วนจนเป็นรอย รองเท้าผ้าใบที่บับบี้เอาไปแทะเล่น แม้กระทั้งอึให้เธอเหยียบ และครั้งนี้ก็เหมือนกันพริ้งพรายเป็นคนเอาสุนัขของเธอไปปล่อยเอง สายหยุดกับพริ้งพรายแอบดูด้วยความสะใจก่อนที่จะแสร้งเข้าไปขอโทษพริกแกงแต่โดนเธอไล่ตะเพิดออกมา
"ฉันล่ะอยากจะหักคอทุกคนในบ้านเลยกวนประสาทฉันทุกวันไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง พ่อนะพ่อไม่เคยเลยที่จะเข้าข้างฉันเลย"
"เออ... แกก็บ่นอย่างนี้ทุกวัน บ่นมาสองอาทิตย์ละ" ฮิวโก้ไม่สนใจกับคำพูดเธอที่เอาแต่บ่นทุกครั้งที่เจอกันเพราะเธอเองก็ใช่ย่อย ป่วนซะทุกคนที่อยู่ด้วยอยากจะผูกคอตาย
ฮิวโก้ลงมือเช็ดเครื่องดนตรีช่วยพริกแกงอย่างเอาเป็นเอาตาย วันนี้ทั้งสองไปซื้อกลองไฟฟ้ามาลองตีเล่นกัน
"ต้องขอบใจนายนะจากราคาเก้าหมื่นลดเหลือเจ็ดหมื่นห้า แหม... เป็นเพื่อนดารามันดีอย่างนี้เอง"
"ธรรมดาที่ไหนล่ะ ฉันบอกให้แกมาคบกับฉันก็ไม่เอามีแต่ได้กับได้" ฮิวโก้ได้ทีเก็กหล่อสร้างความหมั่นไส้แก่พริกแกงอย่างมาก
"เหรอ... เลิกโม้แล้วมาลองกลองเร็วๆ เดี๋ยวจะมืดแล้ว"
"ลองกองโลกี่บาท" ฮิวโก้เล่นมุกแต่พริกแกงไม่ขำเอาไม้ตีกลองเคาะหัวชายหนุ่ม ทั้งสองลองเครื่องดนตรีโดยพริกแกงดีดกีตาร์ส่วนฮิวโก้ตีกลอง ทั้งสองเล่นเข้าขากันได้ดีทำให้ฮิวโก้นึกถึงวันเก่าๆ ที่เขาเคยตั้งวงดนตรีกับพวกเพื่อนๆ ตอนเรียนไฮสคูล เขาทำหน้าที่ร้องนำส่วนพริกแกงเล่นกีตาร์และมีเพื่อนฝรั่งอีกคนเล่นคีย์บอร์ด เวลาล่วงเลยถึงสองทุ่มทุกคนกลับมาจากข้างนอกกันนายธงชัยจึงให้หญิงรับใช้มาเรียกทั้งสองไปรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน
"พี่ฮิวโก้!" พริ้งพรายเห็นฮิวโก้เธอรีบเดินเข้าไปทักทายทันที ทุกครั้งที่เธอเจอชายหนุ่มมักจะแสดงความสนิทสนม เธอนิยมที่จะคบกับเหล่าคนดังเหมือนแม่และก็สมใจเพราะตอนนี้เธอกลายเป็นเน็ตไอดอลสาวสุดน่ารักที่มีคนคอยติดตามจำนวนมาก
"พี่ฮิวโก้ไม่เจอกันตั้งนานนะคะ เนี่ย... พริ้งละคิดถึงงานเยอะเหรอ แล้วนี่วันนี้พี่จะมาทำไมไม่บอกพริ้งคะจะได้อยู่ต้อนรับ" พริ้งพรายพูดอยู่คนเดียวไม่หยุด ไม่เปิดโอกาสให้ใครพูดมือก็เกาะที่แขนชายหนุ่ม พริกแกงแอบเบ้ปากใส่
"ฮิวโก้รีบกินเร็วๆ แล้วรีบกลับไปซะอยู่นานเดี๋ยวก็คันหรอก"
"ฮือ... พี่ฮิวโก้เป็นภูมิแพ้เหรอคะพริ้งไม่เห็นรู้เรื่องเลย?" พริ้งพรายคอยตักอาหารใส่จานให้อย่างเอาใจ
"โดนหลอกด่าขนาดนี้น้องเธอนี่ซื่อบื้อจัง..." ฮิวโก้กระซิบกับพริกแกงกลั้นเสียงหัวเราะ เขารีบทานข้าวและพูดคุยกับพ่อพริกแกงพอเป็นพิธี
"เออนี่... เห็นว่าวันจันทร์นี้เปิดเทอมแล้วนี่ พ่อว่าจะซื้อรถคันใหม่ให้ชอบคันไหนก็ให้มานพจัดการให้แล้วกัน"
"คุณพ่อจะซื้อรถให้พี่พริกเหรอคะ! ทำไม! พี่พริกก็มีมินิคอปเปอร์คันเก่าอยู่แล้วนี่ แล้วไหนจะไอ้มอไซค์นั่นอีก ทีพริ้งขอให้คุณพ่อซื้อให้ตั้งนานก็ไม่ซื้อให้!" พริ้งโวยวาย
"ก็หนูอายุยังไม่ถึง ส่วนพี่เขาโตแล้วตอนที่อยู่เมืองนอกพี่เขาก็ขับรถเอง แล้วหนูก็รู้นี่ที่เรียนพี่เขาก็มีรถกันทุกคนไม่มีอายเขาตายแล้วรถคันนี้ก็ตกรุ่นแล้ว แค่รถคันไม่กี่ล้านก็ไม่ซื้อให้ลูกไม่ได้ใครรู้เข้านินทาพ่อตาย อย่าลืมว่าที่นั่นเรามีหุ้นด้วยนะ"
"งั้นคุณพ่อต้องพาพริ้งไปทัวร์ยุโรปไม่งั้นพริ้งไม่ยอม" พริ้งพรายไม่ยอมน้อยหน้าพริกแกง
"เลิกเถียงกันได้แล้ว ไม่ต้องซื้ออะไรให้พริกทั้งนั้นแหละพริกไม่ต้องการ ขับคันเดิมก็ดีอยู่แล้วอากงพึ่งซื้อให้เมื่อปีก่อนตอนมาเที่ยวเอง ของยังไม่เก่าสักหน่อยและไม่ต้องมีใครมายุ่งกับพริกทั้งนั้น เคยอยู่กันแบบไหนก็อยู่แบบนั้นถ้าจะซื้อเพราะห่วงหน้าตาบ้าบออะไรนั่น แล้วไม่ต้องอายใครหรอกถ้าพริกจะทำอะไรเสียหน้าเพราะไม่มีใครเขารู้หรอกว่าพริกแกงคนนี้เป็นลูกพ่ออีกคน... เห็นมั้ยนามสกุลก็ไม่มีใครรู้จัก จบนะ..."
"ขัดพ่ออีกแล้วนะ!" แบบนี้ทุกทีไอ้ลูกคนนี้
"ค่ะ... แล้วแต่จะคิดฮิวโก้ไปกันได้แล้ว"
"นี่มันค่ำแล้วจะออกไปไหนอีก! ตั้งแต่มาไม่เคยอยู่ติดบ้านเลยนะ!"
"ไปเที่ยวค่ะ คืนนี้ไม่กลับ... บาย" พริกแกงรำคาญคนที่บ้านเลยจะออกไปข้างนอก เธออ้างว่าจะไปเที่ยวเหมือนทุกคืนแต่ที่จริงแล้วเธอไปนอนเล่นที่คอนโดของฮิวโก้ ส่วนฮิวโก้นั้นเขาต้องออกไปทำงานตอนกลางคืนเกือบทุกวัน ด้วยความที่ว่าเธอมีฮิวโก้เป็นเพื่อนคนเดียวที่อยู่เมืองไทยเธอจึงไม่ค่อยไปไหนถ้าฮิวโก้ไม่พาไป
"ดูสิ เอาแต่ใจตัวเองไม่เปลี่ยน นี่ผมพูดอะไรไม่เคยฟังเลยไม่รู้เลี้ยงกันมายังไง" นายธงชัยถอนหายใจรอบที่สิบที่มีลูกสาวไม่ได้ดั่งใจ
"เถอะน่าคุณ วัยรุ่นก็งี้แหละเอาอย่างนี้มั้ยค่ะ คุณก็ลองหักเงินจากบัตรเครดิตดูให้ใช้เงินน้อยๆ เดี๋ยวเงินหมดก็อยู่บ้านเองแหละ"
สายหยุดได้ที่รีบเสนอความคิด ตั้งแต่พริกแกงมานายธงชัยก็เอาแต่ยุ่งเรื่องลูกสาวทั้งๆ ที่ปกติก็ไม่ถูกกัน แล้วนี่อยู่ดีๆ ก็จะซื้อรถคันใหม่ให้อีกราคาก็ไม่ถูกๆ คันตั้งหลายล้านแทนที่จะเปลี่ยนให้นางที่คอยออกงานสังคมเป็นหน้าเป็นตาแก่บริษัท เรื่องนี้ทำนางกับลูกสาวเจ็บใจมากนางจะต้องเอาคืนให้แพงกว่าพริกแกงหลายเท่า